My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 511

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 511 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 511 ความสัมพันธ์ของพวกคุณคืออะไรกันแน่ !?

แปล Tarhai

คิ้วของหลิวหรูหยานขมวดแน่นหลังจากได้ยินว่าหลินเสวี่ยต้องการช่วยหาคู่ให้เธอ

ยัยหลินเสวี่ยคนนี้กำลังพูดถึงสิ่งที่ชั้นไม่อยากจะได้ยิน เธอต้องการให้ชั้นตกเป็นรอง

“มิสหลิน, มาตรฐานของชั้นสูงมากเลยนะ ไม่ว่าใครก็ตามที่คุณคิดจะแนะนำให้ชั้น ชั้นคงไม่ชอบเขาหรอก” หลิวหรูหยานยิ้มและตอบ

ฉิงเฟิงกำลังยืนอยู่ข้างๆพวกเธอ ดังนั้นหลิวหรูหยานจึงต้องปฏิเสธข้อเสนอของหลินเสวี่ย มันคงจะไม่ดีแน่หากฉิงเฟิงโกรธเธอ

และก็เห็นได้ชัดว่าหลินเสวี่ยยังไม่ยอมแพ้ เธอกล่าวว่า “คุณไม่ต้องห่วง ชั้นรู้จักผู้ชายดีๆโปรไฟล์เลิศมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีอีโอหนุ่มหล่อมากความสามารถ หรือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ นักเรียนนอกก็มี”

หลิวหรูหยานเริ่มรู้สึกอึดอัด เธอหัวเสียเกี่ยวกับข้อเสนอของหลินเสวี่ยที่จะแนะนำผู้ชายให้เธอ เธอไม่ต้องการ !

ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็สว่างขึ้นด้วยการคิดได้หลังจากเธอเหลือบไปมองฉิงเฟิง

เธอกล่าวอย่างหนักแน่นว่า

“มิสหลิน จริงๆแล้วสเป็คผู้ชายของชั้นก็ไม่ได้สูงมากนักหรอก ข้อแรก เขาต้องหล่อเหลา ข้อสอง เขาต้องนามสกุล ‘หลี่’ ข้อสาม เขาต้องทำงานเป็น ‘พนักงานขาย’“

หลิวหรูหยานกล่าวอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส

ในตอนแรกหลินเสวี่ยกำลังดีใจเพราะหลิวหรูหยานยอมรับข้อเสนอของเธอ แต่แล้วเธอก็ตระหนักว่าผู้ชายที่หลิวหรูหยานพูดถึงและต้องการก็คือสามีเธอ ! หลี่ฉิงเฟิง !

หลินเสวี่ยรู้สึกโกรธมาก พูดไปพูดมาสุดท้ายเธอก็ต้องการให้ฉิงเฟิงเป็นแฟนของเธอนั่นเอง

“เหอะ ! มิสหลิวมาตรฐานของคุณสูงเกินไปแล้ว ไว้ชั้นจะลองดูๆให้ก็แล้วกัน”

หลินเสวี่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจ

“เยี่ยมเลย เจอเมื่อไรโทรบอกชั้นด้วยนะคะ” หลิวหรูหยานยิ้มแย้มและเดินจากไป

หลิวหรูหยานรู้สึกพอใจมากในขณะที่เดินออกไป เพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้เธอชนะหลินเสวี่ย

ความหึงหวงอยู่ในสายเลือดของผู้หญิงทุกคน ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้นหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานก็เช่นกัน

ปัง !

หลินเสวี่ยปิดประตูวิลล่าและเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น เธอนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่มืดมน

“เป็นอะไรหรือ ? ใครทำให้คุณโกรธหรือไง ?” ฉิงเฟิงนั่งลงข้างๆหลินเสวี่ยและถามเธอด้วยรอยยิ้ม

หลินเสวี่ยมองค้อนไปที่ฉิงเฟิงและพูดว่า “แล้วคุณคิดว่าไงละ !?”

ฉิงเฟิงเกาจมูกตัวเองและไม่ได้พูดอะไร เขาไม่อยากพูดมากจนชักนำปัญหาเข้าตัว

“ฉิงเฟิง ตอบชั้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับหลิวหรูหยานคืออะไรกันแน่?”

หลินเสวี่ยขมวดคิ้วและถาม

ฉิงเฟิงสะดุ้งโหยงและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามีความซับซ้อนเกินไป เขาไม่สามารถอธิบายหรือบอกอะไรหลินเสวี่ยได้

การเผชิญหน้ากับการถามของหลินเสวี่ยทำให้เขารู้สึกประหม่า เขาไม่สามารถพูดความจริงได้ว่าเขากับหลิวหรูหยานคบกันและมีอะไรกันแล้ว ถ้าหลินเสวี่ยรู้เธอจะต้องโกรธมากจนบ้านแตกแน่ เขาจำเป็นต้องหาข้ออ้าง

“หลิวหรูหยานกับฉันเป็นแค่เพื่อนกัน, คู่หูทางธุรกิจน่ะ…” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างกำกวม

หลินเสวี่ยไม่พอใจกับคำตอบของเขาเพราะเธอเริ่มไม่เชื่อ

หลินเสวี่ยไม่ได้โง่ เธอสามารถมองเห็นความสัมพันธ์แปลกๆที่ดูผิดธรรมดาระหว่างทั้งคู่ได้ พวกเขาต้องเป็นมากกว่าเพื่อนทั่วๆไปแน่นอน

มีที่ไหนเพื่อนป้อนอาหารใส่ปากให้กันเช่นนี้ ?

