ตอนที่ 1064 น้ำเต้าทองคำ
　　“จะเจียนซวนตายแล้ว !”
　　“นั่นสิ! เจียนซวนเป็นถึงผู้อาวุโสของนิกายกระบี่วิญญาณที่ทรงพลังยิ่ง แต่หลี่ฉิงเฟิงกลับสังหารเขาได้ด้วยกระบี่เดียว”
　　“หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งนัก! เขายังไม่เคยแพ้พ่ายเลย”
　　ผู้คนโดยรอบกำลังสนทนากันอย่างประหลาดใจ
　　เจียนซวน,ในฐานะผู้อาวุโสของนิกายกระบี่วิญญาณเป็นถึงยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นสูงสุด มันน่าแปลกมากที่ฉิงเฟิงสามารถฆ่าเขาได้ด้วยการวาดกระบี่เพียงครั้งเดียว !
　　ทุกคนสัมผัสได้ถึงพลังที่ซุกซ่อนเอาไว้ของเขาที่ทำให้สังหารอาวุโสในรุ่นก่อนได้
　　ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวไปหาเต๋ากวงหลังจากที่สังหารเจียนซวนและลงมือกับอีกฝ่ายด้วยวิธีการเดียวกันคือใช้พลังของเจดีย์สีเขียว
　　เจดีย์สีเขียวเป็นอุปกรณ์วิญญาณที่เป็นไพ่เด็ดของฉิงเฟิงพลังอำนาจของมันช่วยให้เขาสังหารได้ทั้งอาวุโสนิกายดาบฟ้าและนิกายกระบี่วิญญาณ
　　สองยอดฝีมือที่น่าเหลือเชื่อได้กลายเป็นซากศพสองศพในเวลาเดียวกัน…
　　ฉิงเฟิงตรวจค้นร่างกายของเต๋ากวงกับเจียนซวนและพบหินพลังหลายสิบก้อนและยาอายุวัฒนะสองขวดเขายิ้มอย่างพึงพอใจและเก็บสมบัติเข้าไปในแหวนมิติก่อนที่จะออกไปพร้อมกับทุกคน
　　จากนั้นกลุ่มของฉิงเฟิงก็ออกจากป่าและเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง
　　“เดี๋ยวฉันจะสกัดกลั่นและดูดซับพลังจากผลไม้ทองคำในถ้ำนี้ช่วยคุ้มกันให้ฉันหน่อยนะ” ฉิงเฟิงกล่าวกับฮวาเซียนจือ
　　ผลไม้ทองคำนั้นแตกต่างจากสมุนไพรทองคำเพราะมันถูกเติมเต็มไปด้วยพลังงานธาตุทองมากกว่าซึ่งก็หมายความว่ามันจะต้องใช้เวลามากขึ้นในการดูดซับพลังงานจากมัน
　　ฮวาเซียนจือพยักหน้าและออกไปข้างนอกถ้ำเพื่อคอยปกป้องเขาจากการถูกรบกวน
　　ฉิงเฟิงนั่งขัดสมาธิเขาหยิบผลไม้สีทองและใส่เข้าไปในปาก เขาต้องการดูดซับพลังของมันด้วยการกินเข้าไปโดยตรง
　　แต่ทว่าทันทีที่เขากัดมันคำแรกเขาก็รู้สึกปวดฟันทันที มันแข็งมากจนแทบจะทำให้ฟันหัก
　　มันแตกต่างจากผลไม้วิญญาณอื่นๆผลไม้ทองคำนั้นแข็งดั่งทอง ดังนั้นจึงไม่อาจดูดซับมันได้ด้วยการกิน
　　เขาวางผลไม้ทองคำไว้บนขาและเริ่มกระบวนการสกัดกลั่นมันอีกวิธีหนึ่งเขาดูดซับพลังของมันผ่านเคล็ดวิชากายาแดนชำระขั้นที่สี่
　　พลังอันมหาศาลของผลไม้ทองคำได้ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านทางผิวหนังและรูขุมขนมันช่วยปรับสภาพผิว, กล้ามเนื้อ, หลอดเลือดดำและกระดูกของเขา พละกำลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่ปรากฏแสงสีทองอย่างลึกลับบนร่าง
　　“ผลไม้ทองคำลูกนี้ช่างผิดแผกนักมันมีพลังธาตุทองสูงกว่าปกติ” ฉิงเฟิงร้องอุทานออกมาในขณะที่กำลังดูดซับพลังงาน
　　เขาใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงในการโอนถ่ายพลังงานธาตุทองทั้งหมดจากผลไม้ทองคำ
　　เดิมทีพลังงานทองในร่างกายของฉิงเฟิงนั้นมีขนาดใหญ่เท่ากับเม็ดถั่วแต่ตอนนี้มันขยายขึ้นและใหญ่กว่าเดิมถึงห้าเท่า
　　พลังงานธาตุทองเป็นพลังที่คมที่สุดมันสามารถตัดผ่านทุกสิ่งในโลกได้
　　ฉิงเฟิงยืนขึ้นและร่างกายของเขาเกิดแตกปริแตกเขาลอบสำรวจผลไม้ทองคำเพื่อตรวจดูว่าเขาได้รับพลังทั้งหมดของมันไปแล้วหรือยัง　　เขาเปิดปากเล็กน้อยและปรากฏพลังงานทองคำขนาดเท่าเหรียญขึ้นในปากของเขาเขาพ่นพลังงานนั้นออกไปทันที มันทะลุผ่านหินตรงหน้าจนเป็นรู
　　ฉิงเฟิงดีใจมากที่พบว่าพลังงานทองคำสามารถใช้ในการโจมตีได้
　　ตอนนี้เขามีเคล็ดวิชามากมายไว้ในครอบครองไม่ว่าจะเป็นวิชากระบี่เพลิงคะนอง เพลงหมัดทลายนรกานต์ที่เป็นวิชาการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ดรรชนีผู้พิชิตและก้าวมังกรซึ่งเป็นวิชาท่าร่าง
　　อย่างไรก็ตามออร่าสีทองนั้นแตกต่างออกไป มันสามารถปล่อยยิงออกมาจากปากของเขาได้ นี่จะเป็นการโจมตีลับในยามคับขัน
　　จากนั้นฉิงเฟิงก็เดินออกจากถ้ำพร้อมกับแสงสีทองที่ล้อมรอบร่างกายของเขาตัวเขาส่องแสงสีทองจางๆราวกับดวงอาทิตย์ซึ่งทำให้เกิดแสงสว่างและความอบอุ่น
　　“ท่านแข็งแกร่งขึ้น”ริมฝีปากสีแดงของฮวาเซียนจือโค้งขึ้นในขณะที่ดวงตาคู่งามของเธอเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
　　หลี่ฉิงเฟิงมีพรสวรรค์สูงส่งอย่างแท้จริงระดับพลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงเวลาเพียงเล็กน้อย
　　ฉิงเฟิงยิ้มไม่ตอบคำและเดินตรงไปยังใจกลางเกาะทองคำพร้อมด้วยฮวาเซียนจือลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้า
　　ลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าเคยเป็นศัตรูคู่อริกันมานานดังนั้นพวกมันจึงทะเลาะเบาะแว้งและต่อสู้กัน
　　ลูกหมาสีดำตบงูกลืนฟ้าด้วยอุ้งเท้าของมันส่วนงูกลืนฟ้าก็ฟาดหางของมันตอบโต้
　　ตูมมมม!!
　　เกิดเสียงที่ดังสนั่นมาจากใจกลางของเกาะทองคำมันคือเทือกเขาที่ระเบิดออก ลำแสงสีทองยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงนับพันเมตรราวกับดวงอาทิตย์ขนาดย่อมๆ มันส่องแสงไปทั่วท้องฟ้าและทำให้ดวงตาของทุกคนดูพร่ามัว
　　“สมบัติได้ปรากฏขึ้น”ฉิงเฟิงพึมพำด้วยความตื่นเต้น
　　พลังงานทองคำที่ปล่อยออกมานั้นอย่างน้อยๆก็มีความรุนแรงมากกว่าสมุนไพรทองคำหรือผลไม้ทองคำสองถึงสามพันเท่าทีเดียว!
　　สิ่งนั้นต้องเป็นสมบัติที่ไม่ธรรมดาและมีเอกลักษณ์เป็นแน่
　　ฉิงเฟิงไม่รอช้าเขารีบมุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางของเกาะด้วยความรวดเร็วราวกับกระต่ายที่ปราดเปรียว
　　ในขณะนั้นเองมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่ใจกลางของเกาะซึ่งรวมไปถึงสุดยอดฝีมือของนิกายระดับสวรรค์ทั้งสี่ : ซื่อหยินหยางจากนิกายศพนภา เซินกู่จากนิกายกระดูกขาว เต๋าเจิ้นเทียนจากนิกายดาบฟ้าและเจียนซันเหอจากนิกายกระบี่วิญญาณ
　　ดวงตาของฉิงเฟิงหรี่ลงและสังเกตเห็นเถาวัลย์สีทองในรอยแตกของเนินเขา　　เถาวัลย์ต้นนั้นสูงกว่าสองเมตรและเปล่งแสงสีทองดูเหมือนว่ามันถูกโจมตีโดยบางสิ่งบางอย่างเพราะมีรอยตัดมากมายบนเถาวัลย์
　　ปรากฏน้ำเต้าสีทองยาวประมาณ20 เซนติเมตรแขวนอยู่ใต้เถาวัลย์ มันเปล่งออร่าสีทองอร่ามและดูเหมือนว่ามันจะบรรจุไว้ด้วยพลังงานธาตุทองอันเข้มข้น
　　“น้ำเต้าสีทองมันเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน”
　　เสียงของมังกรอัคคีดังก้องอยู่ในหัวของฉิงเฟิง
　　“อะไรนะ น้ำเต้าสีทอง ?” ฉิงเฟิงถามกลับผ่านความคิดของเขา
　　มังกรอัคคีกล่าวขึ้นหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งว่า“ย้อนกลับไปในยุคอดีตกาล มันเคยเป็นของยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณราชันผู้หนึ่ง พลังงานทองคำที่แข็งแกร่งนี้สามารถทะลวงผ่านร่างของผู้ใดก็ตามที่อยู่ระดับต่ำกว่าขอบเขตจิตวิญญาณราชัน” 　　“โอ้ข้าลืมบอกไป ต่อมายอดฝีมือระดับจิตวิญญาณราชันผู้นั้นก็ได้บ่มเพาะพลังจนถึงขอบเขตอมตะ แต่กระนั้น เขาก็ถูกสังหารโดยผู้รุกรานจากดาวเคราะห์ดวงอื่นในสงครามยุคโบราณ”
　　“เกาะทองคำแห่งนี้เป็นที่ซึ่งปราชญ์ทองคำบ่มเพาะพลังและน้ำเต้าทองคำก็เป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันของเขานั่นเอง”มังกรอัคคีกล่าวเสียงนุ่มลึกด้วยอารมณ์ที่เศร้าสลดกับการตายในอดีตของปราชญ์อมตะผู้นั้น
　　เมื่อได้ฟังจบฉิงเฟิงก็พยักหน้าและตัดสินใจแน่วแน่ว่าเขาจะต้องครอบครองอุปกรณ์วิญญาณชิ้นนี้ให้ได้