ตอนที่ 501 คืนชีพให้นักบวชชรา

แปล Tarhai

ฉิงเฟิงเดินไปหานักบวชชราและวางนิ้วสองนิ้วไว้บนข้อมือของเขา
เขาเพ่งความสนใจเป็นพิเศษในการฟังเสียงชีพจรจากร่างกายของนักบวชชรา

แท้ที่จริงแล้วเสียงชีพจรของคนปกติจะมีเสียง “ตึก ตึก” แต่เสียงที่ฉิงเฟิงได้ยินจากชีพจรของนักบวชชราในตอนนี้คือเสียงฟู่ๆ (hiss) ซึ่งหมายความว่านักบวชชรายังไม่ตาย แต่อยู่ในสถานะตายปลอมๆ

แน่นอนว่าปกติแล้วคนทั่วไปจะไม่มีทางได้ยินเสียงชีพจรของนักบวชชรา มีเฉพาะหมอผู้เชี่ยวชาญเช่นฉิงเฟิงเท่านั้นที่สามารถได้ยิน

ฉิงเฟิงหยิบเข็มเงินเก้าเล่มออกมา มือขวาของเขาโบกสะบัดเข็มเงินทั้งเก้าออกไปในพริบตา ปักลงไปที่จุดความดัน

วิธีที่ฉิงเฟิงกำลังใช้เรียกว่า “เก้าจุดจิตวิญญาณ” ซึ่งสามารถกระตุ้นจุดความดันที่สำคัญของร่างกายมนุษย์ และกระตุ้นจิตวิญญาณและศักยภาพภายในเพื่อทำให้บุคคลนั้นมีพลังมากขึ้น

“ซิยี้ เอาแมลงกู่ใส่ปากของผู้อาวุโส และให้มันดูดสารพิษทั้งมวลออกจากร่างกายของเขาโดยเร็ว” ฉิงเฟิงกล่าวหลังจากมองไปทีเหมียวซิยี้

“ค่ะ นายท่าน !”

เหมียวซิยี้พยักหน้าและเอาแมลงกู่ออกมา

รูปลักษณ์บนใบหน้าของลู่ซวนจี๋เปลี่ยนไปทันทีที่เขาได้ยินเหมียวซิยี้เรียกบอสของเขาว่านายท่าน ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในสายตาของเขา เขามีประสบการณ์ชีวิตมากมาย เพียงแค่เขามองจากการแต่งตัวของเหมียวซิยี้เขาก็สามารถบอกได้ว่า เธอมาจากเหมียวเจียง นอกจากนี้ มีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นในเหมียวเจียงที่สามารถครอบครองแมลงกู่ศักดิ์สิทธิ์ได้ก็คือนักบุญหญิง

ไม่ต้องสงสัยเลย, ผู้หญิงสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือนักบุญหญิงแห่งเหมียวเจียง แต่สิ่งที่ทำให้เขาช็อคมากกว่าก็คือการที่เธอเรียกบอสของเขาว่า ‘นายท่าน’

ในเวลานี้ลู่ซวนจี๋ชื่นชมบอสของเขามาก นอกจากนี้,เขายังเชื่อมั่นว่าโอกาสที่อาจารย์ของเขาจะรอดก็มีมากขึ้น ในเมื่อนักบุญหญิงใช้แมลงกู่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยชีวิตเขา

เหมียวซิยี้ใส่แมลงกู่เข้าไปในปากของนักบวชชราอย่างระมัดระวัง จากนั้นเธอก็ท่องภาษาเหมียวเจียงเพื่อสั่งการแมลงกู่ให้เข้าไปในร่างกายของนักบวชชรา

ในร่างกายของนักบวชชรามีพลังชีวิตสองสาย พลังทั้งสองสายนี้มีความรุนแรงและสร้างความเสียหายสูงมาก พลังงานเหล่านี้ได้ผลิตสารพิษสีดำบางอย่างที่คอยกัดกร่อนอวัยวะของนักบวชชราอยู่ตลอดเวลา

แม้แต่แพทย์จากโรงพยาบาลก็ยังไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้หากสารพิษแทรกซึมเข้าไปในอวัยวะต่างๆ เช่นเดียวกับฉิงเฟิง ความจริงแล้วเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก

ในตอนนั้นที่ฉิงเฟิงสามารถช่วยหลินเสวี่ยจากการถูกพิษได้ เนื่องจากว่าเธอโดนพิษไปไม่นาน สารพิษยังไม่ได้กัดกร่อนอวัยวะทั้งหมดของเธอ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของนักบวชชราท่านนี้แตกต่างจากหลินเสวี่ยอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากอวัยวะทั้งหมดของเขาถูกกัดกร่อนด้วยพิษมาเป็นเวลานาน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะขับพิษทั้งหมดจากอวัยวะของเขา

อย่างไรก็ตาม, สถานการณ์ที่ย่ำแย่ทั้งหมดของนักบวชชรากำลังจะหมดไป ด้วยความช่วยเหลือจากแมลงกู่ศักดิ์สิทธิ์ มันคือแมลงมีพิษที่ร้ายแรงที่สุดในเหมียวเจียง ซึ่งถูกฉีดด้วยสารพิษหลายๆชนิดจากตะขาบ,แมงป่องและงูพิษ พวกมันทั้งหมดถูกพิจารณาว่ามีพิษร้ายแรงอย่างยิ่ง

การใช้พิษต้านพิษได้ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ของจีนตั้งแต่สมัยโบราณ แพทย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณเคยใช้ยาพิษเพื่อรักษาผู้ป่วยที่โดนพิษ

ฉิงเฟิงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในด้านการแพทย์จีน ดังนั้นเขาจึงรู้ถึงประโยชน์ของการใช้พิษอย่างระมัดระวัง

แมงลงกู่เข้าไปในร่างของนักบวชชราราวกับว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดที่กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง สารพิษเป็นที่ชื่นชอบของมัน และก็เป็นธรรมดาที่มันจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างราวกับเด็กอ้วนทานไอศกรีม

แซ่ก แซ่ก …

มีเสียงดังออกมาจากภายในร่างกายของนักบวชชรา นั่นคือเสียงของแมลงกู่ที่กำลังดูดกลืนสารพิษ

ผิวหนังของนักบวชชราไม่มีสีดำคล้ำหรือซีดเซียวอีกแล้ว จำนวนสารพิษภายในร่างกายของเขาลดลง การไหลเวียนโลหิตก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

ฟิ้ว !

ด้วยเสียงวูบ, นักบวชชราเริ่มกลับมาหายใจอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งทำให้ฉิงเฟิงรู้สึกดีใจอย่างเหลือเชื่อ เขารู้ดีว่ามันเป็นเพราะความสามารถของแมลงกู่

ครึ่งชั่วโมงต่อมา สารพิษทั้งหมดภายในร่างกายของนักบวชชราก็ถูกแมลงกู่ดูดซับจนหมดไป เขาเริ่มหายใจได้อย่างราบรื่น

“ซิยี้, เอาแมลงกู่ออกมาเลย” ฉิงเฟิงบอกต่อเหมียวซิยี้ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

เหมียวซิยี้พยักหน้าและท่องข้อความแปลกๆ จากนั้นแมลงกู่ก็ออกมาจากร่างของนักบวชชรา

แมลงกู่เปลี่ยนไป ในตอนแรกมันมีขนาดเล็กก่อนจะเข้าไปในร่างกายของนักบวชชรา แต่พอกลับออกมามันมีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า

เมื่อเห็นแมลงกู่ที่กลับออกมาด้วยหัวส่ายไปส่ายมาและเรอออกมา ฉิงเฟิงและเหมียวซิยี้แทบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน

บางคนกลายเป็นคนอ้วนเพราะพวกเขามีความโลภในอาหาร แต่ไม่คาดคิดเลยว่าแมลงกู่จะอ้วนจะเพราะกินสารพิษ

“บอส ตอนนี้อาจารย์ของผมหายใจแล้ว แต่ทำไมเขาถึงยังไม่ฟื้นเสียที ?” ลู่ซวนจี๋กล่าวด้วยความเป็นกังวล

ฉิงเฟิงโบกมือและอธิบายว่า “อย่ากังวลไป อาจารย์ของนายโดนยาพิษและสูญเสียพลังงานชี่* (พลังลมปราณ) ทั้งหมดไป ฉันเพียงแค่กำจัดสารพิษทั้งหมดให้เขา ยังเหลืออีกขั้นตอนหนึ่งคือการเรียกพลังลมปราณของเขากลับคืนมา”

***

ชี่เป็นหนึ่งในพลังพื้นฐานที่สุดของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในมนุษย์นั้นพลังพื้นฐานหลักๆ มี 3 อย่าง คือ แก่นชีวิต (jing – จิง) ลมปราณ (qi – ชี่) และชีวิตชีวา (shen – เสิน)

ชี่ แปลตามตรงว่า “พลังงาน” “พลังชีวิต” หรือ “พลังลมปราณ” มันไม่สามารถตรวจวัดได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่มันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งในจักรภพ เป็นพลังพื้นฐานของทุกสิ่ง

ชี่เป็นหลักการที่อาจจะเขียนให้เข้าใจได้ยาก แต่มันสามารถรู้สึกถึง และสัมผัสได้

เมื่อมีชี่ก็มีชีวิต ปราศจากชี่ชีวิตก็ดับสูญ

ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงต้องมีชี่ วิชาแพทย์แผนจีน มวยจีน และฮวงจุ้ย (เฟิงซุ่ย) ก็ใช้ประโยชน์จากหลักการของชี่นี่เอง

ความรู้สึกถึงพลังชี่ในแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่นในการฝังเข็ม หรือฝึกมวยจีน หรือชี่กง ความรู้สึกอาจเป็นได้ดังต่อไปนี้ ชาๆ ปวดเมื่อย ตึงๆ หนักๆ เหมือนโดนไฟช็อต อุ่น หรือร้อนวูบวาบ สั่นเทิ้ม หรือกระตุก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะ และสถานการณ์ต่างๆ

คนเราสามารถรับชี่ได้จาก 3 ทางคือ
– ชี่ก่อนกำเนิด (yuan qi) ซึ่งได้มาจากบุพการี
– ชี่จากการหายใจเอาอากาศดีๆเข้าไป (gong qi)
– ชี่จากอาหาร (gu qi)

ชี่จากอาหาร และอากาศรวมกันเป็น “จงชี่” (zong qi) ที่บริเวณหน้าอก จากนั้นด้วยการกระตุ้นจาก “หยวนชี่” ชี่ทั้งหมดจะแปรสภาพเป็นชี่ปกติ (zheng qi)

คุณสมบัติของชี่มีหลายหลาก อาทิเช่น

1. เป็นพลังงานขับเคลื่อนร่างกาย
2. ทำให้ร่างกายอบอุ่น
3. คอยป้องกันร่างกายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น ความเย็น ความร้อน ความชื้น เชื้อโรค
4. เป็นสิ่งจำเป็นที่ในผลิตสารจำเป็นในร่างกาย
5. ช่วยในการทำงานของอวัยวะต่างๆ

หากมีการผิดปกติของชี่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลไม่ดี หรือก่อให้เกิดโรคต่างๆต่อร่างกาย

ดังนั้นการฝึกชี่กง หรือมวยจีนจึงมีส่วนช่วยให้ชี่มีคุณภาพดี และปริมาณที่สูงขึ้น

แต่แค่นั้นยังไม่พอ การทานอาหารที่สะอาด มีสารอาหารที่ครบถ้วน การหายใจเอาอากาศที่ดี ไม่มีมลพิษ ดื่มน้ำสะอาด รักษาอารมณ์ไม่ให้แปรปรวน และปัจจัยอื่นๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นเดียวกัน

[แปลและเรียบเรียงจาก Complete Chinese Medicine โดย Dr. Tom Williames ]

***

พลังงานชี่ในทารกเป็นชี่ที่บริสุทธิ์และมากที่สุด อย่างไรก็ตาม มันเริ่มน้อยลงเมื่อเติบโตขึ้น พลังงานชี่จะถูกบริโภคและมันจะเป็นจุดจบของชีวิตเมื่อมันหมดไป

อาการตายปลอมของนักบวชชราเกิดจากการสูญเสียพลังงานชี่ โชคดีที่ฉิงเฟิงปรากฏตัวขึ้นทันเวลาและผลักดันพลังชี่จากเข็มเงินทั้งเก้าของเขาเข้าไปในจุดความดันของนักบวชชรา เพื่อพยุงพลังชี่ที่หมดไปของเขา

“นายไม่ต้องห่วง ฉันจะเพิ่มเติมการรักษาบางอย่างให้แก่ผู้อาวุโสอีกเล็กน้อย เขาจะตื่นขึ้นมาในไม่ช้า” ฉิงเฟิงปลอบโยนลู่ซวนจี๋ด้วยรอยยิ้ม

“ซิยี้ขอโสมพันปีหน่อย” ฉิงเฟิงกล่าว

เหมียวซิยี้หยิบเอาโสมสีแดงเลือดออกมาและส่งไปให้ฉิงเฟิง

ฉิงเฟิงรับโสมสีแดงมาและเริ่มใช้เข็มเงินของเขาเพื่อกระตุ้นร่างกายของมัน โสมต้นนี้ได้รับจิตวิญญาณบางอย่างจากการมีชีวิตอยู่มาเป็นพันๆปี ดังนั้นมันจึงกระเสือกกระสนและแม้กระทั่งพยายามจะดิ้นหนี

อย่างไรก็ตาม ฉิงเฟิงเข้มแข็งมาก ไม่ว่าโสมพันปีจะพยายามหนักแค่ไหนมันก็ไม่สามารถหนีรอดไปจากฝ่ามือของฉิงเฟิงได้

ฉิงเฟิงแทงโสมพันปีด้วยเข็มเงินของเขา เลือดสีแดงไหลออกมาจากแก่นแท้โลหิตของโสมพันปี จากนั้นฉิงเฟิงก็เทเลือดทั้งหมดเข้าไปในปากของนักบวชชรา

เลือดของโสมพันปีไหลลงสู่ลำคอของนักบวชชราและกระจายไปทั่วทุกส่วนในร่างกายของเขา เพิ่มพูนพลังชี่ให้เขามากขึ้นและฟื้นฟูอวัยวะที่เสียหายทั้งหมดของเขา

ใบหน้าของนักบวชชราเริ่มมีสีสันหลังจากได้รับเลือดจากโสมพันปีเข้าไป ในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้นและกลับมามีชีวิตอีกครั้ง