My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1033 อุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1033 อุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1033 อุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน
  ใบหน้าของจ้าวเทียนเจียนกลายเป็นซีดเซียวเมื่อเขาเห็นการตายของเซวี่ยจวินหลุนและเฒ่าอสูรโลหิต
  “สรรพชีวิตล้วนเท่าเทียม,เขตแดนยับยั้ง !”
  ฉิงเฟิงท่องคาถาออกมาอีกครั้งรัศมีสีเขียวเรืองแสงภายในหอคอยสีเขียวและปกคลุมไปทั่วร่างของฉิงเฟิงและจ้าวเทียนเจียน
  ในตอนนี้จ้าวเทียนเจียนเข้าใจความรู้สึกของเซวี่ยจวินหลุนแล้วเมื่อระดับพลังของเขาถูกจำกัดไว้ที่จิตโลกาขั้นกลางเช่นเดียวกับฉิงเฟิง
  เมื่อระดับพลังลดลงการโจมตีก็อ่อนแอลงเช่นกัน
  “
  หนอย..  !
  ผสานอินทรีทองคำ
  !”
  จ้าวเทียนเจียนแค่นเสียงอย่างเย็นชาด้วยความโมโหและเหวี่ยงฝ่ามือออกไป
  รูปปั้นทองคำที่ดูเหมือนนกอินทรีพร้อมกับกรงเล็บที่แหลมคมและร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยขนสีทองมันมีความยาวประมาณ 30 เมตรและล้อมรอบไปกลิ่นอายอันทรงพลัง รูปปั้นทองคำบินไปหาฉิงเฟิงด้วยกรงเล็บที่อุ้งมือตรงไปที่ร่างกายของเขา
  “
  หนึ่งดรรชนีแยกสรรพสิ่ง
  !”
  ฉิงเฟิงโคจรพลังทั่วร่างไปรวมกันที่นิ้วชี้และใช้วิชาดรรชนีผู้พิชิตออกไปเขาชี้นิ้วไปที่อินทรีทองคำและยิงลำแสงสีเขียวผ่าร่างอินทรีทองคำเป็นสองส่วน
  ไม่เพียงเท่านั้นหลังจากลำแสงสีเขียวแยกนกอินทรีออกเป็นสองส่วนแล้วมันยังคงพุ่งต่อไปที่ร่างของจ้าวเทียนเจียน มันยิงผ่านขาของเขาในขณะที่เขาล้มลงกับพื้นและกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
  ฉิงเฟิงไม่รีรอเขารีบเดินไปหาจ้าวเทียนเจียนและชักกระบี่เพลิงคะนองออกมา
  “มะ….ไม่ !”
  ดวงตาของจ้าวเทียนเจียนเต็มไปด้วยความสยดสยองในขณะที่ฉิงเฟิงสะบัดกระบี่ตัดศีรษะของเขาในครั้งเดียว
  จ้าวเทียนเจียน,ประมุขนิกายกระบี่สวรรค์ – ตายแล้ว
  นอกจากฉิงเฟิงลูกหมาสีดำและราชาอสูรมีดวายุแล้ว ทุกคนที่อยู่ในชั้นสามต่างก็ตายเรียบด้วยน้ำมือของฉิงเฟิง
  การตายของจ้าวเทียนเจียนนั้นเป็นโชคที่ไม่เข้าข้างหากได้สู้กันข้างนอก พวกเขาคนใดคนหนึ่งสามารถฆ่าฉิงเฟิงได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามหลังจากพวกเขาถูกจำกัดพลังบ่มเพาะให้เท่ากับฉิงเฟิง ผลที่ออกมาจึงเป็นอย่างที่เห็น
  ฉิงเฟิงมอบกระบี่ราชันวิญญาณให้แก่ราชาอสูรมีดวายุและกล่าวว่า“ท่านอาจารย์ กระบี่เล่มนี้เป็นของท่าน”
  ราชาอสูรมีดวายุพยักหน้าแล้วรับกระบี่มาเขาเริ่มตรวจสอบตัวกระบี่อย่างระมัดระวังและเก็บมันกลับไป
  แน่นอนว่าเขายังไม่เข้าใจศักยภาพที่แท้จริงของกระบี่เล่มนี้เลย
  ภายในสุสานราชันวิญญาณฉิงเฟิงได้เข้าใจพลังของเจดีย์สีเขียวและวิธีการควบคุมมันอย่างเต็มที่
  ในขณะนั้นเองสัตว์อสูรซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ในชั้นที่สามก็ก้าวออกมา สิ่งมีชีวิตตัวนี้เป็นสุนัขจิ้งจอกสามหางที่ขนสีเขียว ดวงตาสีเขียว มันถูกล้อมรอบไปด้วยรัศมีสีเขียวที่น่าขนลุก
  จิ้งจอกเขียวคุกเข่าลงบนพื้นแล้วพูดว่า“นายท่าน ข้าคืออสูรจิ้งจอกเขียวขอรับ”
  ตอนนี้ฉิงเฟิงเป็นนายเหนือของเจดีย์สีเขียวดังนั้นเขาก็เหมือนเป็นเจ้านายของจิ้งจอกเขียวตนนี้ด้วย
  ฉิงเฟิงโบกมือและบอกให้สุนัขจิ้งจอกยืนขึ้นหลังจากที่เขาถามเกี่ยวกับความสามารถและจุดแข็งของมันเขาจึงรู้ว่ามันเชี่ยวชาญในด้านการสร้างภาพลวงตาและภาพมายา นอกจากนี้มันยังมีระดับบ่มเพาะอยู่ในขอบเขตจิตโลกาขั้นสูงสุดแล้วด้วย มันทรงพลังอย่างยิ่ง
  ฉิงเฟิงเดินย้อนกลับไปที่ชั้นสองและออกจากเจดีย์สีเขียวพร้อมด้วยฮวาเซียนจือฉินเซียนจื่อ ลู่ซวนจี๋และคนอื่นๆ ส่วนศิษย์สาวกของนิกายอื่นๆนั้น พวกเขาทั้งหมดถูกเตะออกจากเจดีย์ในทันที และใครก็ตามที่รุกล้ำเข้าไปจะต้องตาย
  หลังจากที่พวกเขาออกมาฉิงเฟิงก็ท่องคาถาในใจอีกครั้ง เจดีย์สีเขียวหดตัวลงจนเหลือขนาดเท่าฝ่ามืออย่างน่าอัศจรรย์และถูกเก็บไว้ในแหวนมิติสีดำของเขา
  “เราได้อุปกรณ์วิญญาณระดับราชันมาแล้วตอนนี้ถึงเวลาไปช่วยท่านพ่อได้แล้ว…”
  ฉิงเฟิงพึมพำกับตัวเองและพาทุกคนเดินทางต่อไปยังใจกลาง
  หลังจากไปถึงใจกลางของแดนต้องห้ามสัตว์อสูรก็ปรากฏตัวขึ้น มันคือราชาสิงโตทองคำที่มีดวงตาขนาดใหญ่และยาวถึง 50 เมตร มันเปล่งประกายสีทองและโอบล้อมไปด้วยกลิ่นอายอันทรงพลัง ดูเหมือนว่ามันจะมาถึงขอบเขตจิตโลกาขั้นสูงสุดแล้ว
  “มนุษย์พวกเจ้ากล้าล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของข้าได้อย่างไร ! ข้าจะเปลี่ยนพวกเจ้าให้กลายเป็นเนื้อเสียบไม้ !”
  สิงโตทองเชิดหน้าขึ้นและกล่าวอย่างเยือกเย็น
  สิงโตทองอ้าปากกว้างและพ่นไฟออกมามันเป็นเปลวไฟสีแดงที่บรรจุไว้ด้วยพลังที่ไร้เทียมทานและร้อนระอุมาก  ใบหน้าของฉิงเฟิงซีดขาวและจิตใจสั่นสะท้านเย็นยะเยือกเขารู้ว่าเปลวเพลิงสีแดงที่พุ่งมานี้ทรงพลังเพียงใด
  “
  เพลิงภูเขาไฟระเหย
  !
  “
  ฉิงเฟิงใช้กระบี่เพลิงภูเขาไฟท่าที่สี่ออกมาการโจมตีของเขากลายเป็นมายาภูเขาไฟสีขาวขนาดยักษ์ที่มีเปลวเพลิงอันน่ากลัวและมีอุณหภูมิสูงถึงสามพันองศา
  เปลวเพลิงสีแดงและภูเขาไฟสีขาวชนเข้าด้วยกันและสลายไปไม่มีคลื่นเสียงหรือคลื่นพลังงานตามมา แต่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกลายเป็นความหายนะ บริเวณนั้นถูกเผาเป็นเถ้าถ่านโดยเปลวเพลิงอันทรงพลังทั้งสองสาย
  “มนุษย์เคล็ดวิชากระบี่ของเจ้าใช้ได้ทีเดียว” สิงโตทองคำขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
  สิ่งสำคัญคือต้องทราบก่อนว่ามันเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ในรัศมีกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตรผู้บุกรุกทุกคนจะกลายเป็นเนื้อย่างเสียบไม้แสนอร่อยยามที่มันปล่อยเปลวเพลิงออกมา
  แต่ตอนนี้มันตกใจไม่น้อยที่เปลวเพลิงจากภูเขาไฟสีขาวของมนุษย์ตัวจ้อยคนนึงสามารถยับยั้งเปลวเพลิงของมันไว้ได้
  “
  กรงเล็บสิงโตทองคำ
  !
  ”
  ราชาสิงโตแผดเสียงด้วยความโกรธกริ้วและโบกกรงเล็บสีทองอันดุร้ายของมันไปที่ฉิงเฟิงอย่างโหดเหี้ยม
  “
  หมัดที่สาม  –
  สวรรค์พินาศโลกาสลาย
  !
  “
  ฉิงเฟิงไม่กล้าประมาทเพราะเขารู้แล้วว่าสิงโตตัวนี้ทรงพลังเพียงใดเขาใช้หมัดที่สามของเพลงหมัดทลายนรกานต์ออกมาทันที หมัดของเขากลายเป็นกำปั้นยักษ์สีดำที่แยกท้องนภาออกเป็นทางและกระแทกเข้าใส่กรงเล็บทองคำจนเกิดเสียงดังลั่น
  ปัง!
  ฉิงเฟิงกับสิงโตทองคำต่างก็ถอยหลังคนละก้าวการปะทะครั้งนี้จบลงด้วยการเสมอกัน
  แม้ว่าสิงโตทองคำจะมีพลังในระดับจิตโลกาขั้นสูงสุดถึงเหนือกว่าฉิงเฟิงถึงสองขั้นย่อยแต่มันก็ยังไม่อาจล้มเขาได้มันประหลาดใจมาก
  “ในความคิดของฉันแกไม่ใช่ราชาสิงโตทองคำหรอก แต่ควรจะเป็นคิตตี้สีทองซะมากกว่าเพราะแกอ่อนแอมาก” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและเยาะเย้ยสิงโตทองคำ
  เขาทำเช่นนี้โดยมีเจตนาที่จะทำให้สิงโตทองคำหงุดหงิดและโจมตีเขาใกล้มากขึ้น ด้วยวิธีนี้มันจะอยู่ในระยะการทำงานของเจดีย์เขียวของเขา
  ฉิงเฟิงสามารถปล่อยเขตแดนยับยั้งของเจดีย์เขียวได้เพียง50 เมตรเท่านั้นเนื่องจากเขามีระดับพลังอยู่ในจิตโลกาขั้นกลาง เขายังไม่สามารถขยายรัศมีการโจมตีได้มากกว่านี้
  ในที่สุดเมื่อสิงโตทองคำหลงกลและเข้ามาใกล้พอฉิงเฟิงก็รีบหยิบเจดีย์เขียวออกมาและท่องคาถาทันที จากนั้นรัศมีสีเขียวสองสายก็ปรากฏขึ้นปกคลุมทั่วร่างของฉิงเฟิงและราชาสิงโตทองคำ
  ภายในรัศมีนั้นพลังของสิงโตทองคำถูกจำกัดและลดระดับลงสู่จิตโลกาขั้นกลาง
  “  หมัดที่สาม
  –
  สวรรค์พินาศโลกาสลาย
  !”
  ฉิงเฟิงชกหมัดที่สามของหมัดทลายนรกานต์ออกมาทันทีเมื่อกระทบถูกร่างของสิงโตทองคำ มันก็กลายเป็นฝนเลือดในพริบตา
  ปรากฏลูกปัดสีแดงหล่นลงมาจากท้องฟ้าฉิงเฟิงยื่นมือออกมาและคว้ามันไว้ในมือ
  ลูกปัดนี้มีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นและเปล่งประกายพวยพุ่งเหมือนเปลวไฟสีแดงที่คุกรุ่นมันคือแก่นอสูรของราชาสิงโตทองคำนั่นเอง แก่นอสูรเม็ดนี้บรรจุไว้พลังงานที่ทรงพลังจำนวนมหาศาล

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *