เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 168.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 168.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เล่ม 4 บทที่ 168.2

เบเจอร์ตะคอกเสียงดังใส่ลาลาเน่

 นี่เจ้ามีหัวคิดบ้างหรือไม่! จะก่อเรื่องอะไรก็ควรที่จะมีขอบเขตบ้าง!ทำตัวไร้หัวคิดเช่นนี้ ไม่ได้มีแค่เจ้าเท่านั้น แต่ตระกูลรูมันเองก็จะต้องเผชิญปัญหาใหญ่รู้มั้ย ลาลาเน่! 

 อา……  ลาลาเน่ได้แต่ก้มหน้านิ่ง

 เรื่องวันนี้ข้าจะถือเสียว่าไม่เคยเข้ามาเห็นก็แล้วกัน ท่านชายน้อยรูมัน! 

เบเจอร์กัดฟันพูดเสียงรอดไรฟัน ก่อนจะคว้าแขนของลาลาเน่เอาไว้

 พอเถอะครับ!  อาบีน็อกซ์รั้งมือของเบเจอร์เอาไว้ ราวกับต้องการที่จะหักมือข้างนั้นทิ้งลงได้ทุกเมื่อ

แต่ทว่า

 ……ปล่อยเถอะค่ะ ท่านอาบีน็อกซ์ 

ลาลาเน่เอ่ยว่าเสียงสั่นเทา

 ท่านลาลาเน่……. 

อาบีน็อกซ์มองแขนของลาลาเน่ที่ถูกมือหยาบกร้านของเบเจอร์จับไว้แน่นด้วยความทรมานใจ ราวกับตัวเขาเองเป็นฝ่ายเจ็บปวด

พอเห็นว่าลาลาเน่ส่ายหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง มือที่จับเบเจอร์เอาไว้ก็คลายออกอย่างไร้เรี่ยวแรง

 ไปเดี๋ยวนี้ ลาลาเน่ 

เบเจอร์ลากตัวลาลาเน่เดินออกไป ทำท่าราวกับไม่อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว

ส่วนลาลาเน่เองก็ได้แต่ยอมถูกมือหยาบกร้านของบิดาลากตัวออกไปโดยไม่อาจต่อต้านอะไรได้แม้แต่น้อย

และเบเจอร์ก็พบเข้ากับเธอที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูจนได้

เพียะ!

ไม่มีจังหวะให้หลบ ใบหน้าของเธอถูกตบจนสะบัดไปด้านข้าง

 ทะ เทีย! 

 ท่านฟีเรนเทีย!  อาบีน็อกซ์สะดุ้งตกใจ ส่วนลาลาเน่กรีดร้องเสียงดัง

ดูเหมือนปากจะแตก รู้สึกได้ถึงรสขมปร่าของเลือดที่ไหลออกมา

ถุย!เบเจอร์ถ่มน้ำลายใส่เธอที่ยืนนิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายตบจนหน้าหัน

 นังชั้นต่ำโสโครก กล้าดียังไงมาทำลายอนาคตของบุตรสาวข้า 

เบเจอร์โมโหเดือดพล่านจนหายใจหอบ ขนาดได้ลงไม้ลงมือตบเธอแล้วก็ยังไม่ช่วยให้เขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นได้อยู่ดี

แต่ก็ยังรีบร้อนพาตัวลาลาเน่ออกไปจากเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าจะมีใครมาเห็นฉากนี้เข้า

 ท่านฟีเรนเทีย เป็นอะไรมั้ยครับ  อาบีน็อกซ์รีบเข้ามาสำรวจเธอทันที

เธอผลักมือข้างนั้นออกไปเบา ๆ ถ่มเลือดผสมน้ำลายทิ้งลงบนพื้น

ที่จริงเธอเคยโดนตบหน้าแรงๆ แบบนี้มาก่อนแล้ว เลยไม่ได้ช็อกอะไรขนาดนั้น

ตอนนี้เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยสักนิดเธอมองหน้าอาบีน็อกซ์ตรง ๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

 จะเอายังไงต่อคะ 

 ท่านลาลาเน่ตอบรับคำขอแต่งงานของข้าแล้วอย่างแน่นอนครับ 

อาบีน็อกซ์ตอบทันที ขณะเดียวกันก็เดินไปเก็บกล่องแหวนที่กระเด็นตกอยู่บนพื้นขึ้นมา

 ตอนนี้ท่านลาลาเน่เป็นคู่หมั้นของข้า ข้าจะไม่ยอมแพ้แน่ครับ 

นัยน์ตาคู่นั้นลุกเป็นไฟ มันลุกโชนมากเสียจนไม่อาจคิดได้เลยว่า คน ๆ นี้ใช่อาบีน็อกซ์ผู้อ่อนโยนในทุก ๆ วันคนนั้นจริงหรือเปล่า

 ……แบบนี้ค่อยถูกใจหน่อย 

ถ้าจะปกป้องลาลาเน่ มันก็ต้องระดับนี้นี่แหละ

เธอหยิบกล่องแหวนมาจากมือของอาบีน็อกซ์ แล้วเอ่ยขึ้นว่า

 อันนี้ข้าจะนำไปมอบให้ลาลาเน่เองค่ะ 

อาบีน็อกซ์ดูจะงุนงงไปบ้าง แต่เพียงไม่นานก็พยักหน้าตกลงเขาเชื่อใจเธอ

เธอตรวจเช็คให้แน่ใจว่าแหวนปลอดภัยดี ก่อนจะปิดกล่องลงเสียง ‘ปึก’ ในอุ้งมือดังขึ้นก้องไปทั่วเรือนกระจก

คิดว่าเธอจะยอมแพ้แค่นี้หรือไง

* * *

ณ ห้องประชุมใหญ่ประจำพระราชวัง

การประชุมระหว่างจักรพรรดิและบรรดาสภาขุนนางจบลงแล้ว

ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นเพียงแค่การประชุมธรรมดาทั่วไป

แต่จู่ ๆ โยบาเนสกลับเอ่ยกับบรรดาขุนนางที่กำลังเตรียมตัวทยอยกันเดินออกไปจากห้องประชุมขึ้นมา

 ข้ามีเรื่องจะประกาศ 

ในที่สุดบรรดาขุนนางก็เริ่มสังเกตอะไรบางอย่างได้ จึงพากันเดินกลับไปนั่งประจำที่

จักรพรรดิมองจนแน่ใจว่าทุกคนนั่งประจำที่กันหมดแล้ว หลังจากนั้นจึงค่อยหันไปมองรูลลัก ลอมบาร์เดียและยิ้มเจ้าเล่ห์พลางเอ่ยขึ้นว่า

 ข้าโยบาเนส ตัดสินใจรับบุตรสาวของเบเจอร์ลอมบาร์เดีย ลาลาเน่ ลอมบาร์เดีย เข้ามาเป็นคู่ครองของเจ้าชายลำดับที่หนึ่งอาสทาน่า ขอให้ลอร์ดทุกท่านรับทราบตามนี้ด้วย 

สีหน้าผ่อนคลายราวกับเพียงแค่พูดล้อกันเล่นแต่ผลกระทบที่ตามมาหลังจากนั้นไม่น้อยเลย

 เฮือก! 

 ละ ลอมบาร์เดีย?  หลายคนที่ยังไม่ได้ยินข่าวลือได้แต่ตกตะลึง

 ข่าวลือเป็นเรื่องจริงสินะ! 

 ลอมบาร์เดียกับราชวงศ์……. 

ผู้คนที่พอจะได้ยินข่าวลือมาบ้าง ต่างก็ส่ายหน้าไม่อยากเชื่อ

 ด้วยการตัดสินใจเกี่ยวดองกันระหว่างตระกูลลอมบาร์เดียกับราชวงศ์ ข้าเชื่อว่าอาณาจักรแลมบลูของพวกเราจะต้องร่มเย็นเป็นสุข และสมบูรณ์แบบมากยิ่งกว่าเดิมอีกระดับอย่างแน่นอน 

ตอนนี้ขุนนางทุกคนต่างก็มองตรงไปยังจุดเดียวกันหมด

รูลลัก ลอมบาร์เดียกำลังจ้องจักรพรรดิด้วยใบหน้าบึ้งตึง

ปฏิกิริยาแตกต่างจากโยบาเนสที่ฉีกยิ้มกว้างน่ารังเกียจอย่างสิ้นเชิง และนั่นก็ทำให้ความใคร่รู้วาบผ่านขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา

ไม่ได้คุยกันไว้แล้วหรอกหรือ

หรือนี่เป็นการประกาศเอาเองฝ่ายเดียว

เพราะเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียที่เหล่าขุนนางรู้จักดี เป็นคนที่ไม่มีวันคิดอยากเกี่ยวดองกับราชวงศ์ด้วยการแต่งงานอย่างเด็ดขาด

นั่นไงล่ะ

รูลลัก ลอมบาร์เดียหยัดกายลุกขึ้นจากที่นั่ง

และเอ่ยเสียงทุ้มต่ำไปทางจักรพรรดิ

 กระหม่อมขอปฏิเสธพ่ะย่ะค่ะ 

 ปะ ปฏิเสธอย่างนั้นหรือ! 

คราวนี้ความโกลาหลปกคลุมไปทั่วห้องประชุมหนักยิ่งกว่าตอนที่โยบาเนสประกาศเรื่องการแต่งงาน

 ทะ ทำเช่นนั้นไม่อันตรายไปหน่อยหรือ 

 ปฏิเสธการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการของราชวงศ์เนี่ยนะ……. 

หากไม่ใช่ลอมบาร์เดีย แต่เป็นตระกูลชั้นสูงทั่วไปแล้วล่ะก็ การทำเช่นนี้ย่อมต้องถูกลากตัวไปลงโทษด้วยข้อหาขัดรับสั่งของจักรพรรดิมันทันทีแล้ว

 นี่คิดจะขัดคำสั่งข้าอย่างนั้นหรือ เจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย 

จักรพรรดิโยบาเนสจ้องรูลลักเขม็งด้วยความเย็นชา ในขณะที่เอ่ยถามขึ้น

แต่รูลลักกลับไม่แม้แต่จะกระพริบตาด้วยซ้ำไป

เขาจ้องหน้าจักรพรรดิไม่หลบสายตา เอ่ยปากอย่างชัดถ้อยชัดคำทุกคำพูด ราวกับต้องการประกาศแจ้งให้ทราบกันถ้วนหน้า

 ลอมบาร์เดียขอปฏิเสธการหมั้นหมายของราชวงศ์พ่ะย่ะค่ะ 

ไม่เพียงแค่นั้น รูลลักยังหมุนตัวเดินออกไปจากห้องประชุมโดยไม่ร่ำไม่ลา

ปกติก่อนที่จักรพรรดิจะประกาศเลิกประชุมอย่างเป็นทางการ จะไม่มีใครสามารถเดินออกไปจากห้องประชุมได้ทั้งสิ้น

ในตอนที่รูลลักเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู โยบาเนสก็ตวาดลั่นด้วยโทสะ

 หากเจ้าเปิดประตูออกไปตอนนี้ล่ะก็ จะไม่มีวันได้ย่างกรายเหยียบเข้ามาในเมืองหลวงอีก เจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย! 

นั่นหมายความว่า จะออกราชโองการสั่งห้ามเดินทางเข้าออก

ราชโองการสั่งห้ามไม่ให้เดินทางเข้าออกเมืองหลวงซึ่งเป็นผืนดินขององค์จักรพรรดิ เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการประชุมขุนนาง เป็นหนึ่งในมาตรการลงโทษที่เหล่าชนชั้นสูงหวาดกลัวมากที่สุด

แต่รูลลักที่ได้ยินเสียงตวาดนั้นเพียงแค่กระตุกมุมปากข้างหนึ่งขึ้นแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับโยบาเนส

 ราชโองการสั่งห้ามงั้นหรือ  มันเป็นการลงโทษที่บิดาของโยบาเนส อดีตจักรพรรดิเคยสั่งลงโทษรูลลักมาแล้วครั้งหนึ่ง

และหลังจากการต่อสู้มาตลอดระยะเวลายี่สิบปี อดีตจักรพรรดิก็ต้องพับเก็บราชโองการสั่งห้ามฉบับนั้นกลับคืนมา

รูลลักโค้งศีรษะให้โยบาเนสเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้นว่า  ทำตามที่ฝ่าบาทต้องการเถิดพ่ะย่ะค่ะ 

 เจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย! 

ได้ยินเสียงของโยบาเนสดังไล่ตามหลังมา แต่รูลลักไม่คิดที่จะสนใจอีกต่อไปแล้ว เขาผลักประตูบานใหญ่ออกสุดแรง ก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องประชุมด้วยฝีเท้าหนักแน่นมั่นคง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 168.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 168.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เล่ม 4 บทที่ 168.2

เบเจอร์ตะคอกเสียงดังใส่ลาลาเน่

 นี่เจ้ามีหัวคิดบ้างหรือไม่! จะก่อเรื่องอะไรก็ควรที่จะมีขอบเขตบ้าง!ทำตัวไร้หัวคิดเช่นนี้ ไม่ได้มีแค่เจ้าเท่านั้น แต่ตระกูลรูมันเองก็จะต้องเผชิญปัญหาใหญ่รู้มั้ย ลาลาเน่! 

 อา……  ลาลาเน่ได้แต่ก้มหน้านิ่ง

 เรื่องวันนี้ข้าจะถือเสียว่าไม่เคยเข้ามาเห็นก็แล้วกัน ท่านชายน้อยรูมัน! 

เบเจอร์กัดฟันพูดเสียงรอดไรฟัน ก่อนจะคว้าแขนของลาลาเน่เอาไว้

 พอเถอะครับ!  อาบีน็อกซ์รั้งมือของเบเจอร์เอาไว้ ราวกับต้องการที่จะหักมือข้างนั้นทิ้งลงได้ทุกเมื่อ

แต่ทว่า

 ……ปล่อยเถอะค่ะ ท่านอาบีน็อกซ์ 

ลาลาเน่เอ่ยว่าเสียงสั่นเทา

 ท่านลาลาเน่……. 

อาบีน็อกซ์มองแขนของลาลาเน่ที่ถูกมือหยาบกร้านของเบเจอร์จับไว้แน่นด้วยความทรมานใจ ราวกับตัวเขาเองเป็นฝ่ายเจ็บปวด

พอเห็นว่าลาลาเน่ส่ายหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง มือที่จับเบเจอร์เอาไว้ก็คลายออกอย่างไร้เรี่ยวแรง

 ไปเดี๋ยวนี้ ลาลาเน่ 

เบเจอร์ลากตัวลาลาเน่เดินออกไป ทำท่าราวกับไม่อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว

ส่วนลาลาเน่เองก็ได้แต่ยอมถูกมือหยาบกร้านของบิดาลากตัวออกไปโดยไม่อาจต่อต้านอะไรได้แม้แต่น้อย

และเบเจอร์ก็พบเข้ากับเธอที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูจนได้

เพียะ!

ไม่มีจังหวะให้หลบ ใบหน้าของเธอถูกตบจนสะบัดไปด้านข้าง

 ทะ เทีย! 

 ท่านฟีเรนเทีย!  อาบีน็อกซ์สะดุ้งตกใจ ส่วนลาลาเน่กรีดร้องเสียงดัง

ดูเหมือนปากจะแตก รู้สึกได้ถึงรสขมปร่าของเลือดที่ไหลออกมา

ถุย!เบเจอร์ถ่มน้ำลายใส่เธอที่ยืนนิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายตบจนหน้าหัน

 นังชั้นต่ำโสโครก กล้าดียังไงมาทำลายอนาคตของบุตรสาวข้า 

เบเจอร์โมโหเดือดพล่านจนหายใจหอบ ขนาดได้ลงไม้ลงมือตบเธอแล้วก็ยังไม่ช่วยให้เขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นได้อยู่ดี

แต่ก็ยังรีบร้อนพาตัวลาลาเน่ออกไปจากเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าจะมีใครมาเห็นฉากนี้เข้า

 ท่านฟีเรนเทีย เป็นอะไรมั้ยครับ  อาบีน็อกซ์รีบเข้ามาสำรวจเธอทันที

เธอผลักมือข้างนั้นออกไปเบา ๆ ถ่มเลือดผสมน้ำลายทิ้งลงบนพื้น

ที่จริงเธอเคยโดนตบหน้าแรงๆ แบบนี้มาก่อนแล้ว เลยไม่ได้ช็อกอะไรขนาดนั้น

ตอนนี้เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยสักนิดเธอมองหน้าอาบีน็อกซ์ตรง ๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

 จะเอายังไงต่อคะ 

 ท่านลาลาเน่ตอบรับคำขอแต่งงานของข้าแล้วอย่างแน่นอนครับ 

อาบีน็อกซ์ตอบทันที ขณะเดียวกันก็เดินไปเก็บกล่องแหวนที่กระเด็นตกอยู่บนพื้นขึ้นมา

 ตอนนี้ท่านลาลาเน่เป็นคู่หมั้นของข้า ข้าจะไม่ยอมแพ้แน่ครับ 

นัยน์ตาคู่นั้นลุกเป็นไฟ มันลุกโชนมากเสียจนไม่อาจคิดได้เลยว่า คน ๆ นี้ใช่อาบีน็อกซ์ผู้อ่อนโยนในทุก ๆ วันคนนั้นจริงหรือเปล่า

 ……แบบนี้ค่อยถูกใจหน่อย 

ถ้าจะปกป้องลาลาเน่ มันก็ต้องระดับนี้นี่แหละ

เธอหยิบกล่องแหวนมาจากมือของอาบีน็อกซ์ แล้วเอ่ยขึ้นว่า

 อันนี้ข้าจะนำไปมอบให้ลาลาเน่เองค่ะ 

อาบีน็อกซ์ดูจะงุนงงไปบ้าง แต่เพียงไม่นานก็พยักหน้าตกลงเขาเชื่อใจเธอ

เธอตรวจเช็คให้แน่ใจว่าแหวนปลอดภัยดี ก่อนจะปิดกล่องลงเสียง ‘ปึก’ ในอุ้งมือดังขึ้นก้องไปทั่วเรือนกระจก

คิดว่าเธอจะยอมแพ้แค่นี้หรือไง

* * *

ณ ห้องประชุมใหญ่ประจำพระราชวัง

การประชุมระหว่างจักรพรรดิและบรรดาสภาขุนนางจบลงแล้ว

ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นเพียงแค่การประชุมธรรมดาทั่วไป

แต่จู่ ๆ โยบาเนสกลับเอ่ยกับบรรดาขุนนางที่กำลังเตรียมตัวทยอยกันเดินออกไปจากห้องประชุมขึ้นมา

 ข้ามีเรื่องจะประกาศ 

ในที่สุดบรรดาขุนนางก็เริ่มสังเกตอะไรบางอย่างได้ จึงพากันเดินกลับไปนั่งประจำที่

จักรพรรดิมองจนแน่ใจว่าทุกคนนั่งประจำที่กันหมดแล้ว หลังจากนั้นจึงค่อยหันไปมองรูลลัก ลอมบาร์เดียและยิ้มเจ้าเล่ห์พลางเอ่ยขึ้นว่า

 ข้าโยบาเนส ตัดสินใจรับบุตรสาวของเบเจอร์ลอมบาร์เดีย ลาลาเน่ ลอมบาร์เดีย เข้ามาเป็นคู่ครองของเจ้าชายลำดับที่หนึ่งอาสทาน่า ขอให้ลอร์ดทุกท่านรับทราบตามนี้ด้วย 

สีหน้าผ่อนคลายราวกับเพียงแค่พูดล้อกันเล่นแต่ผลกระทบที่ตามมาหลังจากนั้นไม่น้อยเลย

 เฮือก! 

 ละ ลอมบาร์เดีย?  หลายคนที่ยังไม่ได้ยินข่าวลือได้แต่ตกตะลึง

 ข่าวลือเป็นเรื่องจริงสินะ! 

 ลอมบาร์เดียกับราชวงศ์……. 

ผู้คนที่พอจะได้ยินข่าวลือมาบ้าง ต่างก็ส่ายหน้าไม่อยากเชื่อ

 ด้วยการตัดสินใจเกี่ยวดองกันระหว่างตระกูลลอมบาร์เดียกับราชวงศ์ ข้าเชื่อว่าอาณาจักรแลมบลูของพวกเราจะต้องร่มเย็นเป็นสุข และสมบูรณ์แบบมากยิ่งกว่าเดิมอีกระดับอย่างแน่นอน 

ตอนนี้ขุนนางทุกคนต่างก็มองตรงไปยังจุดเดียวกันหมด

รูลลัก ลอมบาร์เดียกำลังจ้องจักรพรรดิด้วยใบหน้าบึ้งตึง

ปฏิกิริยาแตกต่างจากโยบาเนสที่ฉีกยิ้มกว้างน่ารังเกียจอย่างสิ้นเชิง และนั่นก็ทำให้ความใคร่รู้วาบผ่านขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา

ไม่ได้คุยกันไว้แล้วหรอกหรือ

หรือนี่เป็นการประกาศเอาเองฝ่ายเดียว

เพราะเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียที่เหล่าขุนนางรู้จักดี เป็นคนที่ไม่มีวันคิดอยากเกี่ยวดองกับราชวงศ์ด้วยการแต่งงานอย่างเด็ดขาด

นั่นไงล่ะ

รูลลัก ลอมบาร์เดียหยัดกายลุกขึ้นจากที่นั่ง

และเอ่ยเสียงทุ้มต่ำไปทางจักรพรรดิ

 กระหม่อมขอปฏิเสธพ่ะย่ะค่ะ 

 ปะ ปฏิเสธอย่างนั้นหรือ! 

คราวนี้ความโกลาหลปกคลุมไปทั่วห้องประชุมหนักยิ่งกว่าตอนที่โยบาเนสประกาศเรื่องการแต่งงาน

 ทะ ทำเช่นนั้นไม่อันตรายไปหน่อยหรือ 

 ปฏิเสธการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการของราชวงศ์เนี่ยนะ……. 

หากไม่ใช่ลอมบาร์เดีย แต่เป็นตระกูลชั้นสูงทั่วไปแล้วล่ะก็ การทำเช่นนี้ย่อมต้องถูกลากตัวไปลงโทษด้วยข้อหาขัดรับสั่งของจักรพรรดิมันทันทีแล้ว

 นี่คิดจะขัดคำสั่งข้าอย่างนั้นหรือ เจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย 

จักรพรรดิโยบาเนสจ้องรูลลักเขม็งด้วยความเย็นชา ในขณะที่เอ่ยถามขึ้น

แต่รูลลักกลับไม่แม้แต่จะกระพริบตาด้วยซ้ำไป

เขาจ้องหน้าจักรพรรดิไม่หลบสายตา เอ่ยปากอย่างชัดถ้อยชัดคำทุกคำพูด ราวกับต้องการประกาศแจ้งให้ทราบกันถ้วนหน้า

 ลอมบาร์เดียขอปฏิเสธการหมั้นหมายของราชวงศ์พ่ะย่ะค่ะ 

ไม่เพียงแค่นั้น รูลลักยังหมุนตัวเดินออกไปจากห้องประชุมโดยไม่ร่ำไม่ลา

ปกติก่อนที่จักรพรรดิจะประกาศเลิกประชุมอย่างเป็นทางการ จะไม่มีใครสามารถเดินออกไปจากห้องประชุมได้ทั้งสิ้น

ในตอนที่รูลลักเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู โยบาเนสก็ตวาดลั่นด้วยโทสะ

 หากเจ้าเปิดประตูออกไปตอนนี้ล่ะก็ จะไม่มีวันได้ย่างกรายเหยียบเข้ามาในเมืองหลวงอีก เจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย! 

นั่นหมายความว่า จะออกราชโองการสั่งห้ามเดินทางเข้าออก

ราชโองการสั่งห้ามไม่ให้เดินทางเข้าออกเมืองหลวงซึ่งเป็นผืนดินขององค์จักรพรรดิ เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการประชุมขุนนาง เป็นหนึ่งในมาตรการลงโทษที่เหล่าชนชั้นสูงหวาดกลัวมากที่สุด

แต่รูลลักที่ได้ยินเสียงตวาดนั้นเพียงแค่กระตุกมุมปากข้างหนึ่งขึ้นแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับโยบาเนส

 ราชโองการสั่งห้ามงั้นหรือ  มันเป็นการลงโทษที่บิดาของโยบาเนส อดีตจักรพรรดิเคยสั่งลงโทษรูลลักมาแล้วครั้งหนึ่ง

และหลังจากการต่อสู้มาตลอดระยะเวลายี่สิบปี อดีตจักรพรรดิก็ต้องพับเก็บราชโองการสั่งห้ามฉบับนั้นกลับคืนมา

รูลลักโค้งศีรษะให้โยบาเนสเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้นว่า  ทำตามที่ฝ่าบาทต้องการเถิดพ่ะย่ะค่ะ 

 เจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย! 

ได้ยินเสียงของโยบาเนสดังไล่ตามหลังมา แต่รูลลักไม่คิดที่จะสนใจอีกต่อไปแล้ว เขาผลักประตูบานใหญ่ออกสุดแรง ก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องประชุมด้วยฝีเท้าหนักแน่นมั่นคง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+