พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1159 การวางตัวของภรรยาเอก

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1159 การวางตัวของภรรยาเอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>เพี้ยะ! จู่ๆ อวิ๋นจือชิวก็ตบหน้าตัวเองอย่างแรงหนึ่งฉาด เห็นเขากลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บตรงหว่างคิ้วแต่ไม่รู้จักเป็นห่วง สนใจแต่นับเงิน ไม่รู้ด้วยว่าผู้ชายคนนี้ไปข้างนอกแล้วเสี่ยงอันตรายขนาดไหน ได้รับความลำบากขนาดไหน ในใจนางหงุดหงิดโมโหแทบแย่ ขณะที่หงเฉินกำลังทำสายตาประหลาดใจ อวิ๋นจือชิวก็ตะคอกว่า &#8220;ไม่ต้องยืนเหม่อแล้ว ประคองเขากลับห้องก่อน!&#8221;</p>
<p>ทั้งสองพยุงเหมียวอี้กลับเข้ามาในห้อง ตอนที่กำลังจะวางเขาไว้บนเตียง สายตาของอวิ๋นจือชิวก็หยุดอยู่ที่จุดสีแดงๆ บนเตียงครู่หนึ่ง</p>
<p>หงเฉินมองตาม หลังจากเข้าใจแล้วว่าอวิ๋นจือชิวกำลังมองอะไร ต่อให้นางจะเยือกเย็นสุขุมกว่านี้ แต่ใบหน้าก็แดงเรื่อแล้วเหมือนกัน</p>
<p>&#8220;เจ้าเสียตัวให้เขาแล้วเหรอ?&#8221; อวิ๋นจือชิวเหล่ตาถาม</p>
<p>หงเฉินพยักหน้าเบาๆ แล้วรีบบอกว่า &#8220;ข้าจะเปลี่ยนผ้าปูเตียงให้&#8221;</p>
<p>&#8220;ไม่ต้องแล้ว! ข้ากำลังยุ่งอยู่กับการจัดการบัญชีทางนั้น ยังนึกว่าเข้ากลับจวนผู้บัญชาการไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะถ่อมาลิ้มลองของใหม่ที่นี่ คนหลายใจแบบนี้ตายซะก็ดี!&#8221; ไม่ใช่แค่ปากเท่านั้นที่ไม่เกรงใจ มือของอวิ๋นจือชิวก็ไม่เกรงใจเหมือนกัน นางสะบัดแขน ทุ่มเหมียวอี้ที่กำลังสลบลงบนเตียงเสียเลย</p>
<p>จะไม่ให้นางโมโหก็ไม่ได้ ถ้าไปหาพวกอวี้หนูเจียวก็ว่าไปอย่าง ตอนแรกที่แต่งงานกับหงเฉิน เหมียวอี้บอกว่าแต่งงานกับหงเฉินก็เพราะเยว่เหยา ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับหงเฉินแน่นอน แค่ให้ที่พักสงบๆ กับหงเฉินก็พอ เยว่เหยาจะได้ไม่ต้องมีจุดอ่อนอยู่ในมือมู่ฝานจวินเพิ่ม ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้พูดจาเหลวไหล ทำลับๆ ล่อๆ จนได้นอนกับหงเฉินแล้ว โลกนี้ไม่มีแมวที่ไม่ขโมยกินของคาวจริงๆ ด้วย</p>
<p>ท่านขุนนางเหมียวก็สลบไปได้ไม่นาน หลังจากร่างกายเยียวยาตัวเองไปพอสมควร ดวงตาสองข้างก็ลืมขึ้นเช่นกัน พอลืมตามาก็เห็นอวิ๋นจือชิวกำลังเอียงหน้ามองตนจากข้างเตียง เขาหัวเราะแห้งๆ แล้วบอกว่า &#8220;เจ้ามาแล้วเหรอ พอไม่ทันระวัง ก็ใช้พลังอิทธิฤทธิ์เยอะเกินไป ไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล&#8221;</p>
<p>เขาอยากจะดิ้นรนลุกขึ้นมา แต่กลับถูกอวิ๋นจือชิวยื่นมือมาผลักเบาๆ อย่างเหยียดหยาม ทำให้ล้มนอนลงไปอีกครั้ง เขาร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ จากนั้นอวิ๋นจือชิวก็แสยะยิ้มถาม &#8220;ข้าดูเหมือนกำลังกังวลเหรอ? ใช้พลังอิทธิฤทธิ์เยอะเกินสินะ? เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ใช้พลังกายเยอะเกิน?&#8221;</p>
<p>สายตาเหมียวอี้ไปหยุดตรงหงเฉินที่ก้มหน้ายืนอยู่ข้างๆ พอจะเข้าใจแล้วว่าอวิ๋นจือชิวกำลังแอบสื่อถึงอะไร เขาแอบปาดเหงื่อในใจ ยกมือขึ้นลูบหน้าผากพลางถอนหายใจ &#8220;ข้ายังเวียหัวนิดหน่อย!&#8221;</p>
<p>เพี้ยะ! อวิ๋นจือชิวตบมือเขาออก แล้วชี้ตรงหว่างคิ้วเขาพร้อมถามว่า &#8220;ดวงตาข้างนั้นมันคืออะไรกันแน่?&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้อยากจะถ่ายทอดเสียงบอก แต่ด้วยสภาพร่างกายในตอนนี้ จะรวบรวมพลังอิทธิฤทธิ์มาถ่ายทอดเสียงได้อย่างไรกัน เขามองหงเฉินที่กำลังก้มหน้าแวบหนึ่ง แล้วหัวเราะแห้งๆ</p>
<p>อวิ๋นจือชิวตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง หันกลับมาตะคอกหงเฉินอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย &#8220;เจ้าออกไปก่อน!&#8221;</p>
<p>&#8220;ค่ะ!&#8221; หงเฉินย่อกายคำนับเล็กน้อย แล้วหันตัวเดินออกจากห้องไป</p>
<p>เหมียวอี้พูดไม่ออก พบว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เกรงใจบรรดาอนุภรรยาของตนเลยจริงๆ ตำหนิสั่งสอนตามอำเภอใจมาก แล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีอนุภรรยาคนไหนกลัวตนด้วย แต่ละคนกลับหวาดกลัวแต่อวิ๋นจือชิว ตอนอยู่ต่อหน้าอวิ๋นจือชิวว่านอนสอนง่ายมาก</p>
<p>อวิ๋นจือชิวใช้มือข้างหนึ่งบีบเอวเหมียวอี้แล้ว บิดอย่างแรง &#8220;พูดมาสิ!&#8221;</p>
<p>&#8220;อืม…&#8221; เหมียวอี้ที่ไร้พลังอิทธิฤทธิ์ปกป้องร่างกายเจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน หลังจากร่างกายที่ดีดตึงนอนลงไปอีกครั้ง ถึงได้เล่าที่มาที่ไปของเรื่องนี้ให้ฟัง แต่เล่าข้ามเรื่องตัวเองกับหวงฝู่จวินโหรว สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วบอกว่า &#8220;โชคดีที่ตอนแรกข้าไม่ให้เจ้าไปด้วย ถ้าเจ้าไปแล้วเจอจุดซ่อนสมบัติ เกรงว่าจะประสบเหตุร้ายมากกว่าดี&#8221;</p>
<p>หลังจากฟังจบ อวิ๋นจือชิวก็หวาดผวาในใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าจะอันตรายขนาดนี้ พอนึกว่าผู้ชายคนนี้เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด สมบัติกองใหญ่ที่หามาได้ล้วนแลกมาด้วยชีวิต ในใจนางก็เจ็บปวด หายโมโหเรื่องที่เหมียวอี้มาแอบแซ่บแล้วเช่นกัน นาขมวดคิ้วถามว่า &#8220;งั้นถ้าคว้านดวงตาที่สามของเจ้าออกมาก็ไม่น่าจะเป็นอะไรใช่มั้ย?&#8221;</p>
<p>&#8220;เดิมทีก็คิดจะขุดออกมา แต่เมื่อครู่นี้เพิ่งพบเรื่องแปลกอย่างหนึ่ง&#8230;&#8221; เหมียวอี้เล่าฉากมหัศจรรย์ก่อนหน้านี้ให้ฟัง</p>
