My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1173 สายเลือดราชาวานร

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1173 สายเลือดราชาวานร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1173 สายเลือดราชาวานร
  เมื่อปากของน้ำเต้าทองคำขยายออกเป็นสิบเท่าของขนาดดั้งเดิมวังวนสีทองพุ่งออกมาจากด้านในที่เปี่ยมไปด้วยแรงดึงดูดอันทรงพลัง มันดูดกลืนเมล็ดทานตะวันทั้งหนึ่งร้อยเม็ดและแปลงเป็นพลังงานสีทองของมันเอง
  น้ำเต้าทองคำดูเหมือนจะมีความสุขมากหลังจากกินเมล็ดร่วมหนึ่งร้อยเม็ดเข้าไปและหลังจากกินเสร็จมันก็เริ่มลดขนาดตัวลงกลับไปเป็นยี่สิบเซนติเมตรเท่าเดิม
  ซุนฮุนเทียนรู้สึกสับสนเมื่อได้เห็นฉากนี้เขาสงสัยว่าน้ำเต้าทองคำอันนั้นคืออะไร นอกจากนี้เขายังโกรธเกรี้ยวมากที่เมล็ดทานตะวันหนึ่งร้อยเม็ดของเขาถูกน้ำเต้าทองคำกลืนไปจนหมด
  “หลี่ฉิงเฟิงเจ้าสารเลว ! คายเมล็ดทานตะวันของข้าออกมา !” ซุนฮุนเทียนตะโกนด้วยสีหน้าเศร้าสลด
  เมื่อเห็นความอัปยศอดสูของคู่ต่อสู้ฉิงเฟิงก็แสยะยิ้ม “คายออกมา ให้คายอะไร ไม่มีทางที่ฉันจะยอมคายของที่กินเข้าปากไปแล้วหรอก มันเป็นของฉันแล้ว”
  เขาดีใจมากที่เห็นว่าน้ำเต้าทองคำทรงพลังขึ้นจากการกินเมล็ดทานตะวันของอีกฝ่ายมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่ช่วยเขาจัดการกับศัตรูได้อย่างดีเยี่ยม
  น้ำเต้าทองคำดูเหมือนจะมีพลังจิตวิญญาณมันส่งคลื่นจิตวิญญาณไปหาฉิงเฟิงอย่างลับๆเพื่อขอให้ช่วยนำเมล็ดทานตะวันมาให้มันกินมากกว่านี้
  ฉิงเฟิงเข้าใจและตัดสินใจช่วยให้มันได้กลืนกินเมล็ดทองคำทั้งหมดที่เหลืออยู่บนดอกทานตะวัน
  หวืด!
  ฉิงเฟิงใช้ท่าร่างพันมังกรและก่อตัวเป็นเงามังกรเขามาถึงเบื้องหน้าซุนฮุนเทียนและเล็งน้ำเต้าทองคำไปที่จานดอกทานตะวันมังกร  ในขณะเดียวกันขนาดของน้ำเต้าทองคำก็เริ่มขยายตัวอีกครั้งซึ่งครั้งนี้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึงห้าสิบเท่า!
  วังวนสีทองถูกพ่นออกมาจากปากของน้ำเต้ามันดูดกลืนจานดอกทานตะวันลงไปในน้ำเต้าแล้วปรับเป็นมวลของพลังงานสีทอง
  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าน้ำเต้าทองคำทรงพลังเพียงใด แม้แต่จานดอกทานตะวันก็ไม่สามารถเทียบได้ จากทั้งหมดที่กล่าวมา ยังไงซะมันก็เป็นถึงอุปกรณ์วิญญาณที่เคยถูกใช้งานโดยเซียนทองคำมาก่อน
  “อุปกรณ์ของหลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร! เขายังสามารถกลืนกินและปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณของประมุขนิกายคทาฟ้าได้”
  “หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งอย่างแท้จริงมิน่าเล่าเขาถึงได้ถูกมองว่าแข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนรุ่นใหม่ของโลกผู้ฝึกตน”
  “แม้แต่อุปกรณ์วิญญาณของซุนฮุนเทียนก็ยังถูกกลืนหายไปข้ารู้สึกว่าเขากำลังจะแพ้”   ผู้คนรอบๆต่างก็พูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวาทุกคนล้วนตะลึงงัน
  ก่อนเริ่มการต่อสู้พวกเขาคิดว่าซุนฮุนเทียนจะเป็นผู้ชนะแต่ตอนนี้ผลก็คือตรงกันข้าม
  เมื่อได้ยินการถกเถียงกันในหมู่ฝูงชนซุนฮุนเทียนก็โกรธแค้นด้วยใบหน้าที่มืดมนเพราะจานวิญญาณดอกทานตะวันเป็นไพ่ตายของเขาแต่แล้วกลับถูกกลืนกินไปอย่างไม่คาดคิด
  “หลี่ฉิงเฟิงเพียงแค่เจ้าดูดกลืนอาวุธวิญญาณของข้าไปแล้วเจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้อีกหรือไง” ซุนฮุนเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนาวเย็นและมีรอยยิ้มเย็นชา
  จานวิญญาณดอกทานตะวันเป็นเพียงหนึ่งในไพ่ตายของซุนฮุนเทียนแต่เขายังมีอย่างอื่นที่แข็งแกร่งกว่าในมือ ซึ่งเดิมทีเขาตั้งใจจะใช้มันในช่วงเวลาสำคัญที่ต้องแย่งชิงโลหิตมังกรน้ำแข็ง แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าจะต้องใช้มันทันทีไม่งั้นคงไม่มีทางเอาชนะหลี่ฉิงเฟิงได้
  “ซุนฮุนเทียนมีอะไรก็งัดออกมาได้เลยก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีก” ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา
  ด้วยพลังที่เพิ่มพูนขึ้นเขาจึงไม่กลัวใครแม้แต่ซุนฮุนเทียนที่มีระดับพลังสูงกว่า
  ฉิงเฟิงต้องการพัฒนาตัวเองผ่านการเคี่ยวกรำในการต่อสู้กับบรรดายอดฝีมือเนื่องจากในอนาคตเขาจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูอีกเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแค่เพื่อปกป้องหลินเสวี่ยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพ่อแม่ของเขาและหลังจากนั้นคือการล้างแค้นให้โลกมนุษย์ใบนี้
  “
  สายเลือดราชาวานร
  !
  “
  ซุนฮุนเทียนเปล่งเสียงร้องและกระตุ้นพลังสายเลือดภายในร่างกายของเขาออกมา  สายเลือดนี้มีพลังที่แข็งแกร่งมากและทุกคนสามารถมองเห็นร่างเงาขนาดยักษ์ของราชาวานรที่ปรากฏขึ้นเหนือหัวของซุนฮุนเทียน
  วานรขนดำกำลังแสดงท่าทางข่มขู่และปล่อยพลังงานอันทรงพลังออกมาจากร่างกายของมัน
  “
  สายเลือดแห่งเทพหมาป่า
  !
  “
  เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายเลือดวานรฉิงเฟิงจึงปลุกเร้าพลังสายเลือดแห่งวูฟก็อดภายในร่างกายของเขาทันทีโดยไม่ลังเล เนื่องจากคู่ต่อสู้ใช้พลังสายเลือดเข้าต่อสู้ ดังนั้นเขาก็ต้องทำเช่นเดียวกัน
  ร่างเงาแห่งเทพหมาป่าปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของฉิงเฟิงซึ่งสูงกว่าหนึ่งร้อยเมตรตามมาด้วยแสงสีแดงดูกระหายเลือดที่เปล่งออกมาจากดวงตา มันดูสง่างาม เคร่งขรึมและแข็งแกร่งราวกับว่ามันเกิดมาเพื่อเป็นราชา
  โฮกกกกก
  !
  วูฟก็อดส่งเสียงเห่าหอนที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความเดี่ยวดายพร้อมกับร่องรอยของพลังงานอันหยิ่งผยอง
  ในฐานะที่เป็นสัตว์ในเทพนิยายวูฟก็อดก็คือบรรพบุรุษของหมาป่าทั้งปวง จากมุมมองของมัน ราชาวานรที่อยู่ตรงข้ามตนนี้กำลังกระตุ้นยั่วยุมัน !
  เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าราชาวานรนั้นชื่นชอบการต่อสู้และไม่เคยยอมแพ้ต่อสัตว์ร้ายใดๆดังนั้นมันจึงคำรามขึ้นเช่นกัน ในยุคโบราณมันเคยเป็นราชาแห่งสรรพสัตว์ที่ปกครองพื้นที่ขนาดใหญ่ของโลก
  เป็นไปดั่งคำพูดที่ว่าเสือสองตัวไม่อาจอยู่ในถ้ำเดียวกันและจะมีเพียงราชาตนเดียวเท่านั้นที่เหลือรอด เมื่อมาถึงการต่อสู้ระหว่างสัตว์บรรพกาลทั้งสองตน
  ซูม!!
  ราชาวารกำหมัดและเหวี่ยงอย่างหนักหน่วงเข้าหาวูฟก็อดหมัดนี้ทำให้เกิดรอยปริแตกในชั้นบรรยากาศและทำลายพื้นที่รอบๆจนแตกเป็นเสี่ยงๆหลงเหลือไว้เพียงอุโมงค์กาล-อวกาศอันพร่ามัว
  เนื่องจากความขุ่นเคืองที่มีต่อกันอยู่ก่อนหน้านี้ของพวกมันทั้งสองตั้งแต่ยุคบรรพกาลพวกมันจึงเต็มไปด้วยแรงขับอย่างรุนแรงเพื่อห่ำหั่นกันและกัน
  ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนท้องฟ้ามืดมนทุกคนรอบๆต่างก็ก้าวถอยหลังเพราะกลัวโดนลูกหลงจากการต่อสู้ของสัตว์โบราณในตำนาน
  พวกมันทั้งสองยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือดเป็นเวลานานและเมื่อเวลาผ่านไปวูฟก็อดแฟนธ่อมยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่งในขณะที่ราชาวานรถอยร่นไปหนึ่งก้าว ตั้งแต่สมัยบรรพกาล มันก็ด้อยกว่าวูฟก็อดอยู่ขั้นหนึ่ง นับประสาอะไรกับปัจจุบันนี้
  ฉัวะ
  !
  วูฟก็อดแฟนธ่อมยึดครองโอกาสโจมตีที่เหนือกว่ามันเหวี่ยงกรงเล็บออกไปตัดแขนข้างหนึ่งของราชาวานรจนทำให้มันหมดสภาพต่อสู้
  มันมีแนวทางต่อสู้แบบเดียวกับฉิงเฟิงก็คือช่วงชิงประโยชน์จากช่องโหว่ของศัตรูวูฟก็อดแฟนธ่อมไร้ความปราณีกับคู่ต่อสู้ของมันและทำการโจมตีอย่างดุเดือดต่อเนื่อง
  คว้าก
  !
  ด้วยเสียงฉีกขาดวูฟก็อดแฟนธ่อมฉีกกระชากแขนของราชาวานรในที่สุด
  ราชาวานรสูญเสียแขนทั้งสองข้างและเปล่งเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชออกมาพลังโจมตีของมันลดลงมากกว่าครึ่งเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส  ฉึก
  !
  ในที่สุดวูฟก็อดแฟนธ่อมก็เหวี่ยงกรงเล็บออกไปอีกครั้งและเจาะทะลวงหัวใจของคู่ต่อสู้มันดูดกลืนพลังของอีกฝ่ายและเปลี่ยนมันให้เป็นของตนเอง
  วูฟก็อดจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความผ่อนคลายและชื่นชมจากนั้นมันก็พุ่งกลับเข้าไปในร่างของเขา
  พรู่ด!
  ซุนฮุนเทียนกระอักเลือดคำโตด้วยใบหน้าซีดเซียวและดูหดหู่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
  พลังสายเลือดเป็นพลังพื้นฐานที่สุดของบุคคลดังนั้นหากสายเลือดถูกกลืนกินหรือหายไปมันก็เหมือนกับว่าสูญเสียชีวิตและพลังงานไปครึ่งหนึ่ง
  ฟุ่บ
  !   ฉิงเฟิงพุ่งจากพื้นและทะยานขึ้นไปในอากาศเขาประชิดตัวซุนฮุนเทียนในพริบตาและพาดกระบี่แสงสีทองไว้ที่คอของอีกฝ่าย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *