เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 225.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 225.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เล่ม 6 บทที่ 225.1

ตอนที่ 225

เฟเรสเหม่อมองน้ำชาร้อนกรุ่นจนควันขึ้นในขณะที่ครุ่นคิดถึงความทรงจำบางอย่าง

“จำเอาไว้นะ เฟเรส ผู้ที่เป็นคนเลือกองค์รัชทายาทคือจักรพรรดิ เจ้าต้องระวังอย่าทำตัวให้พระองค์เพ่งเล็ง”

พูดอีกแง่ก็คือ ในการประชุมใหญ่ครั้งนี้ ขอให้เขาถอยห่างไปอยู่ข้างหลัง

เพราะกลัวว่าตัวเขาจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วยจากการประจันหน้ากันระหว่างลอมบาร์เดียกับโยบาเนสที่เลือกถือหางข้างฝ่ายอังเกนัส

รอยยิ้มจางแต่งแต้มขึ้นบนมุมปากของเฟเรสอย่างไร้เสียง

มันเป็นเรื่องปกติที่มักจะเกิดขึ้นอยู่แล้วเวลาที่นึกถึงเทียขึ้นมา

‘ช่างโหดร้ายเสียจริง’

ทั้งๆ ที่บอกกับเขาว่า ไม่อาจแต่งงานและสาบานว่าจะเป็นของกันและกันไปชั่วชีวิตได้ แต่ก็ยังเป็นห่วงเขาขนาดนี้

ทั้งๆ ที่ห้ามไม่ให้รักกัน แต่ก็ยังทำตัวน่ารักมากเหลือเกิน

เพราะอย่างนั้นเฟเรสจึงเติมชาอุ่นร้อนลงในแก้วชาของจักรพรรดิที่พร่องไปแล้วกว่าครึ่งเพิ่มอีก

“ว่ามาสิ เจ้าชายลำดับที่สอง”

โยบาเนสพูดพลางจิบชาลงคอเพิ่มหนึ่งจิบ

“ข้าอยากรู้เสียจริงว่าเจ้าอยากจะพูดเรื่องอะไร”

เฟเรสมองหน้าจักรพรรดิ

สถานการณ์ที่บุคคลที่น่ารังเกียจที่สุดกลับให้ความไว้วางใจเขาในตอนนี้ มันช่างน่าขันเสียจนเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา

“ลองทอดพระเนตรสิ่งนี้ดูพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

เฟเรสหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งที่พับเก็บไว้ในอกเสื้อออกมาส่งให้โยบาเนส

ของสิ่งนั้นคงจะเก็บรักษามาเนิ่นนาน มันเป็นเอกสารฉบับหนึ่งที่ตัวหนังสือเลือนรางไปมากแล้ว

“นี่มันอะไรกัน”

โยบาเนสรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มอ่านเอกสารที่เฟเรสส่งให้อย่างช้าๆ

ในกระดาษมีอะไรมากมายถูกเขียนเอาไว้เต็มทั้งแผ่น

หน้าผากของจักรพรรดิขมวดนิ่วลงจนเห็นริ้วรอยเด่นชัด ริมฝีปากเปิดอ้าเอ่ยถามเฟเรส

“ใบสั่งซื้อสินค้ากับกลุ่มการค้าลอมบาร์เดีย”

“ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสพยักหน้าลง

“หนังสัตว์ ไม้ ม้า ธัญพืช และเหล็ก”

โยบาเนสอ่านรายการสินค้าที่เขียนไว้ในเอกสารทีละรายการเสียงทุ้ม

ที่เหลือเป็นเพียงแค่พวกของทั่วไปที่ไม่ว่าใครก็สั่งซื้อได้ทั้งนั้น

แต่รายการหนึ่งในนั้นกลับดึงดูสายตาของโยบาเนส

“เหล็กงั้นหรือ”

จักรพรรดิมองย้ำให้แน่ใจในจำนวนเหล็กที่เขียนไว้ในใบสั่งซื้อ ก่อนจะเอ่ยถามเฟเรส

“มีใครคิดที่จะก่อสงครามหรือไงกัน”

เสียงราบเรียบคล้ายแฝงไปด้วยความขบขันราวกับเป็นเรื่องตลกนั่น แท้จริงแล้วเปี่ยมไปด้วยน้ำเสียงเสียดสี ทว่าเฟเรสยังคงนิ่งสงบเหมือนเคย

“มันอาจจะจางไปหน่อย แต่ด้านล่างสุดมีนามของผู้สั่งซื้ออยู่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทลองทอดพระเนตรดู”

“เจอราร์ด…บราวน์”

นามของอดีตเจ้าตระกูลบราวน์

นัยน์ตาของโยบาเนสเบิกกว้าง และเริ่มกวาดสายตาอ่านเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้ง

“ที่ฝ่าบาทตรัสนั้นถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตระกูลบราวน์ในตอนนั้นเตรียมก่อสงคราม”

เฟเรสบอกจักรพรรดิตามตรง

“สินค้าพวกนี้ อดีตเจ้าตระกูลบราวน์ใช้เงินที่ยืมจากอังเกนัส ไปสั่งซื้อสินค้าจากกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสใช้สายตาเย็นชามองโยบาเนสที่กำลังอ่านใบสั่งซื้อด้วยใบหน้านิ่ว

“และในสมัยนั้นอาณาจักรก็กำลังเตรียมก่อสงครามกับอาณาจักรรูมัน”

บิดาของโยบาเนส อดีตองค์จักรพรรดิผู้นั้นมีความฝันอยู่เรื่องหนึ่ง

นั่นก็คือการเอาชนะในสงครามยึดครอง และขยายอาณาเขตของอาณาจักรให้กว้างไกล

แต่อาณาจักรในตอนนั้นยังไม่มีกำลังที่แข็งแกร่งพอจะก่อสงครามยึดครองอาณาจักรอื่นได้ ทว่าอดีตจักรพรรดิก็ยังคงยืนกรานที่จะทำมัน

สุดท้ายจึงยืมมือเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อที่จะได้ก่อสงครามขึ้นให้ได้สำเร็จ

ตระกูลบราวน์เป็นตระกูลที่มอบเสบียงให้มากที่สุดในบรรดาตระกูลเหล่านั้น

“ของสิ่งนี้เจ้า…”

และความจริงที่ว่านั่นย่อมไม่มีทางที่โยบาเนสจะไม่ทราบ เพียงแต่พระองค์ก็แค่เฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ เท่านั้น

“ตระกูลบราวน์เก็บมันไว้พ่ะย่ะค่ะ และกระหม่อมก็ยังได้ยินเรื่องน่าสนใจจากพวกเขาด้วย”

เฟเรสพูดในขณะที่มองนัยน์ตาสั่นเทาของโยบาเนส

“ทั้งเรื่องยืมเงินจากอังเกนัส ทั้งเรื่องที่ช่วยให้อังเกนัสแย่งชิงเอาโฉนดค้ำประกันไปได้ก่อนเวลาที่ควร ทั้งหมดเป็นรับสั่งของอดีตจักรพรรดิ”

ใบหน้าของโยบาเนสแดงก่ำจนไม่อาจจะแดงไปมากกว่านี้ได้อีก

เฟเรสเรียก ‘อดีตจักรพรรดิ’ ราวกับกำลังพูดถึงเรื่องของคนอื่น แต่คนคนนั้นอย่างไรก็เป็นบิดาของโยบาเนส

โยบาเนสนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามเฟเรส

“เจ้าตระกูลบราวน์คิดที่จะใช้เรื่องนี้ข่มขู่ข้าหรือไง ให้เปลี่ยนตัวแทนเขตแดนตะวันตกไปเป็นตระกูลบราวน์”

โยบาเนสโมโหเสียจนอยากจะเพิกถอนการคืนฐานะชนชั้นสูงให้ตระกูลบราวน์มันเสียประเดี๋ยวนี้

แต่เฟเรสกลับส่ายหน้า

“เอกสารฉบับนี้กระหม่อมตั้งใจจะมอบมันให้ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

“ให้ข้า…”

“ตระกูลบราวน์อาจจะเป็นตระกูลที่สามารถเป็นภัยต่อฝ่าบาทได้ก็จริง แต่สถานการณ์ก็ไม่เคยบานปลายจนถึงขนาดนั้นมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ ทั้งพวกเขาเองก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องราวอันน่าคับแค้นใจที่เก็บไว้มาเนิ่นนาน เพียงแค่เก็บมันไว้กับตัวเท่านั้น”

และเฟเรสก็ยังคงพูดต่อไปราวกับมันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร

“แต่หากเรื่องแบบนี้หลุดออกไปถึงหูคนนอก หน้าตาของราชวงศ์จะเป็นเช่นไร ก็เห็นกันได้ชัดอยู่แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”

องค์จักรพรรดิผู้ใช้ความภักดีของผู้ใต้บังคับบัญชา หลอกให้พวกเขาช่วยก่อสงคราม แต่แล้วกลับปิดปากด้วยการสั่งให้กำจัดทิ้งจนล่มสลายไปทั้งตระกูล

“เพราะอย่างนั้นกระหม่อมจึงขอร้องพวกเขา แล้วนำมันมาพ่ะย่ะค่ะ เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจปล่อยให้เรื่องน่าอับอายของราชวงศ์ที่อาจถูกเปิดเผยออกไปได้ทิ้งไว้แบบนั้นอยู่แล้ว”

หากเรื่องพวกนี้หลุดออกไปละก็

โยบาเนสกำหมัดแน่น เขาไม่อยากแม้แต่จะจินตนาการ

เอกสารซื้อขายที่ถูกเก็บไว้นานยับย่นอยู่ในอุ้งมือ

“กระหม่อมไม่คิดหรอกพ่ะย่ะค่ะ ว่าการตัดสินใจของอดีตจักรพรรดิจะเป็นเรื่องผิดเสียทีเดียว”

เฟเรสเอ่ยพูดอย่างสบายอกสบายใจกับโยบาเนส

“พวกเราก็แค่ต้องเปลี่ยนจากเสร็จศึกฆ่าขุนพล ไปเป็นอย่างอื่นเท่านั้นเอง”

ในตอนนั้นเองก็พลันได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้นจากด้านนอก ก่อนจะมีเสียงแจ้งว่าถึงเวลาเริ่มประชุมแล้ว

เฟเรสติดกระดุมเสื้อคลุม ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง

“วันนี้ ตัวแทนเขตแดนตะวันตกจะถูกเปลี่ยนมือ”

พูดราวกับเป็นเพียงแค่การคาดเดา

โยบาเนสเงยหน้าขึ้นมองเฟเรส

“จะไม่มีเรื่องให้ฝ่าบาทต้องเสียพระพักตร์ เพียงแค่เพราะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับองค์จักรพรรดินีอย่างแน่นอน กระหม่อมขอกล่าวไว้ล่วงหน้าพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสกล่าวทิ้งท้ายไว้แบบนั้น เด็กหนุ่มโค้งศีรษะลง แล้วเดินออกไปยังห้องประชุม

ลำคอแห้งผากพูดอะไรไม่ออก โยบาเนสที่เหลืออยู่คนเดียวในห้องรับรองกรอกชาที่เหลืออยู่ลงคอจนหมดแก้ว

* * *

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 225.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 225.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เล่ม 6 บทที่ 225.1

ตอนที่ 225

เฟเรสเหม่อมองน้ำชาร้อนกรุ่นจนควันขึ้นในขณะที่ครุ่นคิดถึงความทรงจำบางอย่าง

“จำเอาไว้นะ เฟเรส ผู้ที่เป็นคนเลือกองค์รัชทายาทคือจักรพรรดิ เจ้าต้องระวังอย่าทำตัวให้พระองค์เพ่งเล็ง”

พูดอีกแง่ก็คือ ในการประชุมใหญ่ครั้งนี้ ขอให้เขาถอยห่างไปอยู่ข้างหลัง

เพราะกลัวว่าตัวเขาจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วยจากการประจันหน้ากันระหว่างลอมบาร์เดียกับโยบาเนสที่เลือกถือหางข้างฝ่ายอังเกนัส

รอยยิ้มจางแต่งแต้มขึ้นบนมุมปากของเฟเรสอย่างไร้เสียง

มันเป็นเรื่องปกติที่มักจะเกิดขึ้นอยู่แล้วเวลาที่นึกถึงเทียขึ้นมา

‘ช่างโหดร้ายเสียจริง’

ทั้งๆ ที่บอกกับเขาว่า ไม่อาจแต่งงานและสาบานว่าจะเป็นของกันและกันไปชั่วชีวิตได้ แต่ก็ยังเป็นห่วงเขาขนาดนี้

ทั้งๆ ที่ห้ามไม่ให้รักกัน แต่ก็ยังทำตัวน่ารักมากเหลือเกิน

เพราะอย่างนั้นเฟเรสจึงเติมชาอุ่นร้อนลงในแก้วชาของจักรพรรดิที่พร่องไปแล้วกว่าครึ่งเพิ่มอีก

“ว่ามาสิ เจ้าชายลำดับที่สอง”

โยบาเนสพูดพลางจิบชาลงคอเพิ่มหนึ่งจิบ

“ข้าอยากรู้เสียจริงว่าเจ้าอยากจะพูดเรื่องอะไร”

เฟเรสมองหน้าจักรพรรดิ

สถานการณ์ที่บุคคลที่น่ารังเกียจที่สุดกลับให้ความไว้วางใจเขาในตอนนี้ มันช่างน่าขันเสียจนเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา

“ลองทอดพระเนตรสิ่งนี้ดูพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

เฟเรสหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งที่พับเก็บไว้ในอกเสื้อออกมาส่งให้โยบาเนส

ของสิ่งนั้นคงจะเก็บรักษามาเนิ่นนาน มันเป็นเอกสารฉบับหนึ่งที่ตัวหนังสือเลือนรางไปมากแล้ว

“นี่มันอะไรกัน”

โยบาเนสรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มอ่านเอกสารที่เฟเรสส่งให้อย่างช้าๆ

ในกระดาษมีอะไรมากมายถูกเขียนเอาไว้เต็มทั้งแผ่น

หน้าผากของจักรพรรดิขมวดนิ่วลงจนเห็นริ้วรอยเด่นชัด ริมฝีปากเปิดอ้าเอ่ยถามเฟเรส

“ใบสั่งซื้อสินค้ากับกลุ่มการค้าลอมบาร์เดีย”

“ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสพยักหน้าลง

“หนังสัตว์ ไม้ ม้า ธัญพืช และเหล็ก”

โยบาเนสอ่านรายการสินค้าที่เขียนไว้ในเอกสารทีละรายการเสียงทุ้ม

ที่เหลือเป็นเพียงแค่พวกของทั่วไปที่ไม่ว่าใครก็สั่งซื้อได้ทั้งนั้น

แต่รายการหนึ่งในนั้นกลับดึงดูสายตาของโยบาเนส

“เหล็กงั้นหรือ”

จักรพรรดิมองย้ำให้แน่ใจในจำนวนเหล็กที่เขียนไว้ในใบสั่งซื้อ ก่อนจะเอ่ยถามเฟเรส

“มีใครคิดที่จะก่อสงครามหรือไงกัน”

เสียงราบเรียบคล้ายแฝงไปด้วยความขบขันราวกับเป็นเรื่องตลกนั่น แท้จริงแล้วเปี่ยมไปด้วยน้ำเสียงเสียดสี ทว่าเฟเรสยังคงนิ่งสงบเหมือนเคย

“มันอาจจะจางไปหน่อย แต่ด้านล่างสุดมีนามของผู้สั่งซื้ออยู่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทลองทอดพระเนตรดู”

“เจอราร์ด…บราวน์”

นามของอดีตเจ้าตระกูลบราวน์

นัยน์ตาของโยบาเนสเบิกกว้าง และเริ่มกวาดสายตาอ่านเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้ง

“ที่ฝ่าบาทตรัสนั้นถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตระกูลบราวน์ในตอนนั้นเตรียมก่อสงคราม”

เฟเรสบอกจักรพรรดิตามตรง

“สินค้าพวกนี้ อดีตเจ้าตระกูลบราวน์ใช้เงินที่ยืมจากอังเกนัส ไปสั่งซื้อสินค้าจากกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสใช้สายตาเย็นชามองโยบาเนสที่กำลังอ่านใบสั่งซื้อด้วยใบหน้านิ่ว

“และในสมัยนั้นอาณาจักรก็กำลังเตรียมก่อสงครามกับอาณาจักรรูมัน”

บิดาของโยบาเนส อดีตองค์จักรพรรดิผู้นั้นมีความฝันอยู่เรื่องหนึ่ง

นั่นก็คือการเอาชนะในสงครามยึดครอง และขยายอาณาเขตของอาณาจักรให้กว้างไกล

แต่อาณาจักรในตอนนั้นยังไม่มีกำลังที่แข็งแกร่งพอจะก่อสงครามยึดครองอาณาจักรอื่นได้ ทว่าอดีตจักรพรรดิก็ยังคงยืนกรานที่จะทำมัน

สุดท้ายจึงยืมมือเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อที่จะได้ก่อสงครามขึ้นให้ได้สำเร็จ

ตระกูลบราวน์เป็นตระกูลที่มอบเสบียงให้มากที่สุดในบรรดาตระกูลเหล่านั้น

“ของสิ่งนี้เจ้า…”

และความจริงที่ว่านั่นย่อมไม่มีทางที่โยบาเนสจะไม่ทราบ เพียงแต่พระองค์ก็แค่เฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ เท่านั้น

“ตระกูลบราวน์เก็บมันไว้พ่ะย่ะค่ะ และกระหม่อมก็ยังได้ยินเรื่องน่าสนใจจากพวกเขาด้วย”

เฟเรสพูดในขณะที่มองนัยน์ตาสั่นเทาของโยบาเนส

“ทั้งเรื่องยืมเงินจากอังเกนัส ทั้งเรื่องที่ช่วยให้อังเกนัสแย่งชิงเอาโฉนดค้ำประกันไปได้ก่อนเวลาที่ควร ทั้งหมดเป็นรับสั่งของอดีตจักรพรรดิ”

ใบหน้าของโยบาเนสแดงก่ำจนไม่อาจจะแดงไปมากกว่านี้ได้อีก

เฟเรสเรียก ‘อดีตจักรพรรดิ’ ราวกับกำลังพูดถึงเรื่องของคนอื่น แต่คนคนนั้นอย่างไรก็เป็นบิดาของโยบาเนส

โยบาเนสนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามเฟเรส

“เจ้าตระกูลบราวน์คิดที่จะใช้เรื่องนี้ข่มขู่ข้าหรือไง ให้เปลี่ยนตัวแทนเขตแดนตะวันตกไปเป็นตระกูลบราวน์”

โยบาเนสโมโหเสียจนอยากจะเพิกถอนการคืนฐานะชนชั้นสูงให้ตระกูลบราวน์มันเสียประเดี๋ยวนี้

แต่เฟเรสกลับส่ายหน้า

“เอกสารฉบับนี้กระหม่อมตั้งใจจะมอบมันให้ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

“ให้ข้า…”

“ตระกูลบราวน์อาจจะเป็นตระกูลที่สามารถเป็นภัยต่อฝ่าบาทได้ก็จริง แต่สถานการณ์ก็ไม่เคยบานปลายจนถึงขนาดนั้นมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ ทั้งพวกเขาเองก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องราวอันน่าคับแค้นใจที่เก็บไว้มาเนิ่นนาน เพียงแค่เก็บมันไว้กับตัวเท่านั้น”

และเฟเรสก็ยังคงพูดต่อไปราวกับมันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร

“แต่หากเรื่องแบบนี้หลุดออกไปถึงหูคนนอก หน้าตาของราชวงศ์จะเป็นเช่นไร ก็เห็นกันได้ชัดอยู่แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”

องค์จักรพรรดิผู้ใช้ความภักดีของผู้ใต้บังคับบัญชา หลอกให้พวกเขาช่วยก่อสงคราม แต่แล้วกลับปิดปากด้วยการสั่งให้กำจัดทิ้งจนล่มสลายไปทั้งตระกูล

“เพราะอย่างนั้นกระหม่อมจึงขอร้องพวกเขา แล้วนำมันมาพ่ะย่ะค่ะ เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจปล่อยให้เรื่องน่าอับอายของราชวงศ์ที่อาจถูกเปิดเผยออกไปได้ทิ้งไว้แบบนั้นอยู่แล้ว”

หากเรื่องพวกนี้หลุดออกไปละก็

โยบาเนสกำหมัดแน่น เขาไม่อยากแม้แต่จะจินตนาการ

เอกสารซื้อขายที่ถูกเก็บไว้นานยับย่นอยู่ในอุ้งมือ

“กระหม่อมไม่คิดหรอกพ่ะย่ะค่ะ ว่าการตัดสินใจของอดีตจักรพรรดิจะเป็นเรื่องผิดเสียทีเดียว”

เฟเรสเอ่ยพูดอย่างสบายอกสบายใจกับโยบาเนส

“พวกเราก็แค่ต้องเปลี่ยนจากเสร็จศึกฆ่าขุนพล ไปเป็นอย่างอื่นเท่านั้นเอง”

ในตอนนั้นเองก็พลันได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้นจากด้านนอก ก่อนจะมีเสียงแจ้งว่าถึงเวลาเริ่มประชุมแล้ว

เฟเรสติดกระดุมเสื้อคลุม ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง

“วันนี้ ตัวแทนเขตแดนตะวันตกจะถูกเปลี่ยนมือ”

พูดราวกับเป็นเพียงแค่การคาดเดา

โยบาเนสเงยหน้าขึ้นมองเฟเรส

“จะไม่มีเรื่องให้ฝ่าบาทต้องเสียพระพักตร์ เพียงแค่เพราะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับองค์จักรพรรดินีอย่างแน่นอน กระหม่อมขอกล่าวไว้ล่วงหน้าพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสกล่าวทิ้งท้ายไว้แบบนั้น เด็กหนุ่มโค้งศีรษะลง แล้วเดินออกไปยังห้องประชุม

ลำคอแห้งผากพูดอะไรไม่ออก โยบาเนสที่เหลืออยู่คนเดียวในห้องรับรองกรอกชาที่เหลืออยู่ลงคอจนหมดแก้ว

* * *

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+