My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1055 บ้านอันอบอุ่น

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1055 บ้านอันอบอุ่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1055 บ้านอันอบอุ่น
  ไม่นานหลังจากที่ฉิงเฟิงและคนอื่นๆผละจากไป,อาวุโสสองคนในชุดแดงก็ปรากฏตัวขึ้น
  อาวุโสในชุดสีแดงทั้งสองคนนี้แข็งแกร่งมากพวกเขาทุกคนมีผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้าและไม่ใช่ชาวหัวเซี่ยอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาเป็นคนจากทวีปเสือ
  การแสดงออกของอาวุโสทั้งสองเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาเห็นสมาชิกร่วมนิกายตายเธอเป็นเพื่อนของพวกเขาและมีพลังแข็งแกร่ง เธอจะตายที่นี่ได้อย่างไร
  ผู้อาวุโสที่อยู่ทางซ้ายถามอีกคนหนึ่งว่า“ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ใดเป็นคนทำ ”
  อาวุโสทางขวาพยักหน้าแล้วตอบว่า“ข้าได้ติดตามกลิ่นของมนุษย์คนนี้แล้ว เลือดของมันช่างหอมหวลน่าอร่อยมาก มันกำลังมุ่งหน้าไปที่สนามบิน พวกเราไปจับมันกันเถอะ”   ฟุ่บฟุ่บ !!
  อาวุโสทั้งสองหายตัวไปจากที่เกิดเหตุทันทีราวกับสายฟ้าฟาดจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ปรากฏตัวที่เบื้องหน้าฉิงเฟิงและคนอื่นๆที่กำลังเข้าสู่สนามบิน
  “ชายชาวหัวเซี่ยเจ้าฆ่าคนของเราใช่หรือไม่ ” ผู้อาวุโสทางซ้ายกล่าวถามในขณะที่พวกเขาขวางทางไว้
  ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและพูดอย่างเมินเฉยว่า“ถ้าพวกแกหมายถึงสาวผมบลอนด์ก็ถูกต้องแล้ว ฉันฆ่าเธอเอง”
  หลังจากพวกเขาได้ยินสิ่งที่ฉิงเฟิงพูดดวงตาของผู้เฒ่าทั้งสองก็เริ่มเย็นชาลง
  “เด็กน้อยเจ้ากำลังรนหาที่ พวกเราจะฆ่าเจ้า !” ผู้เฒ่าทั้งสองคำรามออกมาในขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิงด้วยกรงเล็บอันแหลมคม
  เช้ง!
  ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองของเขาออกมาและเหวี่ยงมันออกด้วยมือขวาคมกระบี่ตัดผ่าคอของผู้เฒ่าทั้งสองในทันที เลือดของพวกเขาฉีดพุ่งและล้มลงกับพื้นกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ
  หลังจากที่ฉิงเฟิงสังหารสองผู้เฒ่าแห่งนิกายโลหิตไปแล้วกลุ่มของเขาก็ขึ้นเครื่องบินและมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองตงไห่
  เขาไม่ได้พบหลินเสวี่ยกับหลิวหรูหยานมานานแล้วเขาคิดถึงพวกเธออย่างสุดซึ้ง
  เครื่องบินเดินทางได้อย่างรวดเร็วและในหกชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงเมืองตงไห่กลุ่มฉิงเฟิงขึ้นเครื่องบินตอน 20.00 น. และตอนนี้เป็นเวลาตีสองแล้วที่เมืองตงไห่ ขณะนี้ในเมืองตอนกลางคืนดูเงียบสงบมาก แทบไร้ซึ่งผู้คนและร้านค้าก็ปิดกันหมดแล้ว
  ฉิงเฟิงให้ราชาอสูรมีดวายุ,ฮวาเซียนจือ,ฉินเซียนจื่อและลู่ซวนจี๋ไปพักที่โรงแรมในขณะที่ตัวเขาเองนั่งแท็กซี่กลับบ้านไปหาหลินเสวี่ยภรรยาของเขาที่Noble Palace
  ไม่นานหลังจากที่เขาลงจากรถแท็กซี่ฉิงเฟิงก็ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างในกางเกงของเขา (แสดงว่าตัวมันเล็กมาก) เมื่อเขามองลงไปก็เห็นลูกหมาดำตามเขามาด้วย
  “เฮ้ไอ้หมาน้อย ฉันกำลังจะกลับบ้าน แกตามฉันมาเพื่อ ” ฉิงเฟิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
  ลูกหมาดำฉลาดมากมันชี้อุ้งเท้าขวาไปที่คนขับรถแท็กซี่ เห็นได้ชัดว่ามีคนนอกอยู่รอบๆดังนั้นมันจึงไม่สามารถพูดอะไรได้
  ฉิงเฟิงพยักหน้าและชูนิ้วโป้งให้ลูกหมาดำเขาเพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ใน แดนต้องห้ามคุนหลุนอีกต่อไป ดังนั้นลูกหมาดำจึงไม่อาจพูดภาษามนุษย์ได้
  “ฉันพาแกกลับบ้านด้วยก็ได้แต่แกต้องสัญญาว่าจะทำตัวดีๆ” ฉิงเฟิงกล่าวเตือนลูกหมาดำและไม่สนใจมันอีกต่อไป
  แท็กซี่ขับเร็วมากและพวกเขามาถึงหน้าNoble Palace ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
  ฉิงเฟิงเดินลงจากรถแท็กซี่และเดินไปที่วิลล่าหมายเลข13 ยิ่งเขาใกล้ถึงวิลล่ามากเท่าใด ความกังวลของเขาก็ยิ่งมากขึ้น
  เขาจากเมืองตงไห่มาระยะหนึ่งแล้วและไม่ได้พบหน้าหลินเสวี่ยตลอดช่วงเวลาดังกล่าวเขาไม่รู้ว่าเธอกินได้นอนหลับหรือไม่
  แม้จะมีคำพูดนับพันที่เขาต้องการจะกล่าวฉิงเฟิงก็ยังต้องเก็บมันเอาไว้ ถนนแม้จะทอดยาว แต่มันก็ย่อมมีจุดจบ และในที่สุดฉิงเฟิงก็มาถึงวิลล่าหมายเลข 13
  มันเป็นเวลาตี3 แล้ว แต่แสงไฟภายในคฤหาสน์ก็ยังคงสว่างไสวอยู่ ซึ่งแสดงว่าหลินเสวี่ยยังไม่ได้เข้านอน
  หัวใจของฉิงเฟิงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเขาเห็นว่าเธอยังไม่นอนจนกระทั่งตีสาม
  หลินเสวี่ยเคยกล่าวไว้ว่าเธอจะไม่เข้านอนจนกว่าฉิงเฟิงจะกลับบ้านหรือว่าเธอรอเขาอยู่ตลอดเวลางั้นหรือ ฉิงเฟิงรู้สึกประทับใจในความคิดนี้มาก
  ฉิงเฟิงเคาะประตูคฤหาสน์ถึงแม้ว่าเขาจะเอากุญแจบ้านไปด้วย แต่มันก็หล่นหายไปในแดนต้องห้ามคุนหลุน ดังนั้นเขาถึงได้เคาะประตู
  ในเวลาเดียวกันหลินเสวี่ยนั่งอยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่น ใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเคยเย้ายวนใจ, ผิวขาวเนียนนุ่ม, จมูกโด่งเข้ารูปและริมฝีปากที่เย้ายวน ทั้งหมดนี้กลับหมองคล้ำและซีดเซียวดูเหนื่อยล้าจากรอคอยอย่างไม่รู้จบ มันเกิดจากการนอนไม่ค่อยหลับ
  ตลอดช่วงเวลาที่ฉิงเฟิงไม่อยู่หลินเสวี่ยนอนไม่หลับเลย เธอคิดถึงสามีของเธออย่างสุดซึ้งทุกช่วงเวลาและทุกวินาที เธอกลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาในแดนต้องห้ามคุนหลุน
  ในช่วงเวลาเหล่านี้หลินเสวี่ยไม่ไปทำงานด้วยซ้ำบางครั้งเธอก็ไปสวดภาวนาที่วัดเพื่อฉิงเฟิง ก่อนหน้านี้เธอไม่เชื่อในพระพุทธเจ้า แต่เพื่อความปลอดภัยของฉิงเฟิง ในที่สุดเธอก็เปลี่ยนใจเล็กน้อย
  มือที่อ่อนนุ่มของหลินเสวี่ยกำลังจับดินสอและสมุดโน๊ตที่หนาเตอะซึ่งเต็มไปด้วยภาพเหมือนของฉิงเฟิง
  ในบรรดาภาพเหล่านี้มีภาพตั้งแต่ครั้งแรกที่หลินเสวี่ยได้พบกับฉิงเฟิงที่สำนักทะเบียนราษฏร์เพื่อพูดคุยขั้นตอนการหย่าร้าง การพบกันครั้งที่สองเป็นสถานการณ์ที่พวกเธออยู่หน้าสถานีตำรวจ….
  และครั้งที่สามที่เธอพบกับฉิงเฟิงก็ถือที่ฝ่ายขายของบริษัทIce Snow ครั้งที่สี่เป็นฉิงเฟิงช่วยเธอจากกระสุนปืนในการลอบสังหาร จากนั้นก็ครั้งที่ห้า, หก, เจ็ด …
  สถานการณ์หลังจากนั้นเป็นช่วงเวลาที่วาบหวามอ่อนโยนระหว่างหลินเสวี่ยกับฉิงเฟิงไม่ว่าจะเป็นตอนที่ช้อปปิ้ง, รับประทานอาหารนอกบ้านด้วยกัน, ท่องเที่ยวชมวิวหรือตอนที่ฉิงเฟิงประกาศกร้าวต่อกรกับยอดยุทธ์ทั่วทั้งโลกเพื่อเธอ
  น้ำตาของหลินเสวี่ยไหลลงมาตามใบหน้าขาวนวลของเธอในขณะที่เธอนึกถึงความทรงจำอันแสนหวาน
  เธอกับฉิงเฟิงได้ผ่านประสบการณ์วุ่นวายทั้งดีและร้ายคละเคล้ากันไปมากมายจากความเข้าใจผิดในตอนแรกไปจนถึงความรักและความชื่นชมที่แบ่งปันให้แก่กันและกัน จนในที่สุดก็ก่อตัวเป็นความสัมพันธ์นี้ขึ้น มันแสดงให้เห็นถึงการทดสอบของเวลาและเพิ่มคุณค่าในทุกๆช่วงประสบการณ์ชีวิต
  ปังปัง ปัง !!!
  ในขณะที่หลินเสวี่ยกำลังจมอยู่กับความทรงจำเธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอก ใครกันที่มาเคาะประตูในยามนี้ !
  ดวงตาของหลินเสวี่ยเต็มไปด้วยความสงสัยเธอลุกขึ้นยืนและก้าวเท้าไปที่ประตูอย่างสง่างาม
  แน่นอนว่าเธอไม่ได้เปิดประตูทันทีเพราะตอนนี้ดึกมากแล้วและเธอก็ไม่รู้ว่าบุคคลภายนอกนั้นมาดีหรือมาร้าย เธอกระพริบตาคู่งามและมองผ่านช่องที่ประตู เธอตัวแข็งค้างทันทีเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงคือคนที่มาเคาะประตู
  หลินเสวี่ยเปิดประตูด้วยนิ้วมืออันเรียวยาวของเธอตาคู่งามของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างร่าเริงราวกับว่าเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เธอเห็น
  “ที่รักนั่นคุณจริงๆเหรอ” หลินเสวี่ยเผยอริมฝีปากสีแดงของเธอและถามด้วยเสียงสั่นครือ
  ฉิงเฟิงพยักหน้าแล้วพูดว่า“ใช่แล้ว ผมเอง”
  ฟุ่บ!
  หลินเสวี่ยโผเข้าสู่อ้อมแขนของฉิงเฟิงน้ำตาไหลลงผ่านใบหน้าอันงดงามของเธออย่างไม่อาจควบคุม เธอคิดถึงสามีอย่างสุดซึ้งตลอดเวลาทุกนาทีและทุกวินาที ในที่สุดเธอก็กลับมาอยู่ร่วมกับเขาอีกครั้ง
  “เอ้าอย่าร้องไห้สิ ถ้าร้องไห้คุณจะไม่สวยนะ” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างอ่อนโยนในขณะที่เขาเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของหลินเสวี่ย
  เขารู้สึกว่าข้างนอกอากาศเย็นดังนั้นเขาจึงกุมมือนุ่มนิ่มของหลินเสวี่ยและพาเธอเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *