My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 768 ยัยป้ามหาภัย

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 768 ยัยป้ามหาภัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  “หลี่ฉิงเฟิงไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” จางหม่านหลียืนตะโกนอยู่ที่ประตูโรงพยาบาล
  เสียงของเธอดังมากและทำให้ทุกคนในโรงพยาบาลได้ยินรวมไปถึงหลินเสวี่ย
  “แม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น ” หลินเสวี่ยขมวดคิ้วขึ้นและถามมู่เสี่ยวหยุนในขณะที่นอนอยู่
  “ดูเหมือนจะมีผู้หญิงวัยกลางคนกำลังด่าทอฉิงเฟิงอยู่นะ”มู่เสี่ยวหยุนกล่าวพร้อมกับมองลงไปที่ชั้นล่างของโรงพยาบาล
  เมื่อได้ยินคำพูดของแม่หลินเสวี่ยก็เงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ตอบว่า “แม่ ช่วยลงไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนี้ให้หนูหน่อยเถอะ ดูว่าเขามีปัญหาอะไรกับฉิงเฟิง”
  “เสวี่ยน้อยฉิงเฟิงทำไม่ดีต่อลูก ทำไมลูกยังดีต่อเขาอีก ”
  “แม่นี่เป็นเรื่องระหว่างหนูกับฉิงเฟิง คนอื่นไม่อาจมาด่าว่าสามีของหนูได้”   “ไอ้หยา…ดู ดูลูกสิ ปากก็บอกว่าเกลียดเขา แต่เห็นชัดๆเลยว่าในใจของลูกยังมีเขาอยู่เต็มหัวใจ ไม่งั้นทำไมลูกต้องโกรธที่มีคนมาด่าฉิงเฟิงด้วย ” มู่เสี่ยวหยุนกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไปทำตามคำขอของลูกสาว
  หลินเสวี่ยเฝ้ามองเงาหลังของแม่ที่เดินออกไปใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ใช่เธอเกลียดฉิงเฟิงมากกับการที่ไปมีสัมพันธ์กับหลิวหรูหยาน แต่ในหัวใจของเธอก็ผสมปนเปไปด้วยความรักและเกลียดชัง เธอเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถด่าทอฉิงเฟิงได้เพราะเธอเป็นภรรยาของเขา คนอื่นไม่มีสิทธิ์
  หลินเสวี่ยกำลังป่วยอยู่เธออ่อนล้าและไม่สามารถเดินออกไปด้วยตัวเองได้ ถ้าเธอทำได้เธอคงจะลงไปเคลียร์กับผู้หญิงที่กำลังตะโกนโหวกเหวกด้วยตัวเองไปแล้ว
  “พี่สาวเสวี่ยนายท่าน… เขาดีต่อคุณจริงๆนะ” เหมียวซิยี้กล่าวขึ้นมาในทันที ความเงียบของหลินเสวี่ยทำให้เธอกังวล
  ในช่วงเวลาที่หลินเสวี่ยหนีออกจากบ้านเหมียวซิยี้ได้เห็นฉิงเฟิงกระอักเลือดด้วยความเป็นห่วง เขาแม้แต่ใช้อิทธิพลทั้งหมดที่เขามีอยู่ในเมืองตงไห่เพื่อค้นหาตัวเธอ
  ส่วนเรื่องหลิวหรูหยานเหมียวซิยี้ไม่ต้องการออกความเห็น เธอไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยกับหลิวหรูหยาน และไม่รู้ว่าระหว่างเจ้านายของเธอกับผู้หญิงคนนี้มีความผูกพันธ์อะไรกัน ซึ่งอลิซสนิทกับหลิวหรูหยานส่วนเธอสนิทกับหลินเสวี่ย
  “ซิยี้เรื่องบางเรื่องมันก็ยากที่จะอธิบาย ถ้าหากฉิงเฟิงมีเซ็กส์กับเธอ ชั้นจะไม่โกรธเลย ชั้นแค่รับไม่ได้ที่เขาไปมีสัมพันธ์กับนางแม่มดคนนั้น, หลิวหรูหยาน” หลิวเสวี่ยกล่าว
  หลินเสวี่ยเข้าใจดีว่าผู้ชายส่วนมากมีความต้องการทางเพศสูงพวกเขาแต่งงานกันมานานแล้วแต่ยังไม่เคยมีอะไรกัน เป็นเหมือนการส่งเขาเข้าสู่อ้อมแขนของผู้หญิงคนอื่น ถ้าหากฉิงเฟิงมีอะไรกับเหมียวซิยี้หรือแม้แต่จางเสี่ยวเยวี่ย หลินเสวี่ยจะไม่โกรธและยอมรับได้ แต่เธอไม่มีทางยอมรับหลิวหรูหยานได้เด็ดขาด
  หลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานเป็นเหมือนศัตรูกันตามธรรมชาติเธอไม่ชอบหลิวหรูหยานและหลิวหรูหยานก็ไม่ชอบเธอ ทั้งคู่ต่างเกลียดชังซึ่งกันและ พวกเธอเป็นศัตรูกันในอดีต()และยังคงเป็นศัตรูกันในปัจจุบันอีกด้วย
  เหมียวซิยี้ตกอยู่ในความเงียบเพราะนี่เป็นปัญหาระหว่างฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา เธอไม่รู้จะพูดอะไร เธอเป็นคนนอก
  —————
  มู่เสี่ยวหยุนเดินมาถึงหน้าประตูโรงพยาบาลเธอกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณผู้หญิงคะ คุณมีปัญหาอะไรไม่ทราบ ทำไมมาตะโกนโวยวายในโรงพยาบาลเช่นนี้ ?”
  เมื่อได้ยินมู่เสี่ยวหยุนพูดแซะจางหม่านหลีก็โมโหและตวาดออกมาว่า “เธอรู้มั้ยว่าชั้นเป็นใคร ชั้นเป็นภรรยาของประธานสมาคมแพทย์หัวเซี่ย ชายที่ชื่อหลี่ฉิงเฟิงทุบตีทำร้ายลูกชายของชั้นเย่เฮา บอกให้มันไสหัวออกมาและขอขมาซะ !”
  “เฮอะ! นึกว่าเรื่องอะไร ขอโทษทีนะคุณผู้หญิงแต่หลี่ฉิงเฟิงลูกเขยชั้นเขาเป็นคนดี เขาไม่เคยทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ถ้าลูกชายของคุณไม่มาทำตัวแย่ๆไล่ลูกสาวของชั้นออกจากโรงพยาบาล ฉิงเฟิงก็ไม่ยุ่งกับเขาหรอก เขามันหาเรื่องเอง” มู่เสี่ยวหยุนกล่าวอย่างเย็นชา
  “อ๋อนี่เธอเป็นแม่ยายของไอ้เด็กเปรตนั่นใช่มั้ย เรียกให้มันออกมาเจอกับชั้นซิ !”
  “ฉิงเฟิงไม่อยู่ที่นี่แต่ลูกสาวของชั้นนอนพักฟื้นอยู่ คุณทำเสียงดังรบกวนผู้อื่น กรุณากลับไปซะเถอะ” น้ำเสียงของมู่เสี่ยวหยุนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเหนื่อยหน่ายกับผู้หญิงคนนี้
  มู่เสี่ยวหยุนก็มีความคิดเช่นเดียวกับหลินเสวี่ยเธอเป็นแม่ยายของฉิงเฟิง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่พอใจกับวีรกรรมของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็ยังเป็นลูกเขยของเธออยู่วันยังค่ำ เมื่อมีคนมาด่าทอคนในครอบครัวในที่สาธารณะก็เป็นธรรมดาที่เธอจะไม่พอใจและรู้สึกหงุดหงิด
  พนักงานและคนในโรงพยาบาลต่างก็เกรงกลัวต่อสถานะทางสังคมที่สูงส่งของจางหม่านหลี่แต่มู่เสี่ยวหยุนนั้นไม่ใช่ เธอไม่กลัวจางหม่านหลี
  ในขณะนั้นเองฉิงเฟิงก็เดินมาใกล้ๆพอดีและได้ยินคำพูดของมู่เสี่ยวหยุนที่พูดปกป้องเขาเขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างมาก
  ความรู้สึกที่แท้จริงของคนๆหนึ่งจะแสดงออกมาในยามที่เราทุกข์ยากทันทีที่ฉิงเฟิงถูกคนอื่นด่าทอมู่เสี่ยวหยุนก็ออกหน้าแทนทำให้เขาได้ตระหนักว่าแม่ยายคนนี้ห่วงใยเขามากแค่ไหน
  ลองคิดดูมีคนมากมายอยู่ในโรงพยาบาล แต่ไม่มีใครสักคนที่มาห้ามปรามจางหม่านหลีและพูดแทนฉิงเฟิง แม่ยายของเขาเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าทำ
  “แหมทำมาเป็นพูดดี หล่อนเป็นแม่ยายของมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าหล่อนต้องอยู่ข้างมัน ในเมื่อไอ้เด็กเวรนั่นไม่ยอมออกมา งั้นชั้นจะสั่งสอนหล่อนแทน !” จางหม่านหลี่แสยะยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง เธอยกมือขวาขึ้นและง้างฝ่ามือเตรียมที่จะตบใบหน้าของมู่เสี่ยวหยุน
  ทั้งสองคนนั้นยืนอยู่ใกล้กันมากเห็นได้ชัดว่ามู่เสี่ยวหยุนไม่คิดว่าจางหม่านหลีจะลงมือทำร้ายคน เธอปรับตัวไม่ทันและทำได้เพียงยืนอึ้งต่อฝ่ามือที่กำลังใกล้เข้ามา
  หมับ!
  ทันใดนั้นเองฉิงเฟิงก็ไหวร่างมาอยู่ตรงหน้ามู่เสี่ยวหยุนในพริบตาเขากุมมือของจางหม่านหลีเอาไว้อย่างแน่นหนาราวกับว่ามือของเขาเป็นคีมเหล็ก
  “แกเป็นใคร ปล่อยมือชั้นนะ !” จางหม่านหลีร่ำร้องตะคอกออกมา ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปรุนแรง
  “ฉันเหรอ ก็หลี่ฉิงเฟิงที่คุณกำลังตามหาไง ทำไม ? ไม่รู้จักฉันหรือไง ?”   ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความรังเกียจ
  เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงการแสดงออกของจางหม่านหลีก็เปลี่ยนไป ดวงตาของเธอกระพริบถี่ไปด้วยความโกรธ
  เธอพยายามที่จะดึงมือออกและตบหน้าฉิงเฟิงแต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ซึ่งมันทำให้เธอโกรธมากยิ่งขึ้น
  “หลี่ฉิงเฟิงแก ไอ้บัดซบ ปล่อยมือชั้นนะ !” จางหม่านหลีก้นด่าฉิงเฟิงไม่หยุด
  ผู้หญิงที่มีเสน่ห์สวมเสื้อผ้าที่สวยงามแต่ปากคอเลาะร้ายด่าทอผู้คนในที่สาธารณะแม้ว่ามันจะดูไม่ดีแต่เมื่อพิจารณาถึงสถานะทางสังคมของเธอก็ทำให้ไม่มีใครกล้าพูด
  เพี๊ยะ!
  ฉิงเฟิงเหยียดฝ่ามือออกมาและตบเข้าที่ใบหน้าของจางหม่านหลีแก้มของเธอแดงก่ำและบวมเป่งในทันที
  เมื่อเธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดาฉิงเฟิงจึงยั้งมือไว้อย่างมากจนเหมือนแทบไม่ได้ออกแรง เพราะถ้าหากเธอเป็นยอดฝีมือแล้วละก็ฉิงเฟิงคงตบเธอจนกลายเศษเนื้อไปแล้ว
  “เวรแล้วไงชายคนนั้นโหดร้ายจริงๆ เขากล้าตบหน้าของคุณผู้หญิงจางได้ไงเนี่ย ”
  “นั่นสิผมละเสียวแทน จางหม่านหลีเป็นภรรยาของประธานสมาคมแพทย์แห่งชาติ เธอมีสถานะทางสังคมที่สูงมาก ขนาดพวกหมอระดับสูงยังต้องปฏิบัติต่อเธออย่างดีที่สุดจนแทบจะเลียแข้งเลียขา”
  “พ่อหนุ่มคนนั้นหุนหันพลันแล่นเกินไปแล้วมันจบแล้ว เขากล้าไปมีเรื่องกับจางหม่านหลี สงสัยต้องติดคุกหัวโตแหงๆ”
  “โหดูหน้าของจางหม่านหลีสิ หน้าสวยๆของเธอบวมเป่งราวกับหัวหมูเลย”
  ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็พูดคุยกันบางคนตะลึงต่อเหตุการณ์ตรงหน้า บางคนก็ขบขัน
  พวกเขาตกตะลึงต่อความบ้าบิ่นของฉิงเฟิงที่ตบหน้าคนใหญ่คนโตแบบไม่ดูตาม้าตาเรือแต่ก็มีบางส่วนหัวเราะเยาะเนื่องจากในตอนนี้ใบหน้าของจางหม่านหลีบวมจนดูน่าเกลียดและตลกมาก
  “แกแก ไอ้ผีนรก ! แกกล้าตบหน้าคนอย่างชั้น ! แกต้องตาย ตายอย่างน่าเกลียด” จางหม่านหลีรู้สึกว่าใบหน้าของเธอปวดแสบปวดร้อนไปด้วยความเจ็บปวด เสียงซุบซิบจากผู้คนรอบข้างทำให้เธอเสียหน้ามาก ยิ่งทำให้เธอเกลียดฉิงเฟิงมากเข้าไปอีก

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *