My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 954 การจากลา

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 954 การจากลา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  “แม่สาวน้อยเจ้าเป็นผู้หญิงของลูกชายข้า นี่คือการพบกันครั้งแรกระหว่างเรา รับคริสตัลนี้ไปซะ” ราชันผู้พิชิตกล่าวด้วยรอยยิ้มและมอบคริสตัลให้กับอลิซ
  คริสตัลไม่ใหญ่มากมันมีขนาดประมาณเท่าไข่ มันขาวเนียนดั่งหิมะและเปล่งแสงสีขาวออกมา
  เมื่อเห็นคริสตัลสีขาวชิ้นนี้ราชันกระบี่เนี่ยอู๋ซวงก็มองด้วยความอิจฉาเล็กน้อย บางทีคนอื่นอาจจะไม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าของมัน แต่เนี่ยอู๋ซวงรู้อย่างแน่นอน มันเป็นอุปกรณ์วิญญาณสายป้องกันระดับโลกา มันมีพลังในการป้องกันการโจมตีใดๆที่อยู่ในระดับต่ำกว่าขอบเขตจิตวิญญาณโลกา
  เมื่อเห็นสายตาที่แฝงความอิจฉาของราชันกระบี่ฉิงเฟิงก็รับรู้ทันทีว่ามันต้องเป็นสมบัติที่ล้ำค่ายิ่ง เขารีบพูดกับอลิซว่า “นี่คือของขวัญจากพ่อของฉัน เธอรีบรับมันไปเร็ว”   อลิซก็ไม่ใช่คนโง่จากปฏิกิริยาของฉิงเฟิงและเนี่ยอู๋ซวง เธอย่อมรู้ว่าคริสตัลนี้มีค่ามหาศาลอย่างแน่นอน เธอตอบรับอย่างรวดเร็วและกล่าวด้วยความเคารพว่า “ขอบคุณค่ะคุณลุง”
  “ฮ่าๆๆสาวน้อย อย่าเรียกข้าว่าลุงอีก เจ้าเป็นแฟนของลูกชายข้า เจ้าควรเรียกข้าว่า พ่อ”ราชันผู้พิชิตกล่าวพร้อมกับยิ้มให้อลิซ
  ใบหน้าของอลิซแดงก่ำในทันทีด้วยความเขินอายเธอรู้สึกเขินมากต่อคำพูดของราชันผู้พิชิต
  ฉิงเฟิงขมวดคิ้วขณะที่นึกขึ้นได้ถึงลู่เต๋าซางเขาถูกลักพาตัวมายังทวีปเสือพร้อมกับอลิซ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นร่องรอยของเขาแม้แต่น้อย
  “อลิซเธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้อาวุโสลู่เต๋าซาง ” ฉิงเฟิงรีบถามอลิซในทันที
  “จริงด้วย! ท่านนักพรตถูกขังไว้ในสมาพันธ์เทพนภา” อลิซกล่าว เสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล  ในเมื่อตอนนี้รู้ตำแหน่งของลู่เต๋าซางแล้วฉิงเฟิงก็หันไปหาออกัสตัสและกล่าวว่า “ปล่อยตัวผู้อาวุโสลู่เต๋าซางเดี๋ยวนี้ แล้วพวกเราจะออกไปทันที”
  ออกัสตัสมองหน้าฉิงเฟิงด้วยความขุ่นแค้นต่อคำขอเชิงออกคำสั่งของเขาออกัสตัสแข็งแกร่งกว่าฉิงเฟิงอย่างเทียบกันไม่ได้ แต่เนื่องจากการปรากฏตัวของราชันผู้พิชิต เขาจึงต้องยอมรับคำขอของฉิงเฟิงและข่มความไม่พอใจไว้ในใจ
  ออกัสตัสปลีกตัวเข้าไปที่ห้องแห่งหนึ่งและพาตัวลู่เต๋าซางออกมาจากนั้นเขาก็พูดว่า “ข้าพาตัวมันมาแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดรีบไสหัวไปซะ”
  ออกัสตัสรู้สึกขมขื่นและอับอายขายหน้าต่อเหตุการณ์ในวันนี้มากเขาเกลียดชังหลี่ฉิงเฟิงและคนอื่นๆมาก เขาอยากให้คนเหล่านี้ไสหัวไปให้เร็วที่สุด
  “ผู้อาวุโสท่านเป็นอะไรไหมครับ ” ฉิงเฟิงถามลู่เต๋าซาง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
  ลู่เต๋าซางส่ายหัวแทนคำตอบทันใดนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นราชันผู้พิชิตที่ยืนอยู่ข้างๆฉิงเฟิง เขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและถามขึ้นทันทีว่า “หลี่ซานเย่ ไม่ใช่ว่าเจ้ายังอยู่ในดินแดนต้องห้ามคุนหลุนหรอกหรือ เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร ?”
  “นี่เป็นเพียงอวตารของข้าร่างจริงของข้ายังติดอยู่ในนั้น” ราชันผู้พิชิตกล่าวอธิบาย นอกจากนี้เขายังแสดงสีหน้ามีความสุขที่ได้เห็นลู่เต๋าซาง สหายเก่าของเขา“
  จากนั้นเนี่ยอู๋ซวงก็เดินไปหาฉิงเฟิงและกล่าวเบาๆว่า“ฉิงเฟิง พวกเรารีบไปกันก่อนเถอะ”
  ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะไม่รู้ว่าทำไมเนี่ยอู๋ซวงถึงบอกให้เขารีบไปจากที่นี่แต่เขาไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวเนี่ยอู๋ซวงมาก เขาย่อมมีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงบอกกับทุกคนในทีมและรีบจากไปทันที
  แน่นอนก่อนที่เขาจะจากไปฉิงเฟิงยังเดินไปกล่าวขอบคุณโพไซดอนอีกด้วย เพราะชายคนนี้ออกหน้าช่วยเหลือเขาเอาไว้ก่อนที่พ่อของเขาจะมา
  เมื่อเห็นฉิงเฟิงและทุกคนเดินออกไปอย่างผ่าเผยออกัสตัสก็กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในกายเนื้อที่แข็งแกร่งของเขา เลือดไหลชุ่มลงบนพื้นตรงจุดที่เขายืน
  “ท่านพ่อพวกเราจะปล่อยมันไปง่ายๆเช่นนี้หรือ นี่ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี !”
  ออกัสตินคำรามอย่างเงียบๆน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
  “ลูกพ่อพ่อก็ไม่ได้อยากทำเช่นนี้ แต่พ่อของหลี่ฉิงเฟิง, ราชันผู้พิชิต แข็งแกร่งเหนือยอดฝีมือใดๆที่พวกเรามี เราต้องถอยก่อนก้าวหนึ่ง”
  “ท่านพ่อพวกเราจะต้องทนต่อความอัปยศนี้ไปตลอดชีวิตงั้นหรือ !”
  “ไม่มีทางลูกพ่อ ท่านซุสพระสังฆราชผู้ยิ่งใหญ่, ราชาเหนือสรรพสิ่งกำลังจะกลับมาไปกล่าวขอบคุณโพไซดอนอีกด้วย เพราะชายคนนี้ออกหน้าช่วยเหลือเขาเอาไว้ก่อนที่พ่อของเขาจะมา
  เมื่อเห็นฉิงเฟิงและทุกคนเดินออกไปอย่างผ่าเผยออกัสตัสก็กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในกายเนื้อที่แข็งแกร่งของเขา เลือดไหลชุ่มลงบนพื้นตรงจุดที่เขายืน
  “ท่านพ่อพวกเราจะปล่อยมันไปง่ายๆเช่นนี้หรือ นี่ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี !”
  ออกัสตินคำรามอย่างเงียบๆน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
  “ลูกพ่อพ่อก็ไม่ได้อยากทำเช่นนี้ แต่พ่อของหลี่ฉิงเฟิง, ราชันผู้พิชิต แข็งแกร่งเหนือยอดฝีมือใดๆที่พวกเรามี เราต้องถอยก่อนก้าวหนึ่ง”
  “ท่านพ่อพวกเราจะต้องทนต่อความอัปยศนี้ไปตลอดชีวิตงั้นหรือ !”
  “ไม่มีทางลูกพ่อ ท่านซุสพระสังฆราชผู้ยิ่งใหญ่, ราชาเหนือสรรพสิ่งกำลังจะกลับมาในอีกไม่นานนี้ ท่านมีพลังมากกว่าเทพแห่งแสง เมื่อท่านกลับมาพวกเราจะรวบรวมกองกำลังและบดขยี้โลกตะวันออกและแก้แค้นหลี่ฉิงเฟิง !”
  เห็นได้ชัดว่าฉิงเฟิงและราชันผู้พิชิตไม่ได้ยินการสนทนาของพวกเขาพ่อลูกแต่ถึงแม้จะได้ยิน พวกเขาก็ไม่กลัว โลกตะวันตกมีซุส แต่โลกตะวันออกมีเซียนปราชญ์และเทพของพวกเขาเอง เมื่อวันนั้นมาถึงจริงก็ไม่จำเป็นต้องกลัว
  ……………
  ฉิงเฟิงและทุกคนเดินออกจากมหาวิหารและกลับเข้าไปในโรงแรม
  ภายในห้องพักของโรงแรม
  “ท่านลุงเนี่ยทำไมท่านถึงบอกให้ผมรีบกลับมา ” ฉิงเฟิงถามด้วยความสงสัย ใจจริงแล้วเขาต้องการไถรีดค่าเสียหายจากสมาพันธ์เทพนภาตามสูตร แต่เขาก็ต้องรีบกจากมาเพราะคำพูดของเนี่ยอู๋ซวง  เนี่ยอู๋ซวงถอนหายใจและกล่าวว่า“ฉิงเฟิง พ่อของเจ้าเป็นเพียงร่างอวตารเช่นเดียวกับสันตะปาปา เขากำลังจะสลายหายไปในไม่ช้า หากพวกเรารั้งอยู่นานกว่านี้เจ้านั่นแหละที่จะเดือดร้อน”
  เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยอู๋ซวงฉิงเฟิงก็รู้สึกหดหู่และทุกข์ใจ พ่อของเขากำลังจะหายไปอีกครั้ง
  “พ่อพ่อจะจากผมไปจริงๆหรือ ” ดวงตาของฉิงเฟิงดูเศร้าสร้อย ถึงแม้ว่าเขาเพิ่งจะได้พบกับพ่อ แต่สายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็รุนแรงอย่างมาก เขาไม่อยากให้พ่อจากไปอีกครั้ง
  แววตาของราชันผู้พิชิตเต็มไปด้วยความอบอุ่นเขายิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ลูกชายเอ๋ย พ่อไม่ได้อยากจะจากเจ้าไป แต่ตอนนี้ร่างจริงของพ่อกำลังติดอยู่ในข่ายอาคมใต้หน้าผาในดินแดนต้องห้ามคุนหลุน พ่อรอวันที่เจ้าจะไปช่วยพ่อออกมาอยู่ตลอดเวลา หยุดสะอึกสะอื้นได้แล้ว เจ้าคือบุตรชายของราชันผู้พิชิตนะ !”
  ต่อหน้าคำพูดเชิงตำหนิของราชันผู้พิชิตฉิงเฟิงแววตาหนักแน่นขึ้น เขากล่าวอย่างมั่นคงว่า “พ่อไม่ต้องห่วง ผมสัญญาว่าจะพาพ่อออกมาