My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1000 การประลองครั้งสุดท้าย ปะทะอาวุโสหนึ่ง

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1000 การประลองครั้งสุดท้าย ปะทะอาวุโสหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1000 การประลองครั้งสุดท้าย ปะทะอาวุโสหนึ่ง
  อะไรกัน! ศิษย์พี่หลี่พ่ายแพ้!
  สาวกทั้งหมดที่อยู่รอบๆต่างก็ตกตะลึงด้วยความไม่เชื่อเมื่อพวกเธอได้เห็นว่าศิษย์พี่ผู้แข็งแกร่งของเธอพ่ายแพ้ในการประลองและถูกเตะตกเวที
  ผู้อาวุโสหนึ่งซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ของหลี่ย้งผุดลุกขึ้นด้วยดวงตาที่ส่องประกายแวววาวเธอเดินไปที่เวทีด้วยเจตนาที่จะท้าทายฉิงเฟิงอย่างเห็นได้ชัด
  เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ฉิงเฟิงครอบครองอาวุโสหนึ่งจึงชิงลงมือทันทีที่มาถึง
  “
  หมัดจิตมีดวายุ”
  เธอเหวี่ยงหมัดขวาออกมาอย่างกระทันหันและเปลี่ยนเป็นคมมีดขนาดยักษ์ยาวสี่สิบเมตรที่ปะทะเข้าใส่ศีรษะของฉิงเฟิงด้วยพลังอันมหาศาล
  มันเป็นการออกหมัดอันทรงพลังจากยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวจิตโลกาและสามารถระเบิดศีรษะยอดฝีมือทั่วไปได้อย่างง่ายดาย
  “
  หมัดที่สองบดภูผา ทลายปฐพี
  !
  “
  เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายหมัดอันทรงพลังของอาวุโสหนึ่งฉิงเฟิงรีบออกหมัดที่สองของเพลงหมัดทลายนรกานต์ออกมาอย่างฉับพลัน
  พลังงานจากธรรมชาติจำนวนมหาศาลพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและชนเข้ากับหมัดจิตมีดวายุด้วยพลังอันมหาศาล
  ตูม
  !
  หมัดทั้งสองปะทะกันด้วยเสียงดังลั่นราวกับแผ่นดินไหวและก่อให้เกิดหลุมดำขนาดใหญ่ในอากาศ
  คลื่นพลังงานที่รุนแรงแพร่กระจายไปยังพื้นที่โดยรอบมันพลิกคว่ำวัตถุสิ่งของรอบๆและทำให้โต๊ะเกาอี้ระเบิดออก แม้แต่สาวกบางคนในบริเวณใกล้เคียงก็ยังล้มลงกับพื้น
  ครืดดดด!
  อาวุโสหนึ่งยืนหยัดอยู่ที่จุดเดิมในขณะที่ฉิงเฟิงต้องถอยไปก้าวหนึ่งการปะทะกันครั้งนี้อาวุโสหนึ่งเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
  ในฐานะยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวจิตโลกาอาวุโสหนึ่งมีพลังมากกว่าฉิงเฟิง แต่หลังจากการปะทะ เขาเพียงถอยแค่ก้าวเดียว มันแสดงให้เห็นถึงวิชาบ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งโดยกำเนิดของเขา
  ยิ่งเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังระดับสูงเพียงใดความแข็งแกร่งในการต่อสู้ก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
  อาวุโสหนึ่งตั้งสมาธิและโคจรพลังแท้ไปยังหมัดของเธอและโจมตีใส่ฉิงเฟิงอีกครั้งซึ่งอีกฝ่ายก็สามารถรับไว้ได้ด้วยเพลงหมัดทลายนรกานต์
  วิชาหมัดชุดนี้เป็นผลพวงจากเคล็ดบ่มเพาะกายาในระดับอมตะและฉิงเฟิงก็เพิ่งจะเรียนรู้ได้เพียงสองหมัดแรกเท่านั้นแต่มันก็มีพลังมากพอที่จะรับมือกับการโจมตีอันเกรี้ยวกราดของอาวุโสหนึ่งได้
  อาวุโสหนึ่งเริ่มใบหน้าเปลี่ยนสีเมื่อการโจมตีจากวิชาหมัดของเธอถูกรับไว้ได้อีกครั้งเธอรู้ว่าคงไม่อาจเอาชนะชายหนุ่มคนนี้ได้ด้วยวิชาหมัด
  “
  สายเลือดเถาวัลย์เจ็ดโลหิต
  !”
  อาวุโสหนึ่งตะโกนด้วยเสียงต่ำและเปิดใช้งานพลังสายเลือดของเธอทันที
  นัยน์ตาและผิวหนังของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงที่เปล่งแสงสีแดงเลือดออกมาและเหนือศีรษะของเธอก็มีเงาร่างของเถาวัลย์เลือดเจ็ดเส้นที่ดูเกรี้ยวกราด
  มันมีความสูงถึงห้าสิบเมตรและมีรากทั้งหมดเจ็ดเส้น กลิ่นอายหลังจากการปรากฏตัวของมันดูน่าเกรงขามมาก
  สายเลือดเถาวัลย์เจ็ดโลหิตเป็นสายเลือดระดับที่สองและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉิงเฟิงได้พบกับผู้ครอบครองพลังสายเลือดระดับที่สอง!
  “
  สายเลือดผู้กลืนกิน
  !”
  เมื่อเผชิญหน้ากับสายเลือดระดับสองที่น่าเกรงขามฉิงเฟิงจึงเปิดใช้งานสายเลือดของเขาเช่นกัน
  สายเลือดแห่งผู้กลืนกินเปลี่ยนตัวเองเป็นวังวนสีดำขนาดยักษ์และสวาปามเถาวัลย์เจ็ดโลหิตในทันทีมันบีบอัดพลังงานเหล่านั้นกลับเข้าหาฉิงเฟิง  ระดับพลังของเขาพุ่งทะลวงสู่ระดับใหม่มันช่วยยกระดับพลังของเขาจากจิตวิญญาณแท้จริงขั้นกลางไปสู่จิตวิญญาณแท้จริงขั้นสูงสุดในพริบตา ! พลังเลือดสายระดับที่สองนั้นทรงพลังมากจนทำให้ฉิงเฟิงทะลวงระดับไปถึงสองขั้นย่อยทีเดียว
  พรู่ด!
  ผู้อาวุโสหนึ่งกระอักเลือดออกมาเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อพลังสายเลือดของเธอถูกฉิงเฟิงกลืนกินเข้าไป อีกทั้งแก่นโลหิตของเธอก็ลดฮวบเช่นกัน
  ฉิงเฟิงไม่เคยพลาดโอกาสยามศัตรูอ่อนแอเขารีบกระโจนขึ้นไปในอากาศแล้วพุ่งเข้าหาอาวุโสหนึ่งในพริบตา
  เขาเหวี่ยงหมัดชกเข้าใส่หน้าอกของอาวุโสและหักซี่โครงของเธอไปสองท่อน
  ฉิงเฟิงไร้เทียมทานต่อคู่ต่อสู้ในขอบเขตเดียวกันและยังสามารถท้าทายศัตรูที่มีระดับพลังเหนือกว่าขั้นหนึ่งได้อีกด้วย ดังนั้นเมื่อระดับพลังของเขาเพิ่มขึ้น อาวุโสหนึ่งที่กำลังบาดเจ็บก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
  แกร่ก!
  ฉิงเฟิงกระแทกหมัดของเขาออกไปข้างหน้าอีกครั้งและหักซี่โครงของเธออีกซี่ทำให้เธอกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
  อาวุโสหนึ่งรู้สึกเสียใจหากเธอใช้กระจกเงาเยือกแข็งก็อาจจะเอาชนะฉิงเฟิงได้ แต่น่าเสียดายที่มันเสียหายไปแล้ว กล่าวได้ว่าเธอไร้ทางต่อกรกับฉิงเฟิงอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่สูญเสียพลังสายเลือด
  ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวอีกครั้งไปด้านหลังเธอด้วยความรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาดและเตะเข้าที่ก้นของเธอจนตกเวที
  อาวุโสหนึ่งผู้ทรงพลังกลับกลายเป็นคนที่น่าสงสารถูกกลืนกินสายเลือด, ถูกทำร้ายซี่โครงหักและถูกเตะก้น
  “นิ..นี่ ดวงตาของข้ามีปัญหาหรือเปล่า ท่านอาวุโสลำดับหนึ่งพ่ายแพ้ ?!”
  “นั่นสิเจ้าหมอนั่นเอาชนะท่านอาวุโสหนึ่งได้จริงๆ”
  “ข้าเกลียดหลี่ฉิงเฟิงแต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาแข็งแกร่งจริงๆ”
  ผู้คนรอบข้างต่างก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจในสายตาของพวกเธอ
  มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่พวกเธอจะตกใจเพราะอาวุโสหนึ่งคือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของตำหนักร้อยบุปผารองจากประมุข
  ความจริงแล้วฉิงเฟิงไม่อาจเทียบกับอาวุโสหนึ่งได้เลยแต่เธอทำพลาดไปที่ดันไปเปิดใช้งานพลังสายเลือดเข้าโจมตีฉิงเฟิง โดยหารู้ไม่ว่าสายเลือดเลือดผู้กลืนกินของฉิงเฟิงนั้นมิอาจหาผู้ใดเทียบเทียมได้
  เมื่อได้เห็นอาวุโสหนึ่งได้รับบาดเจ็บประมุขร้อยบุปผาก็มีสีหน้าโกรธกริ้ว แต่เธอก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะสายตามากมายกำลังจับจ้องเธออยู่ อีกทั้งฉิงเฟิงก็ชนะอย่างใสสะอาด  “ผู้ชนะคือหลี่ฉิงเฟิงดังนั้นตำแหน่งนักบุญหญิงของตำหนักร้อยบุปผาจะยังคงเป็นฮวาเซียนจื่อต่อไป ! ”
  ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจกับผลการแข่งขันแต่ประมุขร้อยบุปผาก็ยังประกาศผลออกมาด้วยเสียงอันดัง
  ฉิงเฟิงเดินลงจากเวทีด้วยรอยยิ้มจางๆเขากล่าวกับฮวาเซียนจื่อ “โชคดีที่ไม่ได้ทำให้คุณผิดหวัง ผมนำตำแหน่งนักบุญกลับคืนมาให้แล้ว”
  ใบหน้าอันงดงามของฮวาเซียนจื่อเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้นเธอร่ำร้องออกมาเสียงดังว่า ‘ขอบคุณ !’
  นักบุญแห่งตำหนักร้อยบุปผาไม่ได้มีดีแค่ชื่อแต่มันทำให้คนผู้นั้นสามารถเข้าถึงทรัพยากรทุกประเภทของตำหนักได้ เช่น อายุวัฒนะ เคล็ดวิชาบ่มเพาะและอุปกรณ์วิญญาณ ฯลฯ
  นอกจากนี้รางวัลสำหรับตำแหน่งนักบุญในครั้งนี้ก็เป็นเม็ดยาพลังแท้ที่หาได้ยากมันช่วยให้เธอสามารถเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงได้อีกครั้ง
  ฮวาเซียนจื่อรับจากเม็ดยาพลังแท้จากประมุขร้อยบุปผามามันเป็นเม็ดยาสีน้ำเงินที่มีขนาดเท่าหัวแม่มือและเปล่งรัศมีสีน้ำเงินเข้มแผ่กระจายออกมา
  เธอใส่ยาเข้าปากและมันก็กลายเป็นกลุ่มก้อนพลังงานที่พุ่งเข้าสู่เส้นชีพจรกล้ามเนื้อและกระดูกของเธอ ในที่สุดมันก็มาถึงจุดตันเถียนและรวมตัวเป็นแก่นวิญญาณ
  ตูม!
  พลังอันยิ่งใหญ่เปล่งออกมาจากร่างกายของเธอและในที่สุดเธอก็เข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นปลายได้อีกครั้ง
  เม็ดยาพลังแท้เม็ดนี้ทรงประสิทธิภาพมากอย่างน่าเหลือเชื่อเพราะมันส่งผลทำให้ฮวาเซียนจื่อเลื่อนระดับจากขอบเขตเหนือสวรรค์ไปสู่ขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นปลายเลยทีเดียว  “ยินดีด้วยกับความก้าวหน้าของคุณคุณเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงอีกครั้งในที่สุด” ฉิงเฟิงกล่าวกับฮวาเซียนจื่อด้วยรอยยิ้มจางๆ
ตอนที่ 1001 ข่าวจากราชันกระบี่
  ใบหน้าอันทรงเสน่ห์ของฮวาเซียนจื่อแดงระเรื่อเป็นการตอบสนองต่อการแสดงความยินดีของหลี่ฉิงเฟิงเธอดีใจมาก ในที่สุดเธอก็เข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงอีกครั้ง
  สำหรับผู้ฝึกตนระดับการบ่มเพาะคือทุกสิ่ง การได้พลังกลับคืนนั้นราวกับว่าได้ชีวิตคืนมาอีกครั้ง นี่เป็นเรื่องสมควรฉลอง
  “ขอบคุณท่านมากหลี่ฉิงเฟิง” ฮวาเซียนจื่อกล่าวขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง
  เธอรู้ว่าทั้งหมดนี้เกิดจากความช่วยเหลือของเขาหากไม่ใช่เพราะเขาเธอคงจบสิ้นแล้ว
  ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าวว่า“ที่ระดับบ่มเพาะของคุณลดลงก็เพราะผม ดังนั้นการช่วยเหลือคุณเป็นสิ่งที่ผมควรทำ”
  “มากับข้า”
  ฮวาเซียนจื่อยิ้มเฉิดฉันและเดินนำฉิงเฟิงไปอีกห้องหนึ่ง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *