My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1077 การต่อสู้อันเข้มข้น

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1077 การต่อสู้อันเข้มข้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1077 การต่อสู้อันเข้มข้น
  “ออกมาน้ำเต้าทองคำ”
  ฉิงเฟิงดึงน้ำเต้าสีทองออกมาจากแหวนมิติของเขาน้ำเต้านี้อยู่ในนั้นตั้งแต่เขาได้รับการยอมรับจากมัน เขาไม่คิดจะเอามันออกมายกเว้นจะจำเป็นจริงๆ
  ฉิงเฟิงเปิดฝาน้ำเต้าทองคำและชี้ไปที่ร่างของอู่ตี้มุรามาสะ
  วู้มมมมมมม
  !
  พลังงานทองคำอันทรงพลังล้นทะลักออกมาจากน้ำเต้าทองคำราวกับเลเซอร์มันเจาะรูโหว่ขนาดยักษ์บนผืนอากาศด้วยความเร็วยิ่งยวดราวกับประกายสายฟ้า
  เมื่ออู่ตี้มุรามาสะรู้สึกได้ถึงพลังของมัน เขาก็รีบขยับร่างกายอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการระเบิด
  ในฐานะที่เป็นชนชั้นนำระดับครึ่งก้าวจิตราชันอู่ตี้ มุรามาสะมีความว่องไวสูง ร่างกายส่วนใหญ่ของเขาสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของน้ำเต้าทองคำได้ แต่พลังงานทองคำยังคงพุ่งทะลุผ่านแขนของเขาจนเกิดรูโหว่และเลือดฉีดพุ่งออกมาจนพื้นเป็นสีแดงฉาด
  แม้ว่าอู่ตี้มุรามาสะจะแข็งแกร่งไร้เทียมทาน แต่เขาก็ไม่แข็งแกร่งเท่ากับอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันซึ่งเป็นสมบัติที่ครั้งหนึ่งเคยใช้งานโดยนักบุญทองคำ มันสามารถฝ่าม่านคุ้มกายของเขาได้และทำลายแขนของเขาจนได้บาดเจ็บอย่างง่ายดาย
  เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นฮวาเซียนจือราชินีอสูรเพลิงและคนอื่นๆก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
  “ทำได้ดีมากเจ้าหมาน้อยอย่างที่เจ้าพูดไม่มีผิดเลย” ริมฝีปากสีแดงของฮวาเซียนจือม้วนขึ้นเป็นรอยยิ้มในขณะที่เธอกล่าวชมลูกหมาสีดำ
  มันเชิดหัวต่อคำชมของเธอและกล่าวว่า“ข้าก็บอกเจ้าแล้วไง”
  “เป็นไปไม่ได้! ไม่อยากเชื่อเลยว่าอู่ตี้ มุรามาสะจะได้รับบาดเจ็บ !”
  “หยิกข้าทีข้าต้องฝันไปแน่เลย ! ไม่มีใครบนเกาะแปซิฟิกสามารถทำร้ายอู่ตี้ มุรามาสะได้แล้วชายหนุ่มชาวหัวเซี่ยผู้นี้ทำได้อย่างไร ”
  “เจ้าไม่ได้ฝันไปหรอกอู่ตี้ มุรามาสะได้รับบาดเจ็บจริงๆ”
  ทุกคนล้วนตกตะลึงด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อ
  ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเชื่อแน่นอนว่าจะมีคนทำร้ายอู่ตี้มุรามาสะได้ แต่บัดนี้พวกเขาได้ประจักษ์ต่อสายตาแล้ว !
  ชาวเกาะแปซิฟิกต่างตกตะลึงและต่อพลังอำนาจของหลี่ฉิงเฟิง
  “เจ้าทำร้ายข้าได้…”เมื่อมองลงไปที่หลุมเลือดที่แขนของเขา ใบหน้าของอู่ตี้ มุรามาสะก็อึมครึมไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
  เขาไม่เพียงแค่เป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดายอดฝีมือขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์บนเกาะแปซิฟิกเท่านั้นแต่เขายังเป็นจ้าวนิกายดาบปีศาจอีกด้วย ตั้งแต่ที่เขาเหยียบย่างเข้าสู่ขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชันแล้วก็ยังไม่มีใครสามารถทำร้ายเขาได้ ยกเว้นฉิงเฟิง
  “เตรียมตัวตาย”ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหยิ่งยะโสแล้วชี้นิ้วไปที่อู่ตี้ มุรามาสะ
  ตอนนี้เขาหลุดพ้นจากม่านแสงจิตราชันของอีกฝ่ายแล้วเขาไร้ซึ่งความหวาดกลัวในการเผชิญหน้ากับอู่ตี้ มุรามาสะแบบซึ่งๆหน้า
  แน่นอนว่าอู่ตี้มุรามาสะตอบสนองต่อการยั่วยุของฉิงเฟิง เขากระโดดขึ้นไปในอากาศ ชักดาบสีดำข้างเอวออกมาและในช่วงเวลาหัวใจเต้นเพียงครั้งเดียว เขาก็มาถึงเบื้องหน้าฉิงเฟิง
  ดาบเล่มนี้ไม่ใช่ดาบสีดำทั่วไปมันยาวถึงสองเมตรและกว้างห้าเซนติเมตรก่อเกิดพลังงานดาบอันคมชัดที่แผ่ซ่านออกมา มันคือดาบปีศาจไร้พ่ายซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณที่แข็งแกร่งและอันตรายที่สุดบนเกาะแปซิฟิก !
  ฉิงเฟิงรู้สึกตกใจต่อกลิ่นอายดาบของอู่ตี้มุรามาสะ เขาสัมผัสได้ว่ามันทรงพลังเพียงใด มันเหมือนกับกระบี่เพลิงของเขา, อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์อีกชิ้นหนึ่ง
  “
  เพลงดาบไร้พ่าย
  !
  “
  อู่ตี้มุรามาสะโบกดาบยาวของเขาเพื่อใช้ออกด้วยเพลงดาบไร้พ่ายกระบวนท่าแรก ท้องฟ้าและปฐพีถูกปกคลุมไปด้วยรัศมีดาบ
  ทุกสิ่งเข้าสู่ความมืดเมื่อเมฆดำปกคลุมท้องฟ้าหนึ่งในพลังที่คาดเดาไม่ได้ของเพลงดาบไร้พ่ายก็คือพลังที่จะนำมาซึ่งความมืดมิด
  “
  ผสานเพลิงอัสนี
  !!   “
  ฉิงเฟิงไม่กล้าที่จะประมาทเขาใช้กระบวนท่าแรกของวิชากระบี่เพลิงอัสนีเข้าต้านรับ พลังงานกระบี่ควบแน่นเป็นแนวเพลิงและสายฟ้าที่เปี่ยมด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
  เปลวเพลิงผสานสายฟ้าปะทะเข้ากับความมืดก่อให้เกิดเสียงระเบิดดังลั่นบนท้องฟ้า
  ครืน……..
  !!
  หลังจากการปะทะฉิงเฟิงต้องถอยหลังไปหลายก้าววิชากระบี่ของเขากับอู่ตี้นั้นคล้ายกันแต่เขามีระดับบ่มเพาะน้อยกว่า
  อู่ตี้มุรามาสะโบกดาบยาวในอากาศและยังคงโจมตีฉิงเฟิงต่อไป เพลงดาบของเขาแต่ละจังหวะนั้นทั้งรวดเร็วแม่นยำและเปี่ยมล้นไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง เขามีเพียงความคิดในหัวว่าต้องการแยกร่างฉิงเฟิงเป็นสองส่วน !   โชคยังดีที่วิชากระบี่เพลิงอัสนีของฉิงเฟิงก็แข็งแกร่งเช่นกันเขาจึงสามารถต้านรับไว้ได้โดยไม่พ่ายแพ้
  หลังจากผ่านไปหนึ่งร้อยกระบวนท่าเห็นได้ชัดว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีผู้ใดเอาชนะได้ พลังบ่มเพาะของฉิงเฟิงนั้นไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับอู่ตี้ มุรามาสะ แต่ท่วงทำนองสวรรค์อมตะของเขานั้นเป็นเคล็ดบ่มเพาะพลังในระดับอมตะที่ช่วยมอบพลังแท้ให้เขาตามที่ต้องการ มันทำให้เขามีความอดทนในการต่อสู้ครั้งนี้ได้อย่างน่าทึ่ง
  “หลี่ฉิงเฟิงข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงวิชาหมัดของข้า” เมื่อรู้ว่าตนเองไม่สามารถเอาชนะฉิงเฟิงได้ด้วยอุปกรณ์วิญญาณ อู่ตี้ มุรามาสะจึงวางดาบยาวลงและเตรียมพร้อมที่จะสู้กับฉิงเฟิงด้วยวิชาหมัด
  ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของฉิงเฟิง เขาเก็บกระบี่เพลิงคะนองกลับไปเช่นกัน เขารุ้ว่าตัวเองก็ไม่สามารถเอาชนะอู่ตี้ มุรามาสะได้ด้วยอาวุธวิญญาณและวิชากระบี่ แต่ถ้าเป็นการต่อสู้กันทางกายเต็มรูปแบบนั้นเขายินดีต้อนรับเสมอ !
  “
  หมัดปีศาจสวรรค์
  !
  “
  อู่ตี้มุรามาสะเหวี่ยงหมัดขวาของเขาขึ้นไปในอากาศเพื่อสร้างโทเท็มปีศาจสวรรค์ขนาดยักษ์มุ่งเป้าไปที่ร่างของฉิงเฟิง
  สัญลักษณ์นี้ยาวนับหนึ่งร้อยเมตรด้วยเสียงคำรามที่ดูน่ากลัว มันพร้อมที่จะฉีกกระชากทุกอย่างที่มันสัมผัส
  “
  หมัดทลายนรกานต์
  !
  “
  ฉิงเฟิงใช้หมัดแรกของเพลงหมัดทลายนรกานต์เพื่อตอบโต้การโจมตีของอู่ตี้มุรามาสะ
  เปรี้ยง
  !!!
  เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อหมัดปีศาจสวรรค์และหมัดทลายนรกานต์ปะทะกันท้องฟ้าและแกนโลกสั่นสะเทือน ดินโคลนกระเด็นขึ้นบนฟ้า เศษหินดินทรายปลิวกระจายไปทั่ว สาวกที่อยู่ใกล้ๆบางคนถูกกระแทกด้วยพลังอำนาจจากการปะทะและหมดสติไปทันที
  ทุกคนต่างอุทานด้วยความหวาดกลัวต่ออำนาจของฉิงเฟิงและอู่ตี้มุรามาสะ
  พลังการโจมตีของพวกเขาเหนือจินตนาการของทุกคนและแต่ละหมัดของพวกเขาทั้งสองก็ราวกับจะฉีกท้องฟ้าออกเป็นชิ้นๆ
  “
  หมัดคู่เงา
  อสูรสวรรค์
  !   “
  เมื่อเห็นว่าเพลงหมัดแรกของตนเองไม่มีผลต่ออีกฝ่ายมากนักอู่ตี้ มุรามาสะก็ใช้หมัดที่สองออกมาทันที
  หมัดที่สองของเขานั้นไม่เพียงแค่แข็งแกร่งทรงพลังกว่าหมัดแรกแต่หมัดนี้ยังแฝงไปด้วยพลังหมัดถึงสองเท่าและโจมตีเข้าใส่ฉิงเฟิง
  “
  หมัดที่สอง
  –
  ถล่มภูผา
  !”
  เมื่อเห็นการโจมตีอันดุดันของอีกฝ่ายฉิงเฟิงก็ใช้หมัดที่สองของเพลงหมัดทลายนรกานต์ออกมาเช่นกัน เขาต้องการเห็นว่าวิชาหมัดของอีกฝ่ายทรงพลังเพียงใดเมื่อเปรียบเทียบกับตนเอง
  บนท้องฟ้าปรากฏภาพมายาของขุนเขาและสายน้ำที่รวบรวมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่พลังงานหมัดของฉิงเฟิงปะทะเข้ากับหมัดของอู่ตี้ มุรามาสะจนระเบิดท้องฟ้าเป็นชิ้นๆ
  ตูม
  !!
  พลังหมัดของทั้งคู่สลายไปเป็นอีกครั้งที่ไม่มีผู้ชนะ เมื่อพูดถึงความแข็งแกร่งทางกายภาพแล้ว อู่ตี้ มุรามาสะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉิงเฟิง นอกจากนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่ได้ใช้พลังงานทองคำเลยด้วยซ้ำ
  เขาไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้และเหวี่ยงหมัดไปที่ฉิงเฟิงอีกครั้ง
  โชคไม่ดีสำหรับเขาที่ในการปะทะครั้งนี้ฉิงเฟิงใช้หมัดที่สาม – สวรรค์พินาศ โลกาสลายออกมา หมัดสีดำขนาดยักษ์โผล่ออกมาพร้อมกับริ้วรอยแห่งพลังงานทองคำ มันกระแทกร่างของอู่ตี้ มุรามาสะกระเด็นไปร่วมสิบเมตร
  เขาอาจจะเป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวจิตราชันอันไร้เทียมทานแต่เพลงหมัดของเขาไม่อาจเทียบกับฉิงเฟิงได้เลย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *