My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1075 ฆ่าโดยไม่ละเว้น

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1075 ฆ่าโดยไม่ละเว้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1075 ฆ่าโดยไม่ละเว้น
  “เจ้าหนุ่มที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมาอาละวาดได้ตามอำเภอใจ !” เมื่อเห็นการล้างสังหารเกิดขึ้นระหว่างพิธีแต่งงาน จ้าวนิกายโอโรจิก็คำรามขึ้น นิกายของเขามีระดับสูงกว่านิกายซากุระ พวกเขาคือนิกายระดับสวรรค์ที่มีจ้าวนิกายนามว่าโอโรจิโร่, เขามีพลังในระดับจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นกลาง
  บนเกาะแปซิฟิกนั้นยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นกลางนับได้ว่าทรงพลังเพียงพอจะเป็นจ้าวเหนือหัวแต่ฉิงเฟิงกลับแสยะยิ้มและตอบกลับด้วยคำสั้นๆอย่างหยิ่งยะโสว่า “ไสหัวไป”
  เมื่อถูกมองข้ามโดยฉิงเฟิงโอโรจิโร่ก็ส่งสายตาเย็นเยียบออกมา
  เขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณสวรรค์และมีชื่อเสียงมากในเกาะแปซิฟิกเขาทนรับความอัปยศอดสูไม่ได้
  “หลี่ฉิงเฟิงสินะเจ้ากำลังหาที่ตาย !” โอโรจิโร่ชักกระบี่ยาวออกมาและกล่าวอย่างเยือกเย็น
  มันเป็นกระบี่สีน้ำเงินที่มีความยาวประมาณเมตรครึ่งที่ส่องแสงสีฟ้าพร้อมกับแกะสลักรูปงูสีน้ำเงินไว้อยู่มันเรียกว่ากระบี่แห่งโอโรจิและเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสวรรค์ขั้นกลาง
  โอโรจิโร่ต้องการสังหารฉิงเฟิงด้วยกระบี่เล่มนี้เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าชาวเกาะแปซิฟิกมิอาจถูกหยาม!
  เขาเหวี่ยงกระบี่แห่งโอโรจิในมือออกไปหั่นอากาศเป็นชิ้นๆและปลดปล่อยพลังงานกระบี่อันดุดันพุ่งเข้าหาฉิงเฟิง
  ฉิงเฟิงขยับหนึ่งก้าวด้วยเท้าขวาและยื่นมือออกมาสองนิ้วคีบจับกระบี่ไว้เขาเพียงแค่ออกแรงบีบเข้าหากันเล็กน้อยแล้วกระบี่แห่งโอโรจิก็แยกออกเป็นสองส่วนตกลงบนพื้น
  จากนั้นเขาก็โบกมือโคจรพลังแท้ลงในฝ่ามือและสังหารโอโรจิโร่ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว  เพียงการขยับไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าวชายหนุ่มผู้นี้ก็สังหารได้อีกหนึ่งชีวิต การกระทำของเขาทำให้ทุกคนตกตะลึงผสมไปกับความตกใจ พวกเขาตระหนักว่าตนเองล้วนไม่อาจต้านทานชายคนนี้ได้เลย
  ผู้ที่ถูกสังหารไม่ใช่คนธรรมดาแต่เขาคือโอโรจิโร่ จ้าวนิกายผู้เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นกลาง แต่หลี่ฉิงเฟิงสามารถสังหารชายผู้นั้นได้ด้วยกระบวนท่าเดียว… เขาแข็งแกร่งแค่ไหนกัน
  ไม่เพียงแค่ผู้คนของเกาะแปซิฟิกที่ตกใจแม้แต่ราชินีอสูรเพลิงและค้างคาวม่วงก็ตกตะลึงเช่นกัน นายน้อยของพวกเขาทรงพลังเหนือกว่าที่จะจินตนาการได้
  ราชินีอสูรเพลิงจดจำได้อย่างชัดเจนว่าครั้งแรกที่เธอได้พบกับฉิงเฟิงเขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริง หลังจากช่วงเวลาสั้นๆชายคนนี้กลับสามารถสังหารยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นกลางได้อย่างง่ายดาย เขาช่างน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง !
  ฉิงเฟิงเดินต่อไปและโบกมือของเขาในทุกๆก้าวเพื่อสังหารผู้คนระหว่างทางคนเหล่านี้ไม่ใช่คนดี การฆ่าพวกมันนับเป็นสิ่งประเสริฐต่อผู้อื่น
  “หลี่ฉิงเฟิงที่นี่คือดินแดนของนิกายดาบปีศาจ เจ้ากำแหงจนคิดจะสังหารทุกคนและทำลายนิกายงั้นหรือ ” ทันใดนั้นเองน้ำเสียงดูชราก็ดังขึ้น
  ที่มาของเสียงเป็นผู้เฒ่าอายุประมาณ70 ปี เขามีผมสีขาวและผ่ายผอมเห็นกระดูก แต่ดวงตาของเขายังเปี่ยมไปด้วยพลังและปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังออกมาจากทั่วร่างกายของเขา
  “ก็ปล่อยราชินีอสูรเพลิงและค้างคาวมาจากนั้นก็ให้นายน้อยของแกคุกเข่าขอขมาฆ่าตัวตายซะ แล้วฉันจะเมตตาไว้ชีวิต ไม่งั้นนับแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีนิกายดาบปีศาจบนโลกอีก !” ฉิงเฟิงตอบกลับและกล่าวข่มขู่
  โดยปกติแล้วฉิงเฟิงมักจะเป็นฝ่ายถูกข่มขู่คุกคามแต่ครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
  “หลี่ฉิงเฟิงเจ้าจะมากเกินไปแล้ว ! กล้าดีอย่างไรถึงบอกให้นายน้อยของเราฆ่าตัวตาย ข้าไม่มีวันยอมทำตามคำพูดของเจ้าหรอก วันนี้เจ้าจะไม่มีทางออกไปจากนิกายดาบปีศาจได้ !” ผู้เฒ่าคำรามอย่างดุร้าย
  “ในเมื่อตกลงกันไม่ได้งั้นก็เข้ามา !” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและตอบกลับ
  ฟุ่บ!
  ฉิงเฟิงขยับตัวเล็กน้อยและก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวมันไม่ใช่การก้าวแบบปกติ เขาบินขึ้นฟ้าและมาถึงเบื้องหน้าผู้เฒ่าในทันที
  ผู้เฒ่าชักดาบยาวสีดำที่อยู่กลางหลังออกมาและฟาดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเขาพยายามจะตัดผ่าร่างฉิงเฟิงออกเป็นสองส่วน
  ดาบนี้ทรงพลังและว่องไวราวกับลมหมุนมันมาถึงตรงหน้าฉิงเฟิงในพริบตา
  เช้ง!
  ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาด้วยมือขวาและสะบัดออกไปในอากาศปะทะกับดาบยาวของผู้เฒ่า
  แกร่ก!!
  ด้วยเสียงแตกดาบยาวสีดำถูกผ่าครึ่ง ผู้เฒ่าตกตะลึงสุดขีด เขาเบิกตากว้างมองดาบในมือที่หมดสภาพและพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ ! ดาบยาวเล่มนี้เป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสวรรค์ มันจะแตกหักง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร !”
  ฉิงเฟิงไม่ให้เวลาอีกฝ่ายได้คิดและตั้งตัวเขาแทงกระบี่ไปข้างหน้าเจาะทะลุหัวใจของผู้เฒ่าเหมือนสายฟ้าฟาด อีกฝ่ายล้มลงและตายทันที
  ผู้เฒ่าผู้ทรงศักดิ์ของนิกายดาบปีศาจ– เสียชีวิต
  คราวนี้ไม่เพียงแค่ผู้ฝึกตนรอบๆเท่านั้นที่ตกตะลึงแต่ยังรวมไปถึงสาวกทั้งหมดของนิกายดาบปีศาจอีกด้วย ผู้เฒ่าคนนี้เป็นดั่งเทพสงครามของพวกเขาแต่กลับมิอาจรับกระบี่ของฉิงเฟิงได้แม้กระทั่งกระบี่เดียว !   ฉิงเฟิงยังคงเดินไปข้างหน้าด้วยจิตสังหารที่เต็มเปี่ยม
  หนึ่งก้าวฆ่าหนึ่งคน,นิกายดาบปีศาจล้วนตกตะลึงจากการสังหารหมู่นี้ กลิ่นเลือดกระจายไปทั่วพิธีแต่งงานทำให้ทุกคนสั่นสะท้านด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
  จากนั้นฉิงเฟิงก็สังหารเพิ่มไปอีกสิบคนหลังจากเดินไปได้สิบก้าวและมาถึงตรงหน้านายน้อยแห่งนิกายดาบปีศาจพอดี
  ทาโร่มุรามาสะรู้สึกหวาดกลัวในขณะที่ถามอย่างเย็นชาว่า “แกต้องการอะไรวะ ”
  “ฆ่าแก”ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและตอบกลับอย่างเย็นชา
  “หลี่ฉิงเฟิงพ่อของข้าคือมุรามาสะไร้พ่าย ตอนนี้ท่านเก็บตัวสันโดษอยู่ หากแกฆ่าข้า เขาจะตามล่าแกไปสุดหล้า !”
  “ใจเย็นไว้ไม่ต้องห่วง เมื่อพ่อของแกโผล่หัวออกมา ฉันจะส่งมันไปเป็นเพื่อนแกในนรกทีหลัง” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและบีบคอของทาโร่ มุรามาสะด้วยมือขวา
  ทาโร่มุรามาสะเป็นผู้ฝึกตนที่นับได้ว่าแข็งแกร่งคนหนึ่ง เขาต้องการตอบโต้ต่าน่าเสียดายที่ไม่ใช่คู่มือของฉิงเฟิงแม้แต่น้อย เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเอามือกุมมือฉิงเฟิงที่กำลังบีบคอเขาอยู่
  กร๊อบ!
  ฉิงเฟิงออกแรงบีบเพิ่มขึ้นและหักคอของอีกฝ่ายภายใต้แววตาที่หวาดกลัว
  “อะ..อะไรกัน ทาโร่ มุรามาสะตายแล้ว ?”
  “ทาโร่มุรามาสะเป็นนายน้อยแห่งนิกายดาบปีศาจ ชายหัวเซี่ยผู้นั้นกล้าลงมือกับเขา เขาต้องถูกจ้าวนิกายตามล่าอย่างทุกข์ทรมานแน่”
  “ซู้ด…เมื่อท่านจ้าวนิกายออกจากการเก็บตัว หลี่ฉิงเฟิงจะต้องตายอย่างแน่นอน เขาบุ่มบ่ามเกินไป” ผู้คนรอบๆต่างพูดคุยกันด้วยความตกใจในสายตาของพวกเขา  จ้าวนิกายดาบปีศาจมีพลังในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นสูงสุดมานานแล้วและเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะยอดฝีมืออันดับหนึ่งในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์บนเกาะแปซิฟิก
  ในครั้งนี้จ้าวนิกายดาบปีศาจได้ปลีกตัวออกจากนิกายเพื่อหาทางบุกทะลวงไปยังขอบเขตจิตวิญญาณแห่งราชันหากเขาประสบความสำเร็จ เขาจะกลายเป็นสุดยอดฝีมือที่ทรงพลังที่สุดบนเกาะแปซิฟิก !
  หลายคนมีความมั่นใจในตัวเขาและเชื่อว่าชายผู้นั้นจะสามารถทะลวงด่านได้สำเร็จ
  ฉิงเฟิงเพียงยิ้มเล็กน้อยและไม่สนใจการสนทนาทั้งหมดเขาอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์และอยู่ยงคงกระพันในเขตแดนนี้ ดังนั้นมันอาจจะเป็นโอกาสที่ดีหากผู้ที่มีพลังระดับนั้นจะออกมาล้างแค้นเขา เขาอยากจะทดสอบดูสักหน่อยว่าผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตราชันนั้นทรงพลังเพียงใด
  จากนั้นฉิงเฟิงก็เดินไปข้างๆราชินีอสูรเพลิงและใช้นิ้วเปิดจุดฝังเข็มเพื่อคลายจุดให้เธอในที่สุดเธอก็สามารถขยับตัวได้อย่างอิสระและปรากฏอาการที่ซับซ้อนขึ้นบนใบหน้าอันทรงเสน่ห์ของเธอ ก่อนนี้เธอเคยแข็งแกร่งกว่าฉิงเฟิงหลายขั้น แต่มาวันนี้กลับเป็นอีกฝ่ายที่รุดหน้าไปไกล ชายหนุ่มผู้นี้เป็นดั่งสัตว์ประหลาดจริงๆ !
  หลังจากคลายจุดให้ราชินีอสูรเพลิงฉิงเฟิงก็ทำเช่นเดียวกันกับราชาอสูรค้างคาวม่วง
  ราชาอสูรค้างคาวม่วงยืนขึ้นและกล่าวอย่างเคารพว่า“ขอบคุณขอรับนายน้อย”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *