My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 685 หลุมฝังศพไร้นาม

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 685 หลุมฝังศพไร้นาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  หลุมฝังศพไร้นามอยู่ทางทิศเหนือย่านชานเมืองห่างจากตัวเมืองเทียนจินประมาณสามสิบไมล์มีหลุมฝังศพมากกว่าร้อยที่นั่น
  เนื่องจากหลุมศพเหล่านี้เป็นหลุมฝังศพของคนที่ไม่อาจระบุตัวตนได้(คนจรจัด) จึงไม่มีผู้มาเยือนที่นี่และไม่มีใครทำความสะอาดเป็นเวลานาน สถานที่แห่งนี้จึงถูกทิ้งร้างและมีหญ้าขึ้นสูงกว่าหนึ่งเมตร
  แน่นอนว่าถ้านี่เป็นแค่สถานที่ที่ถูกทิ้งแต่ยังมีคนอยู่บ้างก็อาจจะพวกพวกนายทุนกว้านซื้อนำไปพัฒนาเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือบ้านจัดสรรเนื่องจากมันมีพื้นที่กว้างใหญ่มากและจะนำมาซึ่งรายได้มหาศาล
  แต่ว่าสิ่งที่ทำให้สถานที่นี้ถูกทิ้งจริงๆก็คือความจริงที่ว่าที่นี่มีผี! ถูกต้องแล้ว คุณอ่านไม่ผิด ที่นี่ลือกันว่ามีผี
  มีเรื่องเล่ากันว่าในทุกๆวันเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนจะมีเสียงผีร้องโหยหวนที่นี่บางคนที่สูญหายไปในสถานที่แห่งนี้จะถูกพบเป็นศพในวันรุ่งขึ้น ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นไม่มีผู้ใดรู้เลย
  เนื่องจากเรื่องราวของผีที่เฝ้าอยู่ในบริเวณหลุมฝังศพไร้ชื่อรวมถึงความลึกลับและน่าหวาดผวาของสถานที่แห่งนี้ทำให้หลายคนไม่กล้าย่างกรายเข้ามาสุดท้ายก็ทำให้ที่นี่ถูกทิ้งรกร้างและเสียประโยชน์ไป
  เวลาตีสี่
  ฉิงเฟิงขับรถมาพร้อมกับราชาอสูรมังกรเขียวพวกเขาจอดรถไว้ไม่ไกลและเดินต่อไป
  “นายน้อยครับที่นี่แปลกๆพิกล คุณต้องระมัดระวังให้มาก” มังกรเขียวมองไปรอบๆด้วยความหวาดระแวงและกล่าวเตือนฉิงเฟิง
  “อะไร คุณเชื่อข่าวลือว่าที่นี่มีผีงั้นเหรอ ?” ฉิงเฟิงยิ้มและเดินต่อไปอย่างไม่ใส่ใจ
  พูดจากใจจริงเกี่ยวกับเรื่องเล่าของผีฉิงเฟิงไม่เชื่อแม้แต่น้อย นี่มันศตวรรษอะไรแล้ว ผีเผอบ้าบออะไรกัน ช่างไร้สาระสิ้นดี
  “นายน้อยครับที่นี่มันแปลกๆจริงๆ พวกเราต้องระวังตัว” มังกรเขียวกล่าวย้ำอีกครั้ง เขาเคยมาที่นี่มาก่อนและมีเรื่องเล่าหนาหู
  ฉิงเฟิงส่ายหัวและโบกมือให้มังกรเขียวเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องกังวลไปนักเขาเดินดุ่ยๆตรงเข้าไปด้านใน
  ~ฮือ…ฮือ….ฮือ …
  ฉิงเฟิงเดินมาได้ประมาณสิบเมตรก็มีร้องฮือๆ ดังออกมา เสียงนี้ดังโหยหวนราวกับภูติผีที่กำลังร้องไห้จากความเสียใจ
  “นายน้อยที่นี่มีผีจริงๆหรือครับ ” มังกรเขียวก็ได้ยินเสียงร้องไห้ที่น่าสะพรึงกลัว เขาตกใจจนใบหน้าซีดลง
  ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและกล่าวว่า“ไร้สาระ ! ไหนผี ออกมาเลย ต่อให้ผีมันมีจริงก็เถอะพ่อจะสับให้เดี้ยงเลย !”
  หลังจากพูดจบฉิงเฟิงก็เดินต่อไปข้างหน้าในทิศทางที่ได้ยินเสียงร้องไห้
  มังกรเขียวเห็นฉิงเฟิงเดินไปอย่างไม่หวั่นเกรงเขากัดฟันและเดินตามไป
  มีเศษก้อนกรวดอยู่ตามพื้นดินทำให้พื้นดินขรุขระนอกจากนี้ยังมีขวดแก้วและหินแหลมคม
  มีหลุมฝังศพมากกว่าร้อยหลุมที่นี่แต่ละหลุมตั้งอยู่ไม่ห่างกันมาก หลังจากผ่านไป 7-8 หลุม ฉิงเฟิงก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าสีขาวนั่งอยู่บนหลุมฝังศพที่เก้า
  ผู้หญิงคนนี้สวมชุดสีขาวบริสุทธิ์และผมของเธอปรกหน้ากระเซอะกระเซิงจนเห็นใบหน้าของเธอไม่ชัดเจนและร้องไห้เหมือนผี
  “โอ้พระเจ้า!!! ผีจริงๆด้วย !” มังกรเขียวร้องเสียงหลงด้วยความหวาดกลัว เขาเกือบจะหันหลังไปและวิ่งหนี
  ฉิงเฟิงก็ตกใจเช่นกันแต่เขาก็ไม่ได้กลัวเพราะเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของมนุษย์จากผู้หญิงชุดขาว ซึ่งหมายความว่าเธอยังมีชีวิตอยู่แต่แกล้งทำตัวเป็นผี
  ฉิงเฟิงเดินไปหาผู้หญิงในชุดขาวอย่างสงบนิ่งเขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
  เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของฉิงเฟิงเดินเข้าใกล้ผู้หญิงในชุดขาวก็รู้สึกประหลาดใจ เธอคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ชายหนุ่มคนนี้จะไม่ถูกหลอกจากการแกล้งทำเป็นผีของเธอ
  ผู้หญิงชุดขาวลุกยืนขึ้นพร้อมกับสะบัดผมและแลบลิ้นออกมาเตรียมจะหลอกฉิงเฟิงแต่เขาไม่ได้กลัวหรือหลงกลเธอ
  “หึเธอแกล้งทำเป็นผี” ฉิงเฟิงหัวเราะเยาะผู้หญิงคนนั้น
  ฮ่าห์!
  ฉิงเฟิงคำรามและเหวี่ยงกำปั้นขวาราวกับลมกระโชกแรงลมแรงเข้าหาผู้หญิงชุดขาวกำปั้นของเขากระแทกผู้หญิงคนนั้นลอยไปในอากาศและตกลงที่พื้นอย่างหนัก เธออ้าปากและกระอักเลือดคำโตออกมา
  “หน้าตัวเมีย! แกกล้าดียังไงมาทำร้ายชั้น !” ผู้หญิงชุดขาวพูดอะไรบางอย่างด้วยภาษาของเกาะแปซิฟิก ซึ่งภาษาจีนกลางที่เธอพูดในภายหลังนั้นก็ตะกุกตะกักไม่ค่อยชัด
  ผู้หญิงชุดขาวที่ถูกหมัดของฉิงเฟิงกระแทกนั้นก็เปิดเผยใบหน้าออกมาเธออายุประมาณยี่สิบปี ใบหน้าของเธอขาวใส ริมฝีปากบาง ดวงตาแคบยาวด้วยประกายที่เย็นชา
  คนจากเกาะแปซิฟิก (คนญี่ปุ่น)
  ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเขาไม่คิดว่าผู้หญิงในชุดขาวคนนี้จะมาจากเกาะแปซิฟิก แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือหลุมศพไร้นามที่เป็นอาณาเขตของนินจาจากเกาะแปซิฟิก มันก็เมคเซ้นส์ที่ผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่นั่น
  “นายน้อยผู้หญิงคนนี้เป็นคนจากเกาะแปซิฟิค ผมคิดว่าเสียงผีก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเทคนิคการหลอกหลอนที่ทำให้ผู้คนตกใจกลัว” มังกรเขียวเริ่มตระหนักได้ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรขณะที่เดินเข้าใกล้ฉิงเฟิง
  ฉิงเฟิงพยักหน้าและเดินไปหาผู้หญิงคนนั้นเขากล่าวว่า “บอกมา ห้องทดลองของราชานินจาอยู่ที่ไหน”
  “อย่าฝันชั้นไม่บอกแกหรอก !” ผู้หญิงชุดขาวจากเกาะแปซิฟิกแสยะยิ้มและหยิบเข็มสีดำออกมาโจมตีฉิงเฟิงทันที
  ลอบโจมตี! ผู้หญิงคนนี้กำลังพยายามที่จะโจมตีฉิงเฟิงทีเผลอด้วยเข็มของเธอ
  “นายน้อยระวัง!” ใบหน้าของมังกรเขียวเปลี่ยนไปและพยายามจะเตือนเขาด้วยเสียงดัง
  ฉิงเฟิงยิ้มอย่างไม่แยแสเมื่อเข็มกำลังจะถึงลำคอของเขา นิ้วมือของเขาทั้งสองนิ้วก็หยิบจับตัวเข็มได้ในทันที
  เขาจับเข็ม
  !
  ผู้หญิงจากเกาะแปซิฟิกเบิกตากว้างด้วยความตกใจชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวมาก เขาสามารถจับเข็มที่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วได้ด้วยสองนิ้ว
  ฉิงเฟิงออกแรงเล็กน้อยจากสองนิ้วและหักเข็มทิ้งโยนลงบนพื้นทันที
  จากนั้นเขาก็เดินเข้าหาผู้หญิงจากเกาะแปซิฟิกและหักนิ้วชี้ของเธอ
  คนโบราณกล่าวไว้ว่านิ้วทั้ง10 นิ้วมีส่วนเกี่ยวข้องกับหัวใจ เมื่อผู้หญิงจากเกาะแปซิฟิกถูกฉิงเฟิงหักนิ้ว เธอก็กรีดร้องอย่างน่าสังเวช เหงื่อไหลท่วมใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอ
  “บอกฉันมาว่าห้องปฏิบัติการอยู่ที่ไหน! ไม่งั้นฉันจะหักนิ้วเธอทีละนิ้ว !”
  ฉิงเฟิงกล่าวอย่างโหดเหี้ยมขณะที่กุมนิ้วต่อไปของเธอเธอเริ่มตัวสั่น ชายหนุ่มตรงหน้าเธอคือปีศาจ เธอรู้ว่าถ้าหากเธอไม่ยอมบอกเขา เขาต้องหักนิ้วทั้งหมดของเธออย่างแน่นอน
  เธอเป็นนินจาหญิงสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนินจาก็คือการเก็บรักษาความลับ เธอไม่สามารถบอกความลับของสมาคมได้แม้ว่าเธอจะต้องตายก็ตาม
  เธออ้าปากเล็กน้อยและพร้อมที่จะกัดพิษภายในไรฟันของเธอเพื่อหวังจะฆ่าตัวตาย
  “จะฆ่าตัวตายงั้นหรือ ไม่มีทาง” ฉิงเฟิงรวดเร็วดั่งสายฟ้า เขาอ้าปากของเธอออกและหยิบยาพิษที่ซ่อนอยู่ในปากของเธอออกมา
  เมื่อไม่นานนี้ซาโต้เพิ่งจะฆ่าตัวตายต่อหน้าเขา ฉิงเฟิงมีบทเรียนแล้ว คราวหน้าเขาจะไม่ยอมให้เธอฆ่าตัวตายกลบเบาะแสแน่นอน เขาต้องล้วงที่ตั้งของห้องทดลองของเหล่านินจาที่จับตัวราชาอสูรสิงโตไปให้ได้

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *