My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 752 ทะลวงสู่ครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 752 ทะลวงสู่ครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หลังจากกลืนกินโลหิตของเซียะเย่หยางจือพลังของฉิงเฟิงก็เพิ่มขึ้นจากเหนือสวรรค์ขั้นกลางที่มีพลังหมัด 3500 กิโลกรัม… 4000 4500… 4750
  พลังหมัด4750 กิโลกรัมหมายความว่าฉิงเฟิงห่างจากขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
  ต้องยอมรับว่าในฐานะหนึ่งใน81 ซาตานนอกรีต เลือดของเซียะเย่หยางจือเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ตอนนี้ในเมื่อฉิงเฟิงกลืนกินเลือดของเขาเข้าไปแล้ว พลังของเซียะเย่หยางจือจึงไปหลอมรวมเข้าด้วยกันกับพลังของฉิงเฟิง ผลที่ออกมาทำให้พลังของเขาเพิ่มมากขึ้นจนห่างกับระดับแกรนด์มาสเตอร์อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น
  ตอนนี้ฉิงเฟิงกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบริเวณนี้พลังของเขาไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อกรได้อีกแล้ว
  “เหลิงเสวี่ย,เฮลคิง ถึงตาพวกแกแล้ว” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มอันหนาวเย็น ดวงตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาฆ่า แต่ในขณะที่เขากำลังจะเดินไปฆ่าพวกเขาสองคน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
  “
  บะ..บ้าจริง ผลข้างเคียงหลังจากหมดเวลาของพลังสายเลือดปรากฏขึ้นแล้ว
  ”
  ฉิงเฟิงกุมขมับขณะที่เริ่มเซเขารู้สึกว่าพลังเริ่มถดถอยลง เขาเริ่มเวียนหัวและแทบจะหมดสติได้ทุกเมื่อ
  “
  บัดซบ
  !
  ถ้าฉันมีเวลาอีกสักสิบวินาทีก็ฆ่าพวกมันทั้งหมดได้แล้วเชียว”   ฉิงเฟิงคิดในใจด้วยความเสียดาย
  เขารู้ว่าไม่อาจเสียเวลาอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปเขาต้องรีบหนีทันที เหลิงเสวี่ยและเฮลคิงเริ่มฟื้นฟูพลังกลับคืนมาแล้ว ถ้าหากพวกเขาดูออกว่าฉิงเฟิงกำลังจะหมดสติ พวกเขาต้องลงมือทันทีแน่นอน
  ฉิงเฟิงกัดปลายลิ้นให้ความเจ็บปวดช่วยพยุงสติเอาไว้เขาพุ่งไปราวกับสายฟ้าไปที่โลงศพของเซียวหยุนและพบตำราสีดำวางอยู่ข้างๆ
  ไม่มีคำพูดใดๆฉิงเฟิงคว้าตำราเล่มนั้นจากนั้นก็เก็บเถาวัลย์อีกาดำไว้อย่างระมัดระวัง สิ่งนี้สำคัญมากต่อหลินเสวี่ย เขาให้ความสำคัญกับมันอย่างมาก
  วูบ!
  โดยไม่มีความลังเลฉิงเฟิงคว้าสมบัติสองชิ้นนี้และกระโดดขึ้นไปบนอากาศ เขาเหินร่างเหนือแม่น้ำลาวาและลงสู่ริมฝั่งอีกฟากหนึ่ง จากนั้นเขาก็ย้อนกลับทางเดิมและมุ่งหน้าออกสู่โลกภายนอกอย่างรวดเร็ว  ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วสุดชีวิตเขาเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบเชิงลบจากการกระตุ้นสายเลือด เขาต้องรีบหาที่หลบซ่อนโดยเร็วที่สุด
  ในไม่ช้าฉิงเฟิงก็วิ่งออกมาจากนอกปราสาทใต้ดินทันทีที่ออกมาเขาก็สั่นไปทั้งตัวจนแทบจะล้มลงกับพื้น
  “ไม่…ฉันสลบที่นี่ไม่ได้ ถ้าพวกมันตามมาเจอฉันดับดิ้นแน่ ต้องอดทนไว้ก่อน …”
  ฉิงเฟิงกัดลิ้นตัวเองอีกครั้งเพื่อให้ตื่นตัวเขาวิ่งไปตามทางจนออกมาถึงเทือกเขาอย่างยากลำบาก
  ในที่สุดจากนั้นเขาก็พบหนองน้ำแห่งหนึ่ง
  ตูม!
  ฉิงเฟิงดำลงไปในหนองน้ำและปกปิดร่องรอยทุกอย่างจากนั้นเขาก็ซ่อนตัวอยู่ใต้บึงพร้อมกับหมดสติไปทันที
  ในขณะเดียวกันภายในปราสาทราชายาทิพย์  เหลิงเสวี่ยและเฮลคิงต่างก็หันไปมองหน้ากันด้วยความสับสนพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมฉิงเฟิงถึงไม่ลงมือ พวกเขาทั้งสองฝ่ายต่างเป็นศัตรูคู่แค้นกันซึ่งต้องฆ่ากันแน่นอนถ้าหากมีโอกาส ทำไมฉิงเฟิงถึงไว้ชีวิตพวกเขา
  “เหลิงเสวี่ยข้ารู้ละว่าเกิดอะไร หลี่ฉิงเฟิงจะต้องได้รับผลกระทบหลังจากเปิดใช้งานพลังสายเลือดอย่างแน่นอน ตอนนี้มันน่าจะหมดสติไปแล้ว” เฮลคิงกล่าวขึ้นมาในทันที เขารู้จักฉิงเฟิงดีทุกซอกทุกมุม
  การแสดงออกของเหลิงเสวี่ยเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินคำพูดของเฮลคิงเขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “บัดซบ ! ทำไมข้าถึงนึกไม่ถึงนะ ในตอนนั้นมันคงอ่อนล้าจนไม่มีแม้แต่แรงจะเชือดไก่มันถึงรีบคว้าสมบัติและหนีไปทันที”
  “เหลิงเสวี่ย,พวกเราจะเอายังไงกันต่อดี ตำราปรุงยาและเถาวัลย์อีกาดำอยู่ในมือมันตอนนี้”
  “แน่นอนว่าเราต้องตามล่ามันไปหามัน !ฆ่ามันซะและแย่งสมบัติที่มันมา”
  “ถูกต้องไปตามหามันกันเถอะ” เฮลคิงกล่าวด้วยรอยยิ้มอันหนาวเย็น จากนั้นเขาและเหลิงเสวี่ยก็ออกจากปราสาททันที
  ทั้งคู่เริ่มฟื้นฟูความแข็งแกร่งมาบ้างแล้วและรู้ว่าตอนนี้ฉิงเฟิงกำลังอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด มันเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการฆ่าเขา ดังนั้นพวกเขาจึงวิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุด
  สมบัติล้ำค่าที่สุดในสุสานแกรนด์มาสเตอร์เซียวหยุนก็คือตำราปรุงยาเล่มนั้นมันเป็นตำราปรุงยาที่หายากที่สุดในหัวเซี่ย มันสามารถปรุงยาทิพย์ได้ทุกชนิด ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนต่างก็ต้องการมัน
  การแสดงออกของลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อแปรเปลี่ยนไปเมื่อพวกเธอได้เห็นเหลิงเสวี่ยและเฮลคิงออกไปไล่ล่าฉิงเฟิงพวกเธอรีบหยิบฉวยสมบัติและตามหลังเหลิงเสวี่ยกับเฮลคิงไปทันที พวกเธอต้องการช่วยฉิงเฟิงหากเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
  ส่วนเจียงไป่เต๋าถังหยุนและคนอื่นๆที่เหลือต่างก็หยิบฉวยสิ่งของบางอย่างจากในสุสานและตามหลังมา
  “บ้าเอ้ย! หลี่ฉิงเฟิงมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันแน่ ทำไมพวกเราถึงหามันไม่เจอ ?”
  เหลิงเสวี่ยกล่าวพวกเขาตามหาทุกซอกทุกมุมแต่ก็ไม่พบร่องรอยของฉิงเฟิงแม้แต่น้อย
  พวกเขาแม้กระทั่งเดินตามหาจนถึงหนองน้ำที่ฉิงเฟิงหมดสติอยู่แต่ฉิงเฟิงปกปิดกลิ่นอายเอาไว้ก่อนหมดสติจึงทำให้พวกเขาตรวจจับไม่พบ หลังจากหาดูรอบๆแล้ว พวกเขาก็ย้ายไปพื้นที่อื่น
  เทือกเขานี้เป็นเทือกเขาขนาดมโหฬารการหาคนๆหนึ่งในเวลาสั้นๆจึงเป็นเรื่องยากมาก
  ใต้หนองน้ำฉิงเฟิงได้เข้าสู่สภาวะที่แปลกประหลาด สิ่งสกปรกภายในร่างกายของเขาถูกขับออก จุดความดันและเส้นลมปราณเปิดออก ผิวหนังและอวัยวะภายในของเขาแข็งแรงและแข็งแกร่งขึ้นราวกับเหล็กกล้าและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
  ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใด….
  ภายใต้หนองน้ำจระเข้ตัวหนึ่งว่ายเข้าหาฉิงเฟิงเมื่อมันเห็นวัตถุสีดำ
  จระเข้ตัวนี้มีความยาวมากกว่าสามเมตรและปกคลุมไปด้วยผิวหนังที่หนาฟันของมันแหลมคมมาก มันสามารถฉีกคอคุณเป็นชิ้นๆได้ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว
  “
  นี่มันมนุษย์
  ”
  จระเข้คิดอยู่ในหัวมันเคยกินมนุษย์มาก่อนในอดีต ซึ่งมนุษย์ผู้โชคร้ายคนนั้นเดินทางมาหาสมบัติในเทือกเขาแห่งนี้และผลัดตกน้ำจนถูกจระเข้ตัวนี้กินไปในที่สุด
  “
  นอกเหนือไปจากข้อเท็จจริงที่ว่ามนุษย์ผู้นี้ไม่หายใจเขาก็ไม่มีส่วนไหนแตกต่างจากมนุษย์คนอื่น บางทีมันอาจจะตายไปแล้ว ข้าจะกินมันเดี๋ยวนี้ละ
  !
  “
  จระเข้ยักษ์คิดในใจอย่างกระหายเลือดมันเปิดกรามขนาดใหญ่และงับฉิงเฟิงในทันที
  หวืด!
  ทันใดนั้นเองฉิงเฟิงก็เปิดตาขึ้นและคว้าไปที่ฟันที่แหลมคมของจระเข้ยักษ์ด้วยสองนิ้ว
  เป๊าะ!
  ฉิงเฟิงออกแรงบีบเล็กน้อยจนฟันที่แหลมคมของจระเข้หักในพริบตามันเริ่มกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
  “
  โอ้พระเจ้า
  !
  มนุษย์ผู้นี้น่ากลัวมาก
  ”
  จระเข้คิดอย่างหวาดกลัวและจะว่ายน้ำหนีไป
  “จะหนีรึเจ้าสัตว์เดรัจฉาน ตาย !” ฉิงเฟิงเหวี่ยงหมัดและระเบิดร่างของจระเข้ในทันที
  ฉิงเฟิงฟื้นตัวจากผลกระทบที่เกิดจากการเปิดใช้งานพลังสายเลือดแล้วจระเข้ยักษ์เพียงตัวเดียวย่อมไม่ใช่คู่มือของเขา
  จากนั้นฉิงเฟิงก็ขึ้นมาจากใต้หนองน้ำเขาเดินไปที่แม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆเพื่อทำความสะอาดร่างกายก่อนจะเดินออกจากเทือกเขา
  ในตอนนี้ฉิงเฟิงอยู่ห่างจากขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์เพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้นเขาสามารถฆ่าเหลิงเสวี่ยและเฮลคิงได้ทุกเมื่อ แต่เขาก็ไม่มีเวลามากพอไปตามหาพวกมัน เขาต้องรีบกลับไปที่เมืองตงไห่เพื่อช่วยหลินเสวี่ย
  แน่นอนว่าในการรักษาหลินเสวี่ยฉิงเฟิงต้องไปหาศาสตราจารย์จางหยุนเหอก่อน เขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วอย่างบ้าคลั่งเพื่อมุ่งหน้าไปหาจางหยุนเหอ ทุกครั้งที่เท้าของเขาสัมผัสพื้นดินเขาก็ห่างจากจุดเดิมไปนับสิบๆเมตร !

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *