เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 245.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 245.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เล่ม 6 บทที่ 245.2

วันถัดมา

พ่อบ้านเข้ามาแจ้งข่าวกับเธอที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า

ท่านปู่เรียกพบ

เธอก็เลยลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้าง่ายๆ แล้วเดินออกจากบ้านตรงไปยังห้องทำงานของท่านปู่ทันที

“ดูวุ่นวายแปลกๆ นะเนี่ย”

จู่ๆ ก็รู้สึกแบบนั้นระหว่างเดินจากบ้านหลังเล็กของเธอไปจนถึงห้องทำงานของท่านปู่

ปกติแล้วคนงานในคฤหาสน์ก็เริ่มทำงานกันตั้งแต่เช้าตรู่กันอยู่แล้ว แต่วันนี้กลับดูยุ่งกันมากเป็นพิเศษ

“ที่คฤหาสน์วันนี้มีงานอะไรเหรอไง ก็ไม่นี่นา ไม่มีงานอะไรสักหน่อย”

ต่อให้พยายามนึกแค่ไหน ก็หาสาเหตุที่ทำให้คนงานแต่ละคนดูยุ่งกันมากขนาดนั้นไม่เจอ

ฤดูกาลงานเลี้ยงกว่าจะเริ่มก็ฤดูใบไม้ผลิ ดังนั้นนี่ก็ไม่ใช่ช่วงจัดงานเลี้ยงอะไรด้วย แล้วก็ไม่ใช่วันเกิดของใครในครอบครัวสักหน่อย

ไว้ต้องลองถามท่านปู่ดูสักหน่อยแล้ว

คิดเช่นนั้นในขณะที่เคาะประตูห้องทำงาน

“ท่านปู่ ข้าเองค่ะ เข้าไปนะคะ”

เธอเปิดประตูเดินเข้าไปข้างในห้องไม่ต่างอะไรจากทุกวัน

“…เห”

รู้สึกขัดๆ กันชอบกล

ห้องทำงานก็ยังคงเหมือนเดิม แต่มันกลับมีอะไรบางอย่างแปลกไป

กว่าจะแน่ใจก็ตอนที่มองไปยังริมหน้าต่าง

ไม้แกะสลักรูปท่านย่าฝีมืออัลเพโอ้ที่เธอเคยมอบให้เป็นของขวัญแก่ท่านปู่เมื่อตอนเด็ก มันไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

“โอ้ เทียมาแล้วหรือ มานี่สิ”

ท่านปู่ที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับรองลุกขึ้นกวักมือเรียกเธอ

“ท่านปู่…ดูแปลกๆ นะคะ”

“อย่างนั้นหรือ”

ท่านปู่ยกยิ้มที่ไม่อาจเข้าใจความหมายได้ ในขณะเดียวกันก็ดันหลังเธอซึ่งเพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องทำงานเจ้าตระกูลให้เดินตรงไปยังบริเวณหนึ่ง

เธอเดินตามท่านปู่ไปพลางเหลียวมองรอบๆ ห้องทำงาน แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักยืนนิ่งอยู่กับที่

“ท่านปู่…”

ท่านปู่มองเธอยิ้มๆ แล้วเดินไปจับเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของเจ้าตระกูลด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนจะเอ่ยพูด

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เทีย มันเป็นที่ของเจ้า”

“แต่นั่นมัน…”

ตำแหน่งที่มีแค่เฉพาะเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียเท่านั้นที่สามารถนั่งได้

ท่านปู่เอ่ยย้ำอีกครั้งเสียงทุ้มให้เธอที่ยืนนิ่งงันด้วยความตกตะลึงได้มั่นใจ

“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เจ้าคือเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย”

ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย กระทั่งความคิดในหัวสมองก็พลันหยุดนิ่ง

และสิ่งที่ตระหนักได้ในวินาทีต่อมาก็คือ ความจริงที่ว่าเธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของท่านปู่

ไม่สิ ตอนนี้มันเป็นเก้าอี้ของเธอแล้ว หลังจากที่จับเธอนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น ท่านปู่ก็เดินไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะหนังสือ แล้วมองหน้าเธอ

“รู้สึกยังไงบ้าง”

“…รู้สึกดีค่ะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! สมแล้วที่เป็นหลานสาวข้า!”

ท่านปู่ระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น

หรือเธอควรที่จะพูดจาให้มันถ่อมเนื้อถ่อมตัวลงหน่อยล่ะเนี่ย

แต่จะทำยังไงได้ มันรู้สึกดีมากจริงๆ นี่นา

เธอค่อยๆ ลูบโต๊ะหนังสือของเจ้าตระกูลอย่างเชื่องช้า เส้นขนพลันลุกชันทั่วแขน

นี่เธอ

เป็นเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียอย่างนั้นเหรอ

เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปากแน่น

กลัวว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นแล้วจะหลุดเสียงร้องกรี้ดออกมา

คำที่ท่านปู่พูดตอนเธอตกตะลึงจนคิดอะไรไม่ออกเมื่อครู่นี้ มันกลับมาดังสะท้อนก้องอยู่ในโสตประสาทหูของเธออีกครั้ง

“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เจ้าคือเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย”

ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เจ้าตระกูลคนใหม่ของตระกูลลอมบาร์เดีย

พูดอะไรไม่ออกเลย

เธอมองหน้าท่านปู่เงียบๆ

“บางคราก็หวาดกลัว บางครั้งก็ลุ่มหลง บางคราก็ถูกกดข่มไว้ด้วยนามลอมบาร์เดีย แต่ทุกครั้งที่เป็นเช่นนั้น ขอให้เจ้าจำเอาไว้สิ่งหนึ่ง”

ท่านปู่เอ่ยพูดกับเธอ

“เจ้าคือลอมบาร์เดีย และลอมบาร์เดียก็คือเจ้า อย่าได้ลืมเรื่องนั้นเสียล่ะ”

ลอมบาร์เดียคือเธอ และเธอก็คือลอมบาร์เดีย

เธอพยักหน้าลงอย่างช้าๆ

มือทั้งสองข้างของเธอจับที่เท้าแขนเก้าอี้เอาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว

ในตอนนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับพ่อบ้านโยฮันที่เดินเข้ามาในห้อง

“ขอแนะนำตัวอีกครั้งนะครับ พ่อบ้านประจำตัวเจ้าตระกูล โยฮันครับ”

“อา…”

โยฮันกำลังพูดกับเธอ ไม่ใช่ท่านปู่

ลืมไปเลย

โยฮันไม่ใช่พ่อบ้านประจำตัวท่านปู่ แต่เป็นพ่อบ้านที่คอยช่วยเหลืองานเจ้าตระกูลต่างหากล่ะ

“งานเลี้ยงเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ท่านเจ้าตระกูล”

“งานเลี้ยง…หรือคะ”

ท่านปู่บอกเธอที่กำลังสับสน

“งานเลี้ยงแสดงความยินดีกับเจ้าตระกูลคนใหม่ พ่อเจ้ากับชานาเนสช่วยกันเตรียมงานอย่างแข็งขันเลยนะ”

“อ๊า เพราะงี้นี่เอง!”

นี่สินะ สาเหตุที่คนงานแต่ละคนงานยุ่งกันขนาดนั้น

“ตลอด 3 วันนี้ ประตูคฤหาสน์จะถูกเปิดออกเพื่อต้อนรับผู้คนที่มางานเลี้ยง มันเป็นธรรมเนียมของลอมบาร์เดียยังไงล่ะ”

ท่านปู่กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะเดินนำเธอออกไปด้านนอก

ทางฝั่งโถงจัดงานเลี้ยงถูกจัดเตรียมเซตติ้งทุกอย่างเอาไว้พร้อมหมดแล้ว สวนกว้างเองก็มีโต๊ะวางตั้งอยู่ทั่วพื้นที่

ท่านปู่หันมาพูดกับเธอที่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเสียงเรียบ

“งานเลี้ยงครั้งนี้จะต้องเป็นงานสุดท้ายที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์โดยที่เจ้าไม่รู้เรื่อง เจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย”

งื้ออออ สมกับเป็นลอมบาร์เดียจริงๆ! เจ๋งไปเลย!

สองมือยกขึ้นวางบนขอบหน้าต่าง เธอกำหมัดแน่น วันนี้ท่านปู่ดูเท่สุดๆ ไปเลย

เธอมองสบตาท่านปู่ตรงๆ แล้วเอ่ยพูดขึ้น

“ข้าจะทำให้ตระกูลนี้ยิ่งใหญ่มากกว่านี้ค่ะ ท่านปู่”

ท่านปู่เองก็ตบไหล่ให้กำลังใจเธอเสียงดังตุบ ตุบ ตอบกลับมา

“อืม ฟีเรนเทีย ถ้าเป็นเจ้าละก็จะต้องทำได้แน่”

นั่นเป็นคำพูดของท่านปู่ผู้ซึ่งนำพาลอมบาร์เดียให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียทุกรุ่นในประวัติศาสตร์

และอนาคตที่กำลังจะเป็นจริงของเธอ

นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอคือเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย

* * *

อย่างที่ท่านปู่บอก งานเลี้ยงฉลองดำเนินต่อเนื่องตลอดสามวันสามคืน

ชนชั้นสูงของอาณาจักรและชาวเมืองลอมบาร์เดียทุกคนต่างก็มารวมตัวกินดื่มอย่างสุขสำราญโดยไม่มีการแบ่งแยก

และเมื่อถึงช่วงบ่ายของงานเลี้ยงวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย

“ท่านเจ้าตระกูล”

“มีเรื่องอะไรหรือคะ โยฮัน”

“มีแขกจากแดนไกลมาเยือนครับ”

แขกผู้ที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีวันได้พบเจอ

“มารดาของท่านชาห์น ท่านยายของท่านเจ้าตระกูลขอพบที่สวนหย่อมครับ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 245.2

Now you are reading เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล Chapter 245.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เล่ม 6 บทที่ 245.2

วันถัดมา

พ่อบ้านเข้ามาแจ้งข่าวกับเธอที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า

ท่านปู่เรียกพบ

เธอก็เลยลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้าง่ายๆ แล้วเดินออกจากบ้านตรงไปยังห้องทำงานของท่านปู่ทันที

“ดูวุ่นวายแปลกๆ นะเนี่ย”

จู่ๆ ก็รู้สึกแบบนั้นระหว่างเดินจากบ้านหลังเล็กของเธอไปจนถึงห้องทำงานของท่านปู่

ปกติแล้วคนงานในคฤหาสน์ก็เริ่มทำงานกันตั้งแต่เช้าตรู่กันอยู่แล้ว แต่วันนี้กลับดูยุ่งกันมากเป็นพิเศษ

“ที่คฤหาสน์วันนี้มีงานอะไรเหรอไง ก็ไม่นี่นา ไม่มีงานอะไรสักหน่อย”

ต่อให้พยายามนึกแค่ไหน ก็หาสาเหตุที่ทำให้คนงานแต่ละคนดูยุ่งกันมากขนาดนั้นไม่เจอ

ฤดูกาลงานเลี้ยงกว่าจะเริ่มก็ฤดูใบไม้ผลิ ดังนั้นนี่ก็ไม่ใช่ช่วงจัดงานเลี้ยงอะไรด้วย แล้วก็ไม่ใช่วันเกิดของใครในครอบครัวสักหน่อย

ไว้ต้องลองถามท่านปู่ดูสักหน่อยแล้ว

คิดเช่นนั้นในขณะที่เคาะประตูห้องทำงาน

“ท่านปู่ ข้าเองค่ะ เข้าไปนะคะ”

เธอเปิดประตูเดินเข้าไปข้างในห้องไม่ต่างอะไรจากทุกวัน

“…เห”

รู้สึกขัดๆ กันชอบกล

ห้องทำงานก็ยังคงเหมือนเดิม แต่มันกลับมีอะไรบางอย่างแปลกไป

กว่าจะแน่ใจก็ตอนที่มองไปยังริมหน้าต่าง

ไม้แกะสลักรูปท่านย่าฝีมืออัลเพโอ้ที่เธอเคยมอบให้เป็นของขวัญแก่ท่านปู่เมื่อตอนเด็ก มันไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

“โอ้ เทียมาแล้วหรือ มานี่สิ”

ท่านปู่ที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับรองลุกขึ้นกวักมือเรียกเธอ

“ท่านปู่…ดูแปลกๆ นะคะ”

“อย่างนั้นหรือ”

ท่านปู่ยกยิ้มที่ไม่อาจเข้าใจความหมายได้ ในขณะเดียวกันก็ดันหลังเธอซึ่งเพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องทำงานเจ้าตระกูลให้เดินตรงไปยังบริเวณหนึ่ง

เธอเดินตามท่านปู่ไปพลางเหลียวมองรอบๆ ห้องทำงาน แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักยืนนิ่งอยู่กับที่

“ท่านปู่…”

ท่านปู่มองเธอยิ้มๆ แล้วเดินไปจับเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของเจ้าตระกูลด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนจะเอ่ยพูด

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เทีย มันเป็นที่ของเจ้า”

“แต่นั่นมัน…”

ตำแหน่งที่มีแค่เฉพาะเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียเท่านั้นที่สามารถนั่งได้

ท่านปู่เอ่ยย้ำอีกครั้งเสียงทุ้มให้เธอที่ยืนนิ่งงันด้วยความตกตะลึงได้มั่นใจ

“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เจ้าคือเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย”

ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย กระทั่งความคิดในหัวสมองก็พลันหยุดนิ่ง

และสิ่งที่ตระหนักได้ในวินาทีต่อมาก็คือ ความจริงที่ว่าเธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของท่านปู่

ไม่สิ ตอนนี้มันเป็นเก้าอี้ของเธอแล้ว หลังจากที่จับเธอนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น ท่านปู่ก็เดินไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะหนังสือ แล้วมองหน้าเธอ

“รู้สึกยังไงบ้าง”

“…รู้สึกดีค่ะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! สมแล้วที่เป็นหลานสาวข้า!”

ท่านปู่ระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น

หรือเธอควรที่จะพูดจาให้มันถ่อมเนื้อถ่อมตัวลงหน่อยล่ะเนี่ย

แต่จะทำยังไงได้ มันรู้สึกดีมากจริงๆ นี่นา

เธอค่อยๆ ลูบโต๊ะหนังสือของเจ้าตระกูลอย่างเชื่องช้า เส้นขนพลันลุกชันทั่วแขน

นี่เธอ

เป็นเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียอย่างนั้นเหรอ

เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปากแน่น

กลัวว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นแล้วจะหลุดเสียงร้องกรี้ดออกมา

คำที่ท่านปู่พูดตอนเธอตกตะลึงจนคิดอะไรไม่ออกเมื่อครู่นี้ มันกลับมาดังสะท้อนก้องอยู่ในโสตประสาทหูของเธออีกครั้ง

“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เจ้าคือเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย”

ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย เจ้าตระกูลคนใหม่ของตระกูลลอมบาร์เดีย

พูดอะไรไม่ออกเลย

เธอมองหน้าท่านปู่เงียบๆ

“บางคราก็หวาดกลัว บางครั้งก็ลุ่มหลง บางคราก็ถูกกดข่มไว้ด้วยนามลอมบาร์เดีย แต่ทุกครั้งที่เป็นเช่นนั้น ขอให้เจ้าจำเอาไว้สิ่งหนึ่ง”

ท่านปู่เอ่ยพูดกับเธอ

“เจ้าคือลอมบาร์เดีย และลอมบาร์เดียก็คือเจ้า อย่าได้ลืมเรื่องนั้นเสียล่ะ”

ลอมบาร์เดียคือเธอ และเธอก็คือลอมบาร์เดีย

เธอพยักหน้าลงอย่างช้าๆ

มือทั้งสองข้างของเธอจับที่เท้าแขนเก้าอี้เอาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว

ในตอนนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับพ่อบ้านโยฮันที่เดินเข้ามาในห้อง

“ขอแนะนำตัวอีกครั้งนะครับ พ่อบ้านประจำตัวเจ้าตระกูล โยฮันครับ”

“อา…”

โยฮันกำลังพูดกับเธอ ไม่ใช่ท่านปู่

ลืมไปเลย

โยฮันไม่ใช่พ่อบ้านประจำตัวท่านปู่ แต่เป็นพ่อบ้านที่คอยช่วยเหลืองานเจ้าตระกูลต่างหากล่ะ

“งานเลี้ยงเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ท่านเจ้าตระกูล”

“งานเลี้ยง…หรือคะ”

ท่านปู่บอกเธอที่กำลังสับสน

“งานเลี้ยงแสดงความยินดีกับเจ้าตระกูลคนใหม่ พ่อเจ้ากับชานาเนสช่วยกันเตรียมงานอย่างแข็งขันเลยนะ”

“อ๊า เพราะงี้นี่เอง!”

นี่สินะ สาเหตุที่คนงานแต่ละคนงานยุ่งกันขนาดนั้น

“ตลอด 3 วันนี้ ประตูคฤหาสน์จะถูกเปิดออกเพื่อต้อนรับผู้คนที่มางานเลี้ยง มันเป็นธรรมเนียมของลอมบาร์เดียยังไงล่ะ”

ท่านปู่กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะเดินนำเธอออกไปด้านนอก

ทางฝั่งโถงจัดงานเลี้ยงถูกจัดเตรียมเซตติ้งทุกอย่างเอาไว้พร้อมหมดแล้ว สวนกว้างเองก็มีโต๊ะวางตั้งอยู่ทั่วพื้นที่

ท่านปู่หันมาพูดกับเธอที่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเสียงเรียบ

“งานเลี้ยงครั้งนี้จะต้องเป็นงานสุดท้ายที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์โดยที่เจ้าไม่รู้เรื่อง เจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย”

งื้ออออ สมกับเป็นลอมบาร์เดียจริงๆ! เจ๋งไปเลย!

สองมือยกขึ้นวางบนขอบหน้าต่าง เธอกำหมัดแน่น วันนี้ท่านปู่ดูเท่สุดๆ ไปเลย

เธอมองสบตาท่านปู่ตรงๆ แล้วเอ่ยพูดขึ้น

“ข้าจะทำให้ตระกูลนี้ยิ่งใหญ่มากกว่านี้ค่ะ ท่านปู่”

ท่านปู่เองก็ตบไหล่ให้กำลังใจเธอเสียงดังตุบ ตุบ ตอบกลับมา

“อืม ฟีเรนเทีย ถ้าเป็นเจ้าละก็จะต้องทำได้แน่”

นั่นเป็นคำพูดของท่านปู่ผู้ซึ่งนำพาลอมบาร์เดียให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียทุกรุ่นในประวัติศาสตร์

และอนาคตที่กำลังจะเป็นจริงของเธอ

นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอคือเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย

* * *

อย่างที่ท่านปู่บอก งานเลี้ยงฉลองดำเนินต่อเนื่องตลอดสามวันสามคืน

ชนชั้นสูงของอาณาจักรและชาวเมืองลอมบาร์เดียทุกคนต่างก็มารวมตัวกินดื่มอย่างสุขสำราญโดยไม่มีการแบ่งแยก

และเมื่อถึงช่วงบ่ายของงานเลี้ยงวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย

“ท่านเจ้าตระกูล”

“มีเรื่องอะไรหรือคะ โยฮัน”

“มีแขกจากแดนไกลมาเยือนครับ”

แขกผู้ที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีวันได้พบเจอ

“มารดาของท่านชาห์น ท่านยายของท่านเจ้าตระกูลขอพบที่สวนหย่อมครับ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+