ฉิงเฟิงไม่ได้ขวางกู่เจิ้นเทียนและถังเจียงเฮอเมื่อเห็นพวกเขากำลังจะออกไปเนื่องจากกู่เจิ้นเทียนนั้นแข็งแกร่งแม้ฉิงเฟิงจะฆ่าเขาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนหนักหนาไม่น้อย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นในขณะนี้
　　ฉิงเฟิงมีตำราวิถีแห่งการปรุงยาอยู่ในมือเขารุ้ว่าตราบใดที่เขากลายเป็นนักปรุงยาที่เชี่ยวชาญและอาศัยคอนเนคชั่นกับตำหนักโห่วเย่อ หลังจากนั้นเขาย่อมทำให้ 4 ตระกูลใหญ่ต้องตกตะลึงได้แน่นอน
　　“คุณหนูฉินขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ นี่เป็นยาอายุวัฒนะ มันสามารถยืดอายุของพ่อคุณได้อีกหนึ่งเดือน” ฉิงเฟิงยิ้มและมอบเม็ดยาสีขาวเงินเม็ดหนึ่งให้ฉินเซียนจื่อ
　　“มันคือยาอายุวัฒนะจริงๆหรือ”
　　ฉินเซียนจื่อรับยามาและมองดูเม็ดยาที่ส่องประกายชีวิตออกมาด้วยความซาบซึ้ง　　ถึงแม้ฉินเซียนจื่อจะรู้ว่าฉิงเฟิงได้ตำราปรุงยามาจากสุสานเซียวหยุนแต่เขาก็เพียงได้ศึกษาแค่ทฤษฏีเท่านั้นและยังไม่เคยปฏิบัติจริง
　　ฉินเซียนจื่อมอบเตาปรุงยาให้กับฉิงเฟิงตามมาด้วยวัตถุดิบมากมายเธอไม่ได้หวังอะไรมากนักเพราะรู้ว่าเขาเป็นมือใหม่ อีกทั้งยาอายุวัฒนะยังเป็นเม็ดยาชั้นสูงสุด มันสกัดได้ยากมาก แต่สุดท้ายฉิงเฟิงก็ทำให้เธอต้องประหลาดใจอีกครั้งเพราะเขาสามารถทำมันขึ้นมาจนได้ !
　　อัจฉริยะ! เขาช่างเป็นอัจฉริยะจริงๆ
　　ฉินเซียนจื่อทอดถอนใจกับตัวเองเธอรู้ว่าเขาไม่เพียงแค่เป็นผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะ แต่ยังเป็นนักปรุงยาอัจฉริยะด้วยเช่นกัน
　　“ท่านหัวหน้าตระกูลลั่วขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ผมจะทำยาระดับแกรนด์มาสเตอร์ที่คุณขอให้ได้” ฉิงเฟิงกล่าวกับลั่วอี้ซาน
　　ลั่วอี้ซานและลั่วหนี่ชิงนำเขาเข้างานชุมนุมผู้ฝึกยุทธ์และช่วยเหลือจนเขาได้รับเตาปรุงยามา นอกจากนี้พวกเขายังช่วยรับมือกับถังเจียงเฮอให้อีกด้วย
　　ใบหน้าของลั่วอี้ซานสว่างขึ้นหลังจากได้ยินที่ฉิงเฟิงกล่าวเขาอยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นกลางมานานแล้ว ถ้าหากเขาได้ยานี้ บางทีเขาอาจจะทะลวงไปถึงขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายก็เป็นได้ ซึ่งมันคือความใฝ่ฝันของเขา
　　ลั่วอี้ซานต้องการมอบวัตถุดิบให้ฉิงเฟิงแต่ฉิงเฟิงโบกมือปฏิเสธ เขาไม่จำเป็นต้องขอสมุนไพรจากใครอีกเพราะเพิ่งได้ค่าไถ่มาเป็นจำนวนมาก
　　จากนั้นฉิงเฟิงก็นำสมุนไพรเหล่านี้เข้ามาในห้องพักในคฤหาสน์เทียนซานที่ซึ่งมีเตาปรุงยาอยู่แต่ไม่มีถ่านเหลือแล้วฉิงเฟิงจึงขอมันกับฉินเซียนจื่อและเตรียมปรุงยาเพิ่ม
　　เนื่องจากฉิงเฟิงได้ประสบความสำเร็จในการปรุงยาอายุวัฒนะมาก่อนแล้วครั้งนี้กระบวนการต่างๆจึงรวดเร็วขึ้นมาก　　การปรุงยาแกรนด์มาสเตอร์นั้นเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งเช่นเดียวกับขั้นตอนในการทำยาอายุวัฒนะ
　　ฉิงเฟิงล้มเหลวในครั้งแรกซึ่งทำให้เขาผิดหวังไม่น้อย
　　ฉิงเฟิงเชื่ออย่างผิดๆว่าตราบใดที่เขารู้ขั้นตอนการในการปรุงยาอายุวัฒนะแล้วการทำยาชนิดอื่นจะง่าย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย
　　ถึงแม้ว่าทั้งเม็ดยาอายุวัฒนะและยาแกรนด์มาสเตอร์จะเป็นยาชั้นสูงที่อยู่ในเกรดเดียวกันแต่กระบวนการทำนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สัดส่วนของสมุนไพร การควบคุมเปลวไฟและระยะเวลาในการปรุงนั้นจำเป็นต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
　　ฉิงเฟิงล้มเหลวในความพยายามครั้งแรกทำให้เขาสูญเสียสมุนไพรชั้นสูงนับร้อยกรัมซึ่งทำให้เขาเจ็บปวดไม่น้อยเพราะสมุนไพรเหล่านี้มีค่าอย่างยิ่ง เพียงหนึ่งกรัมก็ขายได้หลายล้านหยวนหรือแม้กระทั่งหลายสิบล้านอีกทั้งสมุนไพรบางชนิดก็ไม่อาจหาซื้อได้ด้วยเงิน
　　ฉิงเฟิงยังคงดำเนินการปรุงยาต่อไปหลังจากความล้มเหลวครั้งแรกแต่การล้มเหลวในครั้งที่สองนั้นสร้างความผิดหวังให้เขาจนเจ็บปวดไปถึงหัวใจ
　　เขาสูญเสียสมุนไพรไปถึงสี่ร้อยกรัมหลังจากล้มเหลวมาสี่ครั้งแต่สุดท้ายหลังจากพยายามครั้งที่ 5 เขาก็ทำยาแกรนด์มาสเตอร์ได้สำเร็จ
　　มันเป็นเม็ดยาสีมรกตที่มีขนาดเท่านิ้วมือมีแสงสีเขียวส่องประกายแวววาวบนพื้นผิว
　　ฉิงเฟิงเพียงสูดลมหายใจแค่ครั้งเดียวก็รู้สึกได้เหมือนสูดเอาลมปราณที่อัดแน่นเข้าไปในร่างและทำให้เขาผ่อนคลาย
　　“ยังมีสมุนไพรเหลืออีกห้าร้อยกรัมฉันควรจะทำยาใต้สวรรค์และยาเหนือสวรรค์สักหน่อยให้ทีมเขี้ยวหมาป่าและก็เจ้าคิงคอง” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเริ่มปรุงยาต่อ　　หลังจากนั้นเขาก็ประสบความสำเร็จในทุกขั้นตอนเพราะการปรุงยาขั้นใต้สวรรค์และเหนือสวรรค์นั้นง่ายกว่ามากตราบเท่าที่เขาใส่ใจ เขาก็ทำได้สำเร็จในครั้งเดียว
　　สุดท้ายฉิงเฟิงก็สกัดยาใต้สวรรค์ได้ 5 เม็ดและยาเหนือสวรรค์ได้ 5 เม็ดเช่นกัน เขาใช้สมุนไพร ‘ค่าไถ่’ จนหมดเกลี้ยงแล้ว
　　แน่นอนว่ายิ่งใช้สมุนไพรเกรดดีเท่าไหร่ในการปรุงยาผลที่ได้ก็จะยิ่งดีมากขึ้น เนื่องจากฉิงเฟิงใช้สมุนไพรชั้นเลิศในการสกัดยาเหล่านี้ ประสิทธิภายของมันจึงเหนือกว่ายาของนักปรุงยาคนอื่นๆแบบเทียบไม่ติด
　　ฉิงเฟิงเก็บยาทั้งหมดที่ทำได้และเดินออกไป
　　สามชั่วโมงผ่านไปลั่วอี้ซานและลั่วหนี่ชิงก็ยังคงรอเขาอยู่ในห้องโถงด้านนอก
　　ดวงตาของลั่วอี้ซานสว่างขึ้นเมื่อเขาเห็นฉิงเฟิงเดินออกมาเขาเต็มไปความปรารถนาและความคาดหวัง เขาหวังไว้สูงว่าฉิงเฟิงจะต้องทำสำเร็จ　　“ท่านหัวหน้าตระกูลลั่วนี่คือยาแกรนด์มาสเตอร์ของคุณ” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและมอบยาระดับแกรนด์มาสเตอร์ให้แก่ลั่วอี้ซาน
　　ลั่วอี้ซานมีท่าทางตกใจอย่างมากเมื่อลมปราณอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมาจากเม็ดยาในมือของเขา
　　“ฉิงเฟิงเจ้าช่างเป็นเป็นอัจฉริยะแห่งการปรุงยาจริงๆ ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะทำมันได้สำเร็จภายในเวลาไม่นาน” ลั่วอี้ซานกล่าวด้วยความชื่นชม
　　ในฐานะผู้นำตระกูลลั่วลั่วอี้ซานเคยพบกับอัจฉริยะรุ่นเยาว์มานับไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยชื่นชมผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งปรมาจารย์กระบี่จาวเกออี้
　　อย่างไรก็ตามลั่วอี้ซานชื่นชมฉิงเฟิงอย่างแท้จริง ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแค่ทรงพลัง แต่เขาก็ยังมีพรสวรรค์ทางด้านการปรุงยาและสามารถสกัดยาระดับแกรนด์มาสเตอร์ได้สำเร็จ
　　“ท่านหัวหน้าตระกูลเลิกยอผมได้แล้วลองผลของยาดูสิ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เขาเองก็ต้องการเห็นผลของยาที่เขาทำขึ้นมาเช่นกัน
　　ลั่วอี้ซานพยักหน้าและหยิบเม็ดยาสีมรกตใส่ปากของเขามันละลายทันทีและก่อให้เกิดพลังมหาศาลที่พุ่งเข้าไปในทุกซอกทุกมุมของเส้นเลือดและกระดูกของเขา มันขจัดสารพิษออกไป ทำให้กระดูกแข็งตัวและเพิ่มพละกำลังขึ้น
　　ตูม!
　　โซ่ตรวนที่อยู่ภายในร่างกายของลั่วอี้ซานระเบิดออกเขาทะลวงระดับจากขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นกลางไปสู่แกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงในทันที
　　ลั่วอี้ชานลองออกหมัดเพียงปล่อยหมัดง่ายๆก็ทำให้ต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าเขาแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
　　“วูฟคิงข้าต้องขอขอบคุณมากสำหรับเม็ดยาแกรนด์มาสเตอร์นี้ ในที่สุดข้าก็เข้าถึงแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายจนได้” ลั่วอี้ซานหันหน้ามาหาฉิงเฟิงและกล่าวด้วยความซาบซึ้งอย่างยิ่ง
　　ลั่วอี้ซานถูกอาวุโสลั่วเตียวคุกคามตำแหน่งหัวหน้าตระกูลอยู่เสมอแต่ตอนนี้เขาได้ผ่านเข้าสู่ขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายเรียบร้อยและมีพลังระดับเดียวกับลั่วเตียว เขาไม่จำเป็นต้องกลัวลั่วเตียวอีกต่อไป
　　ลั่วอี้ซานรู้ดีว่านี่เป็นเพราะยาของฉิงเฟิงดังนั้นเขาจึงแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง