เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 125.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 125.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่ใช่วันเกิดของใครที่ไหน แต่เป็นวันเกิดของฟีเรนเทีย บุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านชายแคลอฮัน ลอมบาร์เดีย แล้วข้าจะพลาดวันพิเศษเช่นนี้ได้ยังไงล่ะคะ”

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จักรพรรดินีงานยุ่งมาก

นางฉวยโอกาสที่เฟเรสเดินทางไปยังอะคาเดมีรีบชักชวนขุนนางท่านอื่นๆ ให้มาเป็นพวกของนาง

โดยการใช้กลุ่มการค้าดิวรักของตระกูลอังเกนัส และอำนาจของนางที่มีอยู่แล้วในสังคมชั้นสูง ทำให้เหล่าขุนนางทั้งหลายยอมให้การสนับสนุนอาสทาน่าอย่างเต็มรูปแบบ

หลายตระกูลที่ได้รับความเมตตาและเป็นหนี้บุญคุณตระกูลอังเกนัสกับจักรพรรดินีในหลายๆ ด้าน ต่างได้แต่เกรงใจจนต้องเลือกยืนอยู่ฝ่ายนั้นอย่างช่วยไม่ได้

อีกอย่างท่านพ่อเองก็สนใจแต่เรื่องเขตแดนเชซายู นางคงคิดว่าท่านพ่อย่อมห่างไกลกับการลงสมัครแย่งชิงตำแหน่งเจ้าตระกูลเป็นแน่

นางถึงได้พยายามอยากจะสานสัมพันธ์ผูกมิตรกับเธอให้ได้ขนาดนี้

“แถมยังเป็นหลานสาวของเซรัล ลูกพี่ลูกน้องที่ข้าสนิทสนมรักใคร่ด้วยนี่คะ”

จักรพรรดินีราวีนี่กล่าวเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ชี้ไปยังเซรัลที่ยืนอยู่ด้านซ้ายมือ

เธอมองเห็นลาลาเน่ยื่นศีรษะออกมาจากด้านหลัง

ในเมื่อส่งเสียงพูดคุยกันไม่ได้ เธอเลยส่งสายตาให้ลาลาเน่เป็นการทักทายแทน ลาลาเน่เองก็ส่งสายตาทักทายกลับมาเงียบๆ อยู่ด้านหลังเซรัลเช่นเดียวกัน

“สุขสันต์วันเกิดนะคะ ฟีเรนเทีย”

คงกลัวคนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพวกอังเกนัสละมั้ง

ถึงแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มอยู่ แต่นัยน์ตากลับไม่ได้สื่อเช่นนั้น ช่างเหมือนกับจักรพรรดินีไม่มีผิดเพี้ยน

เซรัลไม่ได้คล้ายกับจักรพรรดินีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอก

หลังจากขึ้นเป็นจักรพรรดินีของอาณาจักร ราวีนี่ อังเกนัสก็ยังคงทะเยอทะยาน คอยผลักดันตระกูลของตัวเอง

และไม่คิดเก็บซ่อนมันเลยแม้แต่น้อย

เซรัลเองก็เป็นเช่นเดียวกัน

“เบเจอร์งานยุ่งเลยมาไม่ได้ แต่ก็ย้ำข้าเสียตั้งหลายรอบ ให้มาบอกสุขสันต์วันเกิดฟีเรนเทียแทนเขาน่ะค่ะ”

หลังจากชานาเนสขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าตระกูล เบเจอร์ก็เดินทางไปพักร้อนที่เขตแดนอังเกนัส

และกระทั่งผ่านไปหนึ่งปีถึงได้เดินทางกลับมา แต่เบเจอร์กลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ไม่สิ ทั้งเซรัล ทั้งเบเจอร์ ต่างก็เปลี่ยนไปกันหมด

คล้ายกับโครงสร้างอำนาจระหว่างคู่สามีภริยาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไป เบเจอร์เริ่มเชื่อฟังคำพูดของเซรัลในทุกๆ เรื่อง

ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่างไม่เที่ยวไปก่อเรื่องที่ไหนอีก หรือกระทั่งเรื่องใหญ่ๆ อย่างคำแนะนำทางธุรกิจ เขาก็ได้รับมันมาจากเซรัลทั้งสิ้น

เพราะอย่างนั้นกิจการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ของลอมบาร์เดียที่เบเจอร์เป็นผู้รับผิดชอบ จึงได้เข้าไปพัวพันข้องเกี่ยวกับอังเกนัสในหลายๆ ด้าน

แต่เพราะเมื่อรวมอำนาจของสองตระกูลเข้าด้วยกัน มันก่อให้เกิดการเกื้อกูลเป็นอย่างมาก ทำให้ภายในลอมบาร์เดียเองก็ไม่ได้มีข้อคัดค้านแต่อย่างใด

“ข้านำของขวัญไปไว้ที่ห้องให้แล้ว เอาไว้ไปลองเปิดดูนะมันเป็นเซตเครื่องประดับมุกชั้นยอดที่ข้าตั้งใจหามา หวังว่าฟีเรนเทียจะชอบนะคะ”

เซรัลจงใจพูดเสียงดังให้ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆ ได้ยิน

และจักรพรรดินีก็เอ่ยเสริมต่อ

“ส่วนของขวัญของข้า ข้าตั้งใจว่าจะให้ยืมบ้านพักตากอากาศของอังเกนัสสักเดือนหนึ่งน่ะค่ะ คิดว่ายังไงบ้างคะ ฟีเรนเทีย”

“บ้านพักตากอากาศที่ว่า…”

“เกาะพีพอร์ทที่มีน้ำพุร้อนยังไงล่ะคะ”

สิ่งที่ทางเขตแดนอังเกนัสซึ่งไม่อาจเพาะปลูกได้ดี ทั้งยังไม่มีแร่ธาตุใดๆ ให้ขุดเจาะกำลังพยายามผลักดันอยู่ในช่วงนี้ ก็คือกิจการน้ำพุร้อนนั่นเอง

ถึงแม้จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง มีเพียงแค่ข่าวลือเล่ากันไปปากต่อปากเท่านั้น แต่หากผ่านไปไม่กี่ปี มันคงได้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนของพวกชนชั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

หากอังเกนัสเริ่มต้นธุรกิจการท่องเที่ยวโดยการใช้รถม้าชั้นสูงของตระกูล พาเหล่าชนชั้นสูงเดินทางมายังเขตตะวันตกเพื่อเที่ยวชมน้ำพุร้อนได้สำเร็จ คาดว่าพวกเขาจะต้องกอบโกยเงินทองได้มากมายมหาศาลเป็นแน่

แต่มันก็เป็นเรื่องในอีกหลายปีให้หลังอยู่ดี

“อยากลองไปมากเลยเพคะ! ขอบพระทัยเพคะ องค์จักรพรรดินี”

ให้ตายเธอก็ไม่มีวันไปหรอก แต่ในเมื่อมีคนมองอยู่เยอะ คงต้องยอมรับมันเอาไว้ก่อน

พอเธอจับชายกระโปรงกล่าวขอบพระทัย นัยน์ตาสีฟ้าของจักรพรรดินีก็รีบกวาดสายตามองรอบด้านอย่างรวดเร็ว

คงคิดที่จะตรวจเช็กดูว่ามีคนมากมายกำลังฟังบทสนทนาของพวกเราอยู่หรือเปล่า

แน่นอนว่าในเมื่อนี่เป็นงานวันเกิดของเธอ แถมจักรพรรดินียังพาสหายสนิทล้อมรอบซ้ายขวาเดินมาแบบนี้ ความสนใจของทุกคนที่นี่ก็ย่อมพุ่งมาตรงด้านนี้อยู่แล้ว

อา โชคร้ายชะมัด

รู้สึกสังหรณ์ร้ายขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

สายตาของคนจำนวนมากเกินไปมารวมกันที่ตรงจุดนี้

และราวีนี่ย่อมไม่มีทางยอมพลาดโอกาสนี้แน่

เธอพูดเพื่อปลีกตัวหลบออกไปจากที่นี่

“ขอให้วันนี้สนุกกับงานเลี้ยงนะเพคะ หม่อมฉันขอตัว…”

“ในเมื่อตอนนี้ฟีเรนเทียเองก็บรรลุนิติภาวะแล้ว คงได้เวลาหาคู่ครองที่เหมาะสมแล้วสินะคะ”

พูดพล่ามเรื่องอะไรอีกเนี่ย

เธอเงยหน้าจ้องจักรพรรดินีราวีนี่ที่กำลังพูดเรื่องไร้สาระด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

มันห่วยแตกมากเสียจนเธอเกือบลืมเก็บสีหน้าของตัวเอง

“หม่อมฉันยังไม่คิดเรื่องแบบนั้น…”

“ในเมื่อท่านแคลอฮันไม่ค่อยมีความสนใจด้านนั้นเสียเท่าไหร่ หากองค์จักรพรรดินีช่วยออกหน้าให้ คงเป็นเรื่องที่ดีต่อฟีเรนเทียมากทีเดียวนะคะ”

เฮ้ย

ราวกับตกลงกันไว้อยู่ก่อนแล้ว เซรัลรีบพูดเสริมขึ้นทันที

“อย่างนั้นเหรอคะฟีเรนเทียคิดยังไงบ้างล่ะคะ”

จักรพรรดินีราวีนี่ถามในขณะที่มองหน้าเธอ

นางไม่ได้คิดถามความเห็นของเธอจริงๆ หรอก

ท่านพ่อที่เป็นผู้ปกครองของเธอก็ไม่อยู่ตรงนี้ในตอนนี้ ต่อให้เธอบรรลุนิติภาวะแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าจะพ้นช่วงวัยแต่งงานไป

ขนาดลาลาเน่ที่อายุมากกว่าเธอสี่ปี ยังไม่ได้ถูกกำหนดคู่ครองเลยด้วยซ้ำ

แต่ถึงกระนั้นจักรพรรดินีราวีนี่ก็จงใจพูดเรื่องนี้ขึ้นมาต่อหน้าผู้คนมากมาย

เพื่อให้เธอไม่อาจพูดปฏิเสธออกไปได้

แถมอีกฝ่ายเป็นถึงจักรพรรดินี ต่อให้ภายหลังท่านพ่อกับท่านปู่ทราบเรื่องนี้เข้า ก็ยังหาหนทางแก้ไขยากอยู่ดี

นัยน์ตาของจักรพรรดินีส่องประกายระยิบระยับยามแย้มรอยยิ้มมองหน้าเธอ

ในเมื่อท่านปู่ที่พอจะต่อกรกับจักรพรรดินีได้ก็ไม่อยู่แถวนี้เสียด้วย นางคงคิดว่าเธอจะยอมพยักหน้าตกลงเพราะบรรยากาศรอบตัวกดดันสินะ

“เรื่องหาคู่ครองให้ฟีเรนเทีย มอบให้เป็นหน้าที่ข้าดีมั้ยคะ”

แต่นางยุ่งผิดคนแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 125.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 125.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่ใช่วันเกิดของใครที่ไหน แต่เป็นวันเกิดของฟีเรนเทีย บุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านชายแคลอฮัน ลอมบาร์เดีย แล้วข้าจะพลาดวันพิเศษเช่นนี้ได้ยังไงล่ะคะ”

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จักรพรรดินีงานยุ่งมาก

นางฉวยโอกาสที่เฟเรสเดินทางไปยังอะคาเดมีรีบชักชวนขุนนางท่านอื่นๆ ให้มาเป็นพวกของนาง

โดยการใช้กลุ่มการค้าดิวรักของตระกูลอังเกนัส และอำนาจของนางที่มีอยู่แล้วในสังคมชั้นสูง ทำให้เหล่าขุนนางทั้งหลายยอมให้การสนับสนุนอาสทาน่าอย่างเต็มรูปแบบ

หลายตระกูลที่ได้รับความเมตตาและเป็นหนี้บุญคุณตระกูลอังเกนัสกับจักรพรรดินีในหลายๆ ด้าน ต่างได้แต่เกรงใจจนต้องเลือกยืนอยู่ฝ่ายนั้นอย่างช่วยไม่ได้

อีกอย่างท่านพ่อเองก็สนใจแต่เรื่องเขตแดนเชซายู นางคงคิดว่าท่านพ่อย่อมห่างไกลกับการลงสมัครแย่งชิงตำแหน่งเจ้าตระกูลเป็นแน่

นางถึงได้พยายามอยากจะสานสัมพันธ์ผูกมิตรกับเธอให้ได้ขนาดนี้

“แถมยังเป็นหลานสาวของเซรัล ลูกพี่ลูกน้องที่ข้าสนิทสนมรักใคร่ด้วยนี่คะ”

จักรพรรดินีราวีนี่กล่าวเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ชี้ไปยังเซรัลที่ยืนอยู่ด้านซ้ายมือ

เธอมองเห็นลาลาเน่ยื่นศีรษะออกมาจากด้านหลัง

ในเมื่อส่งเสียงพูดคุยกันไม่ได้ เธอเลยส่งสายตาให้ลาลาเน่เป็นการทักทายแทน ลาลาเน่เองก็ส่งสายตาทักทายกลับมาเงียบๆ อยู่ด้านหลังเซรัลเช่นเดียวกัน

“สุขสันต์วันเกิดนะคะ ฟีเรนเทีย”

คงกลัวคนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพวกอังเกนัสละมั้ง

ถึงแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มอยู่ แต่นัยน์ตากลับไม่ได้สื่อเช่นนั้น ช่างเหมือนกับจักรพรรดินีไม่มีผิดเพี้ยน

เซรัลไม่ได้คล้ายกับจักรพรรดินีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอก

หลังจากขึ้นเป็นจักรพรรดินีของอาณาจักร ราวีนี่ อังเกนัสก็ยังคงทะเยอทะยาน คอยผลักดันตระกูลของตัวเอง

และไม่คิดเก็บซ่อนมันเลยแม้แต่น้อย

เซรัลเองก็เป็นเช่นเดียวกัน

“เบเจอร์งานยุ่งเลยมาไม่ได้ แต่ก็ย้ำข้าเสียตั้งหลายรอบ ให้มาบอกสุขสันต์วันเกิดฟีเรนเทียแทนเขาน่ะค่ะ”

หลังจากชานาเนสขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าตระกูล เบเจอร์ก็เดินทางไปพักร้อนที่เขตแดนอังเกนัส

และกระทั่งผ่านไปหนึ่งปีถึงได้เดินทางกลับมา แต่เบเจอร์กลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ไม่สิ ทั้งเซรัล ทั้งเบเจอร์ ต่างก็เปลี่ยนไปกันหมด

คล้ายกับโครงสร้างอำนาจระหว่างคู่สามีภริยาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไป เบเจอร์เริ่มเชื่อฟังคำพูดของเซรัลในทุกๆ เรื่อง

ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่างไม่เที่ยวไปก่อเรื่องที่ไหนอีก หรือกระทั่งเรื่องใหญ่ๆ อย่างคำแนะนำทางธุรกิจ เขาก็ได้รับมันมาจากเซรัลทั้งสิ้น

เพราะอย่างนั้นกิจการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ของลอมบาร์เดียที่เบเจอร์เป็นผู้รับผิดชอบ จึงได้เข้าไปพัวพันข้องเกี่ยวกับอังเกนัสในหลายๆ ด้าน

แต่เพราะเมื่อรวมอำนาจของสองตระกูลเข้าด้วยกัน มันก่อให้เกิดการเกื้อกูลเป็นอย่างมาก ทำให้ภายในลอมบาร์เดียเองก็ไม่ได้มีข้อคัดค้านแต่อย่างใด

“ข้านำของขวัญไปไว้ที่ห้องให้แล้ว เอาไว้ไปลองเปิดดูนะมันเป็นเซตเครื่องประดับมุกชั้นยอดที่ข้าตั้งใจหามา หวังว่าฟีเรนเทียจะชอบนะคะ”

เซรัลจงใจพูดเสียงดังให้ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆ ได้ยิน

และจักรพรรดินีก็เอ่ยเสริมต่อ

“ส่วนของขวัญของข้า ข้าตั้งใจว่าจะให้ยืมบ้านพักตากอากาศของอังเกนัสสักเดือนหนึ่งน่ะค่ะ คิดว่ายังไงบ้างคะ ฟีเรนเทีย”

“บ้านพักตากอากาศที่ว่า…”

“เกาะพีพอร์ทที่มีน้ำพุร้อนยังไงล่ะคะ”

สิ่งที่ทางเขตแดนอังเกนัสซึ่งไม่อาจเพาะปลูกได้ดี ทั้งยังไม่มีแร่ธาตุใดๆ ให้ขุดเจาะกำลังพยายามผลักดันอยู่ในช่วงนี้ ก็คือกิจการน้ำพุร้อนนั่นเอง

ถึงแม้จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง มีเพียงแค่ข่าวลือเล่ากันไปปากต่อปากเท่านั้น แต่หากผ่านไปไม่กี่ปี มันคงได้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนของพวกชนชั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

หากอังเกนัสเริ่มต้นธุรกิจการท่องเที่ยวโดยการใช้รถม้าชั้นสูงของตระกูล พาเหล่าชนชั้นสูงเดินทางมายังเขตตะวันตกเพื่อเที่ยวชมน้ำพุร้อนได้สำเร็จ คาดว่าพวกเขาจะต้องกอบโกยเงินทองได้มากมายมหาศาลเป็นแน่

แต่มันก็เป็นเรื่องในอีกหลายปีให้หลังอยู่ดี

“อยากลองไปมากเลยเพคะ! ขอบพระทัยเพคะ องค์จักรพรรดินี”

ให้ตายเธอก็ไม่มีวันไปหรอก แต่ในเมื่อมีคนมองอยู่เยอะ คงต้องยอมรับมันเอาไว้ก่อน

พอเธอจับชายกระโปรงกล่าวขอบพระทัย นัยน์ตาสีฟ้าของจักรพรรดินีก็รีบกวาดสายตามองรอบด้านอย่างรวดเร็ว

คงคิดที่จะตรวจเช็กดูว่ามีคนมากมายกำลังฟังบทสนทนาของพวกเราอยู่หรือเปล่า

แน่นอนว่าในเมื่อนี่เป็นงานวันเกิดของเธอ แถมจักรพรรดินียังพาสหายสนิทล้อมรอบซ้ายขวาเดินมาแบบนี้ ความสนใจของทุกคนที่นี่ก็ย่อมพุ่งมาตรงด้านนี้อยู่แล้ว

อา โชคร้ายชะมัด

รู้สึกสังหรณ์ร้ายขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

สายตาของคนจำนวนมากเกินไปมารวมกันที่ตรงจุดนี้

และราวีนี่ย่อมไม่มีทางยอมพลาดโอกาสนี้แน่

เธอพูดเพื่อปลีกตัวหลบออกไปจากที่นี่

“ขอให้วันนี้สนุกกับงานเลี้ยงนะเพคะ หม่อมฉันขอตัว…”

“ในเมื่อตอนนี้ฟีเรนเทียเองก็บรรลุนิติภาวะแล้ว คงได้เวลาหาคู่ครองที่เหมาะสมแล้วสินะคะ”

พูดพล่ามเรื่องอะไรอีกเนี่ย

เธอเงยหน้าจ้องจักรพรรดินีราวีนี่ที่กำลังพูดเรื่องไร้สาระด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

มันห่วยแตกมากเสียจนเธอเกือบลืมเก็บสีหน้าของตัวเอง

“หม่อมฉันยังไม่คิดเรื่องแบบนั้น…”

“ในเมื่อท่านแคลอฮันไม่ค่อยมีความสนใจด้านนั้นเสียเท่าไหร่ หากองค์จักรพรรดินีช่วยออกหน้าให้ คงเป็นเรื่องที่ดีต่อฟีเรนเทียมากทีเดียวนะคะ”

เฮ้ย

ราวกับตกลงกันไว้อยู่ก่อนแล้ว เซรัลรีบพูดเสริมขึ้นทันที

“อย่างนั้นเหรอคะฟีเรนเทียคิดยังไงบ้างล่ะคะ”

จักรพรรดินีราวีนี่ถามในขณะที่มองหน้าเธอ

นางไม่ได้คิดถามความเห็นของเธอจริงๆ หรอก

ท่านพ่อที่เป็นผู้ปกครองของเธอก็ไม่อยู่ตรงนี้ในตอนนี้ ต่อให้เธอบรรลุนิติภาวะแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าจะพ้นช่วงวัยแต่งงานไป

ขนาดลาลาเน่ที่อายุมากกว่าเธอสี่ปี ยังไม่ได้ถูกกำหนดคู่ครองเลยด้วยซ้ำ

แต่ถึงกระนั้นจักรพรรดินีราวีนี่ก็จงใจพูดเรื่องนี้ขึ้นมาต่อหน้าผู้คนมากมาย

เพื่อให้เธอไม่อาจพูดปฏิเสธออกไปได้

แถมอีกฝ่ายเป็นถึงจักรพรรดินี ต่อให้ภายหลังท่านพ่อกับท่านปู่ทราบเรื่องนี้เข้า ก็ยังหาหนทางแก้ไขยากอยู่ดี

นัยน์ตาของจักรพรรดินีส่องประกายระยิบระยับยามแย้มรอยยิ้มมองหน้าเธอ

ในเมื่อท่านปู่ที่พอจะต่อกรกับจักรพรรดินีได้ก็ไม่อยู่แถวนี้เสียด้วย นางคงคิดว่าเธอจะยอมพยักหน้าตกลงเพราะบรรยากาศรอบตัวกดดันสินะ

“เรื่องหาคู่ครองให้ฟีเรนเทีย มอบให้เป็นหน้าที่ข้าดีมั้ยคะ”

แต่นางยุ่งผิดคนแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+