<p>&#8220;มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?&#8221; อวิ๋นจือชิวตกตะลึง</p>
<p>หลังจากทั้งสองปรึกษากันอย่างลับๆ พักหนึ่ง อวิ๋นจือชิวก็ออกจากห้องมา แล้วไปหาหงเฉินในสวนดอกไม้ พูดกับนางตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อมว่า &#8220;ถ้าเจ้ากับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันเกิดขึ้น ข้าก็จะไม่มายุ่งกับเจ้าเช่นกัน แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เจ้าเสียตัวให้เขาแล้ว กลายเป็นอนุภรรยาของเขาอย่างแท้จริง เช่นนั้นก็ควรรับผิดชอบหน้าที่ของอนุภรรยา ต่อไปนี้การใช้จ่ายของเจ้าจะเหมือนอนุภรรยาคนอื่นๆ จำนวนที่ควรได้ก็จะได้ สิ่งของที่จำเป็นทุกอย่างให้เบิกจากบัญชีกลางของตระกูลเหมียว จะไม่มองว่าเจ้าเป็นแขกอีกแล้ว ดูแลนายท่านให้ดี ถ้านายท่านเกิดอุบัติเหตุอะไรที่นี่อีก ข้าจะมาขอคำอธิบายจากเจ้า !&#8221; พูดจบก็เดินออกไปเลย ไม่เหลือที่ว่างให้เจรจาต่อรอง</p>
<p>หงเฉินอึกอักเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้&#8230;</p>
<p>หลังจากนั้นไม่กี่วัน กำไลเก็บสมบัติที่กองอยู่ในชัยภูมิถ้ำสวรรค์ของเถ้าแก่เนี้ยก็ถูกจัดระเบียบเสร็จหมดแล้ว พวกจีเหม่ยลี่ที่ได้ทำงานจริงๆ จังๆ มาหลายวันได้โล่งอกเสียที พวกนางกำลังยืนเรียงแถวกัน อวิ๋นจือชิวที่นั่งไขว้ห้างอยู่ตรงข้ามกลับหยิบรายการตัวเลขสุดท้ายมาดูแล้วเลิกคิ้ว มุมปากที่ยกยิ้มอย่างดีใจนั้นยากจะปิดบัง</p>
<p>ฉากนี้ล้วนอยู่ในสายตาของพวกอนุภรรยา หลายวันมานี้พวกนางรู้สึกตกตะลึงไม่เบาจริงๆ สมบัติผ่านมือพวกนางมาแล้วไม่น้อย ต่างก็รู้ว่ารายได้ในครั้งนี้น่าทึ่งอย่างไร จีเหม่ยลี่เป็นคนนำยาเจี๋ยตันขั้นหกจำนวนหกเม็ดออกมาจากกำไลเก็บสมบัติ ในนั้นยังมีของวิเศษขั้นหกด้วย ทรัพย์สินก็ยิ่งมีจำนวนเยอะสุดๆ</p>
<p>ทุกคนก็รู้อยู่แล้วเช่นกันว่าผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์นั้นร่ำรวย แต่นึกไม่ถึงว่าคนมีอำนาจอย่างเหมียวอี้ เวลาร่ำรวยขึ้นมาจะน่ากลัวขนาดนี้</p>
<p>หลังจากเก็บรายการบัญชีอย่างอย่างพึงพอใจแล้ว อวิ๋นจือชิวก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า &#8220;หลายวันมานี้ทุกคนลำบากแล้ว นายท่านบอกมาล่วงหน้าว่ามีรางวัลให้ทุกคน พวกเจ้าจะได้ยาแก่นซียนคนละหนึ่งล้านเม็ด!&#8221; พูดจบก็เอียงหน้าเล็กน้อย</p>
<p>เชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์นำแหวนเก็บสมบัติแจกจ่ายให้ถึงมือทุกคน พวกจีเหม่ยลี่ไม่เกรงใจ ของมากมายขนาดนั้น ตัวเองเอามาสักนิดหน่อยก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร และตอนที่นำแหวนเก็บสมบัติส่งให้จื่ออวิ๋นกับจื่อหัวที่ยืนอยู่ข้างหลัง เชียนเอ๋อร์ก็ตั้งใจบอกว่า &#8220;นี่เป็นของหรูฮูหยิน&#8221; ย่อมหมายถึงหงเฉินอยู่แล้ว เท่ากับเป็นการเตือนว่า รางวัลนี้ไม่ได้มอบให้พวกเจ้า</p>
<p>&#8220;เจ้าค่ะ! ขอบคุณกูกูใหญ่ กูกูเล็ก&#8221; จื่ออวิ๋นกับจื่อหัวเอ่ยรับ</p>
<p>อวิ๋นจือชิวบอกอีกว่า &#8220;ตรงนี้ไม่มีธุระของพวกเจ้าสองคนแล้ว กลับไปเถอะ&#8221;</p>
<p>จื่ออวิ๋น จื่อหัวหันไปมองคนอื่นๆ เดิมทีอยากจะฟังสักหน่อยว่านางจะพูดอะไร แต่ในเมื่อฮูหยินบอกมาแบบนี้แล้ว พวกนางก็ทำได้เพียงขานรับแล้วถอยออกไป</p>
<p>หลังจากทั้งสองเดินออกไปแล้ว อวิ๋นจือชิวก็บอกว่า &#8220;ให้หรูฮูหยินนั่งลงเถอะ&#8221;</p>
<p>ดังนั้นเชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์จึงรีบนำเก้าอี้และโต๊ะน้ำชามาวางข้างนางฝั่งละสามตัว หลางหลางหวนหวน อวี้หนูเจียว จีเหม่ยลี่ ฉินเวยเวย ฝ่าอิน ทั้งหกคนแยกกันนั่งทางซ้ายและขวา ส่วนเชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์ที่รินน้ำชาเสร็จแล้วก็กลับไปยืนข้างหลังอวิ๋นจือชิว</p>
<p>อวิ๋นจือชิวยกน้ำชาขึ้นมาจิบช้าๆ พร้อมอธิบายว่า &#8220;ของที่ข้าให้ทุกคนจัดการแยกประเภทครั้งนี้ ทุกคนก็ได้เห็นแล้วเช่นกัน ของนี้นายท่านหามาอย่างยากลำบาก ทุกคนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นสมบัตินี้เป็นทั้งของนายท่าน แล้วก็เป็นของทุกคนด้วย ในภายหลังนายท่านก็ต้องใช้จ่ายมันไปกับทุกคนอยู่ดี แต่เราควรใช้ชีวิตแบบน้ำน้อยๆ ที่ไหลได้ยาวไกล เป็นไปไม่ได้ที่จะแบ่งสมบัติแจกให้ทุกคนทั้งหมดในรวดเดียว ย่อมต้องนำไปใส่ไว้ในบัญชีกลางอยู่แล้ว ในภายหลังค่ากินค่าอยู่ของทุกคนก็ต้องเบิกจากบัญชีในครอบครัว เรื่องนี้ก็มีหลักการแบบนี้ ดังนั้นทุกคนไม่ต้องคิดมากแล้ว ถ้าในใจใครมีความเห็นแย้งอะไร ตอนนี้ก็บอกมาได้เลย&#8221;</p>
<p>อนุภรรยาทั้งหกมองหน้ากันไปมองหน้ามันมา ไม่มีใครพูดอะไร</p>
<p>&#8220;ในเมื่อทุกคนไม่มีความเห็นอะไรแล้ว งั้นข้าก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่จะบอกทุกคน&#8221; อวิ๋นจือชิววางถ้วยน้ำชาลง กวาดสายตามองหน้าทั้งหกที่นั่งอยู่ทางซ้ายและขวา &#8220;ถึงแม้จะบอกว่าพวกเจ้าทุกคนเป็นอนุภรรยาของนายท่าน นายท่านแต่งงานกับพวกเจ้าแล้วก็ควรเลี้ยงพวกเจ้า นี่คือหลักการของฟ้าดินที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง ที่จริงนายท่านก็ไม่ได้ปฏิบัติกับพวกเจ้าอย่างขาดความยุติธรรมเหมือนกัน การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของพวกเจ้า มีจุดไหนที่นายท่านปฏิบัติด้วยอย่างขาดความยุติธรรมหรือเปล่า? สวัสดิการที่มีให้พวกเจ้า เกรงว่าตั้งแต่เกิดมาพวกเจ้าคงจะไม่เคยได้รับสวัสดิการดีๆ แบบนี้ อาจารย์และบิดาของพวกเจ้าที่ออกไปลำบากทำงานข้างนอกหนึ่งปี เกรงว่าจะได้ไม่เยอะเท่าที่พวกเจ้าปรนนิบัตินายท่านหรอก เรื่องที่พิภพเล็กไม่อาจเอามาเทียบได้แล้ว พูดถึงแต่พิภพใหญ่แล้วกัน จะมีอนุภรรยาของบ้านไหนที่ได้รับการดูแลเหมือนตระกูลเหมียวได้ของจำพวกยาแก่นซียนที่ใช้ฝึกตนอย่างเพียงพอแบบนี้มั้ย? อย่าว่าแต่ดาวเทียนหยวนเลย ต่อให้เป็นทั้งน่านฟ้าชวดอี่ก็เกรงว่าจะไม่มีเหมือนกัน น่านฟ้าชวดอี่ เกรงว่าต่อให้เป็นหัวหน้าภาคน่านฟ้าชวดอี่ก็คงไม่ฟุ่มเฟือยขนาดนี้อยู่ดี ดังนั้นนายท่านก็ถือว่าได้ทำตามหน้าที่อย่างเต็มกำลังแล้ว ไหนทุกคนคนลองพูดออกมาจากใจซิ ว่าได้ทำหน้าที่ของ อนุภรรยาอย่างเต็มที่หรือยัง? อย่าบอกนะว่าอยากจะเป็นเหมือนแจกันดอกไม้ที่วางประดับไว้เฉยๆ? บัญชีร้านค้าของพวกเจ้าในหลายปีมานี้ ข้าเองก็ได้ดูแล้วเหมือนกัน นอกจากร้านของหลางหลางหวนหวนที่มีกำไรเยอะ ส่วนร้านค้าของพวกเจ้าสามคน อย่าว่าแต่หาเงินมาให้ตัวเองใช้จ่ายเลย แม้แต่เงินที่ใช้ส่งส่วยให้ตลาดสวรรค์ในแต่ละปีก็หามาไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งยังเบิกเงินจากบัญชีกลางของบ้านอีก เพิ่มค่าใช้จ่ายให้บ้านอีกก้อนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่ข้าไม่พูดว่าอะไร ก็เป็นเพราะพวกเจ้าเพิ่งมาใหม่และยังไม่เข้าใจสถานการณ์ ข้าก็เลยให้เวลาพวกเจ้า แต่ตอนนี้ผ่านไปสิบปีแล้วยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไร พวกเจ้าควรจะให้คำอธิบายอะไรหน่อยมั้ย? ต่อให้ในบ้านจะมีเงินมากกว่านี้ แต่ก็จะทำให้กฎระเบียบเสียไม่ได้!&#8221;</p>
<p>ฉินเวยเวยก้มหน้าไม่พูดอะไร พบว่าตัวเองหมดประโยชน์หลังจากมาที่พิภพใหญ่ กลายเป็นขยะที่กินอยู่เปล่าๆ และในบรรดาอนุภรรยาเหล่านี้ นางก็ไม่ได้นับว่าหน้าตาสวยโดดเด่น ดังนั้นจึงกังวลเรื่องนี้มาตลอด นางยังขอให้หยางชิ่งบิดาบุญธรรมช่วยคิดหาทางเรื่องนี้ด้วย</p>
<p>อวี้หนูเจียวอึกอักเหมือนอยากจะพูดอะไรหลายครั้ง สุดท้ายก็กล่าวอย่างไม่ยอมว่า  &#8220;หงเฉินล่ะ? หงเฉินไม่ได้ทำอะไรเลย แน่นอนว่านางไม่ได้ขาดทุน แต่หงเฉินก็เบิกค่าใช้จ่ายจากบัญชีในบ้านเหมือนเดิม ชัดเจนว่านายท่านลำเอียง!&#8221;</p>
<p>&#8220;ลำเอียงเหรอ?&#8221; อวิ๋นจือชิวพลันจ้องใบหน้านาง น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนเป็นเฉียบขาด &#8220;เจ้าคงไม่รู้สินะว่าร้านค้าหนึ่งร้านที่ตลาดสวรรค์มีมูลค่าเท่าไร? มีคนมากมายถึงขั้นหอบเงินมาแต่ก็อาจจะซื้อไม่ได้! ตอนที่นายท่านซื้อร้านค้าให้เจ้า แต่ไม่ได้ซื้อให้หงเฉิน ทำไมเจ้าไม่บอกล่ะว่านายท่านลำเอียง? หงเฉินไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น แต่ไม่ว่าจะให้ของกับนางเท่าไรนางก็ไม่คิดเล็กคิดน้อย นางยินดีเป็นแจกันดอกไม้ในมุมที่ไม่มีใครสนใจ ทำไมเจ้าไม่เทียบเรื่องพวกนี้กับนางล่ะ? แล้วอีกอย่าง ร่างกายของหงเฉินก็ได้มอบให้นายท่านแล้ว แต่เจ้าล่ะ? ให้เจ้าถอดเสื้อผ้าปรนนิบัตินายท่าน เจ้าก็รู้สึกว่าเป็นการสร้างความอัปยศให้เจ้า รู้สึกว่ากำลังรังแกเจ้า ขนาดหนังสือหย่าก็เขียนออกมาแล้ว เจ้าเคยได้ยินว่าอนุภรรยาบ้านไหนเป็นแบบนี้มั้ย? เจ้ายังมีหน้ามาเทียบเรื่องนี้กับหงเฉินอีกเหรอ จะให้ข้าพูดเรื่องน่าอับอายของเจ้าให้สาวๆ คนอื่นฟังสักหน่อยมั้ยล่ะ?&#8221;</p>
<p>อวี้หนูเจียวอับอายจนเกินทน หน้าแดงก่ำแล้ว ถูกคำพูดของอวิ๋นจือชิวอุปากจนพูดไม่ออก ได้แต่ก้มหน้ากัดริมฝีปาก</p>
<p>อนุภรรยาคนอื่นๆ ได้ยินแล้วแปลกใจ สายตาไปจ้องรวมอยู่บนตัวนาง เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ยินเรื่องที่อวี้หนูเจียวก่อเรื่องจนได้ &#8216;หนังสือหย่า&#8217; นี่มันเรื่องอะไรกัน?</p>
<p>กลับเป็นจีเหม่ยลี่ที่กล่าวขึ้นมาหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง &#8220;ฮูหยิน เรื่องนี้ก็จะโทษพวกเราทั้งหมดไม่ได้ ธุรกิจประเภทต่างๆ ที่ตลาดสวรรค์ล้วนมีคนทำ แต่ธุรกิจของร้านพวกเราไม่มีช่องทางนำเข้าสินค้า ถ้าปัจจัยไม่พร้อม ต่อให้เก่งแค่ไหนก็หมดหนทาง ในร้านค้าของหลางหลางหวนหวนอย่างน้อยก็ยังนับว่าเป็นการค้าขาย แต่ร้านของพวกเราสามคนจะนับว่าค้าขายอะไรได้ล่ะ? ท่านเองก็จะให้พวกเราจับเสือมือเปล่าไม่ได้เหมือนกันนะ!&#8221;</p>
<p>&#8220;ที่เจ้าพูดก็นับว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครอบครัวเดียวกันไม่ควรพาลหาเรื่องโดยไร้เหตุผล ถ้ามีเรื่องอะไรก็ต้องอธิบายความจริง บอกเหตุผล!&#8221; อวิ๋นจือชิวพยักหน้า แล้วเปลี่ยนประเด็นพูด &#8220;ทางแดนอู๋เลี่ยงของพิภพเล็ก สำนักงามวิจิตรมาทำงานรับใช้นายท่านแล้ว ช่วงนี้หยางชิ่งแนะนำมา ว่าต้องการจะรวมสำนักหลอมของวิเศษของทั้งพิภพเล็กเล็กเข้าไว้ด้วยกัน รวบรวมกำลังคนของทุกสำนักเพื่อหลอมสร้างอุปกรณ์ที่เหมาะสมจะทำกำไรที่พิภพใหญ่มาจำหน่าย สำหรับเรื่องนี้ข้าเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ถ้าจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว มันก็จะเป็นธุรกิจของตระกูลเราเหมือนกัน ในฐานะที่พวกเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเหมียว พวกเจ้าก็ต้องออกแรงทำงานเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อกลับไปแล้วก็ปรึกษากับบิดาและอาจารย์ของพวกเจ้าสักหน่อย อย่างไรเสียสำนักหลอมสมบัติที่กระจายอยู่ในอาณาเขตของหกปราชญ์ก็ไม่มีบทบาทอะไรแล้วสำหรับในตอนนี้ แต่สำหรับพวกเรานั้นต่างออกไป ตระกูลพวกเราอยู่ที่พิภพใหญ่ มีปัจจัยให้ใช้ประโยชน์ เรื่องนี้พวกเจ้าต้องพยายามไปเจรจากับพวกศิษย์พี่ของเจ้าให้เร็วที่สุด!&#8221;</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด