My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 773 เสวี่ยน้อย สิ่งเดียวที่ลูกห้ามทำก็คือการหย่า

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 773 เสวี่ยน้อย สิ่งเดียวที่ลูกห้ามทำก็คือการหย่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  “ซวนจี๋นายลองเอาไปทำความเข้าใจก่อนเถอะจนกว่าฉันจะหาตำราวิชาอื่นได้”
  ฉิงเฟิงแตะไหล่ลู่ซวนจี๋เพื่อปลอบใจเขา
  ในความเป็นจริงฉิงเฟิงยังมีเคล็ดวิชาอีกอย่างหนึ่งซึ่งก็คือวิชากระบี่แดงเพลิงคะนอง แต่เขาไม่สามารถถ่ายทอดให้แก่ลู่ซวนจี๋ได้เพราะเนี่ยอู๋ซวงได้กำชับไว้ว่าไม่ให้ถ่ายทอดวิชานี้แก่ผู้ใด
  ดังนั้นลู่ซวนจี๋จึงทำได้เพียงยอมรับตำราวิชาดาบของโยชิจิโร่ไปอย่างหดหู่และตัดสินใจว่าจะฝึกไปก่อนชั่วคราวจนกว่าจะได้วิชาใหม่ที่เหมาะสมสำหรับเขา
  จากนั้นฉิงเฟิงก็เริ่มสอนวิธีการและขั้นตอนในการฝึกวิทยายุทธ์ก่อนที่จะปล่อยให้พวกเขาแยกย้ายกันไปฝึกฝนกันเอง
  กริ๊งงงง  ทันใดนั้นโทรศัพท์ของฉิงเฟิงก็ดังขึ้นเป็นจางหยุนเหอโทรมา
  “สวัสดีครับศาสตราจารย์จาง”ฉิงเฟิงตอบกลับทางโทรศัพท์
  “ฉิงเฟิงเธอได้ดูข่าวหรือยัง ”
  “ข่าว ข่าวอะไรหรือครับศาสตราจารย์จาง ?”
  เย่จวินเพิ่งประกาศในระหว่างการสัมภาษณ์ที่สถานีโทรทัศน์เมืองตงไห่ว่าฝีมือการแพทย์ของเธอห่วยแตกและบอกว่าจะเอาชนะเธอในการแข่งขันวันพรุ่งนี้ เขาแม้แต่บอกว่าจะทำเธอให้พ่ายแพ้และคุกเข่า”
  จางหยุนเหอกำลังนั่งดูทีวีเพลินๆและได้เห็นเย่จวินให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เขาจำได้ว่าเย่จวินผู้นี้เป็นลูกน้องของเย่หยุนซันและเคยข่มเหงเขามาก่อน
  ในการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เย่จวินได้เริ่มต้นด้วยการประกาศว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นพวกหลอกหลวงและมีทักษะทางการแพทย์ที่แย่มากอีกทั้งยังป่าวประกาศไปว่าเขาจะแข่งขันกับหลี่ฉิงเฟิงและผู้แพ้จะต้องคุกเข่าขอขมา
  เย่จวินเป็นประธานสมาคมแพทย์ของเมืองตงไห่และมีชื่อเสียงที่ดีมากเนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากได้มาพบเขาเพื่อรับบริการทางการแพทย์
  ผู้คนจำนวนมากต่างก็สนใจการแข่งขันนี้เพื่อเป็นพยานในการพ่ายแพ้ของคนลวงโลกอย่างหลี่ฉิงเฟิงและต้องการเห็นเขาคุกเข่า
  เย่จวินใช้สื่อได้เป็นอย่างดีเขาเคลมเครดิตให้ตัวเองโดยการทำลายชื่อเสียงของฉิงเฟิงออกทีวีและให้ประชาชนในเมืองตงไห่มุ่งเป้าไปที่เขา
  “ไม่ต้องกังวลหรอกครับศาสตราจารย์จางวันนี้ปล่อยให้เขาเชิดหัวไปก่อน ยิ่งเขาออกตัวแรงเท่าไหร่ เวลาร่วงลงมาจะยิ่งสะใจผม” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มเล็กน้อยด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่แคร์กับข่าวนี้
  อะไรคือผลสุดท้ายในการประชันทักษะทางการแพทย์ แน่นอน มันย่อมเป็นความสามารถทางการแพทย์ ใครก็ตามที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ดีกว่าก็จะเป็นผู้ชนะ สำหรับฉิงเฟิงแล้วไม่มีใครเป็นคู่มือของเขาทางด้านการแพทย์ได้ยกเว้นจางหยุนเหอที่เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทระดับประเทศ
  จากนั้นฉิงเฟิงก็นัดหมายเวลาพบกับจางหยุนเหอในวันพรุ่งนี้ก่อนที่จะกลับไปที่ห้องพักของหลินเสวี่ย
  หลินเสวี่ยกำลังนอนดูทีวีอยู่บนเตียงซึ่งเธอก็ได้เห็นข่าวที่เย่จวินกล่าวถึงฉิงเฟิงในทางไม่ดีเช่นกัน เธอโกรธมาก
  “
  คนเลวเย่จวิน
  !
  คุณกล้าดียังไงมาด่าสามีชั้น
  ”
  หลินเสวี่ยพึมพำและจ้องมองไปที่เย่จวินทางทีวี
  เธอโกรธเย่จวินมากที่พูดไม่ดีและกล่าวหาสามีของเธอต่อหน้าชาวเมืองตงไห่ทุกคนที่สถานีโทรทัศน์ของเมือง
  ใช่หลินเสวี่ยยังคงเกลียดฉิงเฟิง แต่นั่นก็เป็นเพราะเหตุผลที่ว่าเขาไปมีสัมพันธ์กับนางจิ้งจอกหลิวหรูหยาน เมื่อฉิงเฟิงถูกใส่ร้ายโดยเย่จวิน เธอย่อมไม่พอใจอย่างแน่นอน
  หลินเสวี่ยกำลังก้นด่าสาปแช่งเย่จวินในขณะที่ฉิงเฟิงเปิดประตูเข้ามาพอดีเขารู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นว่าหลินเสวี่ยปกป้องเขา นี่เป็นสัญญาณว่าเธอยังคงแคร์เขาอยู่
  “ที่รักคุณดีกับผมเหลือเกิน ! คุณแม้แต่ด่าไอ้บัดซบคนนั้นเพื่อผม” ฉิงเฟิงเดินไปหาหลินเสวี่ยและกล่าวอย่างเกี้ยวพาราสี
  เมื่อเห็นฉิงเฟิงเดินเข้ามาหลินเสวี่ยก็เปลี่ยนสีหน้าและเบือนหน้าหนีไม่สนใจเขา แต่ขนตาของเธอที่กำลังสั่นระริกนั้นทรยศความรู้สึกเธอ
  ฉิงเฟิงรู้หนทางในการตามง้อหลินเสวี่ยแล้วแม้ว่าเธอจะยังคงเฉยเมยต่อเขา เขาก็จะยังคงพูดกับเธอต่อไป ตราบเท่าที่เขาใส่ความพยายามมากพอ เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะต้องประสบความสำเร็จ
  “ที่รักคุณหิวหรือเปล่าครับ ผมจะได้ออกไปซื้ออะไรมาให้คุณทาน” ฉิงเฟิงยิ้ม ซึ่งนี่เป็นการแสดงออกมาตรฐานของเขาต่อหลินเสวี่ย
  “คุณรอก่อนนะผมจะออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวไข่ของโปรดมาให้คุณทาน”
  จากนั้นเขาก็เดินออกไปซื้ออาหารให้หลินเสวี่ย
  ในขณะนี้หลินเสวี่ยอยู่ตามลำพังกับมู่เสี่ยวหยุนแม่ของเธอกล่าวขึ้นว่า “เสวี่ยน้อย ฉิงเฟิงทำผิดแต่ลูกก็ต้องให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง ลูกจะเฉยชาต่อเขาตลอดไปไม่ได้หรอกนะ”
  หลินเสวี่ยถอนหายใจและขมวดคิ้วดวงตาที่งดงามของเธอดูพร่าเลือน แม่ของเธอพูดถูกแล้ว เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับฉิงเฟิงได้ตลอดไป แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้อภัยเขา ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่มีศักดิ์ศรี เธอไม่สามารถใจกว้างพอที่จะปล่อยผ่านความจริงเรื่องที่ว่าสามีของเธอไปมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น เธอไม่อาจทำใจรับมันได้ และไม่มีผู้หญิงคนไหนทนได้
  “แม่โปรดปล่อยให้หนูได้นั่งคิดเงียบๆหน่อยเถอะ ตอนนี้หนูไม่อยากคุยกับเขาจริงๆเพราะทุกครั้งที่หนูคิดจะคุยกับเขา มันทำให้หนูนึกถึงภาพที่เขาอยู่กับนังจิ้งจอกคนนั้น
  “เสวี่ยน้อยมันเหลือเวลาอีกแค่ 10 วันก็จะถึงวันแต่งงานของพวกเธอแล้วนะ ลูกจะแต่งงานกับเขาโดยไม่คุยอะไรกันเลยได้อย่างไร ”
  “แม่หนูจะไม่มีวันแต่งงานกับหลี่ฉิงเฟิงในขณะที่หลิวหรูหยานยังอยู่ระหว่างพวกเรา เว้นเสียแต่ว่าเขาจะสัญญาว่าจะทิ้งหลิวหรูหยานกับลูกของพวกเขาตลอดไป”
  หลินเสวี่ยรู้ดีว่าฉิงเฟิงต้องมีความรู้สึกบางอย่างต่อนังจิ้งจอกหลิวหรูหยานมิฉะนั้นพวกเขาคงจะไม่เลยเถิดไปถึงขั้นมีอะไรกันจนมีลูกด้วยกัน แต่ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะตัดสินใจทิ้งหลิวหรูหยาน แต่จะเป็นไปได้หรือที่อีกฝ่ายจะยอมปล่อยมือจากฉิงเฟิง
  หลินเสวี่ยยังคงสงสัย
  ในฐานะภรรยาตามกฎหมายของฉิงเฟิงหลินเสวี่ยมีสิทธิ์และความภาคภูมิใจที่จะไม่ให้อภัยพวกเขา
  แน่นอนถ้าหากฉิงเฟิงยอมสาบานว่าจะตัดสัมพันธ์และขับไล่หลิวหรูหยานออกไปจากชีวิตตลอดกาล หลินเสวี่ยจะยอมให้อภัยเขาเพราะเธอก็ยังรักเขาอยู่ แต่เธอรู้ดีว่ามันมีความเป็นไปได้ต่ำมากๆ
  “เสวี่ยน้อยแม่มีประสบการณ์การถูกหักหลังมาก่อนเมื่อตอนยังเป็นสาวๆ แม่จะบอกลูกไว้อย่างหนึ่งว่า ‘ห้ามหย่าเด็ดขาด’” มู่เสี่ยวหยุนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
  “แม่ทำไมหนูถึงหย่าไม่ได้ ถ้าฉิงเฟิงไม่ยอมเลิกรากับหลิวหรูหยาน หนูก็จะพิจารณาเรื่องการหย่า” หลินเสวี่ยขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัย  “เสวี่ยน้อยอย่าโง่ไปหน่อยเลย ลูกลองคิดให้ดีๆ ถ้าหากลูกหย่ากับฉิงเฟิง หลิวหรูหยานก็จะได้เขาไปง่ายๆ ลูกจะสูญเสียสามี หลิวหรูหยานจะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดและได้อยู่กับสามีของลูกแทน” มู่เสี่ยวหยุนกล่าวอย่างมีความหมาย
  หลินซื่อสามีของเธอมีเมียน้อยเมื่อตอนยังหนุ่มสาวและมู่เสี่ยวหยุนก็ไม่เคยคิดเรื่องหย่าแต่เธอคิดถึงเรื่องการกินยานอนหลับฆ่าตัวตาย ต่อมาเธอไปวัดบนภูเขาแห่งหนึ่ง นักบวชกล่าวกับเธอว่า ถ้าหากเธอหย่าขาดจากสามี เมียน้อยจะเป็นผู้ชนะ
  ในตอนสุดท้ายมู่เสี่ยวหยุนจึงไม่หย่า ซึ่งหลินซื่อและเมียน้อยของเขาก็ทำได้เพียงคบกันแบบหลบๆซ่อนๆอยู่หลังฉากเท่านั้น

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *