My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1205 กระดิ่งแสงจันทร์

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1205 กระดิ่งแสงจันทร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1205 กระดิ่งแสงจันทร์
  “เจ้าต้องการใช้ฝ่ามือและกระบี่ของข้าเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของเจ้างั้นหรือ เฮอะ ! หยุดฝันกลางวันได้เลย ข้าจะใช้การโจมตีทางจิตวิญญาณเพื่อฆ่าเจ้าแทน”
  สาวงามผู้นั้นกล่าวด้วยในขณะที่ยิ้มอย่างเยือกเย็นด้วยจิตสังหาร
  แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะสวยมากแต่คำพูดของเธอกลับเย็นชาและเย็นจับจิต เธอไม่คิดว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นภัยคุกคามเลยแม้แต่น้อย
  เธอแข็งแกร่งกว่าเขามากดังนั้นในใจของเธอจึงรู้สึกว่ามันง่ายมากที่จะฆ่าชายผู้นี้
  เธอหยิบกระดิ่งออกมาจากร่างมันเป็นกระดิ่งทรงกลมที่มีสีขาวและปกคลุมไปด้วยรอยจารึกสีขาว
  การแสดงออกของหลี่ฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้เห็นกระดิ่งนี้เขารู้สึกตัวสั่นเทาจากจิตวิญญาณและสัมผัสได้ว่ากระดิ่งนี้อันตรายยิ่งยวด
  ติ๊ง~
  สาวงามยื่นมือออกมาและสั่นกระดิ่ง
  เสียงที่ดังกึกก้องเปล่งพลังลึกลับที่ก่อให้เกิดคลื่นเสียงมันพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงเฟิงอย่างรวดเร็ว
  คลื่นเสียงนี้พุ่งมานี้มีรูปร่างเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวและพระจันทร์ก็เป็นเหมือนพระจันทร์จริงๆมันเย็นชา รุนแรงและมีกลิ่นอายโบราณคร่ำครึในขณะที่พุ่งเข้าหาหลี่ฉิงเฟิง
  การแสดงออกของชายหนุ่มกลายเป็นเคร่งขรึมเมื่อเขาเห็นดวงจันทร์ที่เป็นการโจมตีทางจิตวิญญาณ
  เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ทรงพลังขึ้นมากอีกทั้งดวงจันทร์นั้นก็ถูกสร้างขึ้นจากพลังงานทางวิญญาณของเธอ
  “คำรามสะท้านฟ้า!”
  หลี่ฉิงเฟิงอ้าปากกว้างและสะสมพลังวิญญาณจากนั้นมันก็รวมตัวกันเป็นรูปสิงโตที่พุ่งเข้าหาสาวงาม
  สิงโตของหลี่ฉิงเฟิงนั้นดูแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งกว่าดวงจันทร์มากนักอย่างไรก็ตามเมื่อสิงโตวิญญาณชนเข้ากับดวงจันทร์ มันก็แหลกเป็นชิ้น ๆ และหายไป
  หลี่ฉิงเฟิงก้าวถอยหลังและใบหน้าซีดเซียวเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าสิงโตวิญญาณของเขาจะพ่ายแพ้เช่นนี้
  นับตั้งแต่ที่เขาฝึกฝนราชสีห์คำรามแทบไม่มีผู้ฝึกตนคนใดที่เป็นคู่มือในการต่อสู้ทางจิตวิญญาณกับเขาได้เลย
  แต่วันนี้เขาได้พบกับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามแล้วเธอคือนักสู้จากดาวเคราะห์ดวงอื่นที่แข็งแกร่งกว่าทั้งร่างกายและพลังวิญญาณ
  เมื่อดวงจันทร์ที่ก่อรูปจากการโจมตีทางจิตวิญญาณเอาชนะสิงโตวิญญาณของหลี่ฉิงเฟิงได้แล้วมันก็พุ่งเข้าใส่ดวงจิตของเขาด้วยรัศมีอันน่าเกรงขามและบีบให้เขาต้องถอยหลังไปหลายก้าว  อ้ากกกกกก!!
  หลี่ฉิงเฟิงรู้สึกเจ็บปวดในสมองเขากุมมือไว้บนศีรษะด้วยความหวังที่จะลดทอนความเจ็บปวด แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
  มันไม่เพียงแค่ทำให้เขาปวดศีรษะเท่านั้นแต่เขายังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงจากรัศมีพลังอันเยือกเย็น
  ดวงจันทร์วิญญาณมีพลังมากเกินไปมันแข็งแกร่งกว่าธารน้ำแข็งพันปีเสียอีกและทำให้สมองของเขาเย็นจัด
  ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้เศษเสี้ยวจิตวิญญาณมังกรอัคคีก็ปรากฏขึ้นในใจของหลี่ฉิงเฟิง มันพ่นเปลวเพลิงวิญญาณที่ทำให้ดวงจันทร์วิญญาณละลาย
  ต้องพูดว่ามังกรอัคคีดูแลปกป้องหลี่ฉิงเฟิงเป็นอย่างดีจริงๆมันมักจะออกมาช่วยเขาในช่วงเวลาสำคัญเสมอ
  แต่ถึงแม้ว่ามังกรอัคคีจะดับดวงจันทร์วิญญาณในจิตของหลี่ฉิงเฟิงได้แล้วแต่เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี
  ใบหน้าของเขาซีดเซียวและรู้สึกไม่สบายตัว
  แข็งแกร่งผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว
  การแสดงออกของหลี่ฉิงเฟิงยิ่งกลายเป็นเคร่งขรึมมีประกายแห่งความหวาดกลัวและความตกใจแว๊บผ่านในแววตาของเขา
  ใช่เขาตกใจและเกรงกลัวผู้หญิงคนนี้
  ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตัว บางอย่างไม่ถูกต้องและไม่ควรเป็นเช่นนี้
  “บ้าเอ้ยทำไมคนอย่างฉันที่รบราฆ่าฟันไปทั่วโลกถึงต้องตกตะลึงและหวาดกลัว ฉันคือบุคคลที่ฟ้าลิขิตให้ขึ้นเป็นจักรพรรดิฟ้า ฉันจะกลัวเพียงแค่ผู้หญิงคนเดียวจากดาวเคราะห์เยวี่ยได้อย่างไร ?!”
  หลี่ฉิงเฟิงคาดเดาว่าความกลัวนี้เป็นผลจากกระดิ่งสีขาวนั่น
  กระดิ่งสีขาวนี้มีชื่ออีกอย่างว่ากระดิ่งแสงจันทร์มันมีชื่อเสียงอย่างมากบนดาวเคราะห์เยวี่ย
  มันสามารถเปล่งการโจมตีทางวิญญาณที่ระงับพลังงานทางจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้ได้มันจะเพิ่มความกลัวในใจของหลี่ฉิงเฟิง ทำให้เขาหวาดหวั่นและวิตกกังวลจนกระทั่งพ่ายแพ้
  หลี่ฉิงเฟิงรวบรวมพลังวิญญาณไว้ในใจอีกครั้งและใช้ราชสีห์คำรามอีกคำรบถึงแม้ว่าเขาจะบรรลุเพียงคำรามแรก แต่มันก็แข็งแกร่งเพียงพอที่จะต่อต้านความหวาดกลัว
  ทว่าเขาสามารถปิดกั้นมันไว้ได้เพียงห้านาทีเท่านั้นก่อนที่พลังวิญญาณของเขาจะถูกสะกดข่มอีกครั้ง
  เขาไม่คิดยอมแพ้เพราะมีความคิดในใจแล้วเขารวบรวมพลังงานวิญญาณขึ้นอีกครั้งก่อเกิดเป็นสิงโตวิญญาณเพื่อโจมตีอีกระลอก
  ด้วยการกระทำเช่นนี้ทุกครั้งที่สิงโตวิญญาณของหลี่ฉิงเฟิงถูกทำลาย เขาจะได้รับแรงกระแทกจากพลังวิญญาณซึ่งทำให้เขาเจ็บปวดและจิตวิญญาณได้รับบาดเจ็บ  อย่างไรก็ตามมันเป็นอาการเจ็บปวดที่ยังพอทนไหว ตรงกันข้าม เขากลับมีความสุขเสียอีกที่พบว่าการถูกโจมตีด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เขาสัมผัสถึงพัฒนาการบางอย่าง
  วิชาราชสีห์คำรามมีทั้งหมดเก้ารูปแบบซึ่งเขาบรรลุเพียงแค่รูปแบบแรกเท่านั้น
  เมื่อเวลาผ่านไปจากการทนรับการโจมตีจากกระดิ่งแสงจันทร์มันทำให้เขาเข้าใจเทคนิคมากขึ้น ตอนนี้ เขากำลังเรียนรู้คำรามที่สองแล้ว
  อย่างช้าๆหลี่ฉิงเฟิงสามารถสร้างสิงโตสองตัวขึ้นด้วยพลังวิญญาณของเขา นอกจากนี้สิงโตวิญญาณก็สามารถยืนหยัดต่อต้านดวงจันทร์วิญญาณได้นานขึ้นอีกด้วย
  ที่จริงแล้วเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากมังกรอัคคีได้ แต่เขาก็ไม่คิดทำเช่นนั้น
  เขารู้ว่ามังกรอัคคีสามารถเอาชนะสาวงามผู้นี้ได้ด้วยการโจมตีทางวิญญาณเพียงครั้งเดียว  แต่กระนั้นการยืมมือผู้อื่นเอาชนะคู่ต่อสู้จะทำให้เขาไร้ซึ่งการพัฒนา
  โฮกกกกโฮกกกกก !
  หลี่ฉิงเฟิงเปิดปากและใช้ราชสีห์คำรามอีกครั้ง
  คราวนี้เขาก่อร่างสิงโตวิญญาณสองตัวซึ่งวิ่งไปหาสาวงามผู้นั้นอย่างรวดเร็ว
  ดวงตาของสาวงามเปล่งประกายเย็นชาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
  เธอไม่ได้คาดคิดว่าชายหนุ่มผู้นี้จะสามารถสร้างสิงโตวิญญาณสองตัวได้ในเวลาอันสั้นอีกทั้งพลังงานวิญญาณของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว !
  สาวงามเพิ่มความรุนแรงของการโจมตีและทำให้ดวงจันทร์วิญญาณใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นจากนั้นมันก็วิ่งเข้าหาจิตวิญญาณของหลี่ฉิงเฟิงด้วยความพยายามที่จะทำลายสติสัมปชัญญะของเขา
  หลี่ฉิงเฟิงมีความสุขที่ได้เห็นการโจมตีที่ดุร้ายนี้เพราะมันจะเป็นประโยชน์ต่อพลังวิญญาณของเขามากขึ้น
  ในขณะที่พลังวิญญาณของเขาเริ่มแปรปรวนหลี่ฉิงเฟิงก็สามารถสร้างสิงโตวิญญาณสามตัวได้แล้ว !
  ใช่เขาสามารถสร้างสิงโตวิญญาณได้ถึงสามตัว !
  เมื่อมีถึงสามมันก็สามารถป้องกันการโจมตีของสาวงามไว้ได้เป็นครั้งแรกโดยครั้งนี้ดวงจันทร์วิญญาณไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับหลี่ฉิงเฟิงได้อีกต่อไป
  ถึงแม้ว่าดวงจันทร์วิญญาณนั้นจะทรงพลังแต่ราชสีห์คำรามของเขาก็ไร้เทียมทานเช่นกัน มันเป็นเคล็ดวิชาโจมตีทางจิตวิญญาณอันทรงพลังที่หลี่ฉิงเฟิงได้รับมา ซึ่งข้อได้เปรียบของวิชานี้ก็คือ ความแข็งแกร่งจะทวีคูณขึ้นตามจำนวนสิงโตวิญญาณแต่ละตัวที่ปรากฏออกมา !
  “ฮ่าฮ่า ฮ่า แม่นางคนสวย การโจมตีของเธอไร้ประโยชน์ต่อฉันแล้ว !”   หลี่ฉิงเฟิงหัวเราะอย่างโอหัง
  เขาต้องทนทรมานจากการโจมตีของเธอหลายครั้งหลายคราและจิตวิญญาณของเขาก็แทบจะดับสูญดังนั้นเมื่อบรรลุขีดขั้นการโจมตีทางจิตวิญญาณที่สูงขึ้น เขาย่อมดีใจเป็นธรรมดาและฉวยโอกาสเยาะเย้ยอีกฝ่าย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *