ตอนที่ 1049 ความลับชาติกำเนิดของหลี่ฉิงเฟิง
　　“พี่ใหญ่หลี่ท่านแข็งแกร่งยิ่ง ท่านสามารถฆ่าวานรอสูรห้วงมิติได้” ใบหน้าที่เปี่ยมเสน่ห์ของฮวาเซียนจือเปล่งประกายด้วยความชื่นชม
　　แม้ว่าฮวาเซียนจือจากครอบครองพลังยิ่งใหญ่ภายในร่างด้วยผนึกบงกช(ดอกบัว)แต่เธอก็ไม่เข้าใจในกฏเกณฑ์แห่งห้วงมิติหากเปลี่ยนเป็นเธอที่ต้องเข้าไปในข่ายอาคมห้วงมิติระดับราชันแล้ว เธอคงไม่ใช่คู่มือของวานรอสูรห้วงมิติอย่างแน่นอน
　　ฉินเซียนจื่อพยักหน้าเช่นกันสำหรับพวกเธอแล้วฉิงเฟิงนั้นทรงพลังและลึกลับเกินไป เขามีความลับมากมายที่แต่ละอย่างล้วนแต่สร้างความประหลาดใจ
　　ไม่เพียงแค่ฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อเท่านั้นที่ตกใจแม้แต่ราชันผู้พิชิตก็ตกใจไม่น้อย เขาคิดไม่ถึงว่าบุตรชายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงนี้และสามารถฆ่าวานรอสูรห้วงมิติได้
　　หลังจากฉิงเฟิงฆ่ามันแล้วเขาก็เดินต่อไปข้างหน้า
　　จากนั้นไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นสัตว์อสูรมิติอีกตัวหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเขามันเป็นจระเข้อสูรห้วงมิติที่มีรูปร่างใหญ่โตและยาวประมาณสิบเมตร มันมีเกล็ดสีดำทั่วร่างและมีหางเรียวยาวที่ปกคลุมด้วยหนามอันน่าหวาดกลัว
　　จระเข้อสูรมิติตัวนี้มีระดับพลังมากกว่าวานรอสูรมิติมันมีพลังถึงระดับจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นกลาง
　　เช้ง!
　　ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาและปลดปล่อยพลังกระบี่วาดเป็นเส้นโค้งบนท้องฟ้าแทงไปที่ข้างหลังเขาจระเข้อสูรมิติตัวนั้นเพิ่งจะโผล่ออกมาจากห้วงมิติและเตรียมที่จะโจมตีฉิงเฟิงแต่มันกลับถูกแทงด้วยกระบี่ยาวในจังหวะเดียวกัน　　ฉัวะ!
　　กระบี่เพลิงคะนองเจาะทะลุหัวใจจระเข้อสูรมิติและเกิดรูขนาดใหญ่
　　มันตกตายก่อนที่จะได้ลงมือมันกระสันจะฆ่าฉิงเฟิงเกินไปจนไม่ทันระวังและถูกกระบี่แทงอย่างไม่ตั้งตัว
　　ใช่แล้วฆ่าตัวตาย… จระเข้อสูรมิติตัวนี้พุ่งเข้าหากระบี่เพลิงคะนองด้วยตัวมันเอง
　　ผู้คนรอบข้างต่างก็ตกใจมากในขณะที่ได้เห็นจระเข้อสูรมิติที่ทรงพลังต้องตกตายอย่างน่าเศร้า…
　　สัตว์อสูรมิติตัวอื่นๆที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่รอบๆที่ได้เห็นฉากนี้ต่างก็ไม่กล้าโจมตีฉิงเฟิงอีกต่อไปเพราะพวกมันตระหนักได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ย่อมเข้าใจในกฎเกณฑ์ห้วงมิติแล้วอย่างแน่นอน
　　เมื่อปราศจากการขัดขวางของเหล่าสัตว์อสูรมิติฉิงเฟิงก็มาถึงข้างกายพ่อของเขาได้สำเร็จในที่สุด ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะทรงพลังแต่เหนือศีรษะของเขาก็มีวงแหวนสีทองผนึกไว้อยู่ ด้วยสิ่งนี้พ่อของเขาจึงไม่อาจเคลื่อนไหวไปไหนได้
　　ฉิงเฟิงนึกถึงราชาวานร(หงอคงในไซอิ๋ว)ขึ้นมาทันทีที่เห็นวงแหวนสีทองที่ครอบบนศีรษะพ่อของเขาหงอคงถูกทับอยู่ภายใต้ภูเขาห้านิ้วพร้อมกับมงคลทองคำที่ครอบศีรษะเขาเอาไว้
　　แน่นอนพ่อของเขาไม่ใช่หงอคงและเจ้าแม่กวนอิมก็คงไม่ได้นำมงคลครอบศีรษะเขาเอาไว้ผู้ที่ทำน่าจะเป็นนักบุญผู้ทรงพลัง
　　ระดับนักบุญของผู้ฝึกตนย่อมทรงอำนาจแต่หลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้ถูกเลือก ทำให้เขาไม่กลัวพลังของของขลังชิ้นนี้
　　ฉิงเฟิงเดินมาถึงเบื้องหน้าของขลังของนักบุญและกระชากมันออกมา
　　ครืน!
　　ของขลังแสดงปฏิกิริยาต่อต้านแต่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของสายเลือด, มันถูกกระชากออกในทันทีเนื่องจากฉิงเฟิงมีทั้งโลหิตมังกรบรรพกาลหนึ่งหยดและสายเลือดผู้กลืนกินอยู่ภายในร่าง เหล่านี้คือ 2 ใน 100 สายเลือดที่ทรงพลังที่สุดของสวรรค์และปฐพี เขาสามารถดึงมันออกได้อย่างง่ายดายราวกับฉีกกระดาษ
　　เมื่อของขลังถูกกระชากหลุดออกข่ายอาคมมิติระดับราชันก็หายไปพร้อมกับมัน
　　ตูม
　　!!
　　ร่างกายของราชันผู้พิชิตปลดปล่อยพลังมหาศาลที่พุ่งทะลุหมู่เมฆและสะเทือนห้วงมิติ
　　เมื่อ15 ปีก่อน ราชันผู้พิชิตก็ทรงอำนาจสูงสุดในหัวเซี่ยด้วยพลังของผู้ฝึกยุทธระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุด มันทำให้เขาปกครองทั่วทั้งหัวเซี่ยได้
　　ต่อมาเขาได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังของนิกายพิชิตสวรรค์ตลอดในช่วง15 ปีในระหว่างที่ติดอยู่ใต้ก้นหน้าผาทลายฟ้าในแดนต้องห้ามคุนหลุน
　　กล่าวถึงนิกายพิชิตสวรรค์ครั้งหนึ่งมันเป็นนิกายระดับสุดยอดของโลก ว่ากันว่าพวกเขาเคยพิชิตสรวงสวรรค์และสอนสั่งเหล่าศิษย์เพื่อเป็นนักบุญและจักรพรรดิสวรรค์
　　อาจารย์ของราชันผู้พิชิตคือปราชญ์พิชิตสวรรค์เขาได้ฝึกฝน [คัมภีร์พิชิตฟ้า] จนเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณราชันแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผนึกของนักบุญ พลังของเขาจึงยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่
　　“พ่อในที่สุดผมก็ช่วยพ่อได้แล้ว !” ฉิงเฟิงกล่าวกับพ่อของเขาด้วยความตื่นเต้นดีใจ
　　ฉิงเฟิงไม่ได้พบพ่อมานานมากแต่พวกเขาทั้งสองต่างก็เชื่อมโยงกันด้วยสายเลือดพ่อลูก
　　ราชันผู้พิชิตพยักหน้าและตบหลังฉิงเฟิงด้วยมือขวาของเขาดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งและความภาคภูมิใจที่ได้เห็นบุตรชายแข็งแกร่งถึงเพียงนี้โดยไร้การสอนสั่งจากเขา　　ราชันผู้พิชิตอาจเป็นหนึ่งในเหล่าศิษย์ที่มีพรสวรรค์และความสามารถมากที่สุดในนิกายพิชิตสวรรค์แต่ในฐานะพ่อ เขาต้องการให้บุตรชายเหนือกว่าเขามากกว่าสิ่งใด
　　จากนั้นผู้พิทักษ์มิติก็กล่าวขึ้นว่า“ผู้พิชิต เจ้าอยู่บนโลกนี้นานไม่ได้ มิฉะนั้นนักบุญไร้นภาผู้พันธนาการเจ้าจะต้องตามล่าเจ้าไม่สิ้นสุดแน่”
　　ราชันผู้พิชิตพยักหน้ารับทราบเขารู้ซึ้งถึงพลังอันเหลือเชื่อของนักบุญไร้นภาเป็นอย่างดี
　　“พ่อพ่อจะไปแล้วหรือ ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความงุนงง
　　ฉิงเฟิงเพิ่งจะช่วยพ่อของเขาออกมาได้และต้องการพาพ่อกลับหัวเซี่ยเพื่อร่วมงานแต่งงานของเขากับหลินเสวี่ยแต่จู่ๆพ่อของเขากลับจะจากไปทันที
　　ราชันผู้พิชิตมองฉิงเฟิงและกล่าวว่า“อย่างแรกเลย พ่อจำเป็นต้องเลี่ยงไอ้นักบุญนั่น การที่พ่อรั้งอยู่บนโลกก็มีแต่จะทำให้เจ้าต้องเกิดปัญหาไม่รู้จบ อย่างที่สอง พ่อต้องออกไปหาแม่ของเจ้า”
　　แม่
　　……..
　　ใบหน้าของฉิงเฟิงกลายเป็นว่างเปล่าเขาจำได้แค่เพียงว่าแม่ของเขาจากหัวเซี่ยไปตั้งแต่เขายังเด็ก และไม่เคยพบกันอีกเลย
　　“พ่อแล้วแม่อยู่ที่ไหน ” ฉิงเฟิงถาม เห็นได้ชัดว่าเขายังมีความรู้สึกลึกๆต่อแม่ของเขา
　　ราชันผู้พิชิตทอดสายตามองไปที่ความว่างเปล่าในระยะไกลและกล่าวเบาๆว่า“นางอยู่ที่พิภพใหญ่ฟินิกซ์ พ่อต้องไปหานาง”
　　พิภพใหญ่ของฟินิกซ์
　　!
　　ฉิงเฟิงสับสนอย่างมากเนื่องจากเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพิภพใหญ่อะไรพวกนี้มาก่อนในชีวิต
　　“มีดวงดาวอยู่หลายร้อยล้านดวงในเอกภพและพวกมันเป็นตัวแทนของดาวเคราะห์หนึ่งร้อยล้านดวง มีพิภพใหญ่สามพัน, พิภพระดับกลางนับหมื่นและพิภพเล็กนับแสน ในแต่ละพิภพประกอบไปด้วยดาวเคราะห์นับไม่ถ้วนและแม้แต่พิภพเล็กๆก็ยังสามารถมีมิตินับพัน”
　　“หนึ่งพันมิติหมายถึงดาวเคราะห์หนึ่งพันดวง มิติถูกเรียงจากต่ำไปสูงคือ: มิติชั้นต่ำ, มิติระดับกลางและมิติระดับสูง โดยที่มิติชั้นต่ำจะมีดาวเคราะห์สิบดวง และโลกมนุษย์ที่พวกเราอยู่กันนี่ก็คือหนึ่งในสิบดาวเคราวห์ชั้นต่ำ ของมิติชั้นต่ำนั่นเอง”
　　“พิภพใหญ่ทั้งสามพันนั้นเป็นดวงดาวที่ทรงพลังที่สุดภายในนั้นมีดวงดาวบริวาณนับร้อยล้านดวง พวกเขาเหล่านั้นเป็นนิรันดร์และไม่แก่ไม่ตาย จาก[จุดกำเนิดความโกลาหลของเอกภพ] ดวงดาวทั้งสามพันนั้นก็ดำรงอยู่ มันเป็นดั่งตัวแทนของวิถี(เต๋า)อันยิ่งใหญ่ทั้งสามพันรูปแบบ แต่ละวิถีจะมีเส้นทางการฝึกฝนที่เปลี่ยนผู้ฝึกให้เป็นนักบุญหรืออมตะ”
　　“แม่ของเจ้าคือนักบุญหญิงเผ่าพันธุ์หงสาบรรพกาล,หงสาตัวที่สองที่ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่จุดกำเนิดของสวรรค์และปฐพี ท่านยายของเจ้าคือหงสาตนแรกของสวรรค์และปฐพี นางลักพาตัวแม่ของเจ้าไปและบีบบังคับให้เข้าพิธีแต่งงานกับจักรพรรดิมังกรแห่งเผ่าพันธุ์มังกรบรรพกาล พ่อต้องรีบไปช่วยนาง”
　　ราชันผู้พิชิตบอกเล่าทุกสิ่งเกี่ยวแม่ของเขาให้ฉิงเฟิงได้ฟังในขณะที่สายตาทอดยาวไปยังความว่างเปล่าของจักรวาล
　　สีหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงหลังจากได้ยินทุกสิ่งที่พ่อของเขาเล่ามาดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความช็อค เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแม่ของเขาจะเป็นถึงหงสาตัวที่สองของเผ่าพันธุ์หงสาบรรพกาลของพิภพชั้นสูง
　　……………………
　　ผนวกหน่อยจะขึ้นภาคใหม่แล้ว
　　1.เต๋า(Dao) คืออะไร
　　–　　เต๋า
　　(อักษรจีน: 道
　　เต้า
　　)มีความหมายตามตัวอักษรว่า
　　วิถี
　　หรือ
　　วิธี
　　ต่อมาคัมภีร์เต๋ายุคแรก ได้ใช้คำว่า เต๋า ในความหมายใหม่ว่า เป็นสัจภาวะสูงสุด เป็นอุตรภาพ อัพภันตรภาพ ซึ่งปราศจากรูปร่าง พ้นวิสัยภาษา ความคิด และความเข้าใจของมนุษย์
　　[1]
　　เชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดและจุดหมายปลายทางของสรรพสิ่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าพูดถึงเต๋าสวรรค์ก็คือวิถีแห่งสวรรค์ เต๋ากระบี่ก็คือวิถีหรือศาสตร์แห่งกระบี่ การฝึกฝนเต๋าๆนั้นก็คือการฝึกฝนต้นกำเนิดจนถึงปลายทางของวิถีนั้น ไม่งงกันนะ　　2.ตอนนี้พ่อพระเอกพูดถึงโลกข้างนอกแล้วมันเป็นตามนี้ เอกภพ – พิภพใหญ่ 3000 พิภพ – พิภพกลาง – พิภพชั้นต่ำ ยกตัวอย่างง่ายๆพิภพก็คือกาแลคซี่นั่นแหละ ในหนึ่งกาแลคซี่มีกระจุกดาวและดาวเคราะห์อีกนับล้านดวง
　　3.จักรพรรดิสวรรค์ไม่ใช่สูงสุดของนิยายเรื่องนี้ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นเซียนต้นกำเนิดหรือจักรพรรดิเซียนนี่ละ