เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 91.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 91.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฟีเรนเทียตกใจมากทีเดียว

เธอได้แต่เหม่อมองสร้อยที่สวมอยู่บนคอของมาเรีย แพทโทรน

สร้อยคอของชานาเนสทำไมไปอยู่ตรงนั้นเสียได้ล่ะ

ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

“สร้อยเส้นนั้นทำไมถึง…”

มาเรีย แพทโทรนใช้ปลายนิ้วลูบไล้สร้อยคอของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของเธอ

ดูท่านางคงจะเข้าใจสายตาของเธอที่มองสร้อยเส้นนั้นจนแทบทะลุเสียแล้วละมั้ง บนริมฝีปากถึงได้ปรากฏรอยยิ้มเย่อหยิ่งเหมือนคนที่อยู่เหนือชั้นกว่าแบบนั้น

“เป็นสร้อยคอที่สวยมากเลยใช่ไหมคะวันนี้ก็ได้รับความสนใจมากมาย ขนาดพวกคุณหนูท่านอื่นๆ ยังชมกันยกใหญ่เลยทีเดียวค่ะ”

“…เป็นสร้อยที่งดงามดีนะคะ”

ผู้คนที่อยู่ด้วยกันกับมาเรีย แพทโทรนต่างก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่สร้อยคอเส้นนั้นเป็นของที่ดูใช้ได้พอควร พวกนางจึงได้แต่ยอมรับ

ที่จริงมันก็เป็นสร้อยคอที่ ‘เรียบง่าย’ เกินกว่าจะเป็นของของชานาเนส เกินกว่าจะเคยเป็นของของท่านหญิงแห่งลอมบาร์เดียอยู่เหมือนกันแต่คุณค่าของมันไม่อาจบอกได้ว่าเป็นเพียงแค่ของทั่วไป

และในสายตาของพวกชนชั้นสูงทั่วๆ ไป มันก็ยังคงเป็นสร้อยคอที่มีคุณภาพหรูพอจะจับสายตาของพวกนางไว้ได้

มันมีค่าเกินกว่าจะถูกสวมไว้บนคอของผู้หญิงอย่างมาเรีย แพทโทรน

“ได้สร้อยคอเส้นนั้นมาจากที่ไหนเหรอคะ”

ฟีเรนเทียได้แต่อดกลั้นทั้งๆ ที่อยากจะกระชากผมของผู้หญิงคนนี้มาเขย่าๆ กรีดเสียงร้องสั่งให้นางส่งสร้อยของชานาเนสกลับคืนมา

เพราะอย่างนั้นเสียงของเธอยามที่พูดออกไปจึงสั่นเล็กน้อย

“แหม สร้อยคอเส้นนี้ไม่ใช่ของที่จะใช้เงินทองหาซื้อมาได้หรอกนะคะ”

มาเรีย แพทโทรนยกมือขึ้นบดบังสร้อยคอ ทำท่าราวกับว่าเธอปรารถนาอยากได้ของของนางมากเสียเต็มประดา

หญิงสาวชั้นสูงที่ยืนอยู่ข้างกายมาเรียจึงถามเพื่อยืนยันให้แน่ใจ

“เห็นว่าคนสำคัญของคุณหนูแพทโทรนมอบให้เป็นของขวัญใช่มั้ยคะ”

“ค่ะ เมื่อไม่นานมานี้ได้รับเป็นของขวัญวันเกิดข้าน่ะค่ะ”

ฟีเรนเทียแทบไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง

เมื่อครู่นี้เธอได้ยินว่าอะไรนะ

ใครเป็นคนให้สร้อยเส้นนั้นนะ

“หมายความว่าคนรักของคุณหนูแพทโทรนเป็นคนให้สร้อยคอเส้นนี้เป็นของขวัญเหรอคะ”

“ค่ะ”

ไอ้บ้านั่น

เวสติน ไอ้สุนัขเวรตะไล!

ไอ้คนชั่วช้าโสโครก แม้แต่มอนสเตอร์หิวโหยที่อาศัยอยู่ในป่าลึกถ้าได้กินคนอย่างเจ้า คงถ่มน้ำลายแล้วสบถเพราะเกรงจะติดโรคร้ายเสียเปล่าๆ

กล้าที่จะขโมยของดูต่างหน้ามารดาของภริยาแล้วแอบเอามาให้กับชู้รักของตัวเองอย่างนั้นหรือ

คนเรามันต้องเลวขนาดไหนถึงทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอกัน

“เขาบอกว่าเป็นของที่พิเศษมาก มันตกทอดส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นในตระกูลของเขาน่ะค่ะ”

ในวินาทีที่มรดกของท่านหญิงแห่งลอมบาร์เดียถูกช่วงชิงไปเป็นสมบัติของตระกูลชูลส์ฟีเรนเทียก็รู้สึกได้ว่าตัวเองโมโหมากจนแทบจะคุมสติเอาไว้ไม่อยู่

ดูจากท่าทางของมาเรีย แพทโทรนแล้ว ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่รู้จริงๆ ว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของแบบไหน

ถ้าหากนางรู้ว่ามันเป็นของชานาเนสและเป็นของดูต่างหน้าของท่านย่า นางจะต้องไม่แสดงท่าทางแบบนี้ออกมาแน่ๆ

ต่อให้โง่แค่ไหน ต่อให้ไร้หัวคิดขนาดไหนก็ตามก็คงไม่กล้าสวมสร้อยคอเส้นนั้นเดินตรงเข้ามาโอ้อวดต่อหน้าเธอที่อาจจะมองสร้อยคอเส้นนี้ออกได้ในทันทีอยู่แล้ว

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า เวสตินเองก็โกหกมาเรีย แพทโทรนเรื่องที่มาของสร้อยเส้นนี้สินะ

ในตอนนั้นเองมาเรีย แพทโทรนก็พูดเสียงขวยเขิน

“ตอนนี้มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ต้องอยู่ห่างไกลกันบ่อยๆ แต่เขาก็เป็นคนที่มอบของขวัญพิเศษแบบนี้ให้ เพื่อให้ข้าได้รู้สึกว่ายังคงได้รับความรักจากเขาอยู่น่ะค่ะ”

เสแสร้งหน้าด้านๆ

จะพูดก็พูดให้มันถูกหน่อยสิ

ไอ้สถานการณ์ที่ว่านั่นคือเวสตินเป็นชายที่แต่งงานแล้ว ทั้งยังมีบุตรอีกสองคน มันไม่ใช่ความรัก เป็นเพียงแค่การนอกใจ

และในตอนนี้มาเรีย แพทโทรนก็พูดพล่ามเรื่องบ้าบอพวกนั้น โดยคิดแค่ว่าเธอไม่มีทางรู้เรื่องนางกับเวสตินแอบคบหาเป็นชู้กัน

ต่อหน้าเธอที่เป็นหลานสาวของชานาเนส

ต่อหน้าเธอที่เป็นลอมบาร์เดียที่พวกมันยักยอกเงินไป

ต่อหน้าเธอ ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียคนนี้

ใช่แล้ว

คนที่สมควรได้รับโทษ ไม่ได้มีเพียงแค่เวสตินเท่านั้น

ฟีเรนเทียครุ่นคิดหาวิธีที่จะจัดการนังผู้หญิงหน้าด้านนี่อยู่พอดี

วันนี้เป็นโอกาสที่เหมาะสมจริงๆ

พอวางแผนเสร็จเรียบร้อย โทสะที่พลุ่งพล่านสูงปรี๊ดในหัวก็พลันสงบลงราวกับโกหก

เธอยกแก้วน้ำผลไม้ที่ดื่มค้างไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาถือไว้ และสาดมันใส่ชุดของมาเรีย แพทโทรน

ไม่คิดที่จะแสร้งทำเป็นพลาด

เพราะแค่นี้ก็ต้องหักห้ามใจที่อยากจะสาดใส่ใบหน้าด้านๆ นั่นเสียเต็มประดา

“นะ…นี่ทำอะไร…”

มาเรีย แพทโทรนตื่นตระหนก นางจับชุดเดรสของตัวเองที่มีน้ำผลไม้ไหลหยดลงมา พยายามที่จะตำหนิเธอ

ทว่าเธอกลับเผยยิ้มกว้างแทน

“โอ๊ะ! พลาดไปหน่อย”

และก็เอ่ยข้อเสนอที่มาเรีย แพทโทรนไม่มีวันปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาด

“ในเมื่อชุดสกปรกเพราะข้าบังเอิญหลุดมือ ข้าจะชดเชยให้เองค่ะ”

“รู้มั้ยว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่…! ”

“พรีเมียมเดรสจากร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮัน”

ปากของมาเรีย แพทโทรนที่เคยตำหนิด้วยความไม่พอใจถึงกับหุบลงในทันที

“ข้าจะชดใช้ด้วยพรีเมียมเดรส เพราะฉะนั้นไปที่ร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันกันเถอะค่ะ”

“ถะ…ถ้าอย่างนั้นก็…”

ฟีเรนเทียเป็นฝ่ายลุกขึ้นจากที่นั่งก่อน ส่วนพวกคุณหนูท่านอื่นๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างก็ถามเธอเป็นเชิงขออนุญาต

“พวกเราไปด้วยได้มั้ยคะ”

เธอพยักหน้าตอบ

“ค่ะ ตามมาสิคะ”

ยิ่งมีพยานช่วยปล่อยข่าวลือมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีอยู่แล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 91.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 91.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฟีเรนเทียตกใจมากทีเดียว

เธอได้แต่เหม่อมองสร้อยที่สวมอยู่บนคอของมาเรีย แพทโทรน

สร้อยคอของชานาเนสทำไมไปอยู่ตรงนั้นเสียได้ล่ะ

ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

“สร้อยเส้นนั้นทำไมถึง…”

มาเรีย แพทโทรนใช้ปลายนิ้วลูบไล้สร้อยคอของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของเธอ

ดูท่านางคงจะเข้าใจสายตาของเธอที่มองสร้อยเส้นนั้นจนแทบทะลุเสียแล้วละมั้ง บนริมฝีปากถึงได้ปรากฏรอยยิ้มเย่อหยิ่งเหมือนคนที่อยู่เหนือชั้นกว่าแบบนั้น

“เป็นสร้อยคอที่สวยมากเลยใช่ไหมคะวันนี้ก็ได้รับความสนใจมากมาย ขนาดพวกคุณหนูท่านอื่นๆ ยังชมกันยกใหญ่เลยทีเดียวค่ะ”

“…เป็นสร้อยที่งดงามดีนะคะ”

ผู้คนที่อยู่ด้วยกันกับมาเรีย แพทโทรนต่างก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่สร้อยคอเส้นนั้นเป็นของที่ดูใช้ได้พอควร พวกนางจึงได้แต่ยอมรับ

ที่จริงมันก็เป็นสร้อยคอที่ ‘เรียบง่าย’ เกินกว่าจะเป็นของของชานาเนส เกินกว่าจะเคยเป็นของของท่านหญิงแห่งลอมบาร์เดียอยู่เหมือนกันแต่คุณค่าของมันไม่อาจบอกได้ว่าเป็นเพียงแค่ของทั่วไป

และในสายตาของพวกชนชั้นสูงทั่วๆ ไป มันก็ยังคงเป็นสร้อยคอที่มีคุณภาพหรูพอจะจับสายตาของพวกนางไว้ได้

มันมีค่าเกินกว่าจะถูกสวมไว้บนคอของผู้หญิงอย่างมาเรีย แพทโทรน

“ได้สร้อยคอเส้นนั้นมาจากที่ไหนเหรอคะ”

ฟีเรนเทียได้แต่อดกลั้นทั้งๆ ที่อยากจะกระชากผมของผู้หญิงคนนี้มาเขย่าๆ กรีดเสียงร้องสั่งให้นางส่งสร้อยของชานาเนสกลับคืนมา

เพราะอย่างนั้นเสียงของเธอยามที่พูดออกไปจึงสั่นเล็กน้อย

“แหม สร้อยคอเส้นนี้ไม่ใช่ของที่จะใช้เงินทองหาซื้อมาได้หรอกนะคะ”

มาเรีย แพทโทรนยกมือขึ้นบดบังสร้อยคอ ทำท่าราวกับว่าเธอปรารถนาอยากได้ของของนางมากเสียเต็มประดา

หญิงสาวชั้นสูงที่ยืนอยู่ข้างกายมาเรียจึงถามเพื่อยืนยันให้แน่ใจ

“เห็นว่าคนสำคัญของคุณหนูแพทโทรนมอบให้เป็นของขวัญใช่มั้ยคะ”

“ค่ะ เมื่อไม่นานมานี้ได้รับเป็นของขวัญวันเกิดข้าน่ะค่ะ”

ฟีเรนเทียแทบไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง

เมื่อครู่นี้เธอได้ยินว่าอะไรนะ

ใครเป็นคนให้สร้อยเส้นนั้นนะ

“หมายความว่าคนรักของคุณหนูแพทโทรนเป็นคนให้สร้อยคอเส้นนี้เป็นของขวัญเหรอคะ”

“ค่ะ”

ไอ้บ้านั่น

เวสติน ไอ้สุนัขเวรตะไล!

ไอ้คนชั่วช้าโสโครก แม้แต่มอนสเตอร์หิวโหยที่อาศัยอยู่ในป่าลึกถ้าได้กินคนอย่างเจ้า คงถ่มน้ำลายแล้วสบถเพราะเกรงจะติดโรคร้ายเสียเปล่าๆ

กล้าที่จะขโมยของดูต่างหน้ามารดาของภริยาแล้วแอบเอามาให้กับชู้รักของตัวเองอย่างนั้นหรือ

คนเรามันต้องเลวขนาดไหนถึงทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอกัน

“เขาบอกว่าเป็นของที่พิเศษมาก มันตกทอดส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นในตระกูลของเขาน่ะค่ะ”

ในวินาทีที่มรดกของท่านหญิงแห่งลอมบาร์เดียถูกช่วงชิงไปเป็นสมบัติของตระกูลชูลส์ฟีเรนเทียก็รู้สึกได้ว่าตัวเองโมโหมากจนแทบจะคุมสติเอาไว้ไม่อยู่

ดูจากท่าทางของมาเรีย แพทโทรนแล้ว ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่รู้จริงๆ ว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของแบบไหน

ถ้าหากนางรู้ว่ามันเป็นของชานาเนสและเป็นของดูต่างหน้าของท่านย่า นางจะต้องไม่แสดงท่าทางแบบนี้ออกมาแน่ๆ

ต่อให้โง่แค่ไหน ต่อให้ไร้หัวคิดขนาดไหนก็ตามก็คงไม่กล้าสวมสร้อยคอเส้นนั้นเดินตรงเข้ามาโอ้อวดต่อหน้าเธอที่อาจจะมองสร้อยคอเส้นนี้ออกได้ในทันทีอยู่แล้ว

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า เวสตินเองก็โกหกมาเรีย แพทโทรนเรื่องที่มาของสร้อยเส้นนี้สินะ

ในตอนนั้นเองมาเรีย แพทโทรนก็พูดเสียงขวยเขิน

“ตอนนี้มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ต้องอยู่ห่างไกลกันบ่อยๆ แต่เขาก็เป็นคนที่มอบของขวัญพิเศษแบบนี้ให้ เพื่อให้ข้าได้รู้สึกว่ายังคงได้รับความรักจากเขาอยู่น่ะค่ะ”

เสแสร้งหน้าด้านๆ

จะพูดก็พูดให้มันถูกหน่อยสิ

ไอ้สถานการณ์ที่ว่านั่นคือเวสตินเป็นชายที่แต่งงานแล้ว ทั้งยังมีบุตรอีกสองคน มันไม่ใช่ความรัก เป็นเพียงแค่การนอกใจ

และในตอนนี้มาเรีย แพทโทรนก็พูดพล่ามเรื่องบ้าบอพวกนั้น โดยคิดแค่ว่าเธอไม่มีทางรู้เรื่องนางกับเวสตินแอบคบหาเป็นชู้กัน

ต่อหน้าเธอที่เป็นหลานสาวของชานาเนส

ต่อหน้าเธอที่เป็นลอมบาร์เดียที่พวกมันยักยอกเงินไป

ต่อหน้าเธอ ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียคนนี้

ใช่แล้ว

คนที่สมควรได้รับโทษ ไม่ได้มีเพียงแค่เวสตินเท่านั้น

ฟีเรนเทียครุ่นคิดหาวิธีที่จะจัดการนังผู้หญิงหน้าด้านนี่อยู่พอดี

วันนี้เป็นโอกาสที่เหมาะสมจริงๆ

พอวางแผนเสร็จเรียบร้อย โทสะที่พลุ่งพล่านสูงปรี๊ดในหัวก็พลันสงบลงราวกับโกหก

เธอยกแก้วน้ำผลไม้ที่ดื่มค้างไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาถือไว้ และสาดมันใส่ชุดของมาเรีย แพทโทรน

ไม่คิดที่จะแสร้งทำเป็นพลาด

เพราะแค่นี้ก็ต้องหักห้ามใจที่อยากจะสาดใส่ใบหน้าด้านๆ นั่นเสียเต็มประดา

“นะ…นี่ทำอะไร…”

มาเรีย แพทโทรนตื่นตระหนก นางจับชุดเดรสของตัวเองที่มีน้ำผลไม้ไหลหยดลงมา พยายามที่จะตำหนิเธอ

ทว่าเธอกลับเผยยิ้มกว้างแทน

“โอ๊ะ! พลาดไปหน่อย”

และก็เอ่ยข้อเสนอที่มาเรีย แพทโทรนไม่มีวันปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาด

“ในเมื่อชุดสกปรกเพราะข้าบังเอิญหลุดมือ ข้าจะชดเชยให้เองค่ะ”

“รู้มั้ยว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่…! ”

“พรีเมียมเดรสจากร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮัน”

ปากของมาเรีย แพทโทรนที่เคยตำหนิด้วยความไม่พอใจถึงกับหุบลงในทันที

“ข้าจะชดใช้ด้วยพรีเมียมเดรส เพราะฉะนั้นไปที่ร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันกันเถอะค่ะ”

“ถะ…ถ้าอย่างนั้นก็…”

ฟีเรนเทียเป็นฝ่ายลุกขึ้นจากที่นั่งก่อน ส่วนพวกคุณหนูท่านอื่นๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างก็ถามเธอเป็นเชิงขออนุญาต

“พวกเราไปด้วยได้มั้ยคะ”

เธอพยักหน้าตอบ

“ค่ะ ตามมาสิคะ”

ยิ่งมีพยานช่วยปล่อยข่าวลือมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีอยู่แล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+