My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1204 ทะลวงระดับจิตราชันขั้นสี่

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1204 ทะลวงระดับจิตราชันขั้นสี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1204 ทะลวงระดับจิตราชันขั้นสี่
  คู่ต่อสู้ที่ผ่านๆมาของหลี่ฉิงเฟิงส่วนใหญ่มากจะอ่อนแอกว่าดังนั้นการโจมตีทางกายภาพจึงไม่สามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อและผิวหนังให้เขาได้
  แต่คราวนี้แตกต่างกันคู่ต่อสู้ของเขาคือสาวงามจากดาวเคราะห์เยวี่ยที่ทรงพลังมาก
  การโจมตีจากผู้หญิงคนนี้แต่ละครั้งนั้นหนักกว่า50,000 กิโลกรัมและแม้แต่ภูเขาลูกเล็กๆก็สามารถถูกบดขยี้ภายใต้แรงกดดันเช่นนี้ได้
  หลี่ฉิงเฟิงต้องการให้เธอโจมตีใส่เขาเพื่อเป็นการบรรเทาผิวหนังและกล้ามเนื้อ
  เขามองไปที่เธอและกล่าวอย่างยั่วยุว่า“พลังของเธอมีแค่นี้เหรอ จัดมาหนักๆกว่านี้เซ่ ! หรือว่าหมดแรงหิวข้าว ? นักสู้จากดาวเคราะห์เยวี่ยทั้งหมดล้วนแต่อ่อนแอแบบนี้หรือไง ?”   การเยาะเย้ยของหลี่ฉิงเฟิงยิ่งทำให้เธอโกรธมากขึ้น
  เธอตบฝ่ามือต่อเนื่องไปยังร่างของอีกฝ่ายแต่เธอก็พบว่าหลี่ฉิงเฟิงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจากการโจมตีของเธอ อวัยวะภายในของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
  เธอตระหนักแล้วว่าฝ่ามือของเธอไม่มีผลกับชายผู้นี้ดังนั้นเธอจึงหยุดการโจมตีและเลือกใช้วิธีอื่น
  หญิงสาวสวยผู้นั้นเริ่มกำหมัดแน่น
  หมัดของเธองดงามมันเป็นสีขาวและมีพลังมหาศาลที่สั่นสะเทือนรอบๆ เมื่อกำปั้นของเธอก่อตัวขึ้น หลุมดำก็ปรากฏขึ้นในอากาศจากพลังหมัดของเธอ
  เธอชกกำปั้นไปยังหลี่ฉิงเฟิงและดูเหมือนว่าจะตัดสินสังหารเขาอีกด้วย
  จำเป็นต้องพูดว่าสาวงามผู้นี้ดุร้ายมาก
  เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับเธอที่หลี่ฉิงเฟิงฝึกฝนกายาแดนชำระพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อมีคนอื่นโจมตีร่างกายของเขา
  สาวงามโบกมือและต่อยไปยังร่างของหลี่ฉิงเฟิงครั้งนี้ทำให้เขาต้องถอยออกไปหลายก้าวและกระอักโลหิตคำโตออกมา
  แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บแต่ก็มีความสุขมาก
  เขารู้สึกได้ว่าผิวของเขาหนาแน่นขึ้นและโครงกระดูกของเขาก็แข็งแรงขึ้นทั้งผิวหนังและกล้ามเนื้อเริ่มแกร่งขึ้นเป็นเงาตามตัว
  หลี่ฉิงเฟิงแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นและเยาะเย้ยว่า“คนสวย หมดแรงแล้วเหรอ จัดมาให้หนักกว่านี้หน่อยซี่”
  ดวงตาของสาวงามผู้นั้นเปล่งประกายอย่างเย็นชาขณะยกกำปั้นอีกครั้ง
  การโจมตีแต่ละครั้งของเธอเจาะทะลุผ่านอากาศและทำให้เกิดหลุมดำอีกหลุม
  แต่ทว่าการโจมตีของเธอก็ถูกสกัดกั้นไว้ได้ด้วยน้ำมือของหลี่ฉิงเฟิงทุกครั้ง
  เมื่อเวลาผ่านไปกายาแดนชำระของหลี่ฉิงเฟิงก็เริ่มทรงพลังมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ เขาใกล้จะก้าวเข้าสู่อีกระดับแล้ว
  ผิวหนังกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นและอวัยวะส่วนต่างๆของเขาทั้งหมดต่างก็แข็งแกร่งขึ้น
  ตูม!!!
  เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งพลังภายในร่างกายของหลี่ฉิงเฟิงก็ระเบิดออกในที่สุด
  เครื่องหมายพิเศษปรากฏขึ้นที่ตันเถียนของเขาและตอนนี้เขามีสี่รอยแล้ว
  รอยสัญลักษณ์สี่รอยเป็นเครื่องหมายของนักสู้ในขอบเขตจิตวิญญาณราชันขั้นที่สี่!
  ฮ่าฮ่า !
  “ฉันก้าวเข้าสู่อีกระดับแล้ว”หลี่ฉิงเฟิงขบคิดในใจด้วยความตื่นเต้นที่ไม่อาจข่มใจได้
  เขารู้ว่าการเพิ่มความแข็งแกร่งในแต่ละครั้งนั้นก็หมายถึงการเพิ่มพูนของพลังการเพิ่มพลังก็หมายความว่าความทนทานก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว นี่เป็นวงจรในเชิงบวกที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
  “แม่นาง,ลองชิมหมัดของฉันดูบ้าง “
  หลี่ฉิงเฟิงเลียริมฝีปากและกล่าวออกมาในขณะที่เหวี่ยงหมัดทลายนรกานต์ไปสู่เป้าหมาย
  กำปั้นของเขาแฝงไว้ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่มันชนกับกำปั้นของสาวงามและก่อให้เกิดหลุมดำขึ้นในมิติ
  แกร่กกก! ~
  สภาพแวดล้อมรอบๆปริแตกและเปิดออกร่างกายของหลี่ฉิงเฟิงถูกกระแทกกระเด็นจนถอยหลังอย่างต่อเนื่อง
  ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะถอยเหมือนเดิมแต่เขาถอยเพียงห้าก้าวแทนที่จะเป็นนับสิบๆก้าวเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา !
  นั่นก็หมายความว่าพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างการต่อสู้กับสาวงามผู้นี้นั่นเอง
  เธอแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นและพูดเท่านั้น
  “แม่นาง,ลองชิมหมัดของฉันดูบ้าง “
  หลี่ฉิงเฟิงเลียริมฝีปากและกล่าวออกมาในขณะที่เหวี่ยงหมัดทลายนรกานต์ไปสู่เป้าหมาย
  กำปั้นของเขาแฝงไว้ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่มันชนกับกำปั้นของสาวงามและก่อให้เกิดหลุมดำขึ้นในมิติ
  แกร่กกก! ~
  สภาพแวดล้อมรอบๆปริแตกและเปิดออกร่างกายของหลี่ฉิงเฟิงถูกกระแทกกระเด็นจนถอยหลังอย่างต่อเนื่อง
  ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะถอยเหมือนเดิมแต่เขาถอยเพียงห้าก้าวแทนที่จะเป็นนับสิบๆก้าวเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา !
  นั่นก็หมายความว่าพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างการต่อสู้กับสาวงามผู้นี้นั่นเอง
  เธอแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นและพูดว่า“สารเลว เจ้าใช้ข้าเป็นเครื่องมือในการอัพพลังงั้นหรือ !” แน่นอนว่าเธอโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง
  เธอตัดสินใจที่จะไม่ใช้หมัดของเธอโจมตีหลี่ฉิงเฟิงอีกต่อไป
  เธอควงกระบี่ยาวสีเงินเล่มหนึ่งที่มีลวดลายดวงจันทร์สลักอยู่บนนั้นออกมากระบี่ยาวสีขาวเล่มนั้นเปล่งประกายเยือกเย็นและมีรัศมีที่ทรงพลัง
  การแสดงออกของหลี่ฉิงเฟิงกลายเป็นเคร่งขรึมจริงจังเมื่อเขาเห็นกระบี่ยาวเล่มนี้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของมันอย่างชัดเจน กระบี่เล่มนั้นแข็งแกร่งกว่ากระบี่แสงสีทองของเขา
  แน่นอนว่าเขายังไม่ได้ปลดผนึกกระบี่ทั้งหมดเขาเพียงปลดผนึกได้แค่สามชั้นแรกเท่านั้น ดังนั้นกระบี่ของเขาจึงเป็นอุปกรณ์ระดับจิตวิญญาณราชันขั้นที่สามอยู่ในขณะนี้ หากสามารถปลดผนึกทั้งหมดได้ มันย่อมกลายเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับจิตราชันขั้นที่เก้า !
  เมื่อถึงตอนนั้นกระบี่แสงสีทองของเขาสามารถเอาชนะกระบี่ในมือของสาวงามผู้นั้นได้แน่นอนแต่ทว่าตอนนี้เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นหลี่ฉิงเฟิงจึงไม่ชักกระบี่แสงสีทองออกมา เพราะเขารู้ว่ามันไม่อาจรับมือกับกระบี่ของอีกฝ่ายได้
  เขารู้ว่าหากนับเรื่องอาวุธแล้วตนเองยังไม่อาจเทียบกับเธอได้
  “ต่อให้เธอใช้กระบี่ฉันก็จะใช้ร่างกายเพียวๆนี่ล่ะในการป้องกันการโจมตีเพื่อเสริมสร้างร่างกายของฉัน” หลี่ฉิงเฟิงติดในใจด้วยรอยยิ้มเย็น
  สาวงามโบกกระบี่ยาวในมือเข้าใส่เขากระบี่ของเธอข้ามท้องฟ้าและมีพลังงานกระบี่ยาว 200 เมตรปรากฏขึ้น มันฉีกผ่านอากาศและพุ่งเข้าหาร่างของเขาทันที
  การแสดงออกของหลี่ฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นภาพนี้เขาหลบการโจมตีจากกระบี่นั้นด้วยความเร็วดุจสายฟ้า อย่างไรก็ตามพลังงานกระบี่บางส่วนยังคงกระทบลงบนร่างของเขา
  ฉัวะ!!
  พลังงานกระบี่ของเธอแหลมคมสุดขั้วและตัดผ่านผิวหนังของหลี่ฉิงเฟิงจนทำให้เลือดไหลออกมา
  ชายหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมเขาคาดไม่ถึงว่าพลังกระบี่ของเธอจะสามารถทะลุทะลวงผ่านผิวหนังของเขาได้
  อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กังวลมากนักเพราะอาการบาดเจ็บของเขากำลังเยียวด้วยตัวของมันเอง
  สภาพแวดล้อมที่ก้นสมุทรแห่งนี้วิเศษมากเมื่ออยู่ที่นี่ไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บเพียงใดก็จะสามารถรักษาตัวเองได้ตราบใดที่ไม่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆหรือได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทางวิญญาณ
  แล้วหลี่ฉิงเฟิงก็เปิดใช้งานกายาแดนชำระในร่างเพื่อทำให้ผิวของเขาแข็งเหมือนเหล็กกล้าจนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะบาดเจ็บสาหัส
  “เจ้า นี่เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บเลยหรือ ?” ประกายแห่งความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของสาวงาม เธอไม่คาดคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงจะไร้อาการบาดเจ็บใดๆ
  หากพูดอย่างเจาะจงเขาได้รับบาดเจ็บจริง แต่หายเป็นปลิดทิ้งในเวลาไม่นาน
  หลังจากนั้นครู่หนึ่งสาวงามก็เริ่มตระหนักได้เธอจำได้แล้วว่าผู้อาวุโสในตระกูลเคยบอกไว้ว่าก้นมหาสมุทรเป็นสถานที่มหัศจรรย์ อาการบาดเจ็บจะหายได้ทันทีที่นี่
  ดังนั้นในการฆ่าชายหนุ่มผู้นี้เธอต้องใช้การโจมตีทางวิญญาณ ดังนั้นสาวงามจึงรั้งกระบี่กลับคืน
  เธอตัดสินใจที่จะใช้การโจมตีทางจิตวิญญาณเพื่อฆ่าเขาและช่วงชิงเคล็ดวิชาระดับอมตะมาครอง
  ประกายแห่งความผิดหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่ฉิงเฟิงเมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายหยุดการโจมตี
  กล่าวจากใจจริงเขาคาดหวังว่าเธอจะโจมตีเขาต่อไป เพราะการโจมตีของเธอนั้นทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไมได้แล้วในตอนนี้

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *