My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1099 สยบโซวพั่วเทียน

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1099 สยบโซวพั่วเทียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1099 สยบโซวพั่วเทียน
  “หลี่ฉิงเฟิงแกกำลังหาที่ตาย !” โซวพั่วเทียนฉุนเฉียว แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
  เขาโบกหอกยาวในมือของเขาและแทงไปที่ฉิงเฟิงอีกครั้ง
  ครานี้เขาแสดงเคล็ดวิชาออกมา[หอกเกลียวใบมีดคู่] มันก่อให้เกิดเงาร่างของหอกสองเล่มและแทงไปที่ฉิงเฟิงอย่างรุนแรงสองครั้ง
  “
  หมัดที่สอง
  –
  ทลายภูผา
  !
  “
  ฉิงเฟิงใช้หมัดที่สองของเพลงหมัดทลายนรกานต์ออกมาแก่นพลังแท้ควบแน่นปรากฎเป็นภาพมายาของขุนเขาตระหง่านและทุบเข้าใส่โซวพั่วเทียน
  ภาพมายาขุนเขาบดขยี้จนทำให้หอกเกลียวใบมีดคู่โค้งงอและโจมตีจนโซวพั่วเทียนถอยหลังไปสองก้าว
  การถอยหลังถึงสองก้าวมันดูน่าอับอายยิ่งกว่าการปะทะกันครั้งที่แล้วเสียอีก!
  โซวพั่วเทียนโกรธเกรี้ยวยิ่งขึ้นเขาตระหนักได้แล้วว่าตนเองไม่อาจเอาชนะหลี่ฉิงเฟิงได้ง่ายๆด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพ หมอนี่เป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริงด้วยกายาอันทรงพลังและหมัดเปล่าๆที่สามารถทนทานต่อพลังทำลายของอุปกรณ์วิญญาณระดับครึ่งก้าวจิตราชัน
  “คาถาควบคุมสัตว์อสูร… ” โซวพั่วเทียนพยายามควบคุมราชันหมาป่าอัคคีเพื่อสั่งการให้มันไปโจมตีฉิงเฟิงอีกครั้ง
  โซวพั่วเทียนช่างไร้ยางอายมากเขารู้อยู่แล้วว่าราชันหมาป่าอัคคีถูกควบคุมโดยหลี่ฉิงเฟิงแล้วแต่ก็ยังบีบบังคับให้มันไปโจมตีอีกฝ่ายด้วยคาถาควบคุมสัตว์อสูร
  ราชันหมาป่าอัคคีอ้าปากส่งเสียงคำรามอย่างเจ็บปวดและกลิ้งลงบนพื้น
  เมื่อเห็นราชันหมาป่าอัคคีดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดความโกรธก็ปรากฎในดวงตาของฉิงเฟิง
  “
  อาวุโส
  มังกรอัคคีผมจะปลดตราประทับในจิตของราชันหมาป่าอัคคีได้อย่างไร
  ”
  ฉิงเฟิงสนทนากับมังกรอัคคีทางจิต
  “
  เจ้าหนูก่อนอื่นจงหยดเลือดลงบนฟูกจิตวิญญาณหยดหนึ่ง จากนั้นสยบเจ้าเด็กคนนั้นด้วยการโจมตีทางวิญญาณซะ สุดท้ายเจ้าก็แผดเผาผนึกราชันสัตว์ในจิตวิญญาณของราชันหมาป่าอัคคีอีกที  “
  มังกรอัคคีตอบ
  ดวงตาของฉิงเฟิงเปล่งประกายไปด้วยความโล่งอกเขากรีดนิ้วชี้และหยดเลือดหยดหนึ่งลงบนฟูกจิตวิญญาณ
  ฟูกจิตวิญญาณกลายเป็นลำแสงสีดำและพุ่งเข้ามาในจิตของฉิงเฟิง
  ในเบื้องลึกของห้วงจิตใจฟูกสีดำล่องลอยอยู่ที่นั่น, หมุนวนเหมือนโม่หินซึ่งขัดเกลาความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณของฉิงเฟิงและทำให้มันบริสุทธิ์ทรงพลังยิ่งขึ้น
  “
  ฟูกจิตวิญญาณนี้เป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแท้จริง
  !
  มันปรับแต่งพลังทางจิตวิญญาณของฉันหลังจากที่เข้ามาในห้วงจิตวิญญาณ”
  ฉิงเฟิงรู้สึกยินดีที่พลังทางจิตวิญญาณของเขาดีขึ้น  “
  เกลียวคลื่นวิญญาณคู่
  !
  “
  ฉิงเฟิงเปิดใช้งานพลังทางจิตวิญญาณของเขาและก่อตัวขึ้นเป็นเกลียวคลื่นวิญญาณสองสายที่พุ่งเข้าไปในจิตของโซวพั่วเทียน
  เคล็ดวิชาเกลียวคลื่นวิญญาณคู่นี้เป็นการโจมตีทางวิญญาณที่ทรงพลังมันเข้าสู่ห้วงจิตวิญญาณของโซวพั่วเทียนโดยตรงและฉีกขาดพลังวิญญาณของเขาออกจากกันทำให้อีกฝ่ายกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
  ถึงแม้ว่าโซวพั่วเทียนจะสามารถใช้อาคมในการควบคุมสัตว์อสูรได้แต่พลังทางจิตวิญญาณของเขาก็มีข้อจำกัด เขาใช้มันเกือบทั้งหมดในการควบคุมสัตว์อสูรไปแล้ว ดังนั้นส่วนที่เหลือก็ไม่ใช่คู่ต่อกรกับฉิงเฟิง
  “อะไรกันโซวพั่วเทียนพ่ายแพ้!! เป็นไปได้อย่างไร ”   “น่าตกใจมากเขาเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชัน เหตุใดถึงพ่ายแพ้ให้กับหลี่ฉิงเฟิง”
  “อั๊ย! ข้าว่าพวกเราคาดเดาผิดแล้ว หลี่ฉิงเฟิงผู้นี้ทรงพลังมิธรรมดา โซวพั่วเทียนไม่ใช่คู่มือของเขาเลย”
  ผู้คนรอบข้างต่างก็พูดคุยกันด้วยความตกใจในสายตาพวกเขารู้สึกว่าหลี่ฉิงเฟิงนั้นแข็งแกร่งและไร้คู่ต่อกรอย่างแท้จริง
  ในขณะเดียวกันฉิงเฟิงก็ฉวยโอกาสที่โซวพั่วเทียนได้รับบาดเจ็บและโจมตีเขาด้วยพลังวิญญาณอีกครั้งเพื่อทำลายตราประทับของสัตว์อสูรและช่วยเหลือราชันหมาป่าอัคคีจากการถูกควบคุม
  ราชันหมาป่าอัคคีได้รับอิสระหลังจากตราประทับถูกทำลายมันมาถึงเบื้องหน้าฉิงเฟิงและคุกเข่าลงพร้อมทั้งกล่าวด้วยความเคารพว่า “ขอบคุณนายท่าน”
  ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะไม่มีเคล็ดวิชาอาคมควบคุมสัตว์อสูรเช่นเดียวกับนิกายราชันสัตว์แต่ราชันหมาป่าอัคคีก็จดจำได้ดีว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นนายเหนือหัวของมัน เพราะเขาครอบครองสายเลือดแห่งวูฟก็อดภายในร่าง
  “ยืนขึ้น”ฉิงเฟิงยิ้มจางๆและบอกให้อีกฝ่ายลุกขึ้น
  เมื่อได้เห็นการที่หลี่ฉิงเฟิงเอาชนะโซวพั่วเทียนได้ไม่เพียงแค่คนรอบๆเท่านั้นที่ตกใจ แต่ยังรวมไปถึงจ้าวเกอควางนายน้อยแห่งนิกายกระบี่ราชัน, ปิงซีเยว่ธิดาเทพแห่งนิกายราชันเหมันต์, ฟู่โตวตี้นายน้อยแห่งนิกายราชันแห่งยันต์
  หลี่ฉิงเฟิงยังหนุ่มแน่นและทรงพลังเกินไปจนทำให้นายน้อยและนายหญิงของนิกายระดับราชันเหล่านี้ต่างก็หวั่นเกรง
  อีกด้านหนึ่งโซวพั่วเทียนมีสีหน้าซีดเซียวด้วยโลหิตที่หยดจากปากเนื่องจากอาการบาดเจ็บทางวิญญาณ
  เขามีสีหน้าบูดบึ้งและมองไปที่ฉิงเฟิงเขารู้ว่าตนเองไม่สามารถโจมตีได้อีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงพยายามสะกดข่มความโกรธกริ้วลง  แล้วคิดว่าเขาจะปล่อยวางเรื่องนี้หรือไม่ ไม่แน่นอน เขาตัดสินใจแล้วว่าจะให้โซวอู่หยา,พ่อของเขาจัดการกับหลี่ฉิงเฟิงเมื่อกลับมา
  “หลี่ฉิงเฟิงคุณแข็งแกร่งมาก คุณเอาชนะโซวพั่วเทียนได้จริงๆ”
  เชาเฟิ่งอู่มาถึงด้านข้างของฉิงเฟิงด้วยสีหน้าดีใจเธอยื่นนิ้วเพรียวบางออกมาและยกนิ้วให้กับเขา
  ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า“สมบัติชิ้นต่อไปที่พวกเราได้เป็นของคุณ”
  ฟูกวิญญาณที่ฉิงเฟิงได้มาในคราวนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเขาในการพัฒนาพลังวิญญาณทั้งหมดนี้ถือเป็นความดีความชอบของเชาเฟิ่งอู่
  เป็นเพราะเธอขอร้องแกมบังคับให้เขามาที่ภูเขาพยัคฆ์มังกรมันจึงทำให้เขามีโอกาสได้อุปกรณ์วิญญาณชิ้นนี้
  เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงใบหน้าที่อ่อนโยนของเชาเฟิ่งอู่ก็ยิ่งยินดี
  เธอมีพลังในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นสูงสุดและยังไม่ถึงขั้นจิตราชันหากเปลี่ยนเป็นเธอที่ต้องปะทะกับโซวพั่วเทียน เธอจะต้องแพ้อย่างแน่นอน แต่ฉิงเฟิงกลับเอาชนะเขาได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งฉิงเฟิงก็สามารถเอาชนะเธอได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน
  ในหน่วยความมั่นคงพิเศษเชาเฟิ่งอู่ได้ประเมินคุณค่าฉิงเฟิงไว้เป็นอย่างสูง แต่ตอนนี้หากคิดย้อนกลับไปเธอยังถือว่าประเมินเขาต่ำเกินไป ผู้ชายคนนี้เป็นดั่งสัตว์ประหลาดที่มักจะสร้างปาฏิหาริย์อยู่เสมอ
  ดราก้อนคิงมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนเขารู้สึกละอายใจกับพฤติกรรมของตนเองที่เพิ่งเกิดขึ้น
  เขาพยายามอย่างหนักเพื่อฝึกฝนบ่มเพาะหลังจากที่ได้รับเคล็ดวิชามาแต่ก็ทำได้เพียงทะลวงเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นสูงสุดเท่านั้น เขาท้าทายฉิงเฟิงที่หน่วยความมั่นคงพิเศษและเมื่อคิดย้อนกลับไปมันช่างน่าขายหน้าสิ้นดี
  โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาฆ่าเขามิเช่นนั้นเขาคงกลายเป็นเนื้อบดภายในหมัดเดียวหากฉิงเฟิงคิดจะทำ
  ในบรรดาคนเหล่านี้มีเพียงเย่หงตี้ที่เงียบสงบเธอรู้และมั่นใจอยู่แล้วว่าหลี่ฉิงเฟิงจะต้องชนะอย่างแน่นอน เธอมีความมั่นใจในตัวเขาเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์และไม่เคยสงสัย
  ฉิงเฟิงและนายน้อยแห่งนิกายทั้งสี่ล้วนเป็นผู้ฝึกตนในขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชันแต่กระนั้น พวกเขาก็ทำได้เพียงหยุดอยู่ที่ความสูง 500 เมตรบนภูเขา เนื่องจากมนต์ผนึกของที่นี่มีพลังมากเกินไป พวกเขาไม่สามารถขึ้นไปสูงกว่านี้ได้
  แต่ภายในระยะ500 เมตรนี้มีสมบัติมากมายอยู่แล้วโดยไม่จำเป็นต้องทำลายผนึกเพื่อขึ้นไปสูงกว่านี้ ดังนั้นฉิงเฟิงและคนอื่นๆจึงมองหาสมบัติกันต่อ
  “ดูนั่นสิ! มีสมุนไพรระดับครึ่งก้าวจิตราชันด้วย !” นายน้อยแห่งนิกายราชันยันต์, ฟู่โตวตี้ชี้ไปข้างหน้าและกล่าวด้วยความตื่นเต้น
  มีใบหญ้าสีเขียวตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา
  หญ้านี้มีสีเขียวอย่างสมบูรณ์พร้อมกับแสงที่เปล่งประกายและพลังงานที่รายล้อมมันมันคือสมุนไพรระดับครึ่งก้าวจิตราชันที่ถูกบันทึกไว้ในตำราสมุนไพรและศาสตร์ปรุงโอสถทั้งหลาย
  สมุนไพรวิญญาณทั่วไปจะไม่สามารถเปล่งพลังแท้ออกมาได้เช่นนี้เนื่องจากมันมีแก่นพลังแท้อยู่ภายในไม่มากนัก
  แต่สมุนไพรระดับจิตราชันนั้นต่างออกไปมันเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับราชาที่เปี่ยมไปด้วยพลังแท้อันมหาศาลอยู่ภายในจนแม้แต่เอ่อล้นออกมาบนพื้นผิว

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *