ด้วยหมัดทลายนรกานต์อันทรงพลังฉิงเฟิงบีบให้โกสคิงต้องถอยร่นอย่างต่อเนื่อง พูดได้เต็มปากว่าโกสคิงไม่ใช่คู่มือของฉิงเฟิงในยามที่วัดกันด้วยวิชาหมัด
　　อย่างไรก็ตามโกสคิงมีระดับบ่มเพาะที่สูงกว่าฉิงเฟิง เขาอยู่ในขั้นครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริงไปแล้วด้วยเคล็ดบ่มเพาะพลังที่กุ้ยเทียนคงสอน
　　“
　　บัดซบข้าไม่อาจปะทะกับมันได้ด้วยหมัดอีกต่อไปแล้ว ข้าถูกมันสะกดข่มโดยสิ้นเชิง
　　”
　　โกสคิงกลอกตาด้วยความกังวล
　　“
　　เขตแดนทหารภูติอสูร
　　! 　　“
　　โกสคิงร่ำร้องออกมาด้วยเสียงต่ำเขาปลดปล่อยพลังเขตแดนของเขาออกมาแก้เกม
　　เขตแดนทหารปีศาจก่อตัวจากจิตวิญญาณชั่วร้ายแต่มันทรงพลังกว่าเขตแดนภูติอสูรของเฮลคิง
　　เคล็ดวิชานอกรีตของเหล่าตระกูลโกสคิงแบ่งออกเป็นขั้นต่ำจนถึงขั้นสูงสุด มันคือ ภูติอสูร, ทหารภูติอสูร, ขุนพลภูติอสูรและราชันภูติอสูร
　　ด้วยการฝึกฝนมานานหลายปีโกสคิงทรงพลังมากและสามารถเรียกทหารภูติอสูรออกมาได้ในที่สุด
　　ในพื้นที่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหกสิบเมตรสนามพลังขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยภูติอสูรนักสู้ก็ปรากฏตัวขึ้น ทหารภูติอสูรนั้นแข็งแกร่งกว่าและทรงพลังกว่าภูติอสูรธรรมดาเป็นอย่างมาก　　เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของเขตแดนทหารภูติอสูรใบหน้าของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังและใช้เขตแดนแรงโน้มถ่วงทันที
　　โล่แสงสีดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในพื้นที่ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสามสิบเมตรและพลังดึงดูดขนาดมหาศาลก็แผ่ออกมาจากใต้ดินและถ่วงรั้งทหารภูติอสูรไว้กับพื้น
　　แต่ทหารภูติอสูรมีพละกำลังมากกว่าภูติอสูรพวกมันสามารถขยับไปข้างหน้าได้แม้จะมีแรงดึงดูดถ่วงเอาไว้
　　ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เขาได้เห็นหากทหารภูติอสูรสามารถหลุดออกจากเขตแดนแรงโน้มถ่วงมาได้ พวกมันจะรุมโจมตีเขา
　　“
　　เขตแดนเพลิงพินาศ
　　!
　　“　　“
　　เขตแดนพายุ
　　!
　　“
　　ฉิงเฟิงปล่อยเขตแดนออกมาอีกสองชนิดซึ่งมากกว่าตอนปะทะกับเฮลคิงเนื่องจากโกสคิงซึ่งเป็นอาจารย์นั้นแข็งแกร่งกว่าเฮลคิงมากมายนัก
　　ในพื้นที่สามสิบเมตรพายุขนาดยักษ์เข้าปกคลุมในไม่ช้า หลังจากนั้นก็เกิดเปลวเพลิงขนาดใหญ่ขึ้น
　　เขตแดนแรงโน้มถ่วงเขตแดนเพลิงพินาศและเขตแดนพายุพุ่งเข้าใส่เขตแดนทหารภูติอสูรพร้อมกัน !
　　สนามพลังของเขตแดนทั้งสามสายปลดปล่อยพลังอำนาจทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวออกมาพร้อมกันผลทำให้ทหารภูติอสูรที่ดุร้ายเกรี้ยวกราดถูกทำลายในทันที
　　ต้องชมเชยพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ไร้ขีดจำกัดของเขาฉิงเฟิงบรรลุศาสตร์แห่งพลังเขตแดนในเชิงลึกถึงสามสาย หากเขามีพลังเขตแดนเพียงชนิดเดียว เขาคงไม่อาจเอาชนะโกสคิงได้ แต่ด้วยพลังทั้งสามผสานกัน ผลที่ออกมาจึงทำให้เขาไร้เทียมทานในศาสตร์แห่งเขตแดน
　　อั่ก!
　　ด้วยการที่เขตแดนทหารภูติอสูรถูกทำลายโกสคิงพ่นเลือดออกจากปากทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
　　“แก…แก เจ้าเด็กบัดซบ แกรู้แจ้งในเขตแดนถึงสามสาย ” โกสคิงตะลึงงันจนแทบพูดไม่ออก
　　เขาภาคภูมิใจในความสามารถและพรสวรรค์ของเขามากแต่ทว่า แม้กระทั่งตัวเขาเองยังรู้แจ้งในพลังเขตแดนได้แค่สายเดียว สิ่งที่เห็นในวันนี้มันเกินจินตนาการของเขาไปไกลลิบ ชายหนุ่มคนนี้ใช้เขตแดนได้ถึงสามประเภท !
　　ในฐานะอดีตผู้ฝึกยุทธ์โบราณที่ยิ่งใหญ่อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นผู้ฝึกตน โกสคิงค่อนข้างคุ้นเคยกับพลังเขตแดน เขารู้ว่ามีเพียงบุคลที่เปี่ยมล้นด้วยพรสวรรค์เท่านั้นจึงจะสามารถรู้แจ้งในเขตแดนได้หลายสาย
　　“
　　เหมือนพ่อมันไม่ผิด…หลี่ฉิงเฟิงมีพรสวรค์เกินไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นวันนี้ข้าต้องฆ่ามันให้ได้..”
　　โกสคิงคิดในใจ
　　เขารู้ว่าถ้าหากเขาไม่ฆ่าฉิงเฟิงในวันนี้ครั้งต่อไปที่พบกันต้องเป็นวันตายของเขาอย่างแน่นอน
　　“สายเลือดเฮลฮาวน์!” [Hellhound Bloodline]
　　โกสคิงคำรามด้วยเสียงต่ำเขาปลดปล่อยพลังสายเลือดเฮลฮาวน์ออกมาทันที
　　เฮลฮาวน์เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับสุนัขแต่แข็งแกร่งกว่าในโบราณกาลมันอาศัยอยู่ในขุมนรกและคอยปราบเหล่าปีศาจดุร้ายที่คิดกบฏ
　　สายเลือดเฮลฮาวน์ถูกปลุกขึ้นโกสคิงมันสามารถกลืนกินภูติอสูรที่ดุร้ายได้ทุกชนิด
　　เงาร่างเฮลฮาวน์ขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นในอากาศขนที่ดำขลับ, คมเขี้ยวอันแหลมคม มันดูน่าเกลียดและน่ากลัวมาก
　　มันเปิดขากรรไกรขนาดใหญ่และพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงหมายจะขย้ำเขาให้สิ้นซาก
　　“สายเลือดแห่งผู้กลืนกิน!!”
　　ฉิงเฟิงปลดปล่อยพลังสายเลือดผู้กลืนกินออกมาด้วยใบหน้าที่น่ากลัวเขารู้สึกถูกคุกคามอย่างรุนแรงโดยเฮลฮาวน์ตัวนี้
　　วังวนสีดำขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นในอากาศพร้อมกับความสามารถในการกลืนกินพลังงานทุกสรรพสิ่งได้เหมือนกับหลุมดำในอวกาศ
　　วังวนสีดำนี้ถูกสร้างขึ้นโดยสายเลือดผู้กลืนกินมันพยายามจะดูดกลืนเฮลฮาวน์เข้าไป แต่อีกฝ่ายกลับสัมผัสได้ถึงอันตรายและหลบไปทันที
　　การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปดูเหมือนว่าเฮลฮาวน์จะเป็นพลังสายเลือดที่ทรงพลังกว่าสายเลือดอื่นๆที่เขาเคยได้พบมา เห็นได้ชัดว่ามันมีจิตวิญญาณและความคิดในตัวของมันเองและรู้วิธีที่จะหลบการโจมตี
　　สายเลือดผู้กลืนกินของเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างได้แต่ฉิงเฟิงยังไม่ได้ฝึกฝนมันจนเชี่ยวชาญ ดังนั้นวังวนสีดำของผู้กลืนกินจึงไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ และค่อยข้างมีปัญหาในการล็อคเป้าหมายต่อเฮลฮาวน์ที่รวดเร็ว
　　“
　　เจ้าหนูข้าจะบอกอะไรให้ โลหิตมังกรในกายเจ้าคือหายนะของทุกสายเลือด ใช้พลังจากโลหิตมังกรของเจ้าสะกดข่มเฮลฮาวน์พวกนั้นก่อนแล้วค่อยกลืนกินพวกมัน”
　　เสียงของจักรพรรดิราตรีดังขึ้นในหัวของฉิงเฟิง　　ในฐานะผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยพิชิตยุทธภพทั้งใบจักรพรรดิราตรีเต็มไปด้วยความรอบรู้กว้างขวาง ทันทีที่เขาเห็นสายเลือดเฮลฮาวน์ปรากฏขึ้น เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่ามีเพียงมังกรแท้จริงเท่านั้นที่สามารถปราบตัวตนชั่วร้ายจากขุมนรกโบราณกาลได้
　　ฉิงเฟิงพยักหน้าด้วยความเบิกบานเขาค่อนข้างใหม่และยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในโลกแห่งการฝึกตน แต่จักรพรรดิราตรีผู้นี้เป็นดั่งอาจารย์และสหายที่ดี เขามักจะให้คำแนะนำที่ดีเสมอในเวลาคับขัน
　　ฉิงเฟิงโคจรโลหิตมังกรในร่างกายของเขาเพื่อเปิดใช้งานพลังสายเลือดมังกรเงาร่างของศีรษะมังกรทองปรากฏขึ้นบนอากาศทันที
　　เนื่องจากเขามีโลหิตมังกรเพียงแค่หยดเดียวในร่างแฟนท่อมของมังกรที่ปรากฏขึ้นจึงมีเพียงแค่ศีรษะ
　　แต่ทว่าเพียงแค่แฟนท่อมหัวมังกรทองก็เพียงพอที่จะทำให้เฮลฮาวน์ตกใจกลัวแล้ว มันสั่นสะท้านไปทั้งตัวและไม่กล้าเคลื่อนไหว　　มังกรทองเป็นตัวตนที่ทรงอำนาจที่สุดและเป็นสัตว์อสูรขั้นสูงสุดในบรรดาสัตว์อสูรทั้งปวงเพียงโลหิตหนึ่งหยดของมันก็เพียงพอในการสะกดเฮลฮาวน์
　　ฉิงเฟิงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นแฟนท่อมเฮลฮาวน์แข็งค้างและตัวสั่นเทาโอกาสของเขามาถึงแล้ว
　　“กลืนกินมันให้สิ้นซาก”ฉิงเฟิงสั่งให้สายเลือดผู้กลืนกินจัดการเขมือบเฮลฮาวน์
　　วังวนสีดำขนาดยักษ์ที่เชื่อมต่อกับมิติลึกลับที่ไม่มีผู้ใดรู้จักวิ่งเข้าใส่เฮลฮาวน์และกลืนกินมันเข้าไปทันที
　　เฮลฮาวน์ที่น่าสงสารถูกจำกัดการเคลื่อนไหวภายใต้แฟนท่อมมังกรทองมันถูกกลืนกินจนไม่เหลืออนุภาคใดๆโดยสายเลือดผู้กลืนกิน
　　แฟนท่อมเฮลฮาวน์ตัวนั้นก่อร่างขึ้นโดยแก่นแท้โลหิตและพลังแท้ของโกสคิงมันเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาลแทบทั้งหมดของเขา แต่ยามนี้พลังเหล่านั้นกลับถูกกลืนกินโดยสายเลือดผู้กลืนกินของฉิงเฟิง และกลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังในร่างฉิงเฟิงในที่สุด
　　ตูม!!
　　หลังจากกลืนกินสายเลือดเฮลฮาวน์เข้าไปสายเลือดผู้กลืนกินก็ได้เปลี่ยนมวลพลังเหล่านั้นให้เป็นกลุ่มก้อนพลังงานที่ช่วยเติมเต็มให้แก่ฉิงเฟิง
　　พลังงานจากเฮลฮาวน์ตัวนั้นผสมผสานมากับพลังของผู้ฝึกตนส่วนหนึ่งซึ่งช่วยเพิ่มความก้าวหน้าในการบ่มเพาะพลังของฉิงเฟิงโดยตรง
　　ความแข็งแกร่งภายในจุดตันเถียนของฉิงเฟิงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในอัตราเร่งมันรวมกันเป็นพลังแท้สีฟ้าและก่อตัวเป็นแก่นพลังสีฟ้าครึ่งก้อน
　　มีเพียงผู้ฝึกตนเท่านั้นที่สามารถรวบรวมพลังแท้และสามารถก่อให้เกิดแก่นพลังขึ้นได้ในขณะที่ผู้ฝึกยุทธ์โบราณสามารถทำได้เพียงรวมรวบ　　แก่นพลังสีฟ้าเป็นสัญญาณในการทะลวงผ่านไปสู่ขีดขั้นแห่งจิตวิญญาณแท้จริงครึ่งหนึ่ง
　　หลังจากกลืนกินสายเลือดเฮลฮาวน์เข้าไปแล้วในที่สุดฉิงเฟิงก็ได้เข้าสู่ขอบเขตครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริง