My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1118 อาวุโสสามแห่งนิกายราชันเหมันต์

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1118 อาวุโสสามแห่งนิกายราชันเหมันต์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1118 อาวุโสสามแห่งนิกายราชันเหมันต์
  เมื่อเห็นศิษย์ทั้งห้าของเธอพ่ายแพ้โดยน้ำมือของหลี่ฉิงเฟิงหญิงสาวที่เหลือรอดอีกคนจึงตัดสินใจแจ้งผู้อาวุโสนิกายราชันเหมันต์
  ปุ!
  เธอเหยียดมือขวาออกและหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
  อุปกรณ์ส่งสัญญาณยิงเปลวไฟสีแดงที่ส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางหิมะสีขาวจนโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษมันส่องแสงไปทั่วท้องฟ้า
  ที่ด้านหลังภูเขาหิมะเหล่าอาวุโสและสาวกนิกายราชันเหมันต์ต่างก็ได้เห็นสัญญาณนี้ มันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอันตราย
  อาวุโสทั้งสามของนิกายราชันเหมันต์รีบพุ่งตัวออกไปตามสัญญาณสีแดงพร้อมกับเหล่าสาวกในทันที
  ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นพลุสัญญาณสีแดงที่สว่างจ้าบนท้องฟ้าเขารีบไปหาหญิงสาวคนนั้นที่เบื้องหน้าเธอ
  เขาปล่อยฝ่ามือขวาพุ่งเข้าจะกระแทกศีรษะของเธอโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เธอสลบไปเท่านั้น
  หญิงสาวตื่นตระหนกเธอรีบชักกระบี่ยาวออกมาทันทีเพื่อต้องการป้องกันการโจมตีของชายหนุ่มเบื้องหน้า
  แต่ฉิงเฟิงก็รวดเร็วเกินกว่าเธอจะตอบโต้ได้ทันด้วยการสะบัดไม่ยากเย็น เขาก็หักกระบี่ของเธอเป็นสองส่วนและพุ่งเป้าไปที่ศีรษธของเธอ
  ในขณะเดียวกันก็เกิดเสียงอึกทึกมาจากระยะไกลพลังงานกระบี่อันแหลมคมถูกชักนำไปยังฉิงเฟิงดาบคมถูกนำไปยังอย่างรวดเร็ว
  ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกหนีจากพลังกระบี่พลังของมันพลาดเป้าที่ตัวเขาและพุ่งเข้าชนภูเขาหิมะจนเกิดรอยแตกลึกที่น่ากลัว
  ปรากฏร่างหญิงงามวัยกลางคนบินไปหยุดอยู่ที่ด้านข้างของหญิงสาว
  หญิงวัยกลางคนผู้นี้มีผิวพรรณที่ขาวเนียนมากแต่เนื่องจากอายุของเธอทำให้เธอมีรอยตีนกาที่หาง มิฉะนั้นเสน่ห์ของเธอนับได้ว่าเป็นสาวงามโดยสมบูรณ์
  “ท่านอาวุโสสามในที่สุดท่านก็มาถึงแล้ว ศิษย์ของข้าทุกคนถูกชายหนุ่มผู้นี้ทำร้ายหมดสติทั้งหมด โปรดแก้แค้นให้พวกเธอด้วย” หญิงสาวพูดต่อหญิงวัยกลางคนในขณะที่ชี้ไปที่ฉิงเฟิง
  หญิงวัยกลางคนนั้นไม่ใช่ใครนอกจากผู้อาวุโสคนที่สามแห่งนิกายราชันเหมันต์
  เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวใบหน้าของผู้อาวุโสสามก็ดำทะมึน ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความเย็นชา
  นิกายราชันเหมันต์เป็นนิกายผู้ฝึกตนในระดับราชาพวกเขาไม่เคยถูกผู้อื่นข่มเหงรังแก มีแต่พวกเขาที่รังแกผู้อื่น
  “เจ้าหนุ่มเจ้าเป็นใครกัน แจ้งชื่อแซ่มา” อาวุโสสามกล่าวถามในขณะที่ขมวดคิ้ว
  “ฉันแซ่หลี่ชื่อฉิงเฟิง ฉันมีธุระสำคัญต้องผ่านบริเวณนี้ พวกคุณหลีกไปให้พ้นถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ฉิงเฟิงกล่าวในขณะที่ยกยิ้มมุมปาก
  อาวุโสสามตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินชื่อของเขาเนื่องจากเธอเพิ่งได้รับข่าวเกี่ยวกับชายหนุ่มที่ชื่อหลี่ฉิงเฟิงและรู้ว่าเขามีชื่อเสียงมากซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะยอดฝีมืออันดับหนึ่งใต้ขอบเขตจิตราชัน
  ที่ภูเขาพยัคฆ์มังกรฉิงเฟิงล้มผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชันไปหลายคนและได้รับกระบี่แสงสีทอง จากนั้นชื่อเสียงของเขาได้แพร่กระจายไปทั่วโลกแห่งผู้ฝึกตน
  ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะอยู่ยงคงกระพันในขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชันลงไปแต่อาวุโสสามก็ไม่หวั่นเกรงเขาเพราะเธออยู่ในระดับจิตราชันเต็มขั้นซึ่งสูงกว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย
  “หลี่ฉิงเฟิงในเมื่อเจ้าอยู่ในดินแดนของนิกายเรา ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าหากยอมมอบกระบี่แสงสีทองมาแต่โดยดี” ผู้อาวุโสสามหัวเราะในขณะที่เธอข่มขู่ฉิงเฟิง
  ผู้อาวุโสสามฉลาดแกมโกงอย่างไม่น่าเชื่อเธอไม่เพียงแค่ต้องการกระบี่แสงสีทองเท่านั้น แต่เธอยังต้องการฆ่าเขาภายหลังอีกด้วย
  การขอให้ฉิงเฟิงยอมมอบกระบี่แสงสีทองออกมาเป็นเพียงกลลวงแต่ฉิงเฟิงก็ไม่ได้โง่ เขามองออกถึงแผนการของเธอ
  “ยัยป้าเธอต้องการให้ฉันมอบกระบี่แสงสีทองให้งั้นเหรอ ฝันเฝื่อง”
  ฉิงเฟิงหัวเราะเย้ยหยันและสบถใส่อาวุโสสาม
  ผู้อาวุโสสามเดือดดาลหลังจากได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของฉิงเฟิงเธอกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าก็จะเติมเต็มความปรารถนาของเจ้า”
  เคร้ง!
  ผู้อาวุโสสามชักกระบี่สีเงินออกมามันกว้างสองนิ้วและยาวสามฟุต มันถูกแกะสลักด้วยลวดลายเกล็ดหิมะและปล่อยพลังงานเยือกแข็งที่คมชัดออกมา
  กระบี่นี้เรียกว่ากระบี่หิมะเงินมันเป็นอุปกรณ์จิตวิญญาณระดับราชันที่มีพลังงานกระบี่อันทรงพลังอย่างยิ่ง
  อาวุโสสามพุ่งกระบี่หิมะเงินออกไปข้างหน้าปลดปล่อยพลังกระบี่ของมันออกมาและพุ่งทะลุผ่านอากาศสร้างความบั่นป่วนไปทั่วชั้นบรรยากาศ
  ด้วยเสียงดังตูม,อากาศรอบๆระเบิดออกพร้อมกับพลังงานกระบี่ที่พุ่งเข้าไปที่ฉิงเฟิง
  ฉิงเฟิงดึงกระบี่แสงสีทองออกมาด้วยการพลิกข้อมือ, เขากระชับมันไว้เหนือหน้าอกและเหวี่ยงมันไปข้างหน้าจนเกิดเป็นลำแสงสีทองซึ่งปะทะเข้ากับชั้นบรรยากาศในทันที  ตูม!!
  กระบี่แสงสีทองปะทะเข้ากับกระบี่หิมะเงินจนก่อให้เกิดเสียงดังอย่างอึกทึก
  ฉิงเฟิงและอาวุโสสามยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมของพวกเขาทั้งคู่ไม่มีผู้ใดถอยแม้แต่น้อย พวกเขาสูสีกันอย่างยิ่ง
  ผู้อาวุโสสามขมวดคิ้วของเธอด้วยความประหลาดใจเธอเป็นถึงปรมาจารย์อาวุโสแห่งนิกายราชันเหมันต์และมีขอบเขตพลังเหนือกว่าอีกฝ่ายถึงหนึ่งขั้น โดยธรรมชาติแล้วเธอตกใจไม่น้อยที่เห็นอีกฝ่ายไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยหลังจากการแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากัน
  ฉิงเฟิงก็ประหลาดใจเช่นกันแม้ว่าเขาจะปลดผนึกแรกของกระบี่แสงสีทอง แต่มันก็ยังถือได้ว่าทรงพลังและรวดเร็วมาก
  อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงมีพลังแท้ในร่างน้อยกว่าอีกฝ่าย ผลที่ออกมาเสมอกันทำให้เขาหงุดหงิดมากเพราะมันยิ่งทำให้เขาเสียเวลา  “
  วิชากระบี่
  หิมะเงิน
  !”
  ผู้อาวุโสสามแผดเสียงต่ำปลดปล่อยวิชากระบี่หิมะเงินออกมา มันสร้างเกล็ดหิมะขนาดยักษ์ขึ้นไปในอากาศ
  เกล็ดหิมะไม่ใช่เกล็ดหิมะธรรมดามันถูกสร้างขึ้นโดยการรวมกันของพลังงานกระบี่และพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงอย่างรวดเร็ว
  เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังวิชากระบี่ของอาวุโสสามใบหน้าของฉิงเฟิงก็เคร่งขรึมจริงจังและดวงตากลายเป็นเย็นชา
  เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการให้เขาตายเพราะการโจมตีทุกครั้งของเธอเล็งจุดตายเขาอย่างไร้ความปราณี!
  “
  แสงทองท่องนภา  !!
  “
  ฉิงเฟิงส่งเสียงคำรามด้วยการสะบัดข้อมือครั้งหนึ่ง, กระบี่แสงสีทองฟาดฟันไปเบื้องหน้าด้วยเคล็ดวิชาแรกออกมา
  กระบี่แสงสีทองกลายเป็นลำแสงสีทองราวกับว่ามันโผล่มาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วและปะทะเข้าหากระบี่หิมะเงินในพริบตา
  ปัง!
  การปะทะกันของกระบี่ทั้งสองเล่มสร้างเสียงอึกทึกสั่นสะเทือนสวรรค์และปฐพีจากนั้นกลุ่มก้อนพลังระเบิดออกและแผ่กระจายไปตามทิศทางของภูเขาหิมะ มันพัดหิมะและก้อนหินดินทรายกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง
  การโจมตีของพวกเขาสร้างความตกใจอย่างมากให้กับผู้คนรอบข้างและบีบให้คนรอบๆต้องถอยห่างด้วยความกลัว
  อาวุโสสามเหวี่ยงกระบี่หิมะเงินของเธอโจมตีฉิงเฟิงอย่างรุนแรงอีกครั้ง  ฉิงเฟิงก็ตอบโต้ด้วยกระบวนท่าแสงทองท่องนภาเช่นกัน
  พวกเขาแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันมากกว่าหลายร้อยกระบวนท่าไม่มีใครเหนือกว่าใคร
  “
  ฉันไม่อาจเสียเวลาเล่นกับยัยป้าคนนี้ไปมากกว่านี้ได้แล้วฉันต้องรีบฆ่ามันเพื่อไปยังภูเขาลูกที่ห้าและตามหาหัวใจเยือกแข็ง”
  ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและกล่าวพึมพำ
  เขามีเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนในการช่วยชีวิตหลินเสวี่ยเธอยังรอเขาอยู่
  ในขณะนั้นฉิงเฟิงหยิบน้ำเต้าทองคำออกมาจากแหวนมิติทันทีมันเป็นกลยุทธ์สุดท้ายของเขาที่ไม่ค่อยอยากจะใช้ แต่เพื่อฆ่าอาวุโสสามโดยเร็ว เขาจึงต้องนำมันออกมา
  น้ำเต้าทองคำเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันที่ก่อนหน้านี้ถูกใช้งานโดยเซียนทองคำมันมากเกินพอที่จะจัดการกับอาวุโสสาม  (บางตัวละครขอเปลี่ยนจากนักบุญเป็นเซียนนะครับปรึกษาผู้แปลนิยายจีนมาเขาบอกว่าengชอบใช้คำว่านักบุญ (saint) แต่ของจีนมันคือเซียน ความหมายคล้ายกันเป็นตัวตนของแต่ละฝั่งภาษาเท่านั้นเอง)
  ฉิงเฟิงเปิดน้ำเต้าทองคำและโคจรพลังแท้ในร่างในขณะที่ชี้น้ำเต้าทองคำไปที่อาวุโสสาม
  ซูม!
  ทันใดนั้นรังสีของพลังงานสีทองก็พุ่งออกจากน้ำเต้าสีทองมันเร็วดั่งสายฟ้าแลบและมาถึงเบื้องหน้าผู้อาวุโสสามทันที
  ��

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *