My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 829 ซวนเทียนจือ จ้าวนิกายเจ็ดล้ำลึก

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 829 ซวนเทียนจือ จ้าวนิกายเจ็ดล้ำลึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  วันต่อมาฉิงเฟิงตื่นแต่เช้าและขับรถไปที่เมืองเทียนจิงโดยมีหลินเสวี่ยและจางเหมียวชุนติดไปด้วย
  เดิมทีฉิงเฟิงไม่ต้องการให้หลินเสวี่ยมาด้วยเพราะเขาต้องการให้เธอพักผ่อนที่บ้านอย่างไรก็ตาม ในเมื่อเธอไม่ยอมฉิงเฟิงจึงต้องตามใจเธอ
  เมืองเทียนจิงเป็นหนึ่งในสี่เมืองใหญ่ของหัวเซี่ยซึ่งมีประชากรนับสิบล้านคนเศรษฐกิจกำลังเจริญรุ่งเรือง, ธุรกิจกำลังพัฒนาและที่สำคัญที่สุดคือมันเป็นที่ตั้งของทั้ง 4 นิกายที่แข็งแกร่งซึ่งมีสถานะสูงส่งในยุทธภพ
  ที่ตั้งของการแข่งขันวันนี้จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแพทย์ของเมืองเทียนจิงมันคือมหาวิทยาลัยแพทย์อันดับหนึ่งของประเทศ ทุกๆปีจะมีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมากมายที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนี้  วันนี้เป็นวันที่วุ่นวายโกลาหลมากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วประเทศต่างก็มารวมตัวกันที่นี่เพื่อรอชมการแข่งขันระหว่างเย่หยุนซันและหลี่ฉิงเฟิง มีทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไขข้อกระดูก, ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยา, นรีแพทย์, กุมารแพทย์และอื่นๆอีกมากมาย
  นอกเหนือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์สื่อ หนังสือพิมพ์ ช่องทีวีที่มาจากทั่วประเทศต่างก็มาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์และทำข่าวการแข่งขันในครั้งนี้
  เหตุผลที่มีฝูงชนมากมายมารวมตัวกันก็เป็นเพราะเย่หยุนซันนั่นเองเขาเป็นประธานสมาคมแพทย์ของประเทศและเป็นที่รู้จักกันดี ชื่อเสียงของเขาดึงดูดผู้คนได้มากมาย
  ในฝูงชนมีบางคนที่สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาแต่กลิ่นอายของพวกเขากลับเต็มไปด้วยพลังงาน คนเหล่านี้คือผู้ฝึกยุทธ์ที่มาจากนิกายต่างๆ
  ดูเหมือนว่าการแข่งขันนี้จะทำให้ผู้ฝึกยุทธ์โบราณจากนิกายต่างๆมารวมตัวกัน  เมื่อฉิงเฟิงและคนอื่นๆมาถึงมหาวิทยาลัยแพทย์ก็พบว่าลั่วหนี่ชิงมายืนรออยู่ที่ประตูแล้ว
  ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ผิวขาวใสดุจคริสตัล มันไร้ตำหนิแม้แต่จุดเดียว หน้าอกใหญ่และเรือนร่างที่อ่อนนุ่มทำให้เธอดูมีเสน่ห์อย่างสุดขั้วภายใต้ชุดเดรสสีแดงเข้ารูป
  เมื่อรู้ว่าวันนี้จะได้เจอฉิงเฟิงเธอใช้เวลาแต่งตัวมากขึ้นเป็นพิเศษเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเธอดูไม่ดีเล็กน้อยเมื่อเธอเห็นหลินเสวี่ยมาด้วย เธอไม่คิดว่าเขาจะพาภรรยามาด้วย
  “วูฟคิงการแข่งขันในวันนี้ดูเหมือนจะไม่ชอบมาพากล คุณต้องระวังให้มาก”
  ลั่วหนี่ชิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวเตือนฉิงเฟิง
  ฉิงเฟิงพยักหน้าเขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งจากผู้ฝึกยุทธ์ในหมู่ฝูงชน ผู้อ่อนแอที่สุดอยู่ในขั้นใต้สวรรค์และมีแกรนด์มาสเตอร์อย่างน้อยสามคน  แกรนด์มาสเตอร์บนโลกมีทั้งหมดเพียงแค่81 คน การที่ได้เห็นพวกเขาปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันถึงสามคนก็บ่งบอกว่าเหตุการณ์นี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
  ฉิงเฟิง,หลินเสวี่ยและจางเหมียวชุนเดินไปที่ห้องจัดการแข่งขัน ภายในห้องโถงผู้คนมากมายมารวมตัวกันอยู่แล้ว ในที่นั่งด้านหน้ามีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากทั่วประเทศ ส่วนที่นั่งอื่นๆโดยรอบเป็นเหล่ามหาเศรษฐี คนชั้นสูงและตัวแทนของขั้วอำนาจที่แตกต่างกัน
  “อาจารย์ไม่ได้พบกันเสียนาน ขาเป็นไงบ้าง ” ทันใดนั้นเสียงพูดเยาะเย้ยก็ดังขึ้น
  เมื่อหันไปมองข้างหลังพวกเขาก็พบชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปี ใบหน้าของเขาขาวและไร้หนวดเครา เขาสวมแว่นสายตากรอบทองพร้อมกับเชิดศีรษะขึ้น บ่งบอกถึงความเย่อหยิ่งและภาคภูมิใจในตัวเอง
  ชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเย่หยุนซันประธานสมาคมแพทย์ของประเทศ  เมื่อเห็นเขาใบหน้าของจางหยุนเหอก็เปลี่ยนไปและกล่าวออกมาอย่างโกรธเคืองว่า “ไอ้คนชั่วช้าสารเลว แกหักหลังฉันมานานหลายปีแถมยังไล่ฉันออกจากสมาคมแพทย์หัวเซี่ย แกแม้แต่เนรคุณอาจารย์ผู้สอนสั่งมาวางยาพิษฉัน !”
  “อาจารย์คุณไม่มีหลักฐานว่าผมวางยา แถมยังด่าทอผมเสียๆหายๆอีก ระวังผมจะฟ้องร้องคุณข้อหาหมิ่นประมาทนะครับ”
  “ไอ้คนทรยศวันนี้หลี่ฉิงเฟิงจะช่วยฉันเอาชนะแก ให้แกคุกเข่าขอขมาต่อหน้าฉัน!”
  “อาจารย์ทักษะการแพทย์ของหลี่ฉิงเฟิงนั้นอ่อนด้อยนัก ผมว่าคุณคงต้องผิดหวังเสียกระมัง” เย่หยุนซันแสยะยิ้มและมองฉิงเฟิงอย่างเย้ยหยัน
  “
  หึไอ้แก่หนังเหนียวคนนี้กล้าด่าคนอย่างฉัน หลังจากจบการแข่งขันวันนี้ฉันจะเก็บมันซะ อย่าคิดว่าจะได้ออกไปจากเมืองเทียนจิงง่ายๆ”   เย่หยุนซันคิดในใจอย่างโหดเหี้ยม
  ฉิงเฟิงสังเกตเห็นเย่หยุนซันและเข้าใจแผนชั่วของเย่หยุนซันทันที
  “เย่นหยุนซัน,แกทำตัวไร้ความเคารพอาจารย์ตัวเองแบบนี้ได้อย่างไร ไอ้คนเนรคุณคนที่แสนบัดซบเอ้ย” ฉิงเฟิงหันไปมองเขาและกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา เมื่อคนคนนี้เป็นศัตรู แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ไว้หน้า
  “หลี่ฉิงเฟิงสินะผมเคยเห็นคุณจากรูปถ่ายแล้ว คุณทำร้ายลูกชายของผมที่เมืองตงไห่และเอาชนะเย่จวินลูกพี่ลูกน้องของผม วันนี้ผมจะเอาชนะคุณต่อหน้าทุกคนทั่วประเทศและทำให้คุณต้องคุกเข่าต่อหน้าผม” เย่หยุนซันกล่าวด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น
  “ไอ้พวกชอบประตูหลังเอ้ยการแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า เลิกเสียเวลาเถอะ”
  ฉิงเฟิงโบกมือและเดินไปข้างหน้าโดยไม่สนใจเย่หยุนซัน
  บัดซบมันกล้าด่าฉันว่าคนเนรคุณ  เย่หยุนซันใบหน้ากลายเป็นเย็นชาและบิดกระตุก
  ทันใดนั้นเองชายสูงวัยคนหนึ่งก็เดินมาตรงหน้าเย่หยุนซันและกล่าวว่า“หยุนชัน คนๆหนึ่งที่เจ้าจะได้พบในวันนี้เป็นผู้ฝึกวิทยายุทธ จำการรักษาที่ข้าสอนไว้ให้ดี”
  “ขอรับท่านจ้าวนิกาย”การแสดงออกทางสีหน้าของเย่หยุนซันเปลี่ยนไปในพริบตาและกล่าวกับชายสูงวัยผู้นั้นด้วยความเคารพ
  ต่อหน้าผู้อาวุโสคนนี้เย่หยุนซันกลัวเกินกว่าจะพูดอะไรไม่ดีออกไปชายชราคนนี้คือจ้าวนิกายเจ็ดลึกล้ำ, ซวนเทียนจือ มันเป็นหนึ่งในนิกายชั้นหนึ่งในยุทธภพ เช่นเดียวกัน เขาทรงพลังอย่างมาก
  ในยุทธภพเองนิกายชั้นหนึ่งยังแบ่งออกเป็นหลายระดับระดับต่ำ กลาง สูงและสูงสุด
  เช่นเดียวกับนิกายหมัดเหล็กมันเป็นเพียงนิกายชั้นหนึ่งระดับสูงในขณะที่นิกายเจ็ดล้ำลึกนั้นอยู่ในระดับสูงสุด พวกมันทรงอำนาจกว่านิกายหมัดเหล็ก  ในยุทธภพซวนเทียนจือคืออันดับ 15 ของการจัดอันดับแกรนด์มาสเตอร์ทั้ง 81 ความแข็งแกร่งของเขายังนับได้ว่าห่างไกลจากเซวี่ยอู่เต๋าไม่น้อย ซึ่งในครั้งนี้เขาจะลงมือจัดการกับหลี่ฉิงเฟิงด้วยตัวเอง
  ……….
  การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นในห้องโถงใหญ่ของมหาวิทยาลัยแพทย์เมืองเทียนจิงและสามารถจุคนได้หลายหมื่นคน
  เนื่องจากเป็นการแข่งขันระดับชาติกรรมการทุกคนจึงเป็นที่รู้จักกันดี กรรมการทั้งสาม ได้แก่ คุณหนูแห่งตำหนักโห่วเย่อ ฉินเซียนจื่อ, จ้าวนิกายเจ็ดล้ำลึก ซวนเทียนจือและหัวหน้าตระกูลกู่ กู่เจิ้นเทียน
  เมื่อฉิงเฟิงได้เห็นว่ากรรมการคนแรกคือฉินเซียนจื่อเขาก็ดีใจไม่น้อยเพราะพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
  อย่างไรก็ตามความดีใจของเขาก็ลดลงทันทีเมื่อได้เห็นกรรมการคนที่สองและสาม  “
  บัดซบเย่หยุนซันคนนี้ทำตัวน่าเกลียดนัก มันเรียกซวนเทียนจือกับกู่เจิ้นเทียนมาเป็นผู้ตัดสิน
  ”
  ฉิงเฟิงพึมพำออกมาด้วยความไม่พอใจเห็นได้ว่าทั้งซวนเทียนจือกับกู่เจิ้นเทียนมีปัญหากับเขา ดังนั้นการแข่งขันครั้งนี้ย่อมไม่ยุติธรรมต่อเขาอย่างแน่นอน
  เมื่อหลินเสวี่ยเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของฉิงเฟิงเธอจึงถามว่า“คุณคะ เกิดอะไรขึ้น ”
  “ไม่มีอะไรผมแค่เห็นศัตรูสองคนเท่านั้น” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างสงบโดยไม่บอกเธอว่าใครคือศัตรูของเขา
  เขารู้ว่าหลินเสวี่ยติดตามเขามาที่นี่เพื่อเอาใจช่วยเธอไม่ได้รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับเรื่องของผู้ฝึกยุทธ์โบราณ ดังนั้นการจะบอกหรือไม่บอกเธอนั้นไม่ได้ต่างกัน วันนี้เขาคงต้องพึ่งพาตัวเอง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *