เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 85.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 85.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากเดินทางมาถึงงานเลี้ยงฟีเรนเทียก็ตั้งใจว่าจะอยู่เงียบๆ ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

พยายามเก็บซ่อนตัวตนให้ได้มากที่สุด และคอยเฝ้าจับตามองท่าทีของเวสติน

เพื่อที่จะได้เป็นพยานเห็นฉากตรงหน้านี่ยังไงล่ะ

ฟีเรนเทียเห็นสายตาของเวสตินจับจ้องอยู่ที่มาเรีย แพทโทรนที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ละสายตา

เจ้านั่นตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

ดูจากที่ตกใจมากเสียจนถึงขนาดหยุดชะงักฝีเท้า

“…เวสติน?”

พอเห็นว่าสามีของตนจู่ๆ ก็หยุดเดิน ชานาเนสที่คล้องแขนเดินไปพร้อมกันก็เอ่ยเรียกเขาด้วยความสงสัย

“อืม…”

ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดไม่สมกับเป็นเวสตินที่มักจะหน้าด้านและผ่อนคลายอยู่เสมอเลยแม้แต่น้อย

ถ้าหากเวสตินนอกใจจริงๆ ก็สมควรแล้วที่เขาจะเป็นเช่นนั้น

ในเมื่อภริยากับชู้รักดันมาอยู่ในสถานที่เดียวกันแบบนี้นี่นะ

ป่านนี้เหงื่อเย็นเฉียบคงจะไหลท่วมแผ่นหลังไปแล้วละ

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ หรือรู้สึกไม่สบายตรงไหน”

ชานาเนสถามสามีด้วยความเป็นห่วง

“เปล่า…แค่รู้สึกเหมือนเห็นคนรู้จักน่ะ”

ยิ่งเวสตินเอ่ยเช่นนั้น ชานาเนสก็ยิ่งเอียงคอด้วยความสงสัย

“ถ้ามีคนที่คุณไม่รู้จักอยู่ที่นี่ ยังน่าทึ่งกว่าอีกนะ ใครเหรอคะ”

“ปะ…เปล่าครับ คุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรอกครับ”

แต่ชานาเนสกำลังหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ เสียแล้วและยังชี้ตรงไปที่มาเรีย แพทโทรนอย่างแม่นยำ ในขณะที่เอ่ยพูด

“หรือจะเป็นผู้หญิงคนนั้นคะ”

“อา คือว่า…”

และในตอนนั้นเองก็เกิดเรื่องที่ทำให้เวสตินยิ่งต้องอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเข้าไปใหญ่

มาเรีย แพทโทรนสังเกตเห็นชานาเนสกับเวสติน นางเริ่มเดินตรงมาทางด้านนี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาล

นางเป็นเพียงหญิงสาวหน้าตาดาษดื่นทั่วไป ไม่ได้มีสิ่งใดน่าดึงดูดใจเป็นพิเศษ

แต่ฟีเรนเทียไม่คิดที่จะลดการ์ดในใจลงหรอก

ใบหน้ายิ้มแย้มกับแววตาระยิบระยับที่ไม่ได้เหมาะกับเจ้าตัวเลยนั่น มันเป็นแววตาคลับคล้ายกับแววตาของเวสตินที่เธอบังเอิญเห็นเมื่อครั้งก่อน ทำให้เธอรู้สึกตงิดใจมากพอควร

ตึก ตึก

ยิ่งผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่าไหร่ ใบหน้าของเวสตินก็ยิ่งกระตุกเกร็งมากขึ้นเท่านั้น

ฟีเรนเทียเองก็พยายามเก็บซ่อนตัวตนให้มิดชิดยิ่งขึ้น

ที่เธอตั้งใจเรียกผู้หญิงคนนี้มาร่วมงานเลี้ยงที่ท่านปู่ รวมถึงคนของตระกูลลอมบาร์เดียต่างก็มาร่วมงานกันทั้งหมดนี่ก็เพื่อกดดันเวสตินทางจิตวิทยา และเพื่อที่ว่าถ้าหากเรื่องแดงออกไป ท่านปู่ก็จะได้รู้ความจริงในทันที

แต่ว่า…

“สวัสดีค่ะ”

มาเรีย แพทโทรนเดินเข้ามาใกล้ นางฉีกยิ้มสุภาพอ่อนน้อม เป็นฝ่ายกล่าวทักทายท่านปู่ก่อน

“เจ้าคือ…”

ท่านปู่ตกใจเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวที่ท่านไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนในชีวิตเดินเข้ามาทักทาย

มาเรีย แพทโทรนย่อเข่าลงด้วยความนอบน้อม ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัว

“มาเรียจากตระกูลแพทโทรนซึ่งอยู่ใต้การปกครองของเขตแดนชูลส์ค่ะ ท่านเจ้าตระกูล เคยแต่ได้ยินชื่อเสียงของท่านมามาก ได้พบด้วยตัวเองเช่นนี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ”

“อา อย่างนั้นนี่เอง”

ท่านปู่พยักหน้า แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงรู้สึกสงสัยว่าเพราะเหตุใด มาเรีย แพทโทรนคนนี้ถึงได้เข้ามากล่าวทักทายแนะนำตัวกับท่านเช่นนี้กัน

ในอาณาจักรแห่งนี้ไม่มีใครไม่รู้จักท่านปู่

แต่มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสิทธิ์มากพอที่จะเข้ามาทักทายท่านโดยตรงแบบนี้

ไม่ใช่เจ้าตระกูลชูลส์ผู้มีศักดิ์เป็นบิดาของบุตรเขยด้วยซ้ำ แต่นี่เป็นแค่คุณหนูจากตระกูลเล็กๆ ภายใต้การปกครองของเขตแดนนั้น กลับกล้าเดินเข้ามาขวางหน้าท่านปู่ แล้วเอ่ยทักทายเช่นนี้ ช่างเป็นพฤติกรรมที่จองหองอวดดีเสียจริง

ท่านปู่กวาดสายตามองมาเรีย แพทโทรนอย่างเชื่องช้า ก่อนจะชี้ไปยังเวสติน แล้วเอ่ยถามขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นก็คงจะรู้จักกับเวสตินบุตรเขยของข้าสินะ”

“ค่ะ ข้าโตมาด้วยกันกับท่านเวสตินตั้งแต่เด็กแล้วละค่ะ ไม่ได้พบกันเสียนานนะคะ ท่านเวสติน”

“ครับ ไม่ได้พบกันเสียนาน”

เวสตินเองก็เอ่ยทักทายตอบมาเรียกลับไป

ท่าทางของทั้งคู่ยามทักทายกันมันดูเป็นธรรมชาติมาก ทั้งยังดูมีมารยาทอีกด้วย

หรือเธอจะคาดการณ์ผิดไป…

แต่ก็นะ การที่ชู้รักจะกล้าเสนอหน้าทักทายครอบครัวของภริยาอีกฝ่ายอย่างมั่นอกมั่นใจขนาดนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วด้วย

ใบหน้าที่ซีดเผือดจนถึงเมื่อครู่เองก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว

ถึงจะรู้สึกผิดหวัง แต่ก็รู้สึกโล่งใจอยู่เหมือนกัน

ฟีเรนเทียรู้อยู่แล้วว่าเขาแอบร่วมมือกับพวกอังเกนัส สร้างเรื่องลับหลังพวกเรา แต่อย่างน้อยชีวิตแต่งงานของชานาเนสก็ไม่ได้ถูกลอบแทงข้างหลัง

“ท่านชานาเนสใช่มั้ยคะ ในเขตแดนชูลส์ต่างก็สรรเสริญเยินยอท่านชานาเนสมากทีเดียว ทำให้รู้สึกสงสัยมาตลอดเลยค่ะ ว่าเป็นคนแบบไหน…”

มาเรีย แพทโทรนเป็นฝ่ายชวนชานาเนสสนทนาอย่างสนิทสนม

“งดงามเหมือนอย่างในข่าวลือเลยนะคะเนี่ย”

“เหรอคะ ขอบคุณที่ชมนะคะ”

ชานาเนสรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่เหมือนกัน แต่นางก็ยังยกยิ้มตามมารยาทในขณะที่เอ่ยพูดตอบกลับไป

“…ไม่หรอกค่ะ”

แต่สายตาของมาเรีย แพทโทรนที่เหลือบมองชานาเนสเป็นครั้งสุดท้ายนั่น มันกลับดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

ท่าทางแตกต่างจากคำพูดที่พูดออกจากปากอย่างสิ้นเชิง

มีอะไรแปลกๆ

มาเรีย แพทโทรนกับเวสตินต่างก็ทำท่าราวกับเพื่อนที่บังเอิญพบหน้ากัน หลังจากที่ไม่ได้พบหน้ากันเสียนาน

แต่มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆ

ลางสังหรณ์ของฟีเรนเทียเริ่มทำงานอีกครั้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 85.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 85.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากเดินทางมาถึงงานเลี้ยงฟีเรนเทียก็ตั้งใจว่าจะอยู่เงียบๆ ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

พยายามเก็บซ่อนตัวตนให้ได้มากที่สุด และคอยเฝ้าจับตามองท่าทีของเวสติน

เพื่อที่จะได้เป็นพยานเห็นฉากตรงหน้านี่ยังไงล่ะ

ฟีเรนเทียเห็นสายตาของเวสตินจับจ้องอยู่ที่มาเรีย แพทโทรนที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ละสายตา

เจ้านั่นตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

ดูจากที่ตกใจมากเสียจนถึงขนาดหยุดชะงักฝีเท้า

“…เวสติน?”

พอเห็นว่าสามีของตนจู่ๆ ก็หยุดเดิน ชานาเนสที่คล้องแขนเดินไปพร้อมกันก็เอ่ยเรียกเขาด้วยความสงสัย

“อืม…”

ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดไม่สมกับเป็นเวสตินที่มักจะหน้าด้านและผ่อนคลายอยู่เสมอเลยแม้แต่น้อย

ถ้าหากเวสตินนอกใจจริงๆ ก็สมควรแล้วที่เขาจะเป็นเช่นนั้น

ในเมื่อภริยากับชู้รักดันมาอยู่ในสถานที่เดียวกันแบบนี้นี่นะ

ป่านนี้เหงื่อเย็นเฉียบคงจะไหลท่วมแผ่นหลังไปแล้วละ

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ หรือรู้สึกไม่สบายตรงไหน”

ชานาเนสถามสามีด้วยความเป็นห่วง

“เปล่า…แค่รู้สึกเหมือนเห็นคนรู้จักน่ะ”

ยิ่งเวสตินเอ่ยเช่นนั้น ชานาเนสก็ยิ่งเอียงคอด้วยความสงสัย

“ถ้ามีคนที่คุณไม่รู้จักอยู่ที่นี่ ยังน่าทึ่งกว่าอีกนะ ใครเหรอคะ”

“ปะ…เปล่าครับ คุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรอกครับ”

แต่ชานาเนสกำลังหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ เสียแล้วและยังชี้ตรงไปที่มาเรีย แพทโทรนอย่างแม่นยำ ในขณะที่เอ่ยพูด

“หรือจะเป็นผู้หญิงคนนั้นคะ”

“อา คือว่า…”

และในตอนนั้นเองก็เกิดเรื่องที่ทำให้เวสตินยิ่งต้องอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเข้าไปใหญ่

มาเรีย แพทโทรนสังเกตเห็นชานาเนสกับเวสติน นางเริ่มเดินตรงมาทางด้านนี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาล

นางเป็นเพียงหญิงสาวหน้าตาดาษดื่นทั่วไป ไม่ได้มีสิ่งใดน่าดึงดูดใจเป็นพิเศษ

แต่ฟีเรนเทียไม่คิดที่จะลดการ์ดในใจลงหรอก

ใบหน้ายิ้มแย้มกับแววตาระยิบระยับที่ไม่ได้เหมาะกับเจ้าตัวเลยนั่น มันเป็นแววตาคลับคล้ายกับแววตาของเวสตินที่เธอบังเอิญเห็นเมื่อครั้งก่อน ทำให้เธอรู้สึกตงิดใจมากพอควร

ตึก ตึก

ยิ่งผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่าไหร่ ใบหน้าของเวสตินก็ยิ่งกระตุกเกร็งมากขึ้นเท่านั้น

ฟีเรนเทียเองก็พยายามเก็บซ่อนตัวตนให้มิดชิดยิ่งขึ้น

ที่เธอตั้งใจเรียกผู้หญิงคนนี้มาร่วมงานเลี้ยงที่ท่านปู่ รวมถึงคนของตระกูลลอมบาร์เดียต่างก็มาร่วมงานกันทั้งหมดนี่ก็เพื่อกดดันเวสตินทางจิตวิทยา และเพื่อที่ว่าถ้าหากเรื่องแดงออกไป ท่านปู่ก็จะได้รู้ความจริงในทันที

แต่ว่า…

“สวัสดีค่ะ”

มาเรีย แพทโทรนเดินเข้ามาใกล้ นางฉีกยิ้มสุภาพอ่อนน้อม เป็นฝ่ายกล่าวทักทายท่านปู่ก่อน

“เจ้าคือ…”

ท่านปู่ตกใจเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวที่ท่านไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนในชีวิตเดินเข้ามาทักทาย

มาเรีย แพทโทรนย่อเข่าลงด้วยความนอบน้อม ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัว

“มาเรียจากตระกูลแพทโทรนซึ่งอยู่ใต้การปกครองของเขตแดนชูลส์ค่ะ ท่านเจ้าตระกูล เคยแต่ได้ยินชื่อเสียงของท่านมามาก ได้พบด้วยตัวเองเช่นนี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ”

“อา อย่างนั้นนี่เอง”

ท่านปู่พยักหน้า แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงรู้สึกสงสัยว่าเพราะเหตุใด มาเรีย แพทโทรนคนนี้ถึงได้เข้ามากล่าวทักทายแนะนำตัวกับท่านเช่นนี้กัน

ในอาณาจักรแห่งนี้ไม่มีใครไม่รู้จักท่านปู่

แต่มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสิทธิ์มากพอที่จะเข้ามาทักทายท่านโดยตรงแบบนี้

ไม่ใช่เจ้าตระกูลชูลส์ผู้มีศักดิ์เป็นบิดาของบุตรเขยด้วยซ้ำ แต่นี่เป็นแค่คุณหนูจากตระกูลเล็กๆ ภายใต้การปกครองของเขตแดนนั้น กลับกล้าเดินเข้ามาขวางหน้าท่านปู่ แล้วเอ่ยทักทายเช่นนี้ ช่างเป็นพฤติกรรมที่จองหองอวดดีเสียจริง

ท่านปู่กวาดสายตามองมาเรีย แพทโทรนอย่างเชื่องช้า ก่อนจะชี้ไปยังเวสติน แล้วเอ่ยถามขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นก็คงจะรู้จักกับเวสตินบุตรเขยของข้าสินะ”

“ค่ะ ข้าโตมาด้วยกันกับท่านเวสตินตั้งแต่เด็กแล้วละค่ะ ไม่ได้พบกันเสียนานนะคะ ท่านเวสติน”

“ครับ ไม่ได้พบกันเสียนาน”

เวสตินเองก็เอ่ยทักทายตอบมาเรียกลับไป

ท่าทางของทั้งคู่ยามทักทายกันมันดูเป็นธรรมชาติมาก ทั้งยังดูมีมารยาทอีกด้วย

หรือเธอจะคาดการณ์ผิดไป…

แต่ก็นะ การที่ชู้รักจะกล้าเสนอหน้าทักทายครอบครัวของภริยาอีกฝ่ายอย่างมั่นอกมั่นใจขนาดนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วด้วย

ใบหน้าที่ซีดเผือดจนถึงเมื่อครู่เองก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว

ถึงจะรู้สึกผิดหวัง แต่ก็รู้สึกโล่งใจอยู่เหมือนกัน

ฟีเรนเทียรู้อยู่แล้วว่าเขาแอบร่วมมือกับพวกอังเกนัส สร้างเรื่องลับหลังพวกเรา แต่อย่างน้อยชีวิตแต่งงานของชานาเนสก็ไม่ได้ถูกลอบแทงข้างหลัง

“ท่านชานาเนสใช่มั้ยคะ ในเขตแดนชูลส์ต่างก็สรรเสริญเยินยอท่านชานาเนสมากทีเดียว ทำให้รู้สึกสงสัยมาตลอดเลยค่ะ ว่าเป็นคนแบบไหน…”

มาเรีย แพทโทรนเป็นฝ่ายชวนชานาเนสสนทนาอย่างสนิทสนม

“งดงามเหมือนอย่างในข่าวลือเลยนะคะเนี่ย”

“เหรอคะ ขอบคุณที่ชมนะคะ”

ชานาเนสรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่เหมือนกัน แต่นางก็ยังยกยิ้มตามมารยาทในขณะที่เอ่ยพูดตอบกลับไป

“…ไม่หรอกค่ะ”

แต่สายตาของมาเรีย แพทโทรนที่เหลือบมองชานาเนสเป็นครั้งสุดท้ายนั่น มันกลับดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

ท่าทางแตกต่างจากคำพูดที่พูดออกจากปากอย่างสิ้นเชิง

มีอะไรแปลกๆ

มาเรีย แพทโทรนกับเวสตินต่างก็ทำท่าราวกับเพื่อนที่บังเอิญพบหน้ากัน หลังจากที่ไม่ได้พบหน้ากันเสียนาน

แต่มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆ

ลางสังหรณ์ของฟีเรนเทียเริ่มทำงานอีกครั้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+