My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 739 จันทร์วารีปะทะเพลิงแดงคะนอง

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 739 จันทร์วารีปะทะเพลิงแดงคะนอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  เตี๋ยชุ่ยหลันเตะออกมาด้วยความรุนแรงจากทางด้านหลังของฉิงเฟิงถ้าหากลูกเตะนี้เข้าเป้าก็เป็นที่แน่นอนว่าฉิงเฟิงจะตกลงสู่แม่น้ำลาวาด้านล่างและตายแน่นอน
  “ฉิงเฟิงระวัง !” ลั่วหนี่ชิงร่ำร้องออกมาด้วยร่องรอยแห่งความหวาดกลัวที่ปรากฏบนใบหน้าที่น่าหลงใหลของเธอ
  “ระวังข้างหลัง!” ฉินเซียนจื่อก็เผยอริมฝีปากสีแดงและตะโกนออกมาเช่นกัน
  ถึงแม้ว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้จะไม่ค่อยลงรอยกันนักแต่พวกเธอทั้งคู่ก็ร้องเตือนฉิงเฟิงพร้อมกันยามที่เขาอยู่ในอันตราย พวกเธอคาดไม่ถึงว่าเตี๋ยชุ่ยหลันจะเล่นไม่ซื่อลอบโจมตีฉิงเฟิงจากข้างหลังในขณะที่เขากำลังตรวจสอบความแข็งแรงของสะพานเหล็ก
  หวือ!
  ในขณะที่ฉิงเฟิงเดินขึ้นมาสำรวจบนสะพานเขาก็ได้ตรวจจับการเคลื่อนไหวของเตี๋ยชุ่ยหลันที่อยู่ข้างหลังอยู่แล้ว เมื่อเธอเตะออกมาเขาก็เอี้ยวตัวหลบการลอบทำร้ายของเธอได้ในทันที
  เตี๋ยชุ่ยหลันหน้าซีดเผือดด้วยประกายแห่งความตกใจในแววตาเนื่องจากเธอคาดไม่ถึงว่าฉิงเฟิงจะหลบลูกเตะของเธอได้
  “นังเพศยา! ดูถูกฉันคนนี้เกินไปแล้ว จิตสังหารของเธอมันเหม็นฟุ้งขนาดนี้ใครบ้างจะไม่รู้ตัว ในเมื่อเธออยากตายเร็วนักฉันก็จะสงเคราะห์ให้” ฉิงเฟิงสบถออกมาอย่างเย็นชา เขายืนด้วยขาข้างเดียวและยกขาอีกข้างเตะออกมาด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าเข้าที่ท้องของเตี๋ยชุ่นหลันทันที
  เตี๋ยชุ่ยหลันไม่อาจตั้งหลักได้เนื่องเท้าของเธอยังคงค้างอยู่กลางอากาศ
  เปรี้ยง
  !!
  เตี๋ยชุ่ยหลันลอยกระเด็นจากสะพานเหล็กและกำลังจะตกลงไปในแม่น้ำลาวาที่เดือดปุดๆเบื้องล่างใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดผวาขณะที่เธอรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนระอุจากลาวาข้างล่าง
  “เจี้ยนหลงช่วยด้วย !” เตี๋ยชุ่ยหลันตะโกนหากู่เจี้ยนหลงที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ หวังจะให้เขาหาทางช่วยเธอ
  เมื่อเห็นว่าเตี๋ยชุ่ยหลันตกอยู่ในอันตรายกู่เจี้ยนหลงก็หน้าซีดและรีบโยนเชือกที่อยู่ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาออกมาด้วยความรวดเร็ว เขาตั้งใจจะดึงเธอกลับมาที่ริมฝั่งก่อนจะตกลงไป
  ก่อนจะเข้ามาในสุสานทุกคนต่างก็เตรียมอุปกรณ์ในการสำรวจมาเรียบร้อยเช่น เชือก ไฟฉายและอาหาร
  “อยากจะช่วยหล่อนงั้นเหรอ อย่าฝัน !” ฉิงเฟิงยิ้มอย่าเย็นชา ด้วยเจตนาฆ่าในดวงตาของเขา ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เธอรอดชีวิตไปได้หลังจากที่เพิ่งจะปองร้ายลอบทำร้ายเขา  เช้ง!
  ฉิงเฟิงชักกระบี่แดงเพลิงคะนองออกมาและถ่ายเทลมปราณเข้าไปเขาฟาดกระบี่ที่ปรากฏปราณกระบี่สีแดงเพลิงตัดเชือกที่กู่เจี้ยนหลงโยนไปช่วยเตี๋ยชุ่ยหลัน เชือกขาดในพริบตา
  “ไม่!” เมื่อเห็นเชือกถูกตัดขาด เตี๋ยชุ่ยหลันก็กรีดร้องออกมาด้วยใบหน้าซีดเผือดราวกับคนตาย
  ตูม!
  เตี๋ยชุ่ยหลันหล่นลงไปในแม่น้ำลาวาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนที่น่าสยดสยองร่างกายของเธอถูกห้อมล้อมไปด้วยลาวาที่มีความร้อนมากกว่าหนึ่งพันองศาและกลายเป็นกระดูกสีขาวที่ลอยอยู่ในแม่น้ำลาวาในพริบตา ผู้หญิงสาวสวยที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาได้กลายเป็นโครงกระดูกในทันที
  ทุกคนที่อยู่ริมฝั่งต่างก็ใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยความสยองเมื่อพวกเขาเห็นโครงกระดูกของเตี๋ยชุ่ยหลันอุณหภูมิของแม่น้ำลาวาสูงมากจนทำให้ยอดยุทธ์ผู้หนึ่งหลอมละลายทันทีที่ลาวาสัมผัสกับร่างกาย
  “บัดซบ!! หลี่ฉิงเฟิง แกกล้าดียังไงมาตัดเชือกที่ฉันโยนให้ชุ่ยหลัน !”
  กู่เจี้ยนหลงคำรามออกมาด้วยความโกรธเจตนาฆ่าปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เมื่อตอนที่เตี๋ยชุ่ยหลันถูกฉิงเฟิงเตะตกสะพาน กู่เจี้ยนหลงได้เหวี่ยงเชือกรัดรอบตัวเธอไว้แล้ว ตราบเท่าที่เธอดึกเชือกก็จะสามารถกลับขึ้นฝั่งได้ แต่ฉิงเฟิงกลับตัดเชือกทิ้งอย่างไม่คาดฝัน
  “เฮอะในเมื่อนังสารเลวนั่นเจตนาจะฆ่าฉัน การที่เธอตายก็สมควรแล้ว แกจะทำไม มีปัญหาก็เข้ามาได้เลย !” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นและกล่าวอย่างหยิ่งยโส ซึ่งความจริงแล้วโซ่เหล็กที่คล้องระหว่างสองฝั่งนี้สามารถรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 2 คน ถ้าใครต้องการจะฆ่าเขาก็ทำได้เพียงเข้ามาทีละคน ซึ่งการวัดกันตัวต่อตัวฉิงเฟิงไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้นในที่นี้ และเหตุผลที่เขาทำเป็นหวาดกลัวในตอนแรกก็เพื่อล่อให้เตี๋ยชุ่ยหลันลงมือเพื่อที่เขาจะได้เก็บเธอก่อน
  สมบัติอยู่ใกล้แค่เอื้อมถึงเวลาแล้วที่เขาต้องเริ่มต้นการล้างสังหารเหล่าศัตรู !
  “ไอ้เด็กน้อยแกกำลังเล่นกับไฟ” กู่เจี้ยนหลงยิ้มเยาะเย้ย เขาดีดตัวขึ้นไปบนอากาศและลงสู่สะพานโซ่เหล็ก หมายจะสังหารฉิงเฟิงแก้แค้นให้เตี๋ยชุ่ยหลัน
  ความจริงกู่เจี้ยนหลงวางแผนที่จะจัดการกับฉิงเฟิงหลังจากได้สมบัติของราชายาทิพย์แต่เขาไม่อาจรอได้อีกต่อไปเนื่องจากความตายที่น่าอนาถของเตี๋ยชุ่ยหลัน ฉิงเฟิงหยามหยันด้วยการสังหารคนของเขา เขาจำเป็นต้องปิดบัญชี
  เช้ง
  !
  กู่เจี้ยนหลงชักกระบี่จันทร์วารีซึ่งเป็นอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์ออกมาเขาเพิ่งจะได้มันมาจากสุสาน เขาตั้งใจจะใช้ชีวิตของฉิงเฟิงเซ่นกระบี่เล่มนี้
  หวือ!
  กู่เจี้ยนหลงพลิกข้อมือยกกระบี่จันทร์วารีพาดเหนืออกถ่ายเทปราณแท้เข้าสู่ตัวกระบี่ เขาพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงในทันทีด้วยด้วยแสงเย็น ฉีกขาดอากาศและทิ้งร่องรอยของกระบี่เย็นยะเยือกสีขาวเอาไว้
  จากชื่อของมันเราสามารถสรุปได้ว่ากระบี่เล่มนี้เกี่ยวข้องกับเคล็ดวิชากระบี่สายน้ำ อีกทั้งการฝึกปรือของกู่เจี้ยนหลงก็ออกไปในทางน้ำเช่นกัน จึงทำให้เขาสามารถสำแดงฤทธิ์ของกระบี่เล่มนี้อย่างเข้ากันได้ดีมาก
  ด้วยความสงบนิ่งเยือกเย็นและไม่นำพา ฉิงเฟิงเหวี่ยงกระบี่แดงเพลิงคะนองออกมาในทันทีและเปลี่ยนมันเป็นแสงกระบี่สีแดงปะทะหักหาญกับกระบี่จันทร์วารี
  เปรี้ยง
  !!   ศาสตราวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสองได้ปะทะกันตามมาด้วยเสียงดังสนั่นคลื่นพลังจากการปะทะกระจายออกไปในอากาศโดยรอบ
  กระบี่จันทร์วารีนั้นใช้ประโยชน์จากพลังงานของน้ำในขณะที่กระบี่แดงเพลิงคะนองขึ้นอยู่กับไฟ พลังของกระบี่ทั้งสองเล่มขึ้นอยู่กับขั้วพลังที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นธรรมดาที่มันจะเกิดระเบิดขึ้นจากจุดปะทะเนื่องจากน้ำกับไฟเป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ
  คลื่นพลังงานขนาดยักษ์แผ่กระจายไปรอบๆและเมื่อพลังงานกระจายตัวไปในแม่น้ำลาวาลาวาที่ร้อนระอุก็โหมลุกไหม้ขึ้นและมีเสียงคำราม
  “บ้าชัดๆแกมันแค่ระดับเหนือสวรรค์ขั้นกลาง แกรับการโจมตีของฉันได้ยังไงกัน เป็นไปไม่ได้ !” กู่เจี้ยนหลงหน้าซีดเซียวด้วยความช็อคที่ปรากฏบนดวงตาของเขา
  กู่เจี้ยนหลงเก็บซ่อนความสามารถที่แท้จริงไว้ตลอดเวลาเขาไม่เคยเข้าร่วมการจัดอันดับชื่อรายสุดยอดขั้นเหนือสวรรค์ ครั้งนี้เขามาที่สุสานแกรนด์มาสเตอร์เพื่อสมบัติล้ำค่า ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงต้อยต่ำกว่าเขาถึง 2 ขั้นย่อย ซึ่งตามหลักแล้วย่อมหมายความว่าเขาสามารถฆ่าฉิงเฟิงเมื่อใดก็ได้ตามใจปรารถนา แต่หลังจากการปะทะกันในครั้งแรกทำให้เขารู้ว่าเขาคิดผิดโดยสิ้นเชิง
  “คุณชายกู่วิชากระบี่ของหลี่ฉิงเฟิงนั้นมีความโดดเด่นมาก เขาสามารถรับมือกับผู้ที่มีพลังเหนือกว่าได้”
  เฮลคิงตะโกนเตือนจากด้านหลังด้วยใบหน้าที่มืดมน
  เฮลคิงไม่ได้มีเจตนาดีเพราะเขาก็เกลียดชังฉิงเฟิงเข้าไส้และกระสันที่จะสับเขาเป็นชิ้นๆอยู่ตลอดเวลาแต่เขาก็รู้ดีว่าลำพังเขาคนเดียวย่อมไม่มีทางทำอะไรฉิงเฟิงได้แน่ เพราะฉะนั้นเขาจึงสนับสนุนให้คนอื่นฆ่าฉิงเฟิง ซึ่งเตี๋ยชุ่นหลันก็เป็นผู้หนึ่งในแผนของเฮลคิง
  แผนการของเฮลคิงนั้นดีมากและจุดประสงค์ของเขาคือการทำให้ฉิงเฟิงหมดสิ้นลมปราณ และเมื่อใดก็ตามที่พลังลมปราณของเขาหมดลง ยามนั้นก็เป็นเวลาที่เฮลคิงจะลงมือ
  สู้กับคนที่มีขอบเขตเหนือกว่าได้
  เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเฮลคิงกู่เจี้ยนหลงก็ใบหน้าซีดลง แววตาเขาเต็มไปด้วยความกังวล ทักษะที่สามารถทำให้ต่อสู้กับผู้ที่มีระดับพลังเหนือกว่าได้นั้นเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากทักษะการบ่มเพาะระดับแกรนด์มาสเตอร์ หลี่ฉิงเฟิงมีเคล็ดวิชาการบ่มเพาะระดับแกรนด์มาสเตอร์เลยหรือ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *