เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 116.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 116.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อืมม…”

เครย์ลีบันครางเสียงทุ้มต่ำหลังจากเห็นเช็คทั้งสองใบ เขาได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับ

“เหมือนกันขนาดนี้ได้ยังไงครับเนี่ย”

ไวโอเล็ตเองก็เบิกตากว้าง นางขยี้ตาตัวเองอยู่หลายรอบ

เธอเองก็เห็นด้วยกับคำพูดนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์

มันเหมือนกันมากจนมองจากภายนอกไม่อาจแยกออกได้เลยว่าใบไหนเป็นของจริง

ในชีวิตก่อนตอนที่เจอเหตุการณ์เช็คปลอมนี่ เธอถึงกับต้องขังตัวเองอยู่ในห้องด้วยความหดหู่ใจทีเดียว

ลองเหลียวหลังย้อนกลับไปนึกถึงอดีตในตอนที่เธอเคยช่วยเหลืองานของท่านปู่ เมื่อตอนนั้นช่วงเวลาประมาณนี้เธอเองก็แค่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเช็คปลอมด้วยสองตาของตัวเองแบบนี้

“ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ทำออกมาได้เหมือนเปี๊ยบเลยนะเนี่ย”

เธอจ้องเช็คใบนั้นในขณะที่พูดพึมพำ

ไม่มีทางพูดอย่างอื่นได้เลย

เพราะคนที่ทำเช็คใบนั้นเป็นคนที่คิดจะขโมยของไปจากลอมบาร์เดียอย่างเห็นได้ชัด

อีกอย่างทรัพย์สินของธนาคารคือ เครดิต

เล่นยิงเป้าโดยตรงมายังเครดิตกับเงินของธนาคารลอมบาร์เดียแบบนี้เนี่ยนะ

คนชั่ว

เธอจ้องไปยังเช็คที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามเบ๊ตที่นั่งเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยความผ่อนคลาย

“ว่าแต่ไปหาเช็คปลอมมาได้ยังไงคะเนี่ย ได้ยินว่าถูกปล่อยออกมาไม่เยอะ ไม่น่าหาได้ง่ายเลยนะคะ”

บางทีที่ผู้จัดการธนาคารลอมบาร์เดียคาดการณ์เอาไว้ ก็คงจะมีแค่ไม่กี่ใบด้วยซ้ำ

แต่เบ๊ตกลับหามาได้หนึ่งใบ

“…เรื่องนั้นเป็นความลับทางธุรกิจครับ”

เบ๊ตหลบสายตาเล็กน้อยในขณะที่ตอบแบบนั้น

“ก็จริงค่ะ”

เธอยอมถอยให้เขาเช่นกัน

การถามที่มาจากคนขายข่าวเป็นเรื่องไม่ควรอยู่แล้ว

“เสียมารยาทไปหน่อย”

แต่เบ๊ตกลับจ้องหน้าเธอตรงๆ

“ทำไมเหรอคะ เบ๊ต”

“ไม่ถามต่อหรือครับ”

“เบ๊ตก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่ามันเป็นความลับทางธุรกิจน่ะ แล้วจะให้ข้าถามต่อไปเพื่ออะไรล่ะคะ”

“แต่ยังไงท่านฟีเรนเทียก็เป็นผู้สนับสนุนคาราเมล อเวนิวของพวกข้า…”

หากต้องการแล้วละก็ แค่เขย่าเชือกเงินทุนนั่น ก็สามารถบีบบังคับให้เขาสารภาพความจริงออกมาได้แล้วไม่ใช่หรือไร

“ข้าเพียงแค่หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับคาราเมล อเวนิว จะแข็งแรงมั่นคงไปอีกเนิ่นนานเท่านั้นเองค่ะ”

ถ้าข่มขู่เบ๊ตเพียงแค่เพราะต้องการฟังเรื่องนี้เรื่องเดียว มันก็ไม่ต่างอะไรกับผ่าท้องหงส์ที่ออกลูกเป็นไข่ทองคำนั่นแหละ

อีกอย่างในสถานการณ์อย่างตอนนี้ เบ๊ตจะต้องสูญเสียอะไรมากเกินไป หากเขาคิดทรยศเธอ

สิ่งที่เบ๊ตต้องการคือ ฐานะที่มั่นคงพอจะช่วยให้เขาสร้างกิลด์ข้อมูลขึ้นมาได้ ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยนิดที่สามารถไปขู่เรียกร้องจากนักปลอมแปลงอยู่แล้ว

“…ขอบคุณครับ”

เบ๊ตพยักหน้าขอบคุณ มุมปากของเขาคลายตัวคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน

“น่าทึ่งจริงๆ เลยนะคะเนี่ย! ”

ในระหว่างที่เธอกับเบ๊ตกำลังสนทนากันอยู่ ไวโอเล็ตที่นั่งส่องเช็คทั้งสองใบอยู่ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งชื่นชม

และเมื่อสังเกตเห็นสายตาของเธอ นางก็รีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว เพราะรู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว

“พะ เพราะฉะนั้น ข้าหมายถึง ความสามารถดีเกินกว่าจะเป็นพวกชอบปลอมแปลง…”

“ทราบค่ะ ข้ารู้ว่าไวโอเล็ตต้องการจะสื่ออะไร”

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ท่านฟีเรนเทีย”

ถึงแม้ไวโอเล็ตจะขอโทษขอโพยด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เธออารมณ์ดีขึ้นอยู่ดี

“ก็โกรธนิดหน่อยค่ะ”

“ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใด ข้าก็จะจับอาชญากรที่ปลอมแปลงเช็คนี่ให้ได้ค่ะ”

“พวกชอบปลอมแปลง ก็เป็นพวกชอบทำของปลอมก็จริง แต่ว่า…”

สุดท้ายคราวนี้เบเจอร์ก็ไม่สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ นี่ได้อยู่ดี

ในชีวิตก่อนพวกเขาไม่สามารถเรียกคืนเช็คปลอมนั่นได้ จนมันถูกปล่อยกระจายออกไปทั่ว

เพราะยอดเงินบนเช็คพวกนั้นมันมากมายมหาศาล ทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเรียกได้ว่าครอบคลุมไปถึงจักรวาลเลยทีเดียว

ในตอนที่เบเจอร์ประเมินสถานการณ์ได้ และตั้งใจจะแก้ไขเรื่องราวทั้งหมด มันก็สายเกินไปแล้ว ท่านปู่ที่นอนพักติดเตียงคนไข้ สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจใช้มาตรการพิเศษ

‘จัดการผลิตเช็คดีไซน์ใหม่ในทันที เพื่อเอาไปเปลี่ยนกับเช็ครูปแบบเก่า ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเช็คปลอมพวกนั้นทางลอมบาร์เดียจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด’

เพราะในความเป็นจริงแล้ว การจะแยกเช็คปลอมมันเสียทันทีที่หน้าเคาน์เตอร์เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ทำให้ต้องใช้วิธีนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

“เจ้าโง่…”

การตัดสินใจหยุดจำหน่ายเช็ค ปรับเปลี่ยนดีไซน์เป็นรูปแบบใหม่ หรือคิดหาวิธีจัดการกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเช็คปลอมยังไงนั่น มันเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจของก็อดดริก เบรย์

มันเป็นหน้าที่ของเจ้าตระกูลที่ต้องเป็นคนออกหน้าลงมือจัดการด้วยตัวเอง

ในตอนนั้นเองเบ๊ตก็พูดเสริมต่อขึ้นมา

“อา และยังมีอีกเรื่องครับ ก็อดดริก เบรย์ไปพบท่านชานาเนสด้วยครับ”

“ว่าแล้วเชียว”

ความคิดของทุกคนดูเหมือนจะคล้ายกันหมด

เบเจอร์กำลังดื่มด่ำกับตำแหน่งอย่างถึงที่สุด คนที่จะขัดขวางเขาได้ นอกจากชานาเนสก็ไม่เหลือใครอื่นอีกแล้ว

หากเป็นเมื่อชีวิตก่อน หลังจากหย่าร้างชานาเนสได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในเขตชานเมือง แต่ในชีวิตนี้นางกลับมาช่วยดูแลกิจการของตระกูลอย่างมั่นคง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในทิศทางนั้นแทน

เครย์ลีบันมองเช็คปลอมอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยพึมพำขึ้น

“หากทราบวิธีแยกของปลอมออกได้ละก็ คงจะดีมากจริงๆ นะครับ และถ้าแจ้งวิธีนั้นให้ท่านชานาเนสทราบ…”

“ลองส่องกับแสงดูสักครั้งมั้ยคะ”

ไวโอเล็ตยกเช็คทั้งสองใบขึ้นพลิกสำรวจไปมา แต่ก็ไม่อาจหาจุดแตกต่างได้อยู่ดี

“มันต้องมีจุดที่แตกต่างกันอยู่แน่ๆ …”

เครย์ลีบันขมวดคิ้วแน่น ตกอยู่ในภวังค์ความคิดเช่นกัน

และจู่ๆ ก็ถามเธอด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“หรือจะเป็นคนในธนาคารลอมบาร์เดียหรือเปล่าครับ เหมือนกันมากขนาดนี้ บางทีอาจจะขโมยออกมาจากแหล่งผลิตเช็คที่เดียวกันก็ได้นะครับ”

เป็นสมมติฐานที่สมเหตุสมผล

“อาจจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ค่ะ”

ทั้งไวโอเล็ต ทั้งเบ๊ตต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

คนทรยศในลอมบาร์เดีย

อันที่จริงนั่นก็เป็นข้อสมมติฐานที่ทุกคนคิดว่าเป็นไปได้มากที่สุด ในตอนที่ทุกคนพยายามตามหาคนร้ายคดีเช็คปลอมให้เจอ

เพียงแต่มันไม่ใช่

คนร้ายเป็นเพียงแค่ช่างปลอมแปลงที่มีฝีมือเก่งกาจมากเท่านั้นเอง

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำยังไงดีล่ะคะ…”

ดูจากการที่ไวโอเล็ตเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาแบบนี้ เธอคงต้องเลิกเล่น แล้วบอกคำตอบที่แท้จริงให้พวกเขาได้แล้วละ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 116.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 116.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อืมม…”

เครย์ลีบันครางเสียงทุ้มต่ำหลังจากเห็นเช็คทั้งสองใบ เขาได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับ

“เหมือนกันขนาดนี้ได้ยังไงครับเนี่ย”

ไวโอเล็ตเองก็เบิกตากว้าง นางขยี้ตาตัวเองอยู่หลายรอบ

เธอเองก็เห็นด้วยกับคำพูดนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์

มันเหมือนกันมากจนมองจากภายนอกไม่อาจแยกออกได้เลยว่าใบไหนเป็นของจริง

ในชีวิตก่อนตอนที่เจอเหตุการณ์เช็คปลอมนี่ เธอถึงกับต้องขังตัวเองอยู่ในห้องด้วยความหดหู่ใจทีเดียว

ลองเหลียวหลังย้อนกลับไปนึกถึงอดีตในตอนที่เธอเคยช่วยเหลืองานของท่านปู่ เมื่อตอนนั้นช่วงเวลาประมาณนี้เธอเองก็แค่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเช็คปลอมด้วยสองตาของตัวเองแบบนี้

“ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ทำออกมาได้เหมือนเปี๊ยบเลยนะเนี่ย”

เธอจ้องเช็คใบนั้นในขณะที่พูดพึมพำ

ไม่มีทางพูดอย่างอื่นได้เลย

เพราะคนที่ทำเช็คใบนั้นเป็นคนที่คิดจะขโมยของไปจากลอมบาร์เดียอย่างเห็นได้ชัด

อีกอย่างทรัพย์สินของธนาคารคือ เครดิต

เล่นยิงเป้าโดยตรงมายังเครดิตกับเงินของธนาคารลอมบาร์เดียแบบนี้เนี่ยนะ

คนชั่ว

เธอจ้องไปยังเช็คที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามเบ๊ตที่นั่งเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยความผ่อนคลาย

“ว่าแต่ไปหาเช็คปลอมมาได้ยังไงคะเนี่ย ได้ยินว่าถูกปล่อยออกมาไม่เยอะ ไม่น่าหาได้ง่ายเลยนะคะ”

บางทีที่ผู้จัดการธนาคารลอมบาร์เดียคาดการณ์เอาไว้ ก็คงจะมีแค่ไม่กี่ใบด้วยซ้ำ

แต่เบ๊ตกลับหามาได้หนึ่งใบ

“…เรื่องนั้นเป็นความลับทางธุรกิจครับ”

เบ๊ตหลบสายตาเล็กน้อยในขณะที่ตอบแบบนั้น

“ก็จริงค่ะ”

เธอยอมถอยให้เขาเช่นกัน

การถามที่มาจากคนขายข่าวเป็นเรื่องไม่ควรอยู่แล้ว

“เสียมารยาทไปหน่อย”

แต่เบ๊ตกลับจ้องหน้าเธอตรงๆ

“ทำไมเหรอคะ เบ๊ต”

“ไม่ถามต่อหรือครับ”

“เบ๊ตก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่ามันเป็นความลับทางธุรกิจน่ะ แล้วจะให้ข้าถามต่อไปเพื่ออะไรล่ะคะ”

“แต่ยังไงท่านฟีเรนเทียก็เป็นผู้สนับสนุนคาราเมล อเวนิวของพวกข้า…”

หากต้องการแล้วละก็ แค่เขย่าเชือกเงินทุนนั่น ก็สามารถบีบบังคับให้เขาสารภาพความจริงออกมาได้แล้วไม่ใช่หรือไร

“ข้าเพียงแค่หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับคาราเมล อเวนิว จะแข็งแรงมั่นคงไปอีกเนิ่นนานเท่านั้นเองค่ะ”

ถ้าข่มขู่เบ๊ตเพียงแค่เพราะต้องการฟังเรื่องนี้เรื่องเดียว มันก็ไม่ต่างอะไรกับผ่าท้องหงส์ที่ออกลูกเป็นไข่ทองคำนั่นแหละ

อีกอย่างในสถานการณ์อย่างตอนนี้ เบ๊ตจะต้องสูญเสียอะไรมากเกินไป หากเขาคิดทรยศเธอ

สิ่งที่เบ๊ตต้องการคือ ฐานะที่มั่นคงพอจะช่วยให้เขาสร้างกิลด์ข้อมูลขึ้นมาได้ ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยนิดที่สามารถไปขู่เรียกร้องจากนักปลอมแปลงอยู่แล้ว

“…ขอบคุณครับ”

เบ๊ตพยักหน้าขอบคุณ มุมปากของเขาคลายตัวคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน

“น่าทึ่งจริงๆ เลยนะคะเนี่ย! ”

ในระหว่างที่เธอกับเบ๊ตกำลังสนทนากันอยู่ ไวโอเล็ตที่นั่งส่องเช็คทั้งสองใบอยู่ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งชื่นชม

และเมื่อสังเกตเห็นสายตาของเธอ นางก็รีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว เพราะรู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว

“พะ เพราะฉะนั้น ข้าหมายถึง ความสามารถดีเกินกว่าจะเป็นพวกชอบปลอมแปลง…”

“ทราบค่ะ ข้ารู้ว่าไวโอเล็ตต้องการจะสื่ออะไร”

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ท่านฟีเรนเทีย”

ถึงแม้ไวโอเล็ตจะขอโทษขอโพยด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เธออารมณ์ดีขึ้นอยู่ดี

“ก็โกรธนิดหน่อยค่ะ”

“ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใด ข้าก็จะจับอาชญากรที่ปลอมแปลงเช็คนี่ให้ได้ค่ะ”

“พวกชอบปลอมแปลง ก็เป็นพวกชอบทำของปลอมก็จริง แต่ว่า…”

สุดท้ายคราวนี้เบเจอร์ก็ไม่สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ นี่ได้อยู่ดี

ในชีวิตก่อนพวกเขาไม่สามารถเรียกคืนเช็คปลอมนั่นได้ จนมันถูกปล่อยกระจายออกไปทั่ว

เพราะยอดเงินบนเช็คพวกนั้นมันมากมายมหาศาล ทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเรียกได้ว่าครอบคลุมไปถึงจักรวาลเลยทีเดียว

ในตอนที่เบเจอร์ประเมินสถานการณ์ได้ และตั้งใจจะแก้ไขเรื่องราวทั้งหมด มันก็สายเกินไปแล้ว ท่านปู่ที่นอนพักติดเตียงคนไข้ สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจใช้มาตรการพิเศษ

‘จัดการผลิตเช็คดีไซน์ใหม่ในทันที เพื่อเอาไปเปลี่ยนกับเช็ครูปแบบเก่า ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเช็คปลอมพวกนั้นทางลอมบาร์เดียจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด’

เพราะในความเป็นจริงแล้ว การจะแยกเช็คปลอมมันเสียทันทีที่หน้าเคาน์เตอร์เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ทำให้ต้องใช้วิธีนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

“เจ้าโง่…”

การตัดสินใจหยุดจำหน่ายเช็ค ปรับเปลี่ยนดีไซน์เป็นรูปแบบใหม่ หรือคิดหาวิธีจัดการกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเช็คปลอมยังไงนั่น มันเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจของก็อดดริก เบรย์

มันเป็นหน้าที่ของเจ้าตระกูลที่ต้องเป็นคนออกหน้าลงมือจัดการด้วยตัวเอง

ในตอนนั้นเองเบ๊ตก็พูดเสริมต่อขึ้นมา

“อา และยังมีอีกเรื่องครับ ก็อดดริก เบรย์ไปพบท่านชานาเนสด้วยครับ”

“ว่าแล้วเชียว”

ความคิดของทุกคนดูเหมือนจะคล้ายกันหมด

เบเจอร์กำลังดื่มด่ำกับตำแหน่งอย่างถึงที่สุด คนที่จะขัดขวางเขาได้ นอกจากชานาเนสก็ไม่เหลือใครอื่นอีกแล้ว

หากเป็นเมื่อชีวิตก่อน หลังจากหย่าร้างชานาเนสได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในเขตชานเมือง แต่ในชีวิตนี้นางกลับมาช่วยดูแลกิจการของตระกูลอย่างมั่นคง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในทิศทางนั้นแทน

เครย์ลีบันมองเช็คปลอมอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยพึมพำขึ้น

“หากทราบวิธีแยกของปลอมออกได้ละก็ คงจะดีมากจริงๆ นะครับ และถ้าแจ้งวิธีนั้นให้ท่านชานาเนสทราบ…”

“ลองส่องกับแสงดูสักครั้งมั้ยคะ”

ไวโอเล็ตยกเช็คทั้งสองใบขึ้นพลิกสำรวจไปมา แต่ก็ไม่อาจหาจุดแตกต่างได้อยู่ดี

“มันต้องมีจุดที่แตกต่างกันอยู่แน่ๆ …”

เครย์ลีบันขมวดคิ้วแน่น ตกอยู่ในภวังค์ความคิดเช่นกัน

และจู่ๆ ก็ถามเธอด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“หรือจะเป็นคนในธนาคารลอมบาร์เดียหรือเปล่าครับ เหมือนกันมากขนาดนี้ บางทีอาจจะขโมยออกมาจากแหล่งผลิตเช็คที่เดียวกันก็ได้นะครับ”

เป็นสมมติฐานที่สมเหตุสมผล

“อาจจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ค่ะ”

ทั้งไวโอเล็ต ทั้งเบ๊ตต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

คนทรยศในลอมบาร์เดีย

อันที่จริงนั่นก็เป็นข้อสมมติฐานที่ทุกคนคิดว่าเป็นไปได้มากที่สุด ในตอนที่ทุกคนพยายามตามหาคนร้ายคดีเช็คปลอมให้เจอ

เพียงแต่มันไม่ใช่

คนร้ายเป็นเพียงแค่ช่างปลอมแปลงที่มีฝีมือเก่งกาจมากเท่านั้นเอง

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำยังไงดีล่ะคะ…”

ดูจากการที่ไวโอเล็ตเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาแบบนี้ เธอคงต้องเลิกเล่น แล้วบอกคำตอบที่แท้จริงให้พวกเขาได้แล้วละ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+