เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 92.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 92.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยามท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว

ชานาเนสกำลังยืนอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในเมืองหลวง

มันเป็นบ้านขนาดกะทัดรัดอย่างที่สามัญชนที่พอจะมีฐานะเงินทองอยู่บ้างอาศัยกัน ไม่ใช่คฤหาสน์ของพวกชนชั้นสูง

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง ที่จู่ๆ บิดากับน้องชายก็ลากผู้หญิงคนหนึ่งมาคุกเข่าลงต่อหน้านาง

ผู้หญิงคนนั้นที่บอกว่ามาจากเขตแดนชูลส์และที่คอของผู้หญิงคนนั้นก็มีสร้อยคอเส้นนั้น ที่เป็นของดูต่างหน้ามารดาที่นางพยายามหาแทบตายสวมอยู่

“เวสติน ชูลส์มอบให้ข้าค่ะ บอกว่าเป็นของที่ตกทอดกันมาในตระกูลชูลส์…”

ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงสะอื้นไห้

“ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีภริยากับบุตรแล้ว ก็ยังคบหากันมาโดยตลอดค่ะ ขออภัยจริงๆ ค่ะ”

ชานาเนสได้แต่อดกลั้นไม่ให้ตัวเองกรีดเสียงร้องออกมา

“แค่ไหน นานแค่ไหนแล้วคะ”

“ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา…”

เจ็ดปี

ตัวเลขอันแสนเลวร้ายนั่น ทำให้ชานาเนสต้องหลับตาแน่นและสุดท้ายถึงมาเคาะประตูบ้านที่เวสติน ชูลส์จัดเตรียมเอาไว้ให้หญิงนางนั้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย

เพียงครู่ เสียงแกรกแผ่วเบาก็ดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออก

“มาเรีย ไปไหนมาเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้…”

เวสตินเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ สำหรับสวมใส่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาเปิดประตูโดยไม่คิดอะไร แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงัก

ใบหน้ายามพบว่าชานาเนสยืนอยู่หน้าประตูบ้านค่อยๆ ซีดเผือดลง

“จะ…เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง…”

ชานาเนสยืนจ้องหน้าเวสตินเงียบๆ ไม่พูดไม่จา

“คะ คือว่านี่น่ะ…บ้านเพื่อน…ถ้าจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นน่ะครับ ชานาเนส”

เวสตินกำลังโกหกนางอีกครั้ง

ทั้งยังยิ้มเศร้าดูน่าสงสารให้เห็นเป็นการปิดท้าย ก่อนจะพูดต่อ

“ข้ารู้ว่าสถานการณ์มันชวนให้เข้าใจผิด แต่ชานาเนสเชื่อใจข้าใช่มั้ยครับ”

ด้วยใบหน้าที่นางเคยตกหลุมรักมาโดยตลอด

แต่วินาทีนั้นมันกลับทำให้ชานาเนสแน่ใจ

ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เคยสัญญากับนางว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิตอีกต่อไปแล้ว

ชานาเนสยกมือขึ้นตบลงบนแก้มของเวสตินด้วยแรงทั้งหมดที่มี

เพียะ-!

เสียงฝ่ามือกระทบผิวเนื้อดังก้องไปทั่วบ้านอันเงียบสงบ

“เวสติน ชูลส์”

ชานาเนสพูดด้วยเสียงเย็นชาที่เวสตินไม่เคยได้ยินมาก่อน

“เจ้าไม่มีบ้านให้กลับอีกต่อไปแล้ว”

นางหมุนตัวหันหลังกลับ เดินตรงไปยังรถม้าที่จอดอยู่ในบริเวณนั้นอย่างไม่ลังเล ไม่มีการหันหลังเหลียวกลับไปมองแม้แต่ครั้งเดียว

เวสตินยืนกุมแก้มข้างที่ถูกตบ ก่อนจะตั้งสติขึ้นมาได้ในฉับพลัน จึงรีบวิ่งตามหลังไปด้วยความร้อนรน

“ให้ตายเถอะ! ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยวะ!”

เวสตินเพิ่งจะกู้เงินจำนวนแปดพันเหรียญทองมาจากธนาคารลอมบาร์เดีย ในหัวสมองของเขาจึงขาวโพลนไปหมด

เขาขมวดคิ้วแน่นด้วยความเครียดวิ่งตามหลังชานาเนส แต่แล้วในจังหวะที่กำลังจะวิ่งออกมาพ้นซอย

ตึก

เด็กหนุ่มสองคนก็โผล่ออกมาขวางหน้าเวสตินเอาไว้

“คิลลีวู? เมโลน? พะ…พวกเจ้ามาที่นี่ได้ยังไง…”

สองแฝดเติบโตขึ้นมาก ตอนนี้พวกเขาสูงระดับเดียวกับบิดาแล้ว

“หลบไปก่อน ข้ามีเรื่องต้องพูดกับมารดาของพวกเจ้า…”

“อย่าตามมานะครับ”

คิลลีวูยกมือขึ้นยันหน้าอกของเวสตินในขณะที่พูดขึ้น

“ถ้ายังมายุ่มย่ามกับท่านแม่อีก พวกข้าไม่อยู่เฉยแน่ครับ”

เมโลนกัดฟันกรอด

สองแฝดจ้องเวสตินด้วยนัยน์ตาเย็นชาเป็นการเตือน ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปเมื่อได้ยินเสียงรถม้าออกเดินทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เหมือนอย่างที่ชานาเนสเคยทำ ทั้งคู่ไม่เหลียวหลังกลับไปมอง เพียงแค่กระโดดขึ้นหลังม้า แล้วค่อยๆ ควบม้าจากไป

กุบกับ กุบกับ

สองแฝดค่อยๆ ห่างออกไปไกล พวกเขาควบม้าตามหลังรถม้าติดสัญลักษณ์ตระกูลลอมบาร์เดียที่ทำจากทองคำ ราวกับต้องการจะตามไปอารักขา

เวสตินและชานาเนสหย่ากันในที่สุด

เพียงแต่แตกต่างจากเมื่อชีวิตก่อน คราวนี้คนเลวได้รับบทลงโทษอย่างสาสม

เวสตินกับมาเรีย แพทโทรนถูกขังคุกด้วยข้อหายักยอกเงินทองของตระกูลลอมบาร์เดีย

ต่อให้พ้นโทษออกจากคุกแล้ว ถึงตอนนั้นก็ยังมีหนี้สินจำนวนแปดพันเหรียญทองที่ยืมมาจากลอมบาร์เดียรอเวสตินอยู่

แน่นอนว่าตระกูลชูลส์เองก็พังเละไม่เป็นท่าไปตามๆ กัน

เพราะท่านปู่เป็นคนออกหน้าลงมือจัดการด้วยตัวเอง

พอเรียกคืนเงินลงทุนกับเงินสนับสนุนที่เคยมอบให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตระกูลชูลส์ก็ไม่เหลืออะไรอีกแม้แต่อย่างเดียว อีกทั้งท่านปู่ยังกดดันสภาขุนนาง จัดการลบชื่อตระกูลชูลส์ออกจากทะเบียนรายชื่ออีกด้วย

ตอนนี้พวกนั้นสูญเสียเขตแดนไปแล้ว ส่วนพวกเครือญาติของเจ้านั่นจะหนีหัวซุกหัวซุนอพยพไปอยู่ที่ไหนกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฟีเรนเทียต้องมานั่งสนใจ

เธอเป็นห่วงชานาเนสมากกว่า

หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาได้หนึ่งเดือนแล้ว นางเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่ยอมออกไปไหน

ทุกวันเธอใช้สองแฝดเป็นข้ออ้างโผล่ไปหา แต่ก็ไม่ได้พบหน้าชานาเนสอยู่ดี

“เฮ้อ…”

แต่แล้วในตอนที่เธอด่าสาปส่งไอ้แมลงอย่างเวสตินไปพลาง ตั้งใจจะเปิดประตูบ้านของสองแฝดออก

“ตายแล้ว เทียนี่เอง”

ชานาเนสก็เปิดประตูเดินออกมาจากข้างในพอดี นางยิ้มอย่างสดใสต้อนรับเธอ

“อื้อ…”

ชั่วขณะเธอเผลอตกใจมากจนพูดอะไรไม่ออก

“จะไปไหนเหรอคะ”

“ไปทำงานน่ะ”

“ทำงานเหรอคะ”

“ตั้งแต่วันนี้ข้าจะเป็นคนบริหารกิจการขุดเจาะเหมืองแร่ของลอมบาร์เดีย งานของตระกูลที่ผ่านมาวางมือไป ตอนนี้ถึงเวลาออกไปรับผิดชอบทำงานทำการได้แล้วละ”

รู้สึกเหมือนกับมีประกายส่องสว่างออกมาจากใบหน้าของชานาเนสที่พูดเช่นนั้นเลย

มันไม่ใช่รอยยิ้มน่ากระอักกระอ่วนที่เสริมเติมแต่งขึ้นมา

ชานาเนสดูผ่อนคลายมากจริงๆ

“สองแฝดอยู่ข้างใน เข้าไปเล่นกันเถอะ”

“ค่า…”

นางยิ้มหวานเป็นครั้งสุดท้าย ลูบผมเธอ ก่อนจะเดินไปตามโถงทางเดิน

ถึงแม้จะเป็นภาพด้านหลังยามนางเดินจากไปเพียงลำพัง แต่มันกลับดูยิ่งใหญ่มากกว่าตอนไหนๆ

ยืดหลังตรง เชิดหน้าขึ้น ไม่สนใจสายตาใครทั้งสิ้น

เป็นภาพลักษณ์ที่สมกับเป็นชานาเนสมากที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 92.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 92.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยามท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว

ชานาเนสกำลังยืนอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในเมืองหลวง

มันเป็นบ้านขนาดกะทัดรัดอย่างที่สามัญชนที่พอจะมีฐานะเงินทองอยู่บ้างอาศัยกัน ไม่ใช่คฤหาสน์ของพวกชนชั้นสูง

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง ที่จู่ๆ บิดากับน้องชายก็ลากผู้หญิงคนหนึ่งมาคุกเข่าลงต่อหน้านาง

ผู้หญิงคนนั้นที่บอกว่ามาจากเขตแดนชูลส์และที่คอของผู้หญิงคนนั้นก็มีสร้อยคอเส้นนั้น ที่เป็นของดูต่างหน้ามารดาที่นางพยายามหาแทบตายสวมอยู่

“เวสติน ชูลส์มอบให้ข้าค่ะ บอกว่าเป็นของที่ตกทอดกันมาในตระกูลชูลส์…”

ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงสะอื้นไห้

“ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีภริยากับบุตรแล้ว ก็ยังคบหากันมาโดยตลอดค่ะ ขออภัยจริงๆ ค่ะ”

ชานาเนสได้แต่อดกลั้นไม่ให้ตัวเองกรีดเสียงร้องออกมา

“แค่ไหน นานแค่ไหนแล้วคะ”

“ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา…”

เจ็ดปี

ตัวเลขอันแสนเลวร้ายนั่น ทำให้ชานาเนสต้องหลับตาแน่นและสุดท้ายถึงมาเคาะประตูบ้านที่เวสติน ชูลส์จัดเตรียมเอาไว้ให้หญิงนางนั้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย

เพียงครู่ เสียงแกรกแผ่วเบาก็ดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออก

“มาเรีย ไปไหนมาเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้…”

เวสตินเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ สำหรับสวมใส่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาเปิดประตูโดยไม่คิดอะไร แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงัก

ใบหน้ายามพบว่าชานาเนสยืนอยู่หน้าประตูบ้านค่อยๆ ซีดเผือดลง

“จะ…เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง…”

ชานาเนสยืนจ้องหน้าเวสตินเงียบๆ ไม่พูดไม่จา

“คะ คือว่านี่น่ะ…บ้านเพื่อน…ถ้าจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นน่ะครับ ชานาเนส”

เวสตินกำลังโกหกนางอีกครั้ง

ทั้งยังยิ้มเศร้าดูน่าสงสารให้เห็นเป็นการปิดท้าย ก่อนจะพูดต่อ

“ข้ารู้ว่าสถานการณ์มันชวนให้เข้าใจผิด แต่ชานาเนสเชื่อใจข้าใช่มั้ยครับ”

ด้วยใบหน้าที่นางเคยตกหลุมรักมาโดยตลอด

แต่วินาทีนั้นมันกลับทำให้ชานาเนสแน่ใจ

ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เคยสัญญากับนางว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิตอีกต่อไปแล้ว

ชานาเนสยกมือขึ้นตบลงบนแก้มของเวสตินด้วยแรงทั้งหมดที่มี

เพียะ-!

เสียงฝ่ามือกระทบผิวเนื้อดังก้องไปทั่วบ้านอันเงียบสงบ

“เวสติน ชูลส์”

ชานาเนสพูดด้วยเสียงเย็นชาที่เวสตินไม่เคยได้ยินมาก่อน

“เจ้าไม่มีบ้านให้กลับอีกต่อไปแล้ว”

นางหมุนตัวหันหลังกลับ เดินตรงไปยังรถม้าที่จอดอยู่ในบริเวณนั้นอย่างไม่ลังเล ไม่มีการหันหลังเหลียวกลับไปมองแม้แต่ครั้งเดียว

เวสตินยืนกุมแก้มข้างที่ถูกตบ ก่อนจะตั้งสติขึ้นมาได้ในฉับพลัน จึงรีบวิ่งตามหลังไปด้วยความร้อนรน

“ให้ตายเถอะ! ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยวะ!”

เวสตินเพิ่งจะกู้เงินจำนวนแปดพันเหรียญทองมาจากธนาคารลอมบาร์เดีย ในหัวสมองของเขาจึงขาวโพลนไปหมด

เขาขมวดคิ้วแน่นด้วยความเครียดวิ่งตามหลังชานาเนส แต่แล้วในจังหวะที่กำลังจะวิ่งออกมาพ้นซอย

ตึก

เด็กหนุ่มสองคนก็โผล่ออกมาขวางหน้าเวสตินเอาไว้

“คิลลีวู? เมโลน? พะ…พวกเจ้ามาที่นี่ได้ยังไง…”

สองแฝดเติบโตขึ้นมาก ตอนนี้พวกเขาสูงระดับเดียวกับบิดาแล้ว

“หลบไปก่อน ข้ามีเรื่องต้องพูดกับมารดาของพวกเจ้า…”

“อย่าตามมานะครับ”

คิลลีวูยกมือขึ้นยันหน้าอกของเวสตินในขณะที่พูดขึ้น

“ถ้ายังมายุ่มย่ามกับท่านแม่อีก พวกข้าไม่อยู่เฉยแน่ครับ”

เมโลนกัดฟันกรอด

สองแฝดจ้องเวสตินด้วยนัยน์ตาเย็นชาเป็นการเตือน ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปเมื่อได้ยินเสียงรถม้าออกเดินทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เหมือนอย่างที่ชานาเนสเคยทำ ทั้งคู่ไม่เหลียวหลังกลับไปมอง เพียงแค่กระโดดขึ้นหลังม้า แล้วค่อยๆ ควบม้าจากไป

กุบกับ กุบกับ

สองแฝดค่อยๆ ห่างออกไปไกล พวกเขาควบม้าตามหลังรถม้าติดสัญลักษณ์ตระกูลลอมบาร์เดียที่ทำจากทองคำ ราวกับต้องการจะตามไปอารักขา

เวสตินและชานาเนสหย่ากันในที่สุด

เพียงแต่แตกต่างจากเมื่อชีวิตก่อน คราวนี้คนเลวได้รับบทลงโทษอย่างสาสม

เวสตินกับมาเรีย แพทโทรนถูกขังคุกด้วยข้อหายักยอกเงินทองของตระกูลลอมบาร์เดีย

ต่อให้พ้นโทษออกจากคุกแล้ว ถึงตอนนั้นก็ยังมีหนี้สินจำนวนแปดพันเหรียญทองที่ยืมมาจากลอมบาร์เดียรอเวสตินอยู่

แน่นอนว่าตระกูลชูลส์เองก็พังเละไม่เป็นท่าไปตามๆ กัน

เพราะท่านปู่เป็นคนออกหน้าลงมือจัดการด้วยตัวเอง

พอเรียกคืนเงินลงทุนกับเงินสนับสนุนที่เคยมอบให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตระกูลชูลส์ก็ไม่เหลืออะไรอีกแม้แต่อย่างเดียว อีกทั้งท่านปู่ยังกดดันสภาขุนนาง จัดการลบชื่อตระกูลชูลส์ออกจากทะเบียนรายชื่ออีกด้วย

ตอนนี้พวกนั้นสูญเสียเขตแดนไปแล้ว ส่วนพวกเครือญาติของเจ้านั่นจะหนีหัวซุกหัวซุนอพยพไปอยู่ที่ไหนกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฟีเรนเทียต้องมานั่งสนใจ

เธอเป็นห่วงชานาเนสมากกว่า

หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาได้หนึ่งเดือนแล้ว นางเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่ยอมออกไปไหน

ทุกวันเธอใช้สองแฝดเป็นข้ออ้างโผล่ไปหา แต่ก็ไม่ได้พบหน้าชานาเนสอยู่ดี

“เฮ้อ…”

แต่แล้วในตอนที่เธอด่าสาปส่งไอ้แมลงอย่างเวสตินไปพลาง ตั้งใจจะเปิดประตูบ้านของสองแฝดออก

“ตายแล้ว เทียนี่เอง”

ชานาเนสก็เปิดประตูเดินออกมาจากข้างในพอดี นางยิ้มอย่างสดใสต้อนรับเธอ

“อื้อ…”

ชั่วขณะเธอเผลอตกใจมากจนพูดอะไรไม่ออก

“จะไปไหนเหรอคะ”

“ไปทำงานน่ะ”

“ทำงานเหรอคะ”

“ตั้งแต่วันนี้ข้าจะเป็นคนบริหารกิจการขุดเจาะเหมืองแร่ของลอมบาร์เดีย งานของตระกูลที่ผ่านมาวางมือไป ตอนนี้ถึงเวลาออกไปรับผิดชอบทำงานทำการได้แล้วละ”

รู้สึกเหมือนกับมีประกายส่องสว่างออกมาจากใบหน้าของชานาเนสที่พูดเช่นนั้นเลย

มันไม่ใช่รอยยิ้มน่ากระอักกระอ่วนที่เสริมเติมแต่งขึ้นมา

ชานาเนสดูผ่อนคลายมากจริงๆ

“สองแฝดอยู่ข้างใน เข้าไปเล่นกันเถอะ”

“ค่า…”

นางยิ้มหวานเป็นครั้งสุดท้าย ลูบผมเธอ ก่อนจะเดินไปตามโถงทางเดิน

ถึงแม้จะเป็นภาพด้านหลังยามนางเดินจากไปเพียงลำพัง แต่มันกลับดูยิ่งใหญ่มากกว่าตอนไหนๆ

ยืดหลังตรง เชิดหน้าขึ้น ไม่สนใจสายตาใครทั้งสิ้น

เป็นภาพลักษณ์ที่สมกับเป็นชานาเนสมากที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+