My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 566

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 566 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 566 ยอดฝีมือผู้หลบซ่อนในเมืองเทียนจิง

แปล Tarhai

ในเมื่อเซียะเฟยเฟยยืนกราน ฉิงเฟิงก็จำเป็นต้องรับตั๋วมา เขามอบตั๋วให้จางเสี่ยวเยวี่ยและเซี่ยหวั่นฉิวคนละใบ จากนั้นก็เก็บที่เหลือไว้กับตัวเอง เขาคิดว่าจะมอบให้หลินเสวี่ยและเพื่อนคนอื่นๆ

อาหารที่พวกเขาทานกันที่ร้าน Moon Bay ในวันนี้ถือเป็นอาหารมื้อใหญ่ เพราะซุปเปอร์สตาร์อย่างเซียะเฟยเฟยมาที่นี่ อาหารที่มาเสิร์ฟจึงเป็นอาหารทะเลที่หรูหราเป็นพิเศษ

ผู้หญิงมักจะทานอาหารเพียงเล็กน้อย ดังนั้นอาหารส่วนใหญ่จึงเป็นฉิงเฟิงที่กวาดเรียบ

หญิงสาวทั้งสามคนกลอกตาเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงกินจุขนาดไหน พวกเธอรู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าฉิงเฟิงกินอาหารได้มากขนาดนี้

หลังจากทานอาหารมื้อค่ำเสร็จฉิงเฟิงก็กล่าวอำลากับเซียะเฟยเฟย เธอยังไม่อยากให้ฉิงเฟิงรีบกลับแต่ก็ต้องจำยอม ก่อนจากกันเธอกำชับให้เขาอย่าลืมไปดูคอนเสิร์ตของเธอในอีก 3 วันข้างหน้า

ฉิงเฟิงมอบคำสัญญาให้เธอแล้วเดินออกจากร้านอาหารไปพร้อมกับจางเสี่ยวเยวี่ยและเซี่ยหวั่นฉิว เขาขับรถของเซี่ยหวั่นฉิวไปส่งพวกเธอกลับบ้าน จากนั้นก็โบกแท๊กซี่กลับวิลล่าของตัวเอง

*****

ที่วิลล่าหมายเลข 14

ไฟในห้องนั่งเล่นยังคงสว่างไสว หลินเสวี่ยกำลังทำงานอยู่ เธอทำงานหนักขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพราะตอนนี้เธอมีศัตรูที่เคี้ยวยากอย่างหลิวหรูหยาน

ทันทีที่ฉิงเฟิงเปิดประตูบ้านเข้าไป เขาก็เห็นหลินเสวี่ยที่กำลังทำงานอย่างใจจดใจจ่อ เธอยังคงดูงดงามแม้ในขณะที่กำลังทำงานอยู่ คิ้วเรียวสวยของเธอขมวดเป็นปมแต่ก็มีเสน่ห์เหมือนเส้นโค้งของจันทร์เสี้ยว

หลินเสวี่ยเงยหน้าขึ้นขณะที่ได้ยินเสียงคนเปิดประตู ความสุขปรากฏขึ้นในแววตาของเธอเมื่อเธอพบว่าฉิงเฟิงกลับมาแล้ว เธอกล่าวทักทายว่า “คุณกลับมาแล้วเหรอ”

ฉิงเฟิงเดินไปหาหลินเสวี่ยด้วยรอยยิ้ม เขาเอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเธอและพูดว่า “อย่าหักโหมเกินไปนัก คุณจำเป็นต้องพักผ่อนบ้าง”

ใบหน้าของหลินเสวี่ยกลายเป็นสีแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการสนิทสนมเช่นนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเพราะในใจเธอยอมรับในตัวฉิงเฟิงแล้ว

“ฉันไม่ทำงานหนักได้อย่างไร ฉันพูดไปแล้วว่าฉันจะเอาชนะหลิวหรูหยานให้ได้ภายในหนึ่งปี” หลินเสวี่ยกำหมัดและพูดอย่างตั้งใจ

ฉิงเฟิงรู้สึกพูดไม่ออก หลินเสวี่ยดูฮึกเหิมทุกครั้งเมื่อกล่าวถึงหลิวหรูหยาน ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีคนพูดว่าสาวงามสามารถเป็นเพื่อนกับสาวธรรมดาได้ แต่สาวงามสองคนไม่อาจเป็นเพื่อนกันได้ เพราะธรรมชาติของผู้หญิงเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา (ตอนนี้มาอีกคนแล้วนะ…)

“เดี๋ยวก่อน ทำไมคุณถึงมีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงบนตัว ?” หลินเสวี่ยจมูกไวมาก เธอได้กลิ่นบางอย่างบนตัวฉิงเฟิงในทันทีที่ใกล้ชิดกัน กลิ่นนี้เป็นกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงเท่านั้น

ฉิงเฟิงสะดุ้งโหยงและกล่าวว่า “คุณได้กลิ่นผิดหรือเปล่า ฉันจะมีกลิ่นน้ำหอมบนตัวได้อย่างไร?”

หลินเสวี่ยสูดดมกลิ่นเสื้อผ้าของฉิงเฟิงอีกครั้งและพูดว่า “ไม่ผิดหรอก กลิ่นนี้ต้องเป็นกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงแน่นอน มันเป็นกลิ่นของน้ำหอมยี่ห้อชาแนล”

ฉิงเฟิงพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าหลินเสวี่ยจมูกดีแค่ไหน เขารู้ดีว่าเขาไม่อาจปฏิเสธได้อีก ดังนั้นยอมรับตรงๆน่าจะดีกว่า

“ความจริงแล้ววันนี้ฉันได้พบกับเซียะเฟยเฟยมา เธอมอบตั๋วคอนเสิร์ต VIP ของเธอมาให้ฉันอีกหลายใบด้วย” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซียะเฟยเฟย ? ซุปเปอร์สตาร์คนนั้น ?

ความสงสัยเกิดขึ้นในดวงตาของหลินเสวี่ย เห็นได้ชัดว่าเธอรู้จักเซียะเฟยเฟย เธอคือซุปเปอร์สตาร์ชั้นนำของประเทศจีน หลินเสวี่ยก็เป็นแฟนตัวยงของเธอเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หลินเสวี่ยไม่อาจปักเชื่อในเรื่องนี้ได้เมื่อเธอได้ยินฉิงเฟิงกล่าวว่าได้พบกับเซียะเฟยเฟย เธอได้ยินมาว่าเซียะเฟยเฟยสงวนตัวมากเธอไม่เคยมีข่าวหรือพูดคุยกับผู้ชายคนใด

เมื่อฉิงเฟิงเห็นหลินเสวี่ยเต็มไปด้วยความสงสัย เขาจึงหยิบตั๋วคอนเสิร์ตออกมาและกล่าวว่า “คุณดูนี่สิ นี่เป็นตั๋ว VIP ชมคอนเสิร์ตของเซียะเฟยเฟยอีกสามวันข้างหน้า”

“เดี๋ยวนะ นี่เป็นตั๋ว VIP ของเซียะเฟยเฟยจริงๆเหรอ !?”

หลินเสวี่ยขมวดคิ้วขณะที่สายตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธอไม่คิดว่าฉิงเฟิงจะพูดเรื่องจริง เซียะเฟยเฟยให้บัตรคอนเสิร์ตแก่เขา

“ขอตั๋วให้ชั้นสักใบได้ไหม ?” หลินเสวี่ยกระพริบตาของเธอและถามด้วยความหวัง เธอชอบเพลงของเซียะเฟยเฟยมาก

“แน่นอนอยู่แล้ว แต่ฉันมีข้อแม้”

“เรื่องอะไรเหรอ ?”

“ฉันขอจูบคุณหน่อย” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

รอยแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่งดงามของหลินเสวี่ย มันออกเป็นสีชมพูและทำให้เธอดูสวยขึ้น เธอพยักหน้าตกลงอย่างเอียงอาย

เปลวไฟปรากฏขึ้นในดวงตาของฉิงเฟิง เขารั้งตัวหลินเสวี่ยเข้ามาสู่อ้อมแขนและจูบลงบนริมฝีปากสีแดงของเธอ

อืม…. หลินเสวี่ยส่งเสียงครางออกมา เธอทำได้เพียงยอมให้ฉิงเฟิงฉวยโอกาสจากเธอ

หลังจากจูบอย่างหนำใจแล้วฉิงเฟิงก็อุ้มเธอขึ้นมาและพาเธอไปที่ห้องนอนบนชั้นสอง

“พี่หมาป่าตัวใหญ่ ตอนนี้ยังทำไม่ได้นะ…” ใบหน้าของหลินเสวี่ยแดงก่ำเธอพูดอย่างเขินอาย

ฉิงเฟิงพยักหน้าและกล่าวว่า “หนูน้อยหมวกแดง คุณไม่ต้องกังวล ฉันไม่ได้ทำอะไร แต่หลังจากงานแต่งงานของเราในอีก 20 วันข้างหน้าฉันจะกลืนกินเธอทั้งตัว”

หลินเสวี่ยซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มของเธอด้วยความเขิน เธออายมากจนไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองตาฉิงเฟิง จากนั้นฉิงเฟิงก็เล่านิทานกล่อมเธอจนหลับและเดินออกจากห้องไป

ฉิงเฟิงเดินกลับไปที่ห้องนอนของเขาที่ชั้น 1 เขาเปิดคอมพิวเตอร์และเข้าห้องสนทนาลึกลับของทีมเขี้ยวหมาป่าและติดต่อหาอลิซ

อลิซมีใบหน้าที่สวยงามและดูนุ่มนวล เธอสวมชุดนอนผ้าฝ้ายสีขาวซึ่งทำให้เธอเปล่งประกายและเต็มไปเสน่ห์

“อลิซ มีข่าวเรื่องเฮลคิงและราชันเหยี่ยวบ้างไหม ?” ฉิงเฟิงถาม

อลิซเลียริมฝีปากสีแดงสดของเธอเมื่อเห็นหน้าฉิงเฟิง เธอกล่าวว่า “บอสคะ ฉันรู้มาว่าเฮลคิงอยู่ในเมืองทะเลตะวันออก แต่ว่าพวกเราพบคนสวมหน้ากากแบบเดียวกับเฮลคิง 5 คน เราไม่แน่ใจว่าคนไหนคือเฮลคิงตัวจริง”

อะไรนะ ? มีคน 5 คนใส่หน้ากากแบบเดียวกับเฮลคิง ?

ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและรู้สึกว่าเรื่องราวเริ่มรุนแรงมากขึ้น เท่าที่เขารู้มาเฮลคิงมีเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้จู่ๆมีคน 5 คนที่ใส่หน้ากากแบบเดียวกับเฮลคิง เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนคือเฮลคิงตัวจริง ?

“อลิซ ฝากเธอจับตาดูคนสวมหน้ากากแบบเดียวกับเฮลคิงทั้งหมดนั่นด้วย”

“เข้าใจแล้วคะบอส”

“ว่าแต่ ราชันเหยี่ยวละ ? มีข่าวอะไรเพิ่มไหม ?” ฉิงเฟิงถาม

ความสับสนเกิดขึ้นในดวงตาของอลิซ เธอกล่าวว่า “บอสคะ ครั้งที่แล้วฉันบอกคุณว่าเฮลคิงปรากฏตัวที่เมืองเทียนจิง แต่เขาหายตัวไปเมื่อไปถึงที่นั่น สายของเราก็หาเขาในเมืองเทียนจิงไม่พบ”

ฉิงเฟิงรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของอลิซ เขารู้ดีถึงความสามารถของอลิซ เธอได้ฉายาว่าราชินีผู้ชาญฉลาดแห่งแวดวงข่าวสาร เธอเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในด้านการรวบรวมข้อมูล แต่ตอนนี้แม้กระทั่งเธอยังไม่สามารถหาตัวคนๆหนึ่งพบในเมืองเทียนจิง แสดงให้เห็นว่าเรื่องเหล่านี้เริ่มยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น

เมืองเทียนจิงเป็นเมืองที่แข็งแกร่งกว่าเมืองทะเลตะวันออก เป็นเมืองที่รวบรวมเหล่าเสือหลบมังกรซ่อนเอาไว้มากมาย อาจารย์ของฉิงเฟิง ราชาอสูรมีดวายุเคยเล่าให้เขาฟังว่าที่เมืองเทียนจิงมีมียอดฝีมือไร้เทียมทานอยู่คนหนึ่ง คนผู้นั้นยังสามารถต่อสู้ได้อย่างเสมอกับคุณชายสามแห่งตระกูลหลี่ , ราชันผู้พิชิตอีกด้วย !

“อลิซ เธอพบอะไรบางอย่างหรือว่าบางคนที่แข็งแกร่งบ้างไหมในเมืองเทียนจิง ?”

ฉิงเฟิงถาม

“บอสคะ ฉันรู้สึกได้ว่าที่เมืองนั้นจะต้องมียอดฝีมือไร้เทียมทานผู้หนึ่งซ่อนตัวอยู่แน่นอน ครั้งสุดท้ายที่ฉันไปในเมืองนั้นฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ดูอันตรายอย่างร้ายแรงแผ่ออกมาที่เมืองนั้น มันเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่ฉันเผชิญหน้าบอสเป็นครั้งแรก” อลิซอธิบายด้วยน้ำเสียงสั่นครือ

ฉิงเฟิงอึ้งอยู่พักหนึ่งและกล่าวว่า “อลิซพยายามหายอดฝีมือเร้นกายผู้นั้นให้พบให้ได้ แต่อย่าลืมว่า ความปลอดภัยของเธอต้องมาก่อน”

“เข้าใจแล้วคะบอส” อลิซตอบกลับ

จากนั้นฉิงเฟิงก็ตัดการเชื่อมและกลับไปนอนที่เตียง เขาต้องรักษาความแข็งแรงและเก็บพลังงานให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา เพราะเขาสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *