“นี่มันอะไรกัน แกสามารถรับการโจมตีของพวกเราได้ !?” ทั้งลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่างก็รู้สึกอึ้ง
　　“ก็เพราะพวกแกสองคนอ่อนแอเกินไป”ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
　　ฉิงเฟิงนั้นไร้เทียมทานต่อยอดฝีมือทุกคนในขอบเขตเดียวกันชายสองคนนี้มีระดับพลังในขั้นครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์เช่นเดียวกับเขา เป็นธรรมดาที่การโจมตีของพวกเขาแทบไม่มีผลต่อฉิงเฟิง
　　เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่แยแสของฉิงเฟิงทั้งลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่างก็รู้สึกราวกับว่าถูกเยาะเย้ย เปลวเพลิงแห่งความโกรธพวยพุ่งอยู่ในดวงตาของพวกเขา การที่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งใน 81 แกรนด์มาสเตอร์ พวกเขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูง แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกเด็กรุ่นหลังคนหนึ่งเยาะเย้ยถากถางและทำลายความภาคภูมิใจไปหมดสิ้น
　　“หาที่ตาย!” ลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพคำราม พวกเขาทั้งคู่ปลดปล่อยจิตสังหารที่ทรงพลังออกมา
　　“หัตถ์ลมกรด!” ลั่วเฟิงร้องกู่ก้อง ลมปราณของเขาส่งผ่านไปที่ฝ่ามือและสร้างปราณดาบพายุขนาดใหญ่ขึ้นมา เขาสะบัดฝ่ามือตัดผ่านอากาศและเปล่งเสียงระเบิดที่คมชัดพุ่งเข้าใส่ร่างของฉิงเฟิงอย่างโหดเหี้ยม
　　“วิชาหมัดเหล็ก!” เตี๋ยฮงโพก็มีท่าทีดุร้าย เขารวบรวมลมปราณไว้ที่หมัดจนเปลี่ยนมันเป็นสีดำสนิทและเปลี่ยนอากาศโดยรอบให้เป็นสีดำราวกับวิญญาณชั่วร้ายสีดำ sหมัดของเขาฉีกผ่านชั้นบรรยากาศและกระแทกเข้าหาหัวใจของฉิงเฟิงด้วยพลังทั้งหมด
　　ในครั้งนี้ทั้งลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่างก็โจมตีใส่ฉิงเฟิงด้วยพลังทั้งหมดหวังจะปลิดชีวิตเขาด้วยการโจมตีที่รุนแรงที่สุด !
　　ฉิงเฟิงยังคงยืนนิ่งโดยไม่หลบหลีกเขารวบรวมพลังและทำให้ผิวของเขาเริ่มเปล่งประกายแสงสีฟ้าอันงดงามออกมา
　　ปัง! ปัง !
　　โดยปกติแล้วการโจมตีของลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพนั้นรุนแรงจนสามารถทำลายได้แม้แต่ทองคำบริสุทธิ์แต่ครั้งนี้นอกเหนือจากเสียงดังที่เกิดสองครั้งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อร่างกายของเป้าหมายแม้แต่น้อย
　　“นิ..นี่มัน ความไร้เทียมทานในขอบเขตเดียวกัน !?”
　　ทั้งใบหน้าของลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพแปรเปลี่ยนไปอย่างมากพวกเขาตะโกนออกมาพร้อมกันด้วยความสยดสยอง
　　ทั้งคู่เป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ไม่แปลกที่พวกเขาจะเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของผู้ฝึกยุทธ์ที่ไร้เทียมทานในขอบเขตเดียวกัน แต่ว่าผู้ที่ครอบครองความสามารถเช่นนี้ต้องเป็นคนที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาจักรพรรดิยุทธ์แท้จริงเท่านั้น จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาจะฝึกเคล็ดวิชาในตำนานนี้
　　ไม่มีทาง! เป็นไปไม่ได้ ! เคล็ดวิชาจักรพรรดิยุทธ์แท้จริงนั้นหายสาปสูญจากหัวเซี่ยไปนานแสนนานแล้ว ในปัจจุบันนี้เคล็ดวิชาที่ดีที่สุดคือวิชาในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์เท่านั้น แล้วชายหนุ่มคนนี้จะครอบครองเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิได้อย่างไร
　　ดวงตาของฉิงเฟิงแสดงให้เห็นถึงความแปลกใจเขาไม่คาดคิดว่าชายสองคนนี้จะรู้เกี่ยวกับความสามารถ ‘ขอบเขตเดียวกันไร้พ่าย’ ไม่ต้องพูดถึงเคล็ดวิชาระดับจักรพรรดิ แต่นั่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปเพราะพวกเขาโชคไม่ดีที่ต้องตายในอีกไม่ช้า
　　เปรี้ยง! เปรี้ยง !
　　ฉิงเฟิงเหยียดฝ่ามือออกมาและตบเข้าที่ใบหน้าของทั้งคู่ทำให้ใบหน้าของพวกเขาแดงและบวมเป่งขึ้นมาทันที ยอดฝีมือทั้งสองคนนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มแกรนด์มาสเตอร์ที่มีชื่อเสียงทั้ง 81 คน พวกเขาไม่เคยได้รับประสบการณ์การถูกตบหน้าเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงการโดนตบหน้าต่อหน้าผู้คน นี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างมาก !
　　“บ้าไปแล้วนี่สายตาของข้าไม่ดีหรือเปล่า นี่ข้าเพิ่งเห็นหลี่ฉิงเฟิงตบหน้าลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพใช่ไหม ?”
　　“เจ้าเห็นไม่ผิดหรอกหลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินไป ยอดฝีมือสองคนนี้ไม่ใช่คู่มือเขาแม้แต่น้อย”
　　“ปีศาจหลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งราวกับปีศาจ”
　　ผู้คนโดยรอบต่างก็ถกเถียงกันอย่างดุเดือดในขณะที่มองดูการกระทำของฉิงเฟิงด้วยความตกใจอย่างยิ่ง
　　ทั้งลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่างก็เป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์พวกเขาไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดา พวกเขามีรายชื่อติดอันดับถึงแม้ว่าจะอยู่อันดับสุดท้ายก็ตาม แต่พวกเขาก็ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ทั่วโลก
　　ส่วนกู่เต๋าและราชาอสูรเทียนหมิงต่างก็หยุดการต่อสู้ชั่วคราวเพื่อสังเกตการต่อสู้ของอีกคู่หนึ่งแต่สิ่งที่พวกเขาเห็นทำให้ต้องยืนอ้าปากค้างอย่างโง่งม เมื่อได้เห็นฉิงเฟิงตบหน้าสองคนนั้นอย่างง่ายดาย ใบหน้าของกู่เต๋าก็มืดมนและสั่นสะท้านไปด้วยอารมณ์ เขาอยู่ในอันดับที่ 79 ที่ถึงแม้ว่าจะสูงกว่าสองคนนี้ก็ตาม แต่ถ้าหากกระทั่งพวกเขายังพ่ายแพ้ง่ายดายเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นเขา ผลก็คงไม่แตกต่าง
　　ส่วนราชาอสูรเทียนหมิงก็ยังรู้สึกงงงวยเช่นกันความสามารถของนายน้อยสูงเกินความคาดหมายของเขาไปไกลโขจนทำให้เขาพูดไม่ออก
　　ก่อนหน้านี้เขากำลังกังวลอยู่ว่านายน้อยจะรับมือยอดฝีมือทั้งสองในเวลาเดียวกันไหวหรือไม่แต่เพียงไม่นานนายน้อยก็สามารถตบหน้าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
　　“หลี่….ฉิงเฟิงแกกล้ามากที่ตบหน้าพวกข้า !” ลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพคำรามออกมาพร้อมกันด้วยความโกรธกริ้ว การถูกตบหน้าต่อหน้าสาธารณชนเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างใหญ่หลวง
　　“แล้วไง ตายซะ !” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มออกมา ดวงตากระพริบด้วยแสงเย็น
　　เปรี้ยงเปรี้ยง !
　　ฉิงเฟิงกระโดดขึ้นไปบนอากาศด้วยเท้าขวาการเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ จากนั้นก็เตะเข้าที่หน้าอกของพวกเขาอย่างไร้ความปราณีจนไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน พวกเขากระเด็นไปไกลและล้มลงกระแทกกับพื้นดินพร้อมกับกระอักเลือดออกมา
　　พ่ายแพ้แล้วยอดฝีมือทั้งสองจาก 81 แกรนด์มาสเตอร์พ่ายแพ้แก่หลี่ฉิงเฟิงอย่างง่ายดายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
　　ใบหน้าของลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพซีดเซียวด้วยความตกใจพวกเขาทั้งคู่ถูกส่งมาจากสองกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเทียนจิงเพื่อฆ่าหลี่ฉิงเฟิง แต่ตอนนี้ทั้งคู่กลับพ่ายแพ้แก่เขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว　　ส่วนสปายที่อยู่โดยรอบก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นราวกับว่าพวกเขาได้เห็นอะไรบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้
　　ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วยสายตาของตนเองก็คงไม่มีทางเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริงชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งเกินไป
　　“ฉันก็บอกพวกลุงไปแล้วไงว่าพวกลุงน่ะอ่อนแอตอนนี้เชื่อหรือยัง ” ฉิงเฟิงกล่าวเบาๆและมองไปที่พวกเขาอย่างดูถูก
　　ตอนนี้ฉิงเฟิงเข้าใจถึงพลังอำนาจจากการฝึกฝนตามเคล็ดวิชาจักรพรรดิยุทธ์แท้จริงในที่สุดเขากลายเป็นแข็งแกร่งอย่างสุดขั้วและไร้เทียมทานในขอบเขตเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหน้าไหนก็ตามหากอยู่ในขอบเขตเดียวกันกับเขาจะไม่สามารถทำลายการป้องกันของเขาได้
　　ฉิงเฟิงไม่ได้ใช้กระบี่แดงเพลิงคะนองหรือแม้แต่เปิดใช้งานพลังสายเลือดของเขาเขาเอาชนะสองยอดฝีมือนี้ด้วยพลังลมปราณและแข็งแกร่งของตนเอง ซึ่งถ้าหากใช้พลังเหล่านั้นพวกเขาก็ตายไปนานแล้ว
　　“เอาละตอนนี้พวกแกก็ไปตายได้แล้ว” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา รังสีแห่งความตายแผ่กระจายออกมาจากทั่วร่างกายของเขาในขณะที่เดินไปหาชายทั้งสองคน
　　เมื่อได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปพวกเขาหันศีรษะไปทางกู่เต๋าและตะโกนออกมาว่า “กู่เต๋า พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน เจ้ารีบมาช่วยพวกเราฆ่ามันเร็วเข้า !”
　　พวกเขารู้ตัวว่าไม่ใช่คู่มือของฉิงเฟิงดังนั้นจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากกู่เต๋าซึ่งแข็งแกร่งกว่า
　　ฟุ่บ!
　　ร่างกายของกู่เต๋าขยับอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงราวกับพายุหมุนเข้าร่วมวงกับลั่วเฟิงและเตี๋ยฮงโพต่อกรกับฉิงเฟิง แต่จากนั้นไม่นานราชาอสูรเทียนหมิงก็เคลื่อนไหวร่างตามติดกู่เต๋ามาช่วยฉิงเฟิงอีกแรงเช่นกัน
　　“นายน้อยโปรดให้ข้าได้สู้เพื่อท่าน”ราชาอสูรเทียนหมิงกล่าวด้วยความเคารพ
　　ฉิงเฟิงส่ายหัวพร้อมกับโบกมือและกล่าวว่า“คุณถอยไปก่อนเถอะ มีขยะเพิ่มมาอีกชิ้นไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่หรอก วันนี้ฉันจะฆ่ายอดยุทธ์ระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสามต่อหน้าทุกคน”