เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 101.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 101.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เธอกำลังอ่านหนังสือฆ่าเวลาไปพลางๆ ระหว่างรอมื้อเย็น แต่จู่ๆ ก็ต้องเงยหน้าขึ้น เพราะเสียงฝีเท้าเร่งรีบที่เดินเข้ามาใกล้

“เทีย!”

โครม!

ประตูถูกเปิดออกพร้อมเสียงดังสนั่น ก่อนท่านพ่อจะวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าซีดเผือด

“มีเรื่องอะไรเหรอคะ”

วิ่งมาจากที่ไหนเนี่ย

ท่านพ่อหอบหายใจถี่เล็กน้อย แล้วพูดเสียงสั่นเครือ

“มะ เมื่อกี้…เมื่อกี้ได้ยินเรื่องแปลกๆ จากคุณเครย์ลีบัน…”

“เรื่องแปลกๆ เหรอคะ”

“เทียเตรียมเปิดตัว…”

แล้วเรื่องแค่นั้นทำไมถึงกลายเป็นเรื่องแปลกได้ล่ะ

“ค่ะ ใช่แล้วค่ะ”

“เฮือก! ”

ท่านพ่อยกมือขึ้นปิดปาก ราวกับคนได้ฟังข่าวที่เลวร้ายที่สุดในโลก

และนัยน์ตาคลอไปด้วยหยาดน้ำตา

“ยังเด็กอยู่เลยแท้ๆ … จะเปิดตัวแล้วหรือ”

“ยังไงงานเปิดตัวปกติก็จัดตอนอายุ 12 ถึง 15 ปีไม่ใช่เหรอคะ ไหนๆ ก็ต้องจัดอยู่แล้ว ก็อยากจะรีบจัดการให้เสร็จเรียบร้อยไวๆ น่ะค่ะ”

“แต่พวกที่จัดงานเปิดตัวกันไว ปกติก็มีแต่พวกตระกูลเล็กๆ ที่ต้องรีบร้อนหาคู่หมั้นคู่หมายกันนะ… เทียไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเลยไม่ใช่เหรอ”

ท่านพ่อพูดด้วยความสิ้นหวัง พยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจ

“มันก็จริงค่ะ”

แต่แล้วในตอนที่เธอตั้งใจจะอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงได้คิดจะจัดงานเปิดตัว

โครม!

ประตูก็พลันถูกเปิดออกอีกครั้ง ในขณะที่ส่งเสียงดังสนั่นยิ่งกว่าตอนท่านพ่อเปิดเข้ามา

“เทีย!”

คราวนี้เป็นท่านปู่

ท่านปู่วิ่งเข้ามาด้วยความร้อนรนเหมือนท่านพ่อเมื่อครู่ ท่านสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะถาม

“เปิดตัวอย่างนั้นหรือ นี่มันเรื่องอะไรกัน!”

“มาแล้วหรือคะ ท่านปู่! ”

พอเธอลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้า ท่านปู่ก็สวมกอดเธอแน่น แล้วถามอีกครั้ง

“ปู่ได้ยินมาผิดใช่มั้ย ใช่หรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ ได้ยินมาถูกต้องแล้ว ข้าตั้งใจจะเปิดตัวในสังคมค่ะ”

“เฮือก! ”

คงกลัวคนไม่รู้ว่าเป็นพ่อลูกกันละมั้ง ปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนกับท่านพ่อเปี๊ยบเลย

“รีบร้อนอะไรแบบนั้นกัน! เรื่องแบบนั้นค่อยเป็นค่อยไปก็ไม่สายหรอกนะ!”

“แต่หญิงสาวชนชั้นสูงทุกคนปกติก็ต้องเปิดตัวอย่างเป็นทางการสักวันไม่ใช่เหรอคะ

งานเปิดตัวมีขั้นตอนคล้ายๆ กับพิธีรับน้องประเภทหนึ่ง มันเป็นการแนะนำตัวเองต่อหน้าแวดวงสังคม ให้ทุกคนได้เห็นหน้าค่าตาอย่างเป็นทางการ เหมือนจะบอกว่า ‘ต่อไปขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ’ อะไรเทือกนั้น

อันที่จริงก็ไม่ใช่ธรรมเนียมที่จำเป็นอะไรขนาดนั้นหรอก

ในชีวิตก่อนเธอเองก็ใช้ชีวิตโดยไม่เคยได้เปิดตัวในสังคมอย่างคนอื่นเขาเหมือนกัน

แต่ถ้าได้เปิดตัวมันก็ถือว่าดีกว่า ให้คนอื่นเขาจดจำหน้าตาของเธอยังไงมันก็สะดวกกว่าเยอะ เลยอยากจะรีบๆ จัดให้มันไวๆ หน่อย

“หรือว่ามีเหตุผลอะไรที่คิดว่า หากข้าจัดงานเปิดตัวช้าหน่อยดีกว่าหรือเปล่าคะ”

เธอถามออกไปเผื่อว่าจะมีเหตุผลอะไรที่เธอไม่รู้

ท่านปู่กระแอมไอด้วยความกระอักกระอ่วน ทำปากยื่นอย่างแง่งอน ท่านพ่อจึงเป็นฝ่ายตอบเสียงสั่นเครือแทน

“จนถึงตอนนี้เทียจัดการเรื่องทุกอย่างเองคนเดียว ในฐานะพ่อ พ่อรู้สึกผิดและภูมิใจในตัวลูกมาก แต่ถ้าจัดการเปิดตัวตอนนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนลูกเติบโตเร็วเกินไป…”

เธอหันไปถามท่านปู่

“ท่านปู่ก็มีเหตุผลเดียวกันเหรอคะ”

“อะแฮ่ม การย่างกรายเข้าไปในแวดวงสังคมที่มีพวกปากหอยปากปูเยอะ มันไม่มีอะไรดีไม่ใช่หรือ”

“ใช่แล้วละ เทีย อย่างที่ท่านปู่บอก รีบร้อนไปก็ไม่มีอะไรดี…”

เธอยิ้มกว้างก่อนจะตอบ

“ข้าจะจัดงานเปิดตัวในฤดูกาลนี้ค่ะ”

“เทีย! ”

“เทีย! ”

ท่านปู่กับท่านพ่อตะโกนเสียงดังพร้อมกัน

แต่เธอส่ายหน้ายืนยันหนักแน่น

“คงเพราะข้าไม่ค่อยไปงานสังคมข้างนอกเท่าไหร่ เลยมีคนไม่รู้จักข้าอยู่มาก มันไม่ค่อยสะดวกเลยน่ะค่ะ บางครั้งก็โดนดูถูก…”

เธอลากเสียงประโยคไม่ยอมพูดต่อ นัยน์ตาของท่านปู่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

“ใคร! ใครมันกล้าดูถูกหลานสาวข้า!”

“ถ้ามีเรื่องแบบนั้นก็น่าจะบอกพ่อสิ! ”

ท่านพ่อเองก็ขึ้นเสียงดังอย่างหาได้ยาก

เธอยังคงทำไหล่ลู่ในขณะที่พูดต่อ

“ถ้าจัดงานเปิดตัวให้คนรู้จักหน้าตาข้ามากขึ้น คงไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก… เพราะฉะนั้นก็เลยอยากจัดไวๆ น่ะค่ะ…”

คำพูดของเธอทำให้ท่านพ่อกับท่านปู่เริ่มสั่นคลอน

“เหตุผลเช่นนั้น…”

“การเปิดตัวก็ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดี…”

กะแล้วเชียว ถ้าอ้างแบบนี้ย่อมตกลงแน่

ท่านพ่อกับท่านปู่ขมวดคิ้วแน่น เริ่มครุ่นคิดอย่างจริงจังจนหน้าผากยับย่น

คนที่ถูกเกลี้ยกล่อมจนยอมโอนอ่อนเป็นคนแรกคือท่านปู่

“ใช่แล้ว! งั้นก็ถือโอกาสนี้จัดงานเปิดตัวให้เหมาะสมก็แล้วกัน ปู่คนนี้จะช่วยจัดงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้แก่เจ้าเอง”

“กรี๊ด! สมกับเป็นท่านปู่จริงๆ ค่ะ!”

เธอโน้มคอท่านปู่ลงมากอดเอาไว้แน่น

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

ท่านปู่หัวเราะเสียงดังในขณะที่ตบหลังเธอเบาๆ

ในตอนนั้นเอง

ปัง!

ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมเสียงดังสนั่นอีกครั้ง ก่อนสองแฝดจะทะเล่อทะล่าวิ่งพรวดเข้ามา

“เทีย! เปิดตัวอย่างนั้นหรือ!”

“ยังไม่ได้นะ! ”

“เฮ้อ…”

ไม่มีแรงจะอธิบายอีกรอบแล้วนะ

เธอถอนหายใจเสียงแผ่ว มองสองแฝด ก่อนจะหันไปถามท่านพ่อกับท่านปู่

“ทานมื้อเย็นด้วยกันดีมั้ยคะ”

* * *

สุดท้ายแม้กระทั่งชานาเนสก็มาร่วมวงด้วย พวกเรานั่งล้อมวงอยู่บนโต๊ะเดียวกัน

ชานาเนสได้ยินข่าวเรื่องงานเปิดตัวของเธอ นางเพียงแค่เบิกตากว้างด้วยความตกใจอยู่ครู่หนึ่งเท่านั้น ไม่ได้โวยวายทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร

“กล้าดูถูกหลานสาวของรูลลักคนนี้ ไอ้พวกชั่ว! ”

ท่านปู่เอาแต่พร่ำบ่นไม่หยุด ท่าทางจะยังไม่หายโมโห

“อะไร…ใครดูถูกเทีย!”

“เพราะงั้นถึงได้จะจัดงานเปิดตัวเหรอ!”

สองแฝดทุบโต๊ะเสียงดังด้วยความโกรธ

ถึงจะเงียบทันทีที่ชานาเนสซึ่งนั่งกินอาหารอยู่เงียบๆ ด้านข้างส่งสายตาตำหนิให้ก็เถอะ

เธอยิ้มพลางพูดขึ้นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแบบนั้นหรอกค่ะ พอดีเมื่อครั้งก่อนตอนออกไปคอกม้าแถวชานเมือง…”

“อ๊ะ เจ้านั่นเมื่อตอนนั้น”

“ไอ้เด็กที่ทำเป็นอวดดีต่อหน้าเทีย ทั้งยังเข้ามาจีบนั่นใช่มั้ย ชื่ออะไรนะ…”

เฮ้ย ไม่ได้นะ ห้ามบอก

“คาเซย์! คาเซย์ อังเกนัส!”

คำพูดถามตอบของคิลลีวูกับเมโลนทำให้คิ้วของท่านปู่กระตุกครั้งหนึ่ง

“เด็กตระกูลอังเกนัสกล้าดูถูกหลานสาวข้า… แถมยังเข้ามาจีบอีกด้วยงั้นหรือ”

โธ่เอ๊ย เกิดเรื่องใหญ่จนได้

ชื่อตระกูลอังเกนัสทำให้อารมณ์รุนแรงของท่านปู่ยิ่งพลุ่งสูงขึ้น

“ไม่ได้การ เจ้าพวกนั้น แบบนี้ต้องจัดงานเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่สุดๆ ต่อไปจะได้ไม่มีใครกล้าทำเรื่องแบบนั้นกับหลานสาวข้าคนนี้…”

ในตอนนั้นเองชานาเนสที่นั่งซับมุมปากด้วยผ้าเช็ดปากก็พูดขึ้น

“งานเปิดตัวที่มีเกียรติที่สุด ก็ต้องเป็นงานเลี้ยงเปิดตัวที่ทางราชวงศ์เป็นเจ้าภาพสินะคะ”

“งานเลี้ยงเปิดตัวของราชวงศ์”

“ค่ะ เพียงแค่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น ทั้งยังมีเพียงแค่คุณหนูที่ได้รับคัดเลือกด้วยมาตรฐานอันแสนเข้มงวดเท่านั้น ที่จะได้เปิดตัวในงานเลี้ยงที่ว่านั่นนี่คะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 101.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 101.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เธอกำลังอ่านหนังสือฆ่าเวลาไปพลางๆ ระหว่างรอมื้อเย็น แต่จู่ๆ ก็ต้องเงยหน้าขึ้น เพราะเสียงฝีเท้าเร่งรีบที่เดินเข้ามาใกล้

“เทีย!”

โครม!

ประตูถูกเปิดออกพร้อมเสียงดังสนั่น ก่อนท่านพ่อจะวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าซีดเผือด

“มีเรื่องอะไรเหรอคะ”

วิ่งมาจากที่ไหนเนี่ย

ท่านพ่อหอบหายใจถี่เล็กน้อย แล้วพูดเสียงสั่นเครือ

“มะ เมื่อกี้…เมื่อกี้ได้ยินเรื่องแปลกๆ จากคุณเครย์ลีบัน…”

“เรื่องแปลกๆ เหรอคะ”

“เทียเตรียมเปิดตัว…”

แล้วเรื่องแค่นั้นทำไมถึงกลายเป็นเรื่องแปลกได้ล่ะ

“ค่ะ ใช่แล้วค่ะ”

“เฮือก! ”

ท่านพ่อยกมือขึ้นปิดปาก ราวกับคนได้ฟังข่าวที่เลวร้ายที่สุดในโลก

และนัยน์ตาคลอไปด้วยหยาดน้ำตา

“ยังเด็กอยู่เลยแท้ๆ … จะเปิดตัวแล้วหรือ”

“ยังไงงานเปิดตัวปกติก็จัดตอนอายุ 12 ถึง 15 ปีไม่ใช่เหรอคะ ไหนๆ ก็ต้องจัดอยู่แล้ว ก็อยากจะรีบจัดการให้เสร็จเรียบร้อยไวๆ น่ะค่ะ”

“แต่พวกที่จัดงานเปิดตัวกันไว ปกติก็มีแต่พวกตระกูลเล็กๆ ที่ต้องรีบร้อนหาคู่หมั้นคู่หมายกันนะ… เทียไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเลยไม่ใช่เหรอ”

ท่านพ่อพูดด้วยความสิ้นหวัง พยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจ

“มันก็จริงค่ะ”

แต่แล้วในตอนที่เธอตั้งใจจะอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงได้คิดจะจัดงานเปิดตัว

โครม!

ประตูก็พลันถูกเปิดออกอีกครั้ง ในขณะที่ส่งเสียงดังสนั่นยิ่งกว่าตอนท่านพ่อเปิดเข้ามา

“เทีย!”

คราวนี้เป็นท่านปู่

ท่านปู่วิ่งเข้ามาด้วยความร้อนรนเหมือนท่านพ่อเมื่อครู่ ท่านสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะถาม

“เปิดตัวอย่างนั้นหรือ นี่มันเรื่องอะไรกัน!”

“มาแล้วหรือคะ ท่านปู่! ”

พอเธอลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้า ท่านปู่ก็สวมกอดเธอแน่น แล้วถามอีกครั้ง

“ปู่ได้ยินมาผิดใช่มั้ย ใช่หรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ ได้ยินมาถูกต้องแล้ว ข้าตั้งใจจะเปิดตัวในสังคมค่ะ”

“เฮือก! ”

คงกลัวคนไม่รู้ว่าเป็นพ่อลูกกันละมั้ง ปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนกับท่านพ่อเปี๊ยบเลย

“รีบร้อนอะไรแบบนั้นกัน! เรื่องแบบนั้นค่อยเป็นค่อยไปก็ไม่สายหรอกนะ!”

“แต่หญิงสาวชนชั้นสูงทุกคนปกติก็ต้องเปิดตัวอย่างเป็นทางการสักวันไม่ใช่เหรอคะ

งานเปิดตัวมีขั้นตอนคล้ายๆ กับพิธีรับน้องประเภทหนึ่ง มันเป็นการแนะนำตัวเองต่อหน้าแวดวงสังคม ให้ทุกคนได้เห็นหน้าค่าตาอย่างเป็นทางการ เหมือนจะบอกว่า ‘ต่อไปขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ’ อะไรเทือกนั้น

อันที่จริงก็ไม่ใช่ธรรมเนียมที่จำเป็นอะไรขนาดนั้นหรอก

ในชีวิตก่อนเธอเองก็ใช้ชีวิตโดยไม่เคยได้เปิดตัวในสังคมอย่างคนอื่นเขาเหมือนกัน

แต่ถ้าได้เปิดตัวมันก็ถือว่าดีกว่า ให้คนอื่นเขาจดจำหน้าตาของเธอยังไงมันก็สะดวกกว่าเยอะ เลยอยากจะรีบๆ จัดให้มันไวๆ หน่อย

“หรือว่ามีเหตุผลอะไรที่คิดว่า หากข้าจัดงานเปิดตัวช้าหน่อยดีกว่าหรือเปล่าคะ”

เธอถามออกไปเผื่อว่าจะมีเหตุผลอะไรที่เธอไม่รู้

ท่านปู่กระแอมไอด้วยความกระอักกระอ่วน ทำปากยื่นอย่างแง่งอน ท่านพ่อจึงเป็นฝ่ายตอบเสียงสั่นเครือแทน

“จนถึงตอนนี้เทียจัดการเรื่องทุกอย่างเองคนเดียว ในฐานะพ่อ พ่อรู้สึกผิดและภูมิใจในตัวลูกมาก แต่ถ้าจัดการเปิดตัวตอนนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนลูกเติบโตเร็วเกินไป…”

เธอหันไปถามท่านปู่

“ท่านปู่ก็มีเหตุผลเดียวกันเหรอคะ”

“อะแฮ่ม การย่างกรายเข้าไปในแวดวงสังคมที่มีพวกปากหอยปากปูเยอะ มันไม่มีอะไรดีไม่ใช่หรือ”

“ใช่แล้วละ เทีย อย่างที่ท่านปู่บอก รีบร้อนไปก็ไม่มีอะไรดี…”

เธอยิ้มกว้างก่อนจะตอบ

“ข้าจะจัดงานเปิดตัวในฤดูกาลนี้ค่ะ”

“เทีย! ”

“เทีย! ”

ท่านปู่กับท่านพ่อตะโกนเสียงดังพร้อมกัน

แต่เธอส่ายหน้ายืนยันหนักแน่น

“คงเพราะข้าไม่ค่อยไปงานสังคมข้างนอกเท่าไหร่ เลยมีคนไม่รู้จักข้าอยู่มาก มันไม่ค่อยสะดวกเลยน่ะค่ะ บางครั้งก็โดนดูถูก…”

เธอลากเสียงประโยคไม่ยอมพูดต่อ นัยน์ตาของท่านปู่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

“ใคร! ใครมันกล้าดูถูกหลานสาวข้า!”

“ถ้ามีเรื่องแบบนั้นก็น่าจะบอกพ่อสิ! ”

ท่านพ่อเองก็ขึ้นเสียงดังอย่างหาได้ยาก

เธอยังคงทำไหล่ลู่ในขณะที่พูดต่อ

“ถ้าจัดงานเปิดตัวให้คนรู้จักหน้าตาข้ามากขึ้น คงไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก… เพราะฉะนั้นก็เลยอยากจัดไวๆ น่ะค่ะ…”

คำพูดของเธอทำให้ท่านพ่อกับท่านปู่เริ่มสั่นคลอน

“เหตุผลเช่นนั้น…”

“การเปิดตัวก็ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดี…”

กะแล้วเชียว ถ้าอ้างแบบนี้ย่อมตกลงแน่

ท่านพ่อกับท่านปู่ขมวดคิ้วแน่น เริ่มครุ่นคิดอย่างจริงจังจนหน้าผากยับย่น

คนที่ถูกเกลี้ยกล่อมจนยอมโอนอ่อนเป็นคนแรกคือท่านปู่

“ใช่แล้ว! งั้นก็ถือโอกาสนี้จัดงานเปิดตัวให้เหมาะสมก็แล้วกัน ปู่คนนี้จะช่วยจัดงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้แก่เจ้าเอง”

“กรี๊ด! สมกับเป็นท่านปู่จริงๆ ค่ะ!”

เธอโน้มคอท่านปู่ลงมากอดเอาไว้แน่น

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

ท่านปู่หัวเราะเสียงดังในขณะที่ตบหลังเธอเบาๆ

ในตอนนั้นเอง

ปัง!

ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมเสียงดังสนั่นอีกครั้ง ก่อนสองแฝดจะทะเล่อทะล่าวิ่งพรวดเข้ามา

“เทีย! เปิดตัวอย่างนั้นหรือ!”

“ยังไม่ได้นะ! ”

“เฮ้อ…”

ไม่มีแรงจะอธิบายอีกรอบแล้วนะ

เธอถอนหายใจเสียงแผ่ว มองสองแฝด ก่อนจะหันไปถามท่านพ่อกับท่านปู่

“ทานมื้อเย็นด้วยกันดีมั้ยคะ”

* * *

สุดท้ายแม้กระทั่งชานาเนสก็มาร่วมวงด้วย พวกเรานั่งล้อมวงอยู่บนโต๊ะเดียวกัน

ชานาเนสได้ยินข่าวเรื่องงานเปิดตัวของเธอ นางเพียงแค่เบิกตากว้างด้วยความตกใจอยู่ครู่หนึ่งเท่านั้น ไม่ได้โวยวายทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร

“กล้าดูถูกหลานสาวของรูลลักคนนี้ ไอ้พวกชั่ว! ”

ท่านปู่เอาแต่พร่ำบ่นไม่หยุด ท่าทางจะยังไม่หายโมโห

“อะไร…ใครดูถูกเทีย!”

“เพราะงั้นถึงได้จะจัดงานเปิดตัวเหรอ!”

สองแฝดทุบโต๊ะเสียงดังด้วยความโกรธ

ถึงจะเงียบทันทีที่ชานาเนสซึ่งนั่งกินอาหารอยู่เงียบๆ ด้านข้างส่งสายตาตำหนิให้ก็เถอะ

เธอยิ้มพลางพูดขึ้นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแบบนั้นหรอกค่ะ พอดีเมื่อครั้งก่อนตอนออกไปคอกม้าแถวชานเมือง…”

“อ๊ะ เจ้านั่นเมื่อตอนนั้น”

“ไอ้เด็กที่ทำเป็นอวดดีต่อหน้าเทีย ทั้งยังเข้ามาจีบนั่นใช่มั้ย ชื่ออะไรนะ…”

เฮ้ย ไม่ได้นะ ห้ามบอก

“คาเซย์! คาเซย์ อังเกนัส!”

คำพูดถามตอบของคิลลีวูกับเมโลนทำให้คิ้วของท่านปู่กระตุกครั้งหนึ่ง

“เด็กตระกูลอังเกนัสกล้าดูถูกหลานสาวข้า… แถมยังเข้ามาจีบอีกด้วยงั้นหรือ”

โธ่เอ๊ย เกิดเรื่องใหญ่จนได้

ชื่อตระกูลอังเกนัสทำให้อารมณ์รุนแรงของท่านปู่ยิ่งพลุ่งสูงขึ้น

“ไม่ได้การ เจ้าพวกนั้น แบบนี้ต้องจัดงานเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่สุดๆ ต่อไปจะได้ไม่มีใครกล้าทำเรื่องแบบนั้นกับหลานสาวข้าคนนี้…”

ในตอนนั้นเองชานาเนสที่นั่งซับมุมปากด้วยผ้าเช็ดปากก็พูดขึ้น

“งานเปิดตัวที่มีเกียรติที่สุด ก็ต้องเป็นงานเลี้ยงเปิดตัวที่ทางราชวงศ์เป็นเจ้าภาพสินะคะ”

“งานเลี้ยงเปิดตัวของราชวงศ์”

“ค่ะ เพียงแค่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น ทั้งยังมีเพียงแค่คุณหนูที่ได้รับคัดเลือกด้วยมาตรฐานอันแสนเข้มงวดเท่านั้น ที่จะได้เปิดตัวในงานเลี้ยงที่ว่านั่นนี่คะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+