เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 117.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 117.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันต่อมา

เธอถือของว่างกับยาบำรุงที่ท่านปู่ต้องดื่มไปหาท่านที่ห้องนอนตั้งแต่เช้าตรู่

“โอ้ว เทียของปู่มาแล้วหรือ!”

ท่านปู่รอต้อนรับเธอด้วยความดีใจเหมือนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ

“วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ ท่านปู่”

“ปู่บอกแล้วไงว่าปู่คนนี้เป็นปกติดี แล้วนี่ที่บาดเจ็บเป็นยังไงบ้างล่ะ เทีย”

“ข้าเองตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วละค่ะ อีกไม่กี่วันก็ถอดเฝือกออกได้แล้วค่ะ”

“ค่อยโล่งอกไปทีนะ”

ท่านปู่ลูบผมเธอพลางพูดขึ้น

“ว่าแต่มาหาแต่เช้าแบบนี้ มีเรื่องอะไรหรือ”

ช่วงนี้เธอมาเยี่ยมทุกวันก็จริง แต่ปกติมักจะแวะมาในช่วงกลางวันเสียมากกว่า ท่านปู่เลยถามด้วยความเป็นห่วงว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า

เหตุผลที่เธอลงมือเคลื่อนไหวตั้งแต่เช้านั้นง่ายมาก

เมื่อคืนเครย์ลีบันไปพบชานาเนส และได้แจ้งวิธีแยกเช็คปลอมให้แล้วยังไงล่ะ

จากนิสัยของชานาเนส เรื่องสำคัญอย่างเช็คปลอม นางย่อมไม่มีทางปล่อยให้ล่าช้าไปมากกว่านี้แน่

แต่ยังไงก็ตอบออกไปแบบนั้นไม่ได้นี่นะ

เธอฉีกยิ้ม

“ก็แค่วันนี้อยากรีบๆ พบท่านปู่ไวๆ น่ะค่ะ!”

“อย่างนั้นหรือ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ท่านปู่ยิ้มกว้าง หัวเราะเสียงดังอีกครั้ง

แต่แล้วในตอนนั้นเองก็พลันได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก

ในที่สุดก็มาแล้วสินะ

เธอคิดเช่นนั้น ก่อนจะวิ่งตรงไปเพื่อเปิดประตูออก

“ใคร…เห?”

ไม่ใช่ชานาเนส

ทันทีที่เธอเปิดประตูออก ก็พบผู้ชายอายุหลากหลายช่วงวัยประมาณหกคนยืนอยู่ตรงหน้า

“หืม”

พวกเขาเองก็เบิกตากว้าง คงไม่ทันได้คิดเลยว่าจะได้พบกับเธอตรงนี้

“คุณหนูฟีเรนเทีย…ไม่ใช่หรือครับ”

“สวัสดีค่ะ ท่านเจ้าตระกูลทุกท่าน”

เธอจับชายกระโปรงทักทายอย่างมีมารยาท

ผู้ที่มาเข้าพบคือเหล่าเจ้าตระกูลจากตระกูลใต้บังคับบัญชาของลอมบาร์เดีย

เธอมองเห็นโรมาเชีย ดิลลาร์ด บิดาของเครย์ลีบัน และเจ้าตระกูลเฮย์ลิ่งผู้เป็นบิดาของคาอิลรัส

ว่าแต่ทุกคนแบกอะไรมากันล่ะนั่น ทั้งสองมือถึงได้ถือสัมภาระรุงรังดูหนักชอบกล

อา ว่าแล้วเชียว ชีวิตในสังคมมันเป็นเรื่องลำบากมากสินะ

เธอส่งยิ้มให้เจ้าตระกูลทุกท่านแทนความหมายบอกให้พวกเขาสู้ๆ ในขณะที่พูดไปด้วย

“วันนี้ก็เหนื่อยกันตั้งแต่เช้าเลยนะคะ”

“อา ครับ…คุณหนูก็เช่นกัน…”

เจ้าตระกูลเฮย์ลิ่งตอบคำพูดของเธอโดยอัตโนมัติ แต่แล้วเขาก็ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหลังศีรษะแกรกๆ ด้วยรู้สึกว่านี่มันมีอะไรแปลกๆ หรือเปล่าเนี่ย

“เข้ามาเถอะ”

ท่านปู่ยกมือให้สัญญาณในขณะที่กล่าวขึ้น เหล่าเจ้าตระกูลจึงถือข้าวของในมือพากันเดินเข้ามาในห้อง

“…นี่อะไรกัน”

ท่านปู่สวมชุดคลุมสีน้ำตาลแดงทับลงบนร่าง หยัดกายขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แต่แล้วก็ต้องถามขึ้นด้วยความตกใจ

“แต่ละคนนำของบำรุงที่ดีต่อสุขภาพมาให้น่ะครับ”

โรมาเชีย ดิลลาร์ด ยิ้มด้วยความเขินอายเล็กน้อย แล้วตอบ

“นี่คือน้ำผึ้งจากเพลโทรครับ มันดีต่อระบบทางเดินหายใจมากเลยนะครับ”

“ข้านำชุดเครื่องนอนชั้นดีมาให้ครับ ถ้าต้องนอนอยู่บนเตียงยังไงเครื่องนอนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่ใช่หรือครับ”

“ของข้าเป็นผลไม้หายาก…”

เหล่าเจ้าตระกูลต่างแย่งกันแนะนำสิ่งของที่ตนนำมา

ท่านปู่จ้องมองพวกเขาทุกคน ก่อนที่จู่ๆ จะพูดออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม

“หอบหิ้วข้าวของกันมาเยอะขนาดนี้ แสดงว่าอยากจะพูดเรื่องอะไรที่เกริ่นได้ยากสินะ”

“…”

ราวกับโดนแทงถูกจุด บรรดาเจ้าตระกูลต่างก็ปิดปากแน่นในทันที

เธอมองพวกเขา ก่อนจะพูดกับท่านปู่

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวข้าออกไปรอด้านนอกนะคะ ท่านปู่”

“โอ้ เอาอย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นปู่คนนี้จะรีบพูดคุยให้เสร็จ แล้วเดี๋ยวจะเรียกเจ้าเข้ามาใหม่ก็แล้วกัน”

“ได้ค่ะ ท่านปู่”

ก็แค่แสร้งทำเป็นปลีกตัวให้อย่างคนรู้กาลเทศะเธอกล่าวลาเหล่าเจ้าตระกูลอีกครั้ง แล้วหลบออกไปจากห้องนอน

รู้สึกได้เลยว่าสายตาของพวกเขาทุกคนมองไล่ตามหลังเธอมา จนกระทั่งประตูถูกปิดลง

แต่ในตอนที่ประตูกำลังจะปิดสนิทส่งเสียงดังแกรก เธอก็ใช้ปลายเท้าของตัวเองขวางประตูเอาไว้

เริ่มได้ยินเสียงบทสนทนาภายในห้องดังออกมาจากด้านในห้อง ผ่านช่องประตูที่ถูกเปิดค้างไว้แคบเพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้นถึงจะลอดผ่านไปได้

“อืม แล้วนี่มีเรื่องอะไรกัน”

ท่านปู่ถาม

“คือว่า เรื่องนั้น…”

ใครบางคนเริ่มลังเล

แต่ความลังเลนั้นก็กินเวลาไม่นานนัก

“มีเรื่องต้องการรบกวนท่านเจ้าตระกูล ทุกคนก็เลยรวมตัวกันมาเข้าพบครับ”

อา เสียงนี้เธอฟังออกอยู่ว่าเสียงใคร

ถึงจะแตกต่าง แต่เสียงก็ยังคล้ายคลึงกับเสียงของเครย์ลีบัน เจ้าของเสียงนั่นคือโรมาเชีย ดิลลาร์ด

“เจ้าตระกูลจากตระกูลใต้บังคับบัญชามารวมตัวกันขอร้องอย่างนั้นหรือ…”

ท่านปู่พูดด้วยน้ำเสียงเจือความขบขันเล็กน้อย

“ได้ ข้าย่อมรับฟังด้วยความจริงใจ ลองพูดมาสิ”

“…อยากให้ท่านเจ้าตระกูลช่วยทบทวนการตัดสินใจอีกครั้งครับ”

คราวนี้เป็นน้ำเสียงที่ฟังดูหนุ่มและหนักแน่นกว่า

เสียงทุ้มหนักแน่น น่าจะเป็นคนจากตระกูลเบรย์ที่มีร่างกายสูงใหญ่

“ตัดสินใจเรื่องใด”

“…ช่วยคิดทบทวนการตัดสินใจเรื่องที่ให้ท่านเบเจอร์เป็นรักษาการเจ้าตระกูลอีกครั้งเถอะครับ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 117.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 117.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันต่อมา

เธอถือของว่างกับยาบำรุงที่ท่านปู่ต้องดื่มไปหาท่านที่ห้องนอนตั้งแต่เช้าตรู่

“โอ้ว เทียของปู่มาแล้วหรือ!”

ท่านปู่รอต้อนรับเธอด้วยความดีใจเหมือนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ

“วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ ท่านปู่”

“ปู่บอกแล้วไงว่าปู่คนนี้เป็นปกติดี แล้วนี่ที่บาดเจ็บเป็นยังไงบ้างล่ะ เทีย”

“ข้าเองตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วละค่ะ อีกไม่กี่วันก็ถอดเฝือกออกได้แล้วค่ะ”

“ค่อยโล่งอกไปทีนะ”

ท่านปู่ลูบผมเธอพลางพูดขึ้น

“ว่าแต่มาหาแต่เช้าแบบนี้ มีเรื่องอะไรหรือ”

ช่วงนี้เธอมาเยี่ยมทุกวันก็จริง แต่ปกติมักจะแวะมาในช่วงกลางวันเสียมากกว่า ท่านปู่เลยถามด้วยความเป็นห่วงว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า

เหตุผลที่เธอลงมือเคลื่อนไหวตั้งแต่เช้านั้นง่ายมาก

เมื่อคืนเครย์ลีบันไปพบชานาเนส และได้แจ้งวิธีแยกเช็คปลอมให้แล้วยังไงล่ะ

จากนิสัยของชานาเนส เรื่องสำคัญอย่างเช็คปลอม นางย่อมไม่มีทางปล่อยให้ล่าช้าไปมากกว่านี้แน่

แต่ยังไงก็ตอบออกไปแบบนั้นไม่ได้นี่นะ

เธอฉีกยิ้ม

“ก็แค่วันนี้อยากรีบๆ พบท่านปู่ไวๆ น่ะค่ะ!”

“อย่างนั้นหรือ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ท่านปู่ยิ้มกว้าง หัวเราะเสียงดังอีกครั้ง

แต่แล้วในตอนนั้นเองก็พลันได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก

ในที่สุดก็มาแล้วสินะ

เธอคิดเช่นนั้น ก่อนจะวิ่งตรงไปเพื่อเปิดประตูออก

“ใคร…เห?”

ไม่ใช่ชานาเนส

ทันทีที่เธอเปิดประตูออก ก็พบผู้ชายอายุหลากหลายช่วงวัยประมาณหกคนยืนอยู่ตรงหน้า

“หืม”

พวกเขาเองก็เบิกตากว้าง คงไม่ทันได้คิดเลยว่าจะได้พบกับเธอตรงนี้

“คุณหนูฟีเรนเทีย…ไม่ใช่หรือครับ”

“สวัสดีค่ะ ท่านเจ้าตระกูลทุกท่าน”

เธอจับชายกระโปรงทักทายอย่างมีมารยาท

ผู้ที่มาเข้าพบคือเหล่าเจ้าตระกูลจากตระกูลใต้บังคับบัญชาของลอมบาร์เดีย

เธอมองเห็นโรมาเชีย ดิลลาร์ด บิดาของเครย์ลีบัน และเจ้าตระกูลเฮย์ลิ่งผู้เป็นบิดาของคาอิลรัส

ว่าแต่ทุกคนแบกอะไรมากันล่ะนั่น ทั้งสองมือถึงได้ถือสัมภาระรุงรังดูหนักชอบกล

อา ว่าแล้วเชียว ชีวิตในสังคมมันเป็นเรื่องลำบากมากสินะ

เธอส่งยิ้มให้เจ้าตระกูลทุกท่านแทนความหมายบอกให้พวกเขาสู้ๆ ในขณะที่พูดไปด้วย

“วันนี้ก็เหนื่อยกันตั้งแต่เช้าเลยนะคะ”

“อา ครับ…คุณหนูก็เช่นกัน…”

เจ้าตระกูลเฮย์ลิ่งตอบคำพูดของเธอโดยอัตโนมัติ แต่แล้วเขาก็ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหลังศีรษะแกรกๆ ด้วยรู้สึกว่านี่มันมีอะไรแปลกๆ หรือเปล่าเนี่ย

“เข้ามาเถอะ”

ท่านปู่ยกมือให้สัญญาณในขณะที่กล่าวขึ้น เหล่าเจ้าตระกูลจึงถือข้าวของในมือพากันเดินเข้ามาในห้อง

“…นี่อะไรกัน”

ท่านปู่สวมชุดคลุมสีน้ำตาลแดงทับลงบนร่าง หยัดกายขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แต่แล้วก็ต้องถามขึ้นด้วยความตกใจ

“แต่ละคนนำของบำรุงที่ดีต่อสุขภาพมาให้น่ะครับ”

โรมาเชีย ดิลลาร์ด ยิ้มด้วยความเขินอายเล็กน้อย แล้วตอบ

“นี่คือน้ำผึ้งจากเพลโทรครับ มันดีต่อระบบทางเดินหายใจมากเลยนะครับ”

“ข้านำชุดเครื่องนอนชั้นดีมาให้ครับ ถ้าต้องนอนอยู่บนเตียงยังไงเครื่องนอนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่ใช่หรือครับ”

“ของข้าเป็นผลไม้หายาก…”

เหล่าเจ้าตระกูลต่างแย่งกันแนะนำสิ่งของที่ตนนำมา

ท่านปู่จ้องมองพวกเขาทุกคน ก่อนที่จู่ๆ จะพูดออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม

“หอบหิ้วข้าวของกันมาเยอะขนาดนี้ แสดงว่าอยากจะพูดเรื่องอะไรที่เกริ่นได้ยากสินะ”

“…”

ราวกับโดนแทงถูกจุด บรรดาเจ้าตระกูลต่างก็ปิดปากแน่นในทันที

เธอมองพวกเขา ก่อนจะพูดกับท่านปู่

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวข้าออกไปรอด้านนอกนะคะ ท่านปู่”

“โอ้ เอาอย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นปู่คนนี้จะรีบพูดคุยให้เสร็จ แล้วเดี๋ยวจะเรียกเจ้าเข้ามาใหม่ก็แล้วกัน”

“ได้ค่ะ ท่านปู่”

ก็แค่แสร้งทำเป็นปลีกตัวให้อย่างคนรู้กาลเทศะเธอกล่าวลาเหล่าเจ้าตระกูลอีกครั้ง แล้วหลบออกไปจากห้องนอน

รู้สึกได้เลยว่าสายตาของพวกเขาทุกคนมองไล่ตามหลังเธอมา จนกระทั่งประตูถูกปิดลง

แต่ในตอนที่ประตูกำลังจะปิดสนิทส่งเสียงดังแกรก เธอก็ใช้ปลายเท้าของตัวเองขวางประตูเอาไว้

เริ่มได้ยินเสียงบทสนทนาภายในห้องดังออกมาจากด้านในห้อง ผ่านช่องประตูที่ถูกเปิดค้างไว้แคบเพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้นถึงจะลอดผ่านไปได้

“อืม แล้วนี่มีเรื่องอะไรกัน”

ท่านปู่ถาม

“คือว่า เรื่องนั้น…”

ใครบางคนเริ่มลังเล

แต่ความลังเลนั้นก็กินเวลาไม่นานนัก

“มีเรื่องต้องการรบกวนท่านเจ้าตระกูล ทุกคนก็เลยรวมตัวกันมาเข้าพบครับ”

อา เสียงนี้เธอฟังออกอยู่ว่าเสียงใคร

ถึงจะแตกต่าง แต่เสียงก็ยังคล้ายคลึงกับเสียงของเครย์ลีบัน เจ้าของเสียงนั่นคือโรมาเชีย ดิลลาร์ด

“เจ้าตระกูลจากตระกูลใต้บังคับบัญชามารวมตัวกันขอร้องอย่างนั้นหรือ…”

ท่านปู่พูดด้วยน้ำเสียงเจือความขบขันเล็กน้อย

“ได้ ข้าย่อมรับฟังด้วยความจริงใจ ลองพูดมาสิ”

“…อยากให้ท่านเจ้าตระกูลช่วยทบทวนการตัดสินใจอีกครั้งครับ”

คราวนี้เป็นน้ำเสียงที่ฟังดูหนุ่มและหนักแน่นกว่า

เสียงทุ้มหนักแน่น น่าจะเป็นคนจากตระกูลเบรย์ที่มีร่างกายสูงใหญ่

“ตัดสินใจเรื่องใด”

“…ช่วยคิดทบทวนการตัดสินใจเรื่องที่ให้ท่านเบเจอร์เป็นรักษาการเจ้าตระกูลอีกครั้งเถอะครับ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+