ตอนที่ 1222 พบหน้าภรรยาอีกครั้ง
　　ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะดูคึกคักน่าสนใจแต่หลี่ฉิงเฟิงก็มิได้รั้งอยู่นาน ทันทีที่เรือโดยสารจอดเทียบท่าเขาก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินกลับไปยังเมืองตงไห่ทันที
　　สองชั่วโมงต่อมาเฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดที่วิลล่าหมายเลข13 ของ Noble Palace ในเมืองตงไห่
　　หลี่ฉิงเฟิงกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์และก้าวยาวๆไปที่บ้านของเขา
　　“นายท่านกลับมาแล้วหรือคะ”
　　เหมียวซิยี้รู้สึกยินดีที่เขากลับมาเธอโค้งคำนับเขาด้วยความเคารพ
　　หลี่ฉิงเฟิงโบกมือเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องมากมารยาทพลางถามว่า
　　“ซิยี้หลินเสวี่ยเป็นยังไงบ้าง ”
　　สีหน้าของเหมียวซิยี้ดูมืดมนลงเธอถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้มและตอบว่า “นายท่านคะ พี่เสวี่ยยังคงไม่ได้สติและอาการดูเหมือนจะแย่ลง”
　　หลี่ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและรีบเดินเข้าไปที่ห้องด้วยความกังวล
　　ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องก็ได้เห็นหลินเสวี่ยนอนอยู่บนเตียงร่างกายส่วนใหญ่ของเธอกลายเป็นสีดำคล้ำด้วยคำสาปแห่งความตาย
　　ดวงตาคู่งามของเธอปิดสนิทดวงหน้าที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ปราศจากสีสันใดๆ ลมหายใจของเธอคล้ายจะหยุดลงได้ทุกเมื่อด้วยชีพจรที่เต้นอ่อนลงทุกที
　　“ที่รักรอผมก่อนนะ ผมจะทำให้คุณฟื้นให้ได้”
　　หลี่ฉิงเฟิงเดินไปนั่งข้างๆเธอและเอื้อมมือแตะหน้าผากอย่างอ่อนโยน
　　จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องถัดไปและพูดกับลูกหมาสีดำว่า“เฝ้าประตูให้ที หากฉันไม่อนุญาต ห้ามให้ใครเข้ามาเด็ดขาด”
　　ลูกหมาสีดำพยักหน้าถ้าเป็นก่อนหน้านี้มันไม่มีทางเชื่อฟังเขาแน่นอน
　　แต่ตอนนี้ไม่ใช่มันรู้ดีว่าหลี่ฉิงเฟิงต้องใช้สมาธิอย่างสูงในการสร้างเม็ดยาเทพชีวาเพื่อช่วยหลินเสวี่ย
　　ลูกหมาสีดำชื่นชอบหลินเสวี่ยนับตั้งแต่ที่เธอเอ็นดูรักใคร่และทำบะหมี่ไข่ให้มันกินดังนั้นมันจึงยอมรับหน้าที่โดยสดุดี เดินไปเฝ้าหน้าประตูห้องอย่างระมัดระวังเพื่อให้หลี่ฉิงเฟิงมีสมาธิในการปรุงยาได้โดยไม่ถูกรบกวน
　　หลี่ฉิงเฟิงกลับเข้ามาในห้องและหยิบเตาปรุงยาทองคำออกจากแหวนมติมันคือเตาปรุงยาของเซียนทองคำนั่นเอง
　　ในขณะที่เตาปรุงยาทองคำปรากฏขึ้นแสงสีทองลึกลับก็ส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง
　　บนพื้นผิวของเตาใบนี้มีการแกะสลักรูปสัตว์โบราณนกและพืชต่างๆที่มีอยู่ในยุคโบราณ
　　หลี่ฉิงเฟิงกลั่นองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีปรุงยานี้จากความทรงจำของเซียนทองคำเขาจดจำแต่ละขั้นตอนของกระบวนการและตรวจสอบพวกมันหลายครั้งจนแน่ใจว่าสำเร็จ 100 % และไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ
　　แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่สามารถฝึกฝนได้บ่อยครั้งเกินไปเนื่องจากความหายากของวัตถุดิบ
　　เขามีน้ำพุแห่งชีวิตและเลือดมังกรน้ำแข็งที่มากพอแต่ทว่าหัวใจเยือกแข็งนั้นมีน้อยเกินกว่าจะทดลองปรุงได้หลายๆครั้ง หากผิดพลาดขึ้นมาเขาไม่สามารถหามันมาทดแทนได้
　　จากนั้นหลี่ฉิงเฟิงก็หยิบหัวใจเยือกแข็งน้ำพุแห่งชีวิตและเลือดมังกรน้ำแข็งใส่ลงไปในเตาปรุงยาก่อนที่จะปิดฝา เขาปลดปล่อยเปลวเพลิงสีทองออกจากร่างและใช้มันในการอุ่นเตา
　　เพื่อสร้างยาชนิดนี้เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งของสามอย่างวัตถุดิบ เตาปรุงยาและเปลวไฟ
　　ตอนนี้เขามีรายการทั้งหมดอยู่กับตัวแล้วและงานเดียวที่เหลือคือกระบวนการปรับแต่ง
　　ด้วยนิ้วมือที่ว่องไวทั้งห้าเขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ใช้การควบคุมเปลวไฟสีทองที่ยังคงเผาไหม้อยู่ภายใต้เตา
　　เปลวไฟสีทองที่เผาไหม้อย่างสม่ำเสมอที่ด้านล่างของเตาปรุงยาทำให้ทุกส่วนถูกปกคลุมด้วยความร้อนที่แผดเผา
　　โชคดีสำหรับหลี่ฉิงเฟิงที่ได้ครอบครองเตาปรุงยาวิเศษนี้รวมไปถึงเปลวไฟสีทอง มิฉะนั้นเขาคงไม่มีวันปรุงยาได้สำเร็จ
　　เงื่อนไขสำหรับการสร้างเม็ดยาเทพชีวานั้นเป็นอะไรที่ยากเย็นแสนเข็ญกว่าที่ผู้ใดจะคาดคิด
　　ความยากลำบากที่กล่าวมาได้รับการยืนยันจากความล้ำค่าของวัตุดิบซึ่งพวกมันเป็นสมบัติที่หาได้ยากยิ่งบนโลกก่อนหน้าเม็ดยาชนิดนี้มีเพียงผู้มีอำนาจสูงส่งและตัวตนอมตะเท่านั้นที่จะพึงมีได้
　　และเพื่อปรับแต่งวัตถุดิบเหล่านี้ให้เป็นเม็ดยาเทพชีวายังจำเป็นต้องใช้เตาหลอมและเปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูง ไม่ต่ำกว่า 3,000 องศามิฉะนั้นจะไม่สามารถหลอมละลายส่วนผสมที่หายากเหล่านี้ได้
　　แน่นอนเปลวไฟสีทองในมือของหลี่ฉิงเฟิงนั้นสามารถเร่งความร้อนไปได้ถึง 5,000 องศา และด้วยความร้อนมหาศาลนี้เท่านั้นที่สามารถหลอมวัตุดิบที่มีค่าเหล่านี้ได้
　　หลี่ฉิงเฟิงยังคงควบคุมเปลวไฟสีทองซึ่งทำให้เตาเผาทองคำอุ่นขึ้น
　　เสียงที่ดังมาจากข้างในเตาหลอมส่งสัญญาณถึงการหลอมรวมและก่อตัวเป็นรูปร่าง
　　กระบวนการในการทำยาชนิดนี้ต้องทำการสกัดสาระสำคัญจากวัสดุที่มีค่าในและในขณะเดียวกันก็ต้องขจัดสิ่งสกปรกออกไป สาระสำคัญจะถูกย่อส่วนลงในเม็ดยาส่วนของเสียจะถูกสกัดทิ้ง
　　เมื่อเวลาผ่านไปหน้าผากของชายหนุ่มก็ถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อ　　เหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผากไหลลงไปที่แก้มของเขาและจากนั้นเคลื่อนไปที่คอจนเปียกชุ่มเสื้อผ้าแทบทั้งหมด
　　ทว่าหลี่ฉิงเฟิงก็ไม่สนใจเหงื่อไคลบนใบหน้าของเขาเลยคนเอาแต่เพ่งความสนใจไปที่การควบคุมไฟใต้เตาปรุงยาทองคำ
　　เขาแบ่งเปลวไฟสีทองออกเป็นสิบกลุ่มแต่ละกลุ่มนั้นก็แผ่ความร้อนไปยังทุกจุดของเตาปรุงยาอย่างสม่ำเสมอ
　　เปลวไฟโลดเต้นบนนิ้วมือของเขาเสมือนเพลิงวิญญาณสีทองทำให้เตาเผาความร้อนอย่างต่อเนื่อง
　　กลิ่นค่อยๆลอยออกไปส่งสัญญาณถึงการสร้างเม็ดยาล้ำค่า เมื่อใดก็ตามที่โอสถใกล้เสร็จสมบูรณ์ กลิ่นจำพวกนี้จะลอยฟุ้งขึ้น
　　แสงแห่งความเบิกบานปรากฏขึ้นในดวงตาของหลี่ฉิงเฟิงเมื่อเขารู้ว่าความพยายามของตนไม่สูญเปล่าเขาหน้าซีดขาวและพยายามระงับความเมื่อยล้าทางจิตวิญญาณ ใช้ความพยายามมากขึ้นในการควบคุมเปลวไฟสีทองให้คงที่
　　กลิ่นโอสถก็เข้มข้นขึ้นและฟุ้งกระจายเต็มไปทั่วห้อง
　　เขาสูดหายใจเข้าลึกและรู้สึกสดชื่นสบายไปทั้งตัวจนความเหนื่อยล้าทั้งหมดของเขาหายไป
　　“ฮ่าๆ ๆ ๆ ! ฉันหลอมโอสถเสร็จสมบูรณ์แล้ว”
　　หลี่ฉิงเฟิงระเบิดเสียงหัวเราะลั่นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
　　เขารู้ว่าเมื่อยาปรุงสำเร็จเขาจะสามารถช่วยหลินเสวี่ยให้ฟื้นขึ้นมาได้ทันทีที่นำมันออกจากเตา
　　คิดได้เช่นนั้นหลี่ฉิงเฟิงก็เปิดฝาเตาปรุงยาทองคำขึ้นและได้เห็นเม็ดยาสีขาววางอยู่ข้างใน
　　ยาวิเศษเม็ดนี้มีขนาดเท่ากับนิ้วโป้งมันเป็นสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหมดและมีลำแสงสีขาวไหลผ่านจนดูเหมือนมังกรน้ำแข็ง　　นอกจากนี้ยังมีร่องรอยของออร่าเย็นจัดเนื่องจากเลือดมังกรน้ำแข็งก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบของยาเม็ดนี้
　　นอกจากออร่าเย็นเฉียบแล้วหลี่ฉิงเฟิงยังสัมผัสได้ถึงออร่าจากของวิเศษอีกสองชนิดก็คือน้ำพุแห่งชีวิตและหัวใจเยือกแข็ง
　　วัตถุดิบทั้งสามชนิดนี้เป็นหนึ่งในสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในโลกมันเป็นที่หมายปองของผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระดับจิตวิญญาณราชัน, ระดับจักรพรรดิ หรือแม้กระทั่งราชันจักรพรรดิ !