เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 244.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 244.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 244

ณ ห้องบรรทมประจำวังจักรพรรดิ

แฮก แฮก ภายในห้องบรรทมอันเงียบสงัด มีเพียงเสียงหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน กับกลิ่นยาสมุนไพรคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วห้องเท่านั้น

“เหตุใดจึงยังไม่ดีขึ้นอีก”

โยบาเนสเอ่ยถามกดดันไปทางหมอหลวงด้วยใบหน้าบึ้งตึง

ภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์ริมฝีปากกลับซีดเขียว นิ้วมือผอมแห้งติดกระดูกเองก็สั่นเทาไม่หยุดอย่างควบคุมไม่ได้

“กระ…กระหม่อมเองก็ไม่ทราบแน่ชัดพ่ะย่ะค่ะ ยาก็ใช้ถูกแขนงแล้วแท้ๆ …”

“เจ้าคิดที่จะฆ่าข้า…โขลก!”

โยบาเนสตวาดเสียงลั่น แต่สุดท้ายร่างกายก็ทนไม่ไหวจนเริ่มไอออกมาอย่างแรง

ทรมานทุกลมหายใจเข้าออก เพียงแค่อารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาเสียหน่อย ก็ไอออกมาอย่างหนักแบบนี้เสียแล้ว ทุกวัน ทุกวันจึงมีแต่ความเจ็บปวด

“ฝะ…ฝ่าบาท รีบเสวยยา…”

แพทย์หลวงหวาดกลัวจนแทบเสียสติ พอเห็นโยบาเนสเริ่มไออย่างรุนแรงอีกครั้งก็รีบยกขวดยาวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

“แค็ก…เจ้า”

รีบร้อนจนยาหกเกือบหมดขวด โยบาเนสดื่มยาลงไปได้แค่ไม่กี่จิบก็คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของแพทย์หลวง

“ดะ…ได้โปรดไว้ชีวิตกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”

แพทย์หลวงหลับตาแน่น สั่นไปทั้งตัว

“ไปหลอมยาเดี๋ยวนี้…หากยังไม่อยากตาย…โขลก!”

โยบาเนสเริ่มไออีกครั้ง นัยน์ตาแดงก่ำไปด้วยเส้นเลือดฝอยมากมาย

สุดท้ายก็ต้องดื่มยาที่แพทย์หลวงยัดใส่มือให้เพิ่มอีกขวดลงไปจนหมดถึงจะพอหายใจหายคอได้คล่องขึ้นบ้าง

“ฮู่ว…”

โยบาเนสสูดลมหายใจเข้าลึก สายตามองตามหลังแพทย์หลวงที่รีบวิ่งหนีออกไปจากห้องบรรทม

ความเงียบเข้าครอบคลุมห้องบรรทมอีกครั้ง

“ไอ้พวกเวรตะไล…”

โยบาเนสอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทว่าไม่ใช่เพราะมีใครบางคนขังเขาเอาไว้

ก็แค่ไม่มีใครมาเยี่ยมเยียนโยบาเนสเลยสักคน เขากำลังถูกลืมเลือน

“ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ”

โยบาเนสถลึงตามองรอบห้องบรรทมว่างเปล่าราวกับอยากจะฆ่าใครให้ตาย ก่อนจะกระตุกเชือกข้างเตียงนอนอย่างแรง

“เรียกหรือเพคะ ฝ่าบาท”

จู่ๆ วันหนึ่งหัวหน้านางกำนัลโอทัวร์ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หัวหน้านางกำนัลสาวคนใหม่ที่ขึ้นมาแทนที่ว่างโค้งศีรษะลงอย่างนอบน้อมในขณะที่เอ่ยถาม

“เรียกตัวเจ้าชายลำดับที่สองมาพบข้า”

หัวหน้านางกำนัลคำนวณเวลาคร่าวๆ อยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำสั่งของโยบาเนส

เพราะช่วงเข้าสู่ยามบ่ายอย่างตอนนี้ เจ้าชายลำดับที่สองน่าจะกำลังทำงานอย่างยุ่งวุ่นวายอยู่เป็นแน่

“…เพคะ ฝ่าบาท”

ทว่าหัวหน้านางกำนัลก็เพียงแค่โค้งศีรษะลงอย่างนอบน้อมอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องบรรทม

ไม่นานหลังจากนั้น

“เรียกกระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

ทันทีที่เฟเรสเดินเข้ามาในห้องแล้วกล่าวทักทาย โยบาเนสก็แสยะยิ้มเย้ยหยัน

“ยุ่งมากเลยสินะ”

เฟเรสไม่ได้ตอบอะไร

เพราะเขาได้ยินผ่านหัวหน้านางกำนัลมาก่อนแล้วว่า ตอนนี้อารมณ์ของโยบาเนสกำลังฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก

ในบรรดาคนที่คอยรับใช้อยู่รอบกายโยบาเนสในตอนนี้ ไม่มีใครคนใดที่ไม่ใช่คนของเฟเรส

“ผู้คนต่างก็ต้องก้มหัวให้ อำนาจพวกนั้น คิดว่ามันเป็นของเจ้าหรือไง”

โยบาเนสกล่าวเสียดสี

“แค่ข้าสั่งคำเดียว เจ้าก็ไม่เหลืออะไร”

อำนาจนั่นยังอยู่ในกำมือข้า

โยบาเนสกำลังบอกเช่นนั้น

“…กระหม่อมทราบดีพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสตอบสั้นๆ

ท่าทีนอบน้อมทำมุมปากข้างหนึ่งของโยบาเนสกระตุกขึ้น ก่อนจะออกคำสั่ง

“ไปยกชามา”

“…กระหม่อมจะเรียกหัวหน้านางกำนัลเข้ามาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง เจ้าไปยกมา”

หากปกติเฟเรสกับโยบาเนสสนิทสนมกันดี ก็คงเป็นคำสั่งที่ไม่ต้องรู้สึกหนักใจอะไรมากนัก

ทั้งความแตกต่างของชนชั้น ทั้งเรื่องการชงชาให้คนที่สนิทสนมกันดี อย่างไรมันก็เป็นแค่การแสดงความรักและความเคารพนับถืออยู่แล้ว

แต่การที่โยบาเนสสั่งให้เฟเรสไปชงชาแทนนางกำนัลอยู่ในตอนนี้ มันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามกันอย่างชัดเจน

“ทำไม ทำไม่ได้งั้นหรือ”

โยบาเนสถามเฟเรสที่เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

เฟเรสเอ่ยตอบกลับไปด้วยใบหน้าไม่อาจล่วงรู้สึกในใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“…หามิได้พ่ะย่ะค่ะ โปรดรอกระหม่อมสักครู่”

เฟเรสเปิดประตูออกไปรับน้ำร้อนกรุ่นจากหัวหน้านางกำนัล หลังจากนั้นก็เริ่มชงชาให้ด้วยตัวเองอยู่ข้างเตียงโยบาเนส

โยบาเนสวางแผนเอาไว้ในใจ หากเฟเรสทำพลาดแม้แต่จุดเดียว พระองค์จะตำหนิเสียให้ยับ จึงเอาแต่จ้องทุกการเคลื่อนไหวไม่ละสายตา แต่สุดท้ายก็หาจุดบกพร่องไม่ได้แม้แต่จุดเดียวอยู่ดี

จนกระทั่งชาสีเขียวอ่อนถูกรินลงแก้วชาส่งเสียงดังจรู๊กจนเต็มแก้ว โยบาเนสจึงยอมละสายตา แล้วหันมาดื่มชาแทน

กลิ่นหอมของดอกไม้ให้ความสดชื่นอ่อนๆ ติดปลายจมูก

“ชาที่ดื่มก่อนเริ่มประชุมใหญ่เมื่อตอนนั้นสินะ”

“ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

โยบาเนสรู้สึกทึ่งในใจ

เพราะดื่มชาลงไปแล้ว มันช่วยให้เขาหายใจหายคอได้คล่องขึ้น ถึงแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม

โยบาเนสเอ่ยพูดกับเฟเรสที่ยังคงยืนเอามือไขว้หลังนิ่ง ไม่ร่วมดื่มชากับพระองค์

“เจ้าชายลำดับที่สองช่วยมาชงชาให้ข้าวันละสักสองครั้งก็แล้วกัน”

มันเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น

เฟเรสกำลังจัดการงานทั้งหมดแทนองค์จักรพรรดิ

แต่กลับสั่งให้เจ้าชายที่งานยุ่งจนล้นมือแวะมาหาวันละถึงสองครั้งเนี่ยนะ

โยบาเนสนี่ช่างหน้าด้านเหลือเกิน

หากเฟเรสกล้าปฏิเสธ ก็คงคิดที่จะใช้มันเป็นข้ออ้าง แล้วกลั่นแกล้งเขาด้วยการสั่งเลื่อนกำหนดการแต่งตั้งองค์รัชทายาทเป็นแน่

“น้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

ทว่าเฟเรสก็เพียงแค่ตอบเสียงเรียบ โค้งศีรษะลงเท่านั้น

“พรุ่งนี้เช้ากระหม่อมจะแวะมาพบพ่ะย่ะค่ะ ทรงพักผ่อนต่อเถอะ”

พอเฟเรสกล่าวลาแล้วออกไปจากห้องบรรทม โยบาเนสก็เหลือตัวคนเดียวอีกครั้ง

แต่โยบาเนสกำลังยิ้ม ต่างจากเมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิง

และกระตุกเชือกอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงออกคำสั่งแก่หัวหน้านางกำนัล

“บอกประธานคิลเลียนให้มาพบข้าพรุ่งนี้เช้า”

พระองค์จะไม่ยอมถูกลืมเลือนไปแบบนี้แน่

โยบาเนสครุ่นคิด ขณะเดียวกันก็หอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนอีกครั้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 244.1

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 244.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 244

ณ ห้องบรรทมประจำวังจักรพรรดิ

แฮก แฮก ภายในห้องบรรทมอันเงียบสงัด มีเพียงเสียงหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน กับกลิ่นยาสมุนไพรคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วห้องเท่านั้น

“เหตุใดจึงยังไม่ดีขึ้นอีก”

โยบาเนสเอ่ยถามกดดันไปทางหมอหลวงด้วยใบหน้าบึ้งตึง

ภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์ริมฝีปากกลับซีดเขียว นิ้วมือผอมแห้งติดกระดูกเองก็สั่นเทาไม่หยุดอย่างควบคุมไม่ได้

“กระ…กระหม่อมเองก็ไม่ทราบแน่ชัดพ่ะย่ะค่ะ ยาก็ใช้ถูกแขนงแล้วแท้ๆ …”

“เจ้าคิดที่จะฆ่าข้า…โขลก!”

โยบาเนสตวาดเสียงลั่น แต่สุดท้ายร่างกายก็ทนไม่ไหวจนเริ่มไอออกมาอย่างแรง

ทรมานทุกลมหายใจเข้าออก เพียงแค่อารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาเสียหน่อย ก็ไอออกมาอย่างหนักแบบนี้เสียแล้ว ทุกวัน ทุกวันจึงมีแต่ความเจ็บปวด

“ฝะ…ฝ่าบาท รีบเสวยยา…”

แพทย์หลวงหวาดกลัวจนแทบเสียสติ พอเห็นโยบาเนสเริ่มไออย่างรุนแรงอีกครั้งก็รีบยกขวดยาวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

“แค็ก…เจ้า”

รีบร้อนจนยาหกเกือบหมดขวด โยบาเนสดื่มยาลงไปได้แค่ไม่กี่จิบก็คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของแพทย์หลวง

“ดะ…ได้โปรดไว้ชีวิตกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”

แพทย์หลวงหลับตาแน่น สั่นไปทั้งตัว

“ไปหลอมยาเดี๋ยวนี้…หากยังไม่อยากตาย…โขลก!”

โยบาเนสเริ่มไออีกครั้ง นัยน์ตาแดงก่ำไปด้วยเส้นเลือดฝอยมากมาย

สุดท้ายก็ต้องดื่มยาที่แพทย์หลวงยัดใส่มือให้เพิ่มอีกขวดลงไปจนหมดถึงจะพอหายใจหายคอได้คล่องขึ้นบ้าง

“ฮู่ว…”

โยบาเนสสูดลมหายใจเข้าลึก สายตามองตามหลังแพทย์หลวงที่รีบวิ่งหนีออกไปจากห้องบรรทม

ความเงียบเข้าครอบคลุมห้องบรรทมอีกครั้ง

“ไอ้พวกเวรตะไล…”

โยบาเนสอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทว่าไม่ใช่เพราะมีใครบางคนขังเขาเอาไว้

ก็แค่ไม่มีใครมาเยี่ยมเยียนโยบาเนสเลยสักคน เขากำลังถูกลืมเลือน

“ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ”

โยบาเนสถลึงตามองรอบห้องบรรทมว่างเปล่าราวกับอยากจะฆ่าใครให้ตาย ก่อนจะกระตุกเชือกข้างเตียงนอนอย่างแรง

“เรียกหรือเพคะ ฝ่าบาท”

จู่ๆ วันหนึ่งหัวหน้านางกำนัลโอทัวร์ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หัวหน้านางกำนัลสาวคนใหม่ที่ขึ้นมาแทนที่ว่างโค้งศีรษะลงอย่างนอบน้อมในขณะที่เอ่ยถาม

“เรียกตัวเจ้าชายลำดับที่สองมาพบข้า”

หัวหน้านางกำนัลคำนวณเวลาคร่าวๆ อยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำสั่งของโยบาเนส

เพราะช่วงเข้าสู่ยามบ่ายอย่างตอนนี้ เจ้าชายลำดับที่สองน่าจะกำลังทำงานอย่างยุ่งวุ่นวายอยู่เป็นแน่

“…เพคะ ฝ่าบาท”

ทว่าหัวหน้านางกำนัลก็เพียงแค่โค้งศีรษะลงอย่างนอบน้อมอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องบรรทม

ไม่นานหลังจากนั้น

“เรียกกระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

ทันทีที่เฟเรสเดินเข้ามาในห้องแล้วกล่าวทักทาย โยบาเนสก็แสยะยิ้มเย้ยหยัน

“ยุ่งมากเลยสินะ”

เฟเรสไม่ได้ตอบอะไร

เพราะเขาได้ยินผ่านหัวหน้านางกำนัลมาก่อนแล้วว่า ตอนนี้อารมณ์ของโยบาเนสกำลังฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก

ในบรรดาคนที่คอยรับใช้อยู่รอบกายโยบาเนสในตอนนี้ ไม่มีใครคนใดที่ไม่ใช่คนของเฟเรส

“ผู้คนต่างก็ต้องก้มหัวให้ อำนาจพวกนั้น คิดว่ามันเป็นของเจ้าหรือไง”

โยบาเนสกล่าวเสียดสี

“แค่ข้าสั่งคำเดียว เจ้าก็ไม่เหลืออะไร”

อำนาจนั่นยังอยู่ในกำมือข้า

โยบาเนสกำลังบอกเช่นนั้น

“…กระหม่อมทราบดีพ่ะย่ะค่ะ”

เฟเรสตอบสั้นๆ

ท่าทีนอบน้อมทำมุมปากข้างหนึ่งของโยบาเนสกระตุกขึ้น ก่อนจะออกคำสั่ง

“ไปยกชามา”

“…กระหม่อมจะเรียกหัวหน้านางกำนัลเข้ามาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง เจ้าไปยกมา”

หากปกติเฟเรสกับโยบาเนสสนิทสนมกันดี ก็คงเป็นคำสั่งที่ไม่ต้องรู้สึกหนักใจอะไรมากนัก

ทั้งความแตกต่างของชนชั้น ทั้งเรื่องการชงชาให้คนที่สนิทสนมกันดี อย่างไรมันก็เป็นแค่การแสดงความรักและความเคารพนับถืออยู่แล้ว

แต่การที่โยบาเนสสั่งให้เฟเรสไปชงชาแทนนางกำนัลอยู่ในตอนนี้ มันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามกันอย่างชัดเจน

“ทำไม ทำไม่ได้งั้นหรือ”

โยบาเนสถามเฟเรสที่เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

เฟเรสเอ่ยตอบกลับไปด้วยใบหน้าไม่อาจล่วงรู้สึกในใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“…หามิได้พ่ะย่ะค่ะ โปรดรอกระหม่อมสักครู่”

เฟเรสเปิดประตูออกไปรับน้ำร้อนกรุ่นจากหัวหน้านางกำนัล หลังจากนั้นก็เริ่มชงชาให้ด้วยตัวเองอยู่ข้างเตียงโยบาเนส

โยบาเนสวางแผนเอาไว้ในใจ หากเฟเรสทำพลาดแม้แต่จุดเดียว พระองค์จะตำหนิเสียให้ยับ จึงเอาแต่จ้องทุกการเคลื่อนไหวไม่ละสายตา แต่สุดท้ายก็หาจุดบกพร่องไม่ได้แม้แต่จุดเดียวอยู่ดี

จนกระทั่งชาสีเขียวอ่อนถูกรินลงแก้วชาส่งเสียงดังจรู๊กจนเต็มแก้ว โยบาเนสจึงยอมละสายตา แล้วหันมาดื่มชาแทน

กลิ่นหอมของดอกไม้ให้ความสดชื่นอ่อนๆ ติดปลายจมูก

“ชาที่ดื่มก่อนเริ่มประชุมใหญ่เมื่อตอนนั้นสินะ”

“ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

โยบาเนสรู้สึกทึ่งในใจ

เพราะดื่มชาลงไปแล้ว มันช่วยให้เขาหายใจหายคอได้คล่องขึ้น ถึงแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม

โยบาเนสเอ่ยพูดกับเฟเรสที่ยังคงยืนเอามือไขว้หลังนิ่ง ไม่ร่วมดื่มชากับพระองค์

“เจ้าชายลำดับที่สองช่วยมาชงชาให้ข้าวันละสักสองครั้งก็แล้วกัน”

มันเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น

เฟเรสกำลังจัดการงานทั้งหมดแทนองค์จักรพรรดิ

แต่กลับสั่งให้เจ้าชายที่งานยุ่งจนล้นมือแวะมาหาวันละถึงสองครั้งเนี่ยนะ

โยบาเนสนี่ช่างหน้าด้านเหลือเกิน

หากเฟเรสกล้าปฏิเสธ ก็คงคิดที่จะใช้มันเป็นข้ออ้าง แล้วกลั่นแกล้งเขาด้วยการสั่งเลื่อนกำหนดการแต่งตั้งองค์รัชทายาทเป็นแน่

“น้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

ทว่าเฟเรสก็เพียงแค่ตอบเสียงเรียบ โค้งศีรษะลงเท่านั้น

“พรุ่งนี้เช้ากระหม่อมจะแวะมาพบพ่ะย่ะค่ะ ทรงพักผ่อนต่อเถอะ”

พอเฟเรสกล่าวลาแล้วออกไปจากห้องบรรทม โยบาเนสก็เหลือตัวคนเดียวอีกครั้ง

แต่โยบาเนสกำลังยิ้ม ต่างจากเมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิง

และกระตุกเชือกอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงออกคำสั่งแก่หัวหน้านางกำนัล

“บอกประธานคิลเลียนให้มาพบข้าพรุ่งนี้เช้า”

พระองค์จะไม่ยอมถูกลืมเลือนไปแบบนี้แน่

โยบาเนสครุ่นคิด ขณะเดียวกันก็หอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนอีกครั้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+