เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 80.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 80.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ย่านเซดาคิวนาร์มีร้านค้าจากเขตแดนไอบันอยู่ใช่หรือเปล่าคะ”

“ครับ อยู่ซอยถัดไปนี่เองครับ”

“เราไปที่นั่นกันเถอะค่ะ”

ตระกูลไอบันจากทางเหนือที่เคยพบหน้าเมื่อตอนที่ท่านพ่อได้รับเหรียญกิตติคุณครั้งก่อน เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงด้านสินแร่เป็นอย่างมาก

คงเพราะเป็นเขตแดนที่มีภูเขาจำนวนมาก พวกเขาจึงมีสินแร่ทุกอย่างตั้งแต่ทองไปจนถึงแร่ที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างแกรไฟต์และถ่านหิน

โดยเฉพาะอัญมณีจากเขตแดนไอบัน ความบริสุทธิ์ของมันสูงมาก ทั้งขนาดก็ยังค่อนข้างใหญ่ พวกเขาจึงได้ทำการเปิดร้านค้าที่จัดการบริหารเองโดยตรงขึ้นในย่านการค้าเซดาคิวนาร์แห่งนี้

มันเป็นสถานที่ที่วางขายสินค้าที่ทำจากอัญมณีที่ได้จากเขตแดน โดยมีช่างอัญมณีเป็นผู้เจียระไนขึ้นเพราะอย่างนั้นถึงได้เต็มแน่นไปด้วยชนชั้นสูงตลอดเวลา วันนี้เองก็เป็นเช่นนั้น

ผู้คนมากมายต่างก็เดินเข้าออกประตูที่อยู่ด้านล่างป้ายสีสว่างที่เขียนว่า <ไอบัน> กันอย่างขวักไขว่

ที่นั่นก็มีช่างฝีมือคนนั้น คนที่มีความสามารถในการเจียระไนอัญมณี เรียกได้ว่าไม่มีชิ้นไหนที่เขาไม่อาจเจียระไนออกมาได้ ทั้งยังทำให้อัญมณีชิ้นนั้นเปลี่ยนเป็นอัญมณีชิ้นที่งามที่สุดในโลกอีกด้วย

“เข้าไปกันเถอะครับ ท่านฟีเรนเทีย”

เครย์ลีบันช่วยจับประตูเอาไว้ให้พลางเอ่ยพูด

ทันทีที่เข้าไปด้านใน ก็เห็นผู้คนมากมายกำลังนั่งรับคำปรึกษาและซื้ออัญมณีอยู่ทั่วร้านค้าขนาดใหญ่

ในบรรดาผู้คนเหล่านั้นมีอยู่หลายคนที่เริ่มหันมามองเธอ แล้วกระซิบกระซาบพูดคุยกันเอง

“เด็กคนนั้นที่เพิ่งเข้ามา…”

“ตระกูลลอมบาร์เดียใช่หรือเปล่านะ”

“น่าจะใช่นะ…”

เพราะงานเลี้ยงประจำอาณาจักรกับงานวันเกิดของเธอ ทำให้มีคนรู้จักเธอเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย

ในเมื่อเธอเกิดมาในตระกูลลอมบาร์เดีย มันจึงเป็นชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว

ฟีเรนเทียเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ด้านในสุดท่ามกลางสายตาของผู้คน

เธอเห็นชายสวมชุดเครื่องแบบผู้ดูแลรับผิดชอบเคาน์เตอร์ตัวนั้น เขายืนอยู่ภายใต้แสงไฟสว่างไสว

“ยินดีต้อนรับครับ คุณหนูฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย”

ว่าแล้วเชียว รู้จักเธออยู่แล้วนี่เอง

ในสถานที่ที่ต้องรับมือกับลูกค้าชั้นสูงมากมายแบบนี้ การรู้ข้อมูลของบุคคลสำคัญถือว่าเป็นจุดแข็งในการแข่งขันอย่างหนึ่ง

สิ่งที่เธอเรียนรู้เป็นสิ่งแรกในตอนที่คอยช่วยงานอยู่ข้างกายท่านปู่ก็คือเรื่องพวกนั้นเช่นกัน

พวกข้อมูลอย่างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสำคัญทั้งหลาย หรือโครงสร้างครอบครัวของตระกูลขุนนางชั้นสูงในภาคกลาง เหนือ ใต้ ออก ตกของอาณาจักรทั้งหมด

“มาเยี่ยมชม ‘ไอบัน’ ของทางเราเป็นครั้งแรกสินะครับ”

ท่าทางคงจะลอบประเมินเธอเสร็จแล้วสินะ

ฟีเรนเทียพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเอ่ยพูดกับชายคนนั้น

“ไม่ใช่พวกของที่วางอยู่ตรงนี้ อยากจะดู ‘สินค้าพิเศษ’ น่ะค่ะ”

‘สินค้าพิเศษ’ ที่เธอเรียกร้องนั่น ไม่ใช่ของที่เจียระไนขึ้นจากช่างอัญมณีทั่วไป แต่เป็นอัญมณีชนิดพิเศษที่เป็นผลงานชั้นยอดจากช่างฝีมือของไอบัน

ใบหน้ายิ้มแย้มของชายคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองเครย์ลีบันที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

“มาด้วยกันหรือครับ”

หมายความว่ารู้จักเธอ แต่เขาไม่รู้จักเครย์ลีบัน

เครย์ลีบันเองก็คงจะรู้สึกได้ ถึงได้หน้าบึ้งตึงเล็กน้อยในขณะที่เอ่ยตอบ

“เครย์ลีบัน เพลเลสครับ”

“อืม ในเมื่อคุณหนูลอมบาร์เดียรับรองตัวตนให้ ถ้าอย่างนั้นเข้าไปพร้อมกันก็ได้ครับ”

พนักงานบอกปัดลวกๆ ก่อนจะผลักประตูที่เชื่อมต่อเข้าไปด้านในออก

ดูเหมือนเครย์ลีบันจะโกรธเคืองที่ถูกปฏิบัติราวกับคนไร้ฐานะเป็นอย่างมาก

เครย์ลีบันในชาติก่อนเป็นคนที่จะได้รับสืบทอดตำแหน่งผู้ดูแลกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียต่อจากโรมาเชีย ดิลลาร์ดผู้เป็นบิดา เขาจึงเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่

แม้แต่ร้านขายเสื้อผ้าเองก็เป็นท่านพ่อที่รับหน้าที่เป็นเหมือนป้ายร้าน ดังนั้นเครย์ลีบันจึงไม่ต่างอะไรจากการถูกกลบรัศมีฝังเอาไว้

เธอตบหลังของเครย์ลีบันเบาๆ เป็นการปลอบโยน

อดทนอีกหน่อยนะ

หากงานคราวนี้เสร็จสิ้นลง จะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเครย์ลีบัน เพลเลสอีกต่อไป

เพราะร้านค้าเพลเลสที่ตั้งตามนามสกุลของเขาจะโด่งดังไปทั่วอาณาจักรยังไงล่ะ

ผ่านทางเดินที่ถูกปูด้วยพรมผืนนุ่มตามหลังพนักงานไป พวกเราก็เข้ามาถึงห้องด้านใน

การรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขนาดที่ต้องใช้กุญแจหลายดอกถึงจะไขมันออกได้

พอประตูถูกเปิดออก แสงระยิบระยับจากชั้นวางอัญมณีก็สะท้อนส่องสว่างเป็นประกายระยิบระยับไปทั่ว

เธอพยายามควบคุมหัวใจที่เต้นโครมครามไม่หยุด แสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ในขณะที่กวาดสายตามองสินค้าที่วางอยู่ในตู้กระจก

ถึงแม้จะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสินค้าพิเศษด้านในร้านไอบัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นของจริงแบบนี้

“มีอัญมณีชิ้นไหนที่มองหาเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ”

“อืม…”

ฟีเรนเทียมองส่องเข้าไปข้างในตู้กระจก พยายามมองหาของที่เป็นชิ้นเป้าหมายในการมาเยือนของเธอวันนี้

พอเห็นเธอทำแบบนั้น ชายคนนี้จึงส่งหมอนรองใบเล็กที่มีอัญมณีหลากหลายชิ้นวางอยู่ยื่นมาให้ตรงหน้าเธอ

“อันนี้เป็นเช่นไรครับ”

เธอมองของพวกนั้น ก่อนจะหันไปมองชายคนนั้นอีกครั้ง

รู้สึกอยากจะหัวเราะชะมัด

คนคนนี้กำลังดูถูกเธออยู่สินะเนี่ย

อุตส่าห์วางใจ เห็นว่ายอมพาเข้ามาถึงห้องด้านในแล้วแท้ๆ

สิ่งที่พนักงานสวมถุงมือสีขาวให้เธอดู มันก็ใหญ่อยู่หรอก แต่มันเป็นแค่เศษชิ้นส่วนที่คัตติ้งออกมาไม่สวย และระดับความบริสุทธิ์ของอัญมณีนั้นถือว่าต่ำมากอีกด้วย

ท่าทางพนักงานชายคนนี้คงคิดที่จะทดสอบสายตาของเธอสินะ

ขนาดใหญ่ มองผิวเผินดูงดงามหรูหรา หากเป็นคนอื่นที่มองไม่ออกละก็ คงจะหลงซื้อไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นแค่ของเกรดต่ำ

บางทีคงจะดูถูกกันเพราะเห็นว่าเธออายุยังน้อยนั่นแหละ

ฟีเรนเทียพูดกับพนักงานที่ยังคงยืนรอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างหน้าไม่อาย โดยไม่ได้แสดงอาการโมโหหรือแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจออกไป

เธอเพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงบ่งบอกว่าจะยอมปิดตาข้างหนึ่ง ช่วยมองข้ามความผิดพลาดมหันต์นี้ก็เท่านั้น

“จะให้โอกาสอีกครั้งนะคะ ไปเอาสินค้าที่เหมาะสมออกมาด้วยค่ะ”

“…ทราบแล้วครับ”

พนักงานหลุบสายตาลงต่ำ โค้งศีรษะลงด้วยความนอบน้อม

“ไม่ดีกว่า ข้าขอไปเลือกเองนะคะ”

เธอพูดแบบนั้น ก่อนที่จะค่อยๆ เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าตู้กระจก

และผ่านไปได้ไม่นาน เธอก็หาสิ่งที่ต้องการเจอ

“อันนั้น”

มันเป็นอัญมณีชิ้นที่วางตั้งอยู่ตรงกลางท่ามกลางบรรดาสินค้าพิเศษ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่แสงสว่างภายในห้องส่องกระทบลงมาเป็นประกายแวววาวได้อย่างชัดเจนที่สุด

มันแตกต่างจากสินค้าชิ้นอื่นที่ราบเรียบดูดาษดื่นจนจืดชืด ด้วยคัตติ้งที่ประณีตและละเอียดลออ จึงช่วยดึงเอาความงดงามของแร่อัญมณีออกมาได้มากที่สุด มันคือเพริโดไทต์สีเขียวอ่อน

“คนที่เจียระไนผลงานชิ้นนั้นออกมา ตอนนี้อยู่ที่นี่ใช่มั้ยคะ ข้าอยากพบเขา”

“เรื่องนั้นทราบได้ยังไง…ไม่สิ นั่นคงจะเป็นปัญหาเล็กน้อยครับ”

นึกอยู่แล้วว่าจะต้องออกมาเป็นแบบนี้

เจ้าตระกูลไอบันย่อมไม่มีทางปล่อยให้ใครหน้าไหนพบกับช่างฝีมือที่พวกเขาหวงแหนได้ง่ายๆ อยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นเธอถึงได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

ฟีเรนเทียหลีกทางไปด้านข้างครึ่งก้าว หันไปมองหน้าเครย์ลีบัน

เธอเคยเกริ่นกับเขาเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว เครย์ลีบันจึงเดินก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว

“ขอแนะนำตัวกันอีกครั้งก็แล้วกัน ผู้ดูแลร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันกับร้านค้าเพลเลส เครย์ลีบัน เพลเลสครับ”

“อา…”

พนักงานกะพริบตาปริบๆ ท่าทางจะตกใจมากเอาการ

คนที่เขาดูถูกและเมินเฉยคนนั้น ที่จริงแล้วเป็นถึงผู้ดูแลร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันอย่างนั้นเหรอเนี่ย

คงจะตกใจจนใจแกว่งไปเลยละสิ

เครย์ลีบันเรียกร้องด้วยเสียงทุ้มต่ำหนักแน่น ทั้งยังเย็นชาเป็นพิเศษคล้ายกับแก้แค้นเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้

“ช่างฝีมือที่เจียระไนอัญมณีชิ้นนี้ ช่วยบอกเขาได้มั้ยครับว่าข้าอยากพบ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 80.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 80.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ย่านเซดาคิวนาร์มีร้านค้าจากเขตแดนไอบันอยู่ใช่หรือเปล่าคะ”

“ครับ อยู่ซอยถัดไปนี่เองครับ”

“เราไปที่นั่นกันเถอะค่ะ”

ตระกูลไอบันจากทางเหนือที่เคยพบหน้าเมื่อตอนที่ท่านพ่อได้รับเหรียญกิตติคุณครั้งก่อน เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงด้านสินแร่เป็นอย่างมาก

คงเพราะเป็นเขตแดนที่มีภูเขาจำนวนมาก พวกเขาจึงมีสินแร่ทุกอย่างตั้งแต่ทองไปจนถึงแร่ที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างแกรไฟต์และถ่านหิน

โดยเฉพาะอัญมณีจากเขตแดนไอบัน ความบริสุทธิ์ของมันสูงมาก ทั้งขนาดก็ยังค่อนข้างใหญ่ พวกเขาจึงได้ทำการเปิดร้านค้าที่จัดการบริหารเองโดยตรงขึ้นในย่านการค้าเซดาคิวนาร์แห่งนี้

มันเป็นสถานที่ที่วางขายสินค้าที่ทำจากอัญมณีที่ได้จากเขตแดน โดยมีช่างอัญมณีเป็นผู้เจียระไนขึ้นเพราะอย่างนั้นถึงได้เต็มแน่นไปด้วยชนชั้นสูงตลอดเวลา วันนี้เองก็เป็นเช่นนั้น

ผู้คนมากมายต่างก็เดินเข้าออกประตูที่อยู่ด้านล่างป้ายสีสว่างที่เขียนว่า <ไอบัน> กันอย่างขวักไขว่

ที่นั่นก็มีช่างฝีมือคนนั้น คนที่มีความสามารถในการเจียระไนอัญมณี เรียกได้ว่าไม่มีชิ้นไหนที่เขาไม่อาจเจียระไนออกมาได้ ทั้งยังทำให้อัญมณีชิ้นนั้นเปลี่ยนเป็นอัญมณีชิ้นที่งามที่สุดในโลกอีกด้วย

“เข้าไปกันเถอะครับ ท่านฟีเรนเทีย”

เครย์ลีบันช่วยจับประตูเอาไว้ให้พลางเอ่ยพูด

ทันทีที่เข้าไปด้านใน ก็เห็นผู้คนมากมายกำลังนั่งรับคำปรึกษาและซื้ออัญมณีอยู่ทั่วร้านค้าขนาดใหญ่

ในบรรดาผู้คนเหล่านั้นมีอยู่หลายคนที่เริ่มหันมามองเธอ แล้วกระซิบกระซาบพูดคุยกันเอง

“เด็กคนนั้นที่เพิ่งเข้ามา…”

“ตระกูลลอมบาร์เดียใช่หรือเปล่านะ”

“น่าจะใช่นะ…”

เพราะงานเลี้ยงประจำอาณาจักรกับงานวันเกิดของเธอ ทำให้มีคนรู้จักเธอเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย

ในเมื่อเธอเกิดมาในตระกูลลอมบาร์เดีย มันจึงเป็นชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว

ฟีเรนเทียเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ด้านในสุดท่ามกลางสายตาของผู้คน

เธอเห็นชายสวมชุดเครื่องแบบผู้ดูแลรับผิดชอบเคาน์เตอร์ตัวนั้น เขายืนอยู่ภายใต้แสงไฟสว่างไสว

“ยินดีต้อนรับครับ คุณหนูฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย”

ว่าแล้วเชียว รู้จักเธออยู่แล้วนี่เอง

ในสถานที่ที่ต้องรับมือกับลูกค้าชั้นสูงมากมายแบบนี้ การรู้ข้อมูลของบุคคลสำคัญถือว่าเป็นจุดแข็งในการแข่งขันอย่างหนึ่ง

สิ่งที่เธอเรียนรู้เป็นสิ่งแรกในตอนที่คอยช่วยงานอยู่ข้างกายท่านปู่ก็คือเรื่องพวกนั้นเช่นกัน

พวกข้อมูลอย่างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสำคัญทั้งหลาย หรือโครงสร้างครอบครัวของตระกูลขุนนางชั้นสูงในภาคกลาง เหนือ ใต้ ออก ตกของอาณาจักรทั้งหมด

“มาเยี่ยมชม ‘ไอบัน’ ของทางเราเป็นครั้งแรกสินะครับ”

ท่าทางคงจะลอบประเมินเธอเสร็จแล้วสินะ

ฟีเรนเทียพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเอ่ยพูดกับชายคนนั้น

“ไม่ใช่พวกของที่วางอยู่ตรงนี้ อยากจะดู ‘สินค้าพิเศษ’ น่ะค่ะ”

‘สินค้าพิเศษ’ ที่เธอเรียกร้องนั่น ไม่ใช่ของที่เจียระไนขึ้นจากช่างอัญมณีทั่วไป แต่เป็นอัญมณีชนิดพิเศษที่เป็นผลงานชั้นยอดจากช่างฝีมือของไอบัน

ใบหน้ายิ้มแย้มของชายคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองเครย์ลีบันที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

“มาด้วยกันหรือครับ”

หมายความว่ารู้จักเธอ แต่เขาไม่รู้จักเครย์ลีบัน

เครย์ลีบันเองก็คงจะรู้สึกได้ ถึงได้หน้าบึ้งตึงเล็กน้อยในขณะที่เอ่ยตอบ

“เครย์ลีบัน เพลเลสครับ”

“อืม ในเมื่อคุณหนูลอมบาร์เดียรับรองตัวตนให้ ถ้าอย่างนั้นเข้าไปพร้อมกันก็ได้ครับ”

พนักงานบอกปัดลวกๆ ก่อนจะผลักประตูที่เชื่อมต่อเข้าไปด้านในออก

ดูเหมือนเครย์ลีบันจะโกรธเคืองที่ถูกปฏิบัติราวกับคนไร้ฐานะเป็นอย่างมาก

เครย์ลีบันในชาติก่อนเป็นคนที่จะได้รับสืบทอดตำแหน่งผู้ดูแลกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียต่อจากโรมาเชีย ดิลลาร์ดผู้เป็นบิดา เขาจึงเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่

แม้แต่ร้านขายเสื้อผ้าเองก็เป็นท่านพ่อที่รับหน้าที่เป็นเหมือนป้ายร้าน ดังนั้นเครย์ลีบันจึงไม่ต่างอะไรจากการถูกกลบรัศมีฝังเอาไว้

เธอตบหลังของเครย์ลีบันเบาๆ เป็นการปลอบโยน

อดทนอีกหน่อยนะ

หากงานคราวนี้เสร็จสิ้นลง จะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเครย์ลีบัน เพลเลสอีกต่อไป

เพราะร้านค้าเพลเลสที่ตั้งตามนามสกุลของเขาจะโด่งดังไปทั่วอาณาจักรยังไงล่ะ

ผ่านทางเดินที่ถูกปูด้วยพรมผืนนุ่มตามหลังพนักงานไป พวกเราก็เข้ามาถึงห้องด้านใน

การรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขนาดที่ต้องใช้กุญแจหลายดอกถึงจะไขมันออกได้

พอประตูถูกเปิดออก แสงระยิบระยับจากชั้นวางอัญมณีก็สะท้อนส่องสว่างเป็นประกายระยิบระยับไปทั่ว

เธอพยายามควบคุมหัวใจที่เต้นโครมครามไม่หยุด แสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ในขณะที่กวาดสายตามองสินค้าที่วางอยู่ในตู้กระจก

ถึงแม้จะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสินค้าพิเศษด้านในร้านไอบัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นของจริงแบบนี้

“มีอัญมณีชิ้นไหนที่มองหาเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ”

“อืม…”

ฟีเรนเทียมองส่องเข้าไปข้างในตู้กระจก พยายามมองหาของที่เป็นชิ้นเป้าหมายในการมาเยือนของเธอวันนี้

พอเห็นเธอทำแบบนั้น ชายคนนี้จึงส่งหมอนรองใบเล็กที่มีอัญมณีหลากหลายชิ้นวางอยู่ยื่นมาให้ตรงหน้าเธอ

“อันนี้เป็นเช่นไรครับ”

เธอมองของพวกนั้น ก่อนจะหันไปมองชายคนนั้นอีกครั้ง

รู้สึกอยากจะหัวเราะชะมัด

คนคนนี้กำลังดูถูกเธออยู่สินะเนี่ย

อุตส่าห์วางใจ เห็นว่ายอมพาเข้ามาถึงห้องด้านในแล้วแท้ๆ

สิ่งที่พนักงานสวมถุงมือสีขาวให้เธอดู มันก็ใหญ่อยู่หรอก แต่มันเป็นแค่เศษชิ้นส่วนที่คัตติ้งออกมาไม่สวย และระดับความบริสุทธิ์ของอัญมณีนั้นถือว่าต่ำมากอีกด้วย

ท่าทางพนักงานชายคนนี้คงคิดที่จะทดสอบสายตาของเธอสินะ

ขนาดใหญ่ มองผิวเผินดูงดงามหรูหรา หากเป็นคนอื่นที่มองไม่ออกละก็ คงจะหลงซื้อไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นแค่ของเกรดต่ำ

บางทีคงจะดูถูกกันเพราะเห็นว่าเธออายุยังน้อยนั่นแหละ

ฟีเรนเทียพูดกับพนักงานที่ยังคงยืนรอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างหน้าไม่อาย โดยไม่ได้แสดงอาการโมโหหรือแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจออกไป

เธอเพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงบ่งบอกว่าจะยอมปิดตาข้างหนึ่ง ช่วยมองข้ามความผิดพลาดมหันต์นี้ก็เท่านั้น

“จะให้โอกาสอีกครั้งนะคะ ไปเอาสินค้าที่เหมาะสมออกมาด้วยค่ะ”

“…ทราบแล้วครับ”

พนักงานหลุบสายตาลงต่ำ โค้งศีรษะลงด้วยความนอบน้อม

“ไม่ดีกว่า ข้าขอไปเลือกเองนะคะ”

เธอพูดแบบนั้น ก่อนที่จะค่อยๆ เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าตู้กระจก

และผ่านไปได้ไม่นาน เธอก็หาสิ่งที่ต้องการเจอ

“อันนั้น”

มันเป็นอัญมณีชิ้นที่วางตั้งอยู่ตรงกลางท่ามกลางบรรดาสินค้าพิเศษ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่แสงสว่างภายในห้องส่องกระทบลงมาเป็นประกายแวววาวได้อย่างชัดเจนที่สุด

มันแตกต่างจากสินค้าชิ้นอื่นที่ราบเรียบดูดาษดื่นจนจืดชืด ด้วยคัตติ้งที่ประณีตและละเอียดลออ จึงช่วยดึงเอาความงดงามของแร่อัญมณีออกมาได้มากที่สุด มันคือเพริโดไทต์สีเขียวอ่อน

“คนที่เจียระไนผลงานชิ้นนั้นออกมา ตอนนี้อยู่ที่นี่ใช่มั้ยคะ ข้าอยากพบเขา”

“เรื่องนั้นทราบได้ยังไง…ไม่สิ นั่นคงจะเป็นปัญหาเล็กน้อยครับ”

นึกอยู่แล้วว่าจะต้องออกมาเป็นแบบนี้

เจ้าตระกูลไอบันย่อมไม่มีทางปล่อยให้ใครหน้าไหนพบกับช่างฝีมือที่พวกเขาหวงแหนได้ง่ายๆ อยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นเธอถึงได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

ฟีเรนเทียหลีกทางไปด้านข้างครึ่งก้าว หันไปมองหน้าเครย์ลีบัน

เธอเคยเกริ่นกับเขาเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว เครย์ลีบันจึงเดินก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว

“ขอแนะนำตัวกันอีกครั้งก็แล้วกัน ผู้ดูแลร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันกับร้านค้าเพลเลส เครย์ลีบัน เพลเลสครับ”

“อา…”

พนักงานกะพริบตาปริบๆ ท่าทางจะตกใจมากเอาการ

คนที่เขาดูถูกและเมินเฉยคนนั้น ที่จริงแล้วเป็นถึงผู้ดูแลร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันอย่างนั้นเหรอเนี่ย

คงจะตกใจจนใจแกว่งไปเลยละสิ

เครย์ลีบันเรียกร้องด้วยเสียงทุ้มต่ำหนักแน่น ทั้งยังเย็นชาเป็นพิเศษคล้ายกับแก้แค้นเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้

“ช่างฝีมือที่เจียระไนอัญมณีชิ้นนี้ ช่วยบอกเขาได้มั้ยครับว่าข้าอยากพบ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+