“ฉิงเฟิงชั้นรู้สึกผิดหวังมาก คืนนี้คุณนอนข้างล่างนะ ถ้าคุณยอมบอกความจริงเมื่อไรค่อยขึ้นมาชั้นสอง” หลินเสวี่ยกล่าวอย่างไม่พอใจ

หลังจากพูดจบหลินเสวี่ยก็เดินขึ้นไปชั้นสอง

“หนูน้อยหมวกแดง ให้โอกาสฉันหน่อยเถอะ ให้ฉันขึ้นไปนอนด้วยสิ” ฉิงเฟิงตะโกนตามหลังเธอ

เขานอนกับนอนเดียวกับหลินเสวี่ยอย่างมีความสุขที่ห้องของเธอ แต่ตอนนี้เขาต้องกลับลงไปนอนที่ห้องตัวเองอีกครั้งเพราะหลิวหรูหยาน

“คุณหมาป่าตัวใหญ่ ชั้นอารมณ์ไม่ดีเพราะหลิวหรูหยาน ดังนั้นตอนนี้คุณนอนคนเดียวไปนะ” หลินเสวี่ยจ้องไปที่ฉิงเฟิงและปิดประตูห้องของเธอ

ผู้หญิงช่างน่ากลัวนักเวลาหึงหวง…

ฉิงเฟิงพึมพัมอย่างหดหู่ใจ

เขารู้ว่าหลินเสวี่ยกำลังหึงหวงอย่างแน่นอน เพราะเหตุนั้นเขาจึงต้องยอมรับความผิดและกลับไปนอนที่ห้องของตัวเองเท่านั้น

เมื่อฉิงเฟิงกลับมาถึงห้องของตัวเอง ในโทรศัพท์ของเขาก็มีข้อความส่งมาว่า

“ถ้าชั้นเดาไม่ผิด คืนนี้คุณต้องโดนไล่ให้ไปนอนคนเดียวที่ชั้นหนึ่งใช่มั้ยคะ ?”

ฉิงเฟิงเปิดอ่านข้อความและเห็นว่าเป็นหลิวหรูหยานที่ส่งมา เขาพิมพ์ตอบกลับไปว่า “ก็เพราะคุณไม่ใช่รึไง ?”

“อ้าว คุณโทษชั้นได้ไง ชั้นแค่ไปกินข้าวที่บ้านคุณเท่านั้นเองนะ ?”

“ก็เพราะหลินเสวี่ยหึงคุณ เธอจึงไล่ให้ฉันมานอนมาอีกห้อง”

“น่าสงสารจัง มาหาชั้นมั้ยละคืนนี้ ?”

“ไม่เป็นไร หลินเสวี่ยต้องฆ่าฉันแน่ถ้าพรุ่งนี้เธอไม่เห็นฉันอยู่ในห้อง” ฉิงเฟิงยิ้มและพิมพ์ตอบ

ทั้งสองคนส่งข้อความหากันอย่างมีความสุข ใจจริงแล้วฉิงเฟิงก็อยากไปนอนที่วิลล่าของหลิวหรูหยาน แต่เมื่อนึกถึงหลินเสวี่ยเขาก็ตัดสินใจไม่ไป

วันนี้หลินเสวี่ยอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก เขาไม่อยากให้เธอหงุดหงิดไปมากกว่านี้

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนสมัยก่อนถึงพูดว่า ผู้หญิงเปรียบราวกับเสือ ถ้าแค่เสือตัวเดียวฉิงเฟิงมั่นใจว่าสามารถรับมือได้ แต่ไม่ใช่สองตัว !

หลังจากแชทกับหลิวหรูหยานสักพัก ฉิงเฟิงปิดโทรศัพท์และเข้านอน

วันต่อมามีเมฆมากพร้อมกับมีฝนตก

เพื่อที่จะทำให้หลินเสวี่ยอารมณ์ดีขึ้นเขาจึงตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เธอ

อาหารเช้าเรียบง่าย ไข่ทอดสอง นมสองแก้วและขนมปังปิ้งสองชิ้น

เมื่อหลินเสวี่ยตื่นขึ้นและเดินเข้าไปในห้องรับแขก ฉิงเฟิงก็เตรียมอาหารเช้าเสร็จพอดี

“หนูน้อยหมวกแดง มากินอาหารเช้าได้แล้ว” ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าว

หลังจากผ่านไปคืนหนึ่ง ความหงุดหงิดของหลินเสวี่ยก็ลดลงเล็กน้อย นอกจากนี้ฉิงเฟิงก็ยังเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เธอ ดังนั้นเธอจึงให้อภัยเขา

หลินเสวี่ยกินไข่ทอดและพูดว่า “อืม รสชาติไม่เลว”

“ยังมีอีกนะ เอ้านี่” ฉิงเฟิงยิ้มและยกไข่ในจานของของให้กับหลินเสวี่ย

กริ๊งงงง ~

เมื่อพวกเขากำลังจะออกไปทำงานหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ โทรศัพท์ของฉิงเฟิงก็ดังขึ้น

ฉิงเฟิงหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาและรับสาย เขาตอบว่า “สวัสดี ใครพูดสาย ?”

“คุณหลี่ เป็นผมเองจางเหมียวชุนจากมหาวิทยาลัยแพทย์ อย่าลืมมาสอนพิเศษวันนี้”

จางเหมียวชุนกล่าวทางโทรศัพทย์

ฉิงเฟิงรู้สึกขายหน้าเล็กน้อยเพราะเขาลืมเรื่องนี้เสียสนิท โชคดีที่จางเหมียวชุนโทรมาและเตือนเขา มันจะดูไม่ดีนักหากรับปากแล้วไม่ไป

“ได้เลย เดี๋ยวผมไป” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองคุยกันว่าจะพบกันที่ไหนดี และสุดท้ายพวกเขาตัดสินใจเจอกันที่ประตูหน้ามหาวิทยาลัย จากนั้นพวกเขาก็วางสาย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *