My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 996 ความแข็งแกร่งทางจิตที่พรั่งพรู

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 996 ความแข็งแกร่งทางจิตที่พรั่งพรู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 996 ความแข็งแกร่งทางจิตที่พรั่งพรู
  การโจมตีทางจิตวิญญาณที่จ้าวจื่อรั่วและโจวหมิงใช้นั้นไม่ได้ทำให้เกิดเสียงใดๆหลังจากปะทะกันแม้ว่าทั้งคู่จะถอยหลังกันคนละก้าว
  โจวหมิงกระอักเลือดออกมาเต็มปากจนย้อมเสื้อผ้าของเธอเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
  โจวหมิงพ่ายแพ้ในการโจมตีทางจิตวิญญาณในรอบนี้ในขณะเดียวกัน สาวกหญิงคนอื่นๆก็สับสนอย่างมากเนื่องจากพวกเธอเห็นว่าจู่ๆโจวหมิงก็กระอักเลือดออกมาหลังจากที่เสียงขลุ่ยและเสียงกระดิ่งดังขึ้น
  การโจมตีทางจิตวิญญาณนั้นมองไม่เห็นและยากที่จะหลบเลี่ยงสาวกบางคนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นราวกับว่าพวกเธอได้สัมผัสกับการต่อสู้ในรูปแบบใหม่
  “รอบที่สองจื่อรั่วชนะ”ประมุขร้อยบุปผาประกาศผลออกมาอีกครั้ง  ผู้เข้าแข่งขันคนที่สามคือหลี่ย้งและคู่ต่อสู้ของเธอก็คือหวังซิยี้
  หลังจากการต่อสู้ในระยะเวลาสั้นๆผลลัพธ์ก็ออกมาพร้อมกับหลี่ย้งในฐานะผู้ชนะ
  จนถึงตอนนี้ฮวาเซียนจื่อ(ฉิงเฟิง),จ้าวจื่อรั่ว, หลี่ย้ง เป็นสาวกหญิงที่แข็งแกร่งที่สุดสามคนจากทั้งหกคน ซึ่งตำแหน่งนักบุญหญิงคนใหม่ของตำหนักร้อยบุปผาจะถูกเลือกจากทั้งสามคนนี้
  ฉิงเฟิงเริ่มจับสลากต่อเป็นคนแรกเพราะเขาชนะการต่อสู้ในรอบแรกเป็นคนแรกคู่ต่อสู้ของเขาก็คือจ้าวจื่อรั่ว หญิงสาวที่สวมกระดิ่งบนข้อมือซึ่งสร้างความเสียหายทางจิตวิญญาณอย่างมาก
  ฉิงเฟิงยืนอยู่บนเวทีในขณะที่ดูท่าทางจริงจังกว่าเดิมเขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการโจมตีทางจิตวิญญาณเลย สิ่งที่เขาฝึกฝนมาคือการบ่มเพาะพลังเท่านั้น
  จ้าวจื่อรั่วสั่นกระดิ่งบนข้อมือเล็กน้อยและปล่อยคลื่นเสียงสีเขียวมันเป็นการทำลายล้างที่มากพอที่จะเจาะสมองของฉิงเฟิงและทำลายจิตของเขา
  ฉิงเฟิงรู้สึกเหมือนสมองของเขากำลังจะแยกออกจากกันมันราวกับว่าจิตวิญญาณของเขาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เหงื่อเริ่มที่จะหยดลงมาตามใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา
  ฮวาเซียนจื่อเริ่มเป็นกังวลและกุมมือน้อยๆของเธอไว้แนบแน่นเมื่อได้เห็นฉิงเฟิงกำลังดิ้นรน
  ชุ่ยน้อยที่อยู่ข้างๆถามเธอว่า“คุณหนู หลี่ฉิงเฟิงได้รับบาดเจ็บ เราควรทำยังไงดีคะ !”
  ฮวาเซียนจื่อส่ายหัวและตอบอย่างไร้ทางออกว่า“นี่คือการประลองอย่างยุติธรรม ข้าไม่อาจทำอะไรได้เลยนอกจากเขาจะขอยอมแพ้”
  ฉิงเฟิงจะยอมแพ้หรือไม่ ไม่มีทางอย่างแน่นอน ! เขาไม่เคยยอมแพ้
  ตูม  !!
  ฉิงเฟิงได้ยินเสียงดังกึกก้องจากภายในจิตใจของเขามันราวกับว่าสมองของเขากำลังแยกออกจากกันในส่วนลึกภายใน แฟนท่อมมังกรทองกำลังคำรามออกมาจากลูกบอลทองคำในจิตของเขา นี่คือพลังวิญญาณจากมังกรเพลิง
  มังกรเพลิงซ่อนลึกอยู่ในจิตของฉิงเฟิงและจะไม่ออกมาจนกว่าเขาจะตกอยู่ในอันตราย
  มันอ้าปากออกมาในขณะที่กินพลังงานทั้งหมดจากการโจมตีทางจิตวิญญาณของจื่อรั่วและเปลี่ยนมันให้เป็นพลังงานทางจิตวิญญาณของมันเอง
  มังกรเพลิงเป็นหนึ่งในมังกรเทวะที่น่าเกรงขามที่สุดในโลกและยังคงเป็นมังกรเทวะอยู่แม้ว่ามันจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและเหลือเพียงเศษเสี้ยวิญญาณหลังจากสงครามครั้งใหญ่เมื่อหลายพันปีก่อน เป็นดั่งคำกล่าวที่ว่า อูฐผอมก็ยังใหญ่กว่าม้า ดังนั้นเพียงเสี้ยววิญญาณที่เหลืออยู่ของมันก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถทำลายการโจมตีทางจิตวิญญาณของจื่อรั่วได้
  แน่นอนว่ามังกรเพลิงไม่ได้กินพวกมันทั้งหมดทีเดียวมันทิ้งพลังงานส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณไว้ให้กับฉิงเฟิงด้วย
  หลังจากนั้นสมองของฉิงเฟิงก็ซึมซับพลังงานวิญญาณไปส่วนหนึ่งเขารู้สึกได้ถึงพลังงานทางจิตของเขาที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
  พลังงานทางวิญญาณนั้นมีแตกต่างกันไปหลายประเภทมันมีตั้งแต่ต่ำสุดไปถึงขั้นสูงสุด เริ่มจากระดับที่ 1 จนถึงระดับที่ 9
  ระดับแรกเป็นระดับต่ำสุดและระดับที่เก้าคือระดับที่สูงที่สุดนอกจากนี้แต่ละระดับยังแบ่งออกเป็นขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูง
  ยิ่งพลังวิญญาณระดับสูงเท่าใดมันก็ยิ่งโจมตีได้แรงขึ้นเท่านั้นและจะทำให้เจ้าของแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
  พลังวิญญาณดั้งเดิมของฉิงเฟิงนั้นเป็นเพียงแค่ขั้นต้นแต่ตอนนี้เขาได้พัฒนาเป็นขั้นกลางแล้วหลังจากได้ดูดซับพลังวิญญาณของจื่อรั่วที่มังกรเพลิงแบ่งไว้ให้
  “เจ้าหนูข้าจะสอนเคล็ดวิชาลับของพลังจิตให้ – เกลียวคลื่นวิญญาณ” มีเสียงของมังกรเพลิงดังขึ้นในใจของฉิงเฟิง
  “วิญญาณนั้นมีสถานะล่องหนเจ้าไม่อาจเห็นแต่มันก็มีอยู่ในรูปแบบที่ไร้ตัวตน เจ้าสามารถนำทางมันได้ด้วยเคล็ดวิชาลับทางจิตวิญญาณจากสมองของเจ้าและก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นวิญญาณ … ” มังกรเพลิงสอนฉิงเฟิงว่าวิชาเกลียวคลื่นวิญญาณใช้อย่างไร
  ฉิงเฟิงเข้าถึงวิชานี้ในเวลาไม่กี่วินาทีด้วยทักษะความเข้าใจอันเยี่ยมยอดตามธรรมชาติของเขาอย่างไรก็ตาม เขายังคงแสร้งทำเป็นบาดเจ็บเพื่อลวงให้จื่อรั่วตายใจ
  “หลี่ฉิงเฟิงเจ้าตกอยู่ภายใต้อำนาจของการโจมตีทางจิตวิญญาณของข้าแล้ว จงยอมแพ้ซะ” จื่อรั่วกล่าว
  ในขณะเดียวกันฉิงเฟิงได้เตรียมเกลียวคลื่นวิญญาณของเขาไว้แล้ว เขามองไปที่จื่อรั่วด้วยใบหน้าที่แปลกพิลึกและรอยยิ้มที่ขบขันในขณะที่คำนวณเส้นทางการเคลื่อนที่ของเกลียวคลื่นวิญญาณในใจเขา
  จื่อรั่วลดความระแวดระวังลงเนื่องจากเธอไม่สามารถรู้ได้ว่าฉิงเฟิงเรียนรู้การโจมตีทางจิตวิญญาณในระหว่างการต่อสู้ได้เธอไม่รู้ตัวเลยว่าอันตรายกำลังจะมาถึงเธอในไม่ช้า
  ฉิงเฟิงก่อตัวเกลียวคลื่นวิญญาณสีเขียวที่มีพลังวิญญาณในใจของเขามันเป็นการโจมตีทางวิญญาณอย่างรวดเร็วที่แทรกซึมเข้าสู่สมองของจื่อรั่วในพริบตา
  จิตวิญญาณของจื่อรั่วถูกทุบทำลายและฉีกขาดออกจากกันเธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่จิตวิญญาณของเธอได้รับความเสียหาย
  เธอไม่สามารถขยับตัวได้เนื่องจากพลังวิญญาณของเธอถูกขัดขวางอย่างรุนแรงดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยืนนิ่งๆอยู่กับที่  ปัง!
  ฉิงเฟิงพุ่งเข้าหาและเตะเข้าที่ก้นของเธอจนตกจากเวทีอย่างไม่ลังเลและไร้ความเมตตา
  ช่างหยาบคายนัก! สาวกหญิงทุกคนต่างก็ตกใจเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงเพิ่งทำอะไรลงไป ผู้ชายคนนี้โหดร้ายจริงๆ เขาเตะก้นศิษย์พี่ของพวกเธอจนตกจากเวที
  ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารนัก,จุดที่ฉิงเฟิงเตะนั้นต้องสร้างความเจ็บปวดให้เธออย่างมากแน่นอน เขามันช่างเป็นคนชั่วช้านัก !
  สาวกหญิงทุกคนโมโหกับพฤติกรรมของเขามาก
  ทำไมเขาถึงต้องเตะก้นเธอในเมื่อเตะส่วนอื่นก็ได้ จื่อรั่วจะทนอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร ?
  นอกจากเหล่าสาวกหญิงแม้แต่ชุ่ยน้อยก็ยังโมโหไม่น้อย”คุณหนู หลี่ฉิงเฟิงเตะก้นสตรีเช่นนั้นได้อย่างไร เขามันชั่วช้าเหลือเกิน” ชุ่ยน้อยบุ้ยปากบ่นกับฮวาเซียนจื่อด้วยความโกรธเคือง
  ฮวาเซียนจื่อยิ้มเจื่อนๆเธอก็ไม่รู้จะตอบชุ่ยน้อยอย่างไรต่อความหยาบคายของเขา เธอจึงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่ชุ่ยน้อยกล่าว
  จื่อรั่วยืนขึ้นหลังจากตกเวทีเธอเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและอับอาย ใบหน้าอันงดงามของเธอแดงก่ำเหมือนไวน์แดงด้วยความโกรธ
  “ไอ้บ้า! ไอ้คนชั่วช้าสารเลว ! เจ้ากล้าดียังไงถึงได้เตะก้นของข้า” จื่อรั่วด่าทอด้วยความโกรธในขณะที่ลูบก้นของเธอ เธออยากทุบตีคนสารเลวคนนี้อย่างมาก แต่เธอก็ต้องข่มใจไว้เพราะเธอไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะเขาได้
  เธอหน้าเสียไปครั้งหนึ่งเมื่อตระหนักได้ว่าเขาแสร้งทำเป็นบาดเจ็บและไม่รู้เคล็ดวิชาโจมตีทางจิตวิญญาณ
  “เจ้า…! เจ้ารู้วิชาโจมตีทางจิตวิญญาณนี่นา เจ้ามัน… คนหลอกลวง !!”
  จื่อรั่วตะโกนออกมาในขณะที่พยายามควบคุมอาการหงุดหงิดของเธอ
  ช่างเป็นผู้ชายที่ชั่วช้าเลวทรามนักเขาไม่เพียงแค่เตะก้นสตรี แต่ยังหลอกลวงเธออีกด้วย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *