My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 873 สองเทพธิดาเข้าร่วมทีม

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 873 สองเทพธิดาเข้าร่วมทีม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  “
  อ่อนแอเกินไป”
  หลิวหยางหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเขาได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงชายหนุ่มผู้นี้กำลังดูหมิ่นเขา !
  หลิวหยางโกรธเคืองมากการโจมตีทั้งสองครั้งของเขาไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อฉิงเฟิงแม้แต่น้อยนิด เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ความโกรธของเขากำลังจะระเบิดออกมาเหมือนภูเขาไฟปะทุ
  หลิวหยางรู้ว่าความบาดหมางระหว่างเขากับฉิงเฟิงเริ่มเพาะขึ้นแล้วหลังจากผ่านวันนี้ไปทุกคนในห้องนี้ต่างก็เป็นแกรนด์มาสเตอร์ที่แข็งแกร่งในยุทธภพของหัวเซี่ย พวกเขาเป็นประจักษ์พยานต่อความอ่อนด้อยของเขา ถ้าหากวันนี้เขาไม่สามารถเอาชนะฉิงเฟิงได้ ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานหลายสิบปีของเขาจะถูกทำลายยับ
ตอนที่ 873 สองเทพธิดาเข้าร่วมทีม
  “
  อ่อนแอเกินไป”
  หลิวหยางหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเขาได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงชายหนุ่มผู้นี้กำลังดูหมิ่นเขา !
  หลิวหยางโกรธเคืองมากการโจมตีทั้งสองครั้งของเขาไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อฉิงเฟิงแม้แต่น้อยนิด เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ความโกรธของเขากำลังจะระเบิดออกมาเหมือนภูเขาไฟปะทุ
  หลิวหยางรู้ว่าความบาดหมางระหว่างเขากับฉิงเฟิงเริ่มเพาะขึ้นแล้วหลังจากผ่านวันนี้ไปทุกคนในห้องนี้ต่างก็เป็นแกรนด์มาสเตอร์ที่แข็งแกร่งในยุทธภพของหัวเซี่ย พวกเขาเป็นประจักษ์พยานต่อความอ่อนด้อยของเขา ถ้าหากวันนี้เขาไม่สามารถเอาชนะฉิงเฟิงได้ ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานหลายสิบปีของเขาจะถูกทำลายยับ  “กระบองแก่นนภาสามส่วน!!” หลิวหยางคำรามเกรี้ยวกราดขณะที่เขาหักกระบองออกเป็นท่อนที่สาม เขาเหวี่ยงมันเข้าใส่จุดสำคัญบนร่างกายของฉิงเฟิงอย่างโหดเหี้ยม
  หลิวหยางโกรธมากจนคลั่งการโจมตีของเขาดุร้ายโหดเหี้ยมมาก เขาโจมตีอวัยวะสำคัญของฉิงเฟิงทั้งสามแห่ง ศีรษะ หัวใจและกระดูกสันหลัง
  นี่เป็นอวัยวะส่วนที่สำคัญที่สุดสามอย่างในร่างกายมนุษย์หากไม่ระวัง ไม่ตายก็พิการ
  ณเวลานี้ทุกคนหันไปมองฉิงเฟิง พวกเขาสงสัยว่าฉิงเฟิงจะทำอย่างไรกับการโจมตีครั้งนี้ หลบ หรือรับตรงๆ ?
  ฉิงเฟิงยิ้มอย่างแผ่วเบาโดยไม่แยแสไม่เพียงแค่ผิวหนังและกล้ามเนื้อของเขาจะไร้เทียมทาน แต่มันยังรวมถึงหัวใจ กระดูกสันหลังและศีรษะของเขาอีกด้วย
  ปังปัง ปัง !
  หลิวหยางเหวี่ยงกระบองสามท่อนเข้าใส่จุดสำคัญทั้งสามของฉิงเฟิงแรงปะทะทำให้เรือรบทั้งลำสั่นสะเทือน แต่ฉิงเฟิงก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย เขาไม่ได้มีเลือดออกแม้แต่หยดเดียว ! อีกทั้งผิวหนังก็ไม่มีรอยขีดข่วน
  “จะเจ้า เจ้า…….. ร่างกายเจ้าไม่เป็นอะไรเลยงั้นหรือ !” หลิวหยางพูดติดอ่างอีกครั้ง เขาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงไม่ได้รับอันตรายอะไรเลยจากกระบองของเขา
  คนอื่นๆในห้องต่างก็ตกตะลึงเช่นกันศีรษะเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดและสำคัญที่สุดบนร่างกายมนุษย์ แล้วทำไมฉิงเฟิงถึงไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย
  ยอดฝีมือเหล่านี้แอบเปรียบเทียบตนเองกับฉิงเฟิงในใจอย่างลับๆถ้าหากพวกเขาเป็นฉิงเฟิง เป็นไปได้หรือไม่ที่จะรับการโจมตีของหลิวหยางเช่นนี้ คำตอบคือเป็นไปไม่ได้ จากที่กล่าวมาทั้งหมด กระบองแก่นนภาของหลิวหยางก็ไม่ใช่อาวุธไก่กา มันเป็นอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์
  โดยกระบองแก่นนภาของหลิวหยางเล่าลือกันว่ามันมีส่วนผสมของหินสะเก็ดดาวมันทั้งแข็งแกร่งและทรงพลัง อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถเจาะทะลวงการป้องกันของร่างกายของฉิงเฟิง เช่นนี้แล้วกายาของฉิงเฟิงทรงพลังแค่ไหนกัน !
  “ต่อให้สามท่าครบแล้วนะคราวนี้ตาฉันละ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชาที่ทำให้หลิวหยางสั่นสะท้านไปถึงหัวใจ
  ฉิงเฟิงก็เคืองไม่น้อยที่หลิวหยางโจมตีแต่จุดสำคัญของเขาไม่ว่าจะเป็นศีรษะ หัวใจหรือกระดูกสันหลัง โชคดีที่เขาได้ฝึกฝน ‘เคล็ดจักรพรรดิยุทธ์แท้จริง’ ดังนั้น ร่างกายของเขาจึงไร้เทียมทานต่อยอดฝีมือในระดับพลังเท่ากัน หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นคงถูกกระบองแก่นนภาของหลิวหยางทุบจนแหลกเป็นชิ้นๆไปแล้ว
  หลิวหยางผู้นี้ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมนักฉิงเฟิงไม่มีทางปล่อยให้เรื่องจบง่ายๆ
  “
  ฝ่ามือคมมีดวายุ  !”
  ฉิงเฟิงคำรามออกมานี่เป็นเคล็ดที่อาจารย์ของเขาเคยสอนสั่ง ในอดีตสมัยเป็นนักสู้ปุถุชน เขาไม่อาจแสดงพลังที่แท้จริงของกระบวนท่าฝ่ามือนี้ออกมาได้เต็มร้อย อย่างไรก็ตาม หลังจากก้าวมาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลาย เขาก็สามารถใช้เคล็ดฝ่ามือนี้ได้เต็มประสิทธิภาพเสียที
  ส่วนเหตุที่ว่าทำไมฉิงเฟิงถึงไม่ใช้กระบี่เพลิงคะนองปิดเกมไปเลยก็เพราะว่าเขาได้ตรองดูแล้วถึงแม้หลิวหยางจะอันตรายและโหดเหี้ยม แต่ก็ยังไม่สมควรตาย หากฉิงเฟิงใช้กระบี่เพลิงคะนอง หลิวหยางคงดับดิ้นตั้งแต่วินาทีแรก ซึ่งมันจะเป็นการยากที่เขาจะอธิบายการกระทำเกินกว่าเหตุต่อจางหยวนเล่ย
  ท้ายที่สุดแล้วฉิงเฟิงก็มาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของหัวเซี่ยและทวีปมังกรเขาไม่ได้มาล้างแค้นหรือฆ่าคน
  ฉิงเฟิงใช้พลังแท้เติมเต็มให้กับเคล็ดฝ่ามือมีดวายุการโจมตีของเขาดูกร้าวแกร่งมาก ปราณดาบสีเขียวเข้มก่อตัวขึ้นบนมือของเขา มันรวดเร็วยิ่งและฉีกขาดอากาศรอบๆอย่างน่ากลัว
  หลิวหยางพยามยามรับฝ่ามือมีดวายุด้วยกระบองแก่นนภาของเขาอย่างไรก็ตาม กระบองแก่นนภาในมือของเขากลับถูกฝ่ามือมีดวายุของฉิงเฟิงทำลายเป็นชิ้นๆ
  หลังจากหั่นกระบองแก่นนภาเป็นชิ้นแล้วปราณดาบจากเคล็ดฝ่ามือมีดวายุก็ยังไม่หมดแค่นั้น มันพุ่งต่อไปยังร่างของหลิวหยาง
  ตูม
  !!
  ร่างของหลิวหยางถูกฟันด้วยฝ่ามือมีดวายุเขาลอยขึ้นไปในอากาศและกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีดเซียวและชนเพดานห้องอย่างแรง กระดูกหักหลายซี่ เขามีท่าทางน่าสมเพชมาก
  หลิวหยางเต็มไปด้วยเลือดกบปากเขารู้สึกเวียนศีรษะอย่างมากและไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ อวัยวะของเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรง เขามองฉิงเฟิงอย่างหวาดกลัวก่อนจะหมดสติไป
  แม้ว่าฉิงเฟิงจะไม่ได้ฆ่าหลิวหยางแต่เขาก็ใช้พลังเต็มสิบส่วนเพื่อทำลายกระดูกและทำลายอวัยวะของเขา หลังจากพักไม่กี่เดือนหลิวหยางจึงจะหายเป็นปกติ นี่คือการสั่งสอนที่หลิวหยางมุ่งร้ายต่อเขา
  ในการโจมตีเพียงแค่ฝ่ามือเดียวหลิวหยางก็พ่ายแพ้ เขาแพ้อย่างน่าหวาดผวา แม้แต่หมดสติไป
  แกรนด์มาสเตอร์ทุกคนในห้องต่างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความประหลาดใจและความหวั่นเกรงที่ปรากฏในสายตาของพวกเขา
  “แกร่งเกินไปแล้วเขาเอาชนะหลิวหยางได้ด้วยฝ่ามือเดียว แม้แต่ข้าเองก็สำนึกตนว่าทำเช่นนี้ไม่ได้ !”
  “ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นความจริงกายาของหลี่ฉิงเฟิงไร้เทียมทานต่อยอดยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา”
  “น่าจะเป็นเช่นนั้นหลี่ฉิงเฟิงมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะติดหนึ่งในสิบสุดยอดแกรนด์มาสเตอร์ของหัวเซี่ยแล้ว”
  หลังจากเงียบไปชั่วครู่ผู้คนในห้องก็เริ่มพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวาขณะที่พวกเขามองฉิงเฟิงด้วยอารมณ์ที่ขัดแย้งกันในสายตาของพวกเขา
  คนเหล่านี้บ้างก็ล้อเลียนถากถางฉิงเฟิงและพร่ำบอกว่าเขาหยิ่งยโสเกินไป
  แต่ตอนนี้ฉิงเฟิงเอาชนะหลิวหยางด้วยการโจมตีเพียงฝ่ามือเดียวเขาอุดปากทุกคนด้วยพลังของเขา
  “ไม่มีใครคัดค้านที่หลี่ฉิงเฟิงจะเป็นหนึ่งในสิบตัวแทนของหัวเซี่ยแล้วใช่ไหม”
  จางหยวนเล่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
  ถึงแม้ว่าอีกเก้าคนต่อให้ไม่เห็นด้วยพวกเขาก็ทำได้เพียงพยักหน้าเท่านั้น ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินไป ในหมู่พวกเขาคงไม่มีใครเอาชนะได้
  “หัวหน้าจางคะพวกเราต่างก็ต้องการเข้าร่วมทีมเป็นตัวแทนของหัวเซี่ยเช่นกัน”
  ในขณะนั้นเองก็มีเสียงใสๆที่คมชัดสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน
  ฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อยิ้มอย่างมีเสน่ห์ขณะที่พวกเธอเดินเข้ามาในห้อง
  ฮวาเซียนจือสวมชุดสีขาวโปร่งซึ่งเปิดเผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าเว้าของร่างกายเธอร่างกายที่เซ็กซี่ของเธอดึงดูดสายตาทุกคนในห้องทันที
  ส่วนฉินเซียนจื่อสวมชุดสีเหลืองอ่อนดวงตาของเธอเปล่งประกายอย่างมีเสน่ห์ ผิวของเธอขาวนวลละเอียดอ่อน ดวงตาที่มีเสน่ห์ของเธอส่องประกายราวกับดวงดาว
  ฉิงเฟิงงุนงงอยู่ครู่หนึ่งเขาไม่ได้คาดคิดว่าผู้หญิงทั้งสองคนจะปรากฏตัวที่นี่
  “ฮวาเซียนจือคุณหนูฉิน ผมคิดว่าพวกคุณรั้งอยู่ที่เกาะทมิฬรอเรือช่วยเหลือเสียอีกทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ”
  ฮวาเซียนจือแย้มยิ้มอย่างงดงามและกล่าวว่า“อันที่จริงแล้วพวกเราก็กำลังจะขึ้นเรือช่วยเหลือกลับหัวเซี่ย แต่ผู้หญิงบนเรือคนหนึ่งขอร้องให้พวกเราเข้าร่วมทีมหัวเซี่ย จากนั้นเธอก็นำเรามาที่นี่”
  ทุกคนต่างตกตะลึงผู้หญิงคนที่เธอกล่าวถึงนั้นมีอิทธิพลมากขนาดไหนกันแน่ ถึงสามารถตัดสินใจได้โดยทันทีว่าใครจะเข้าร่วมทีมได้

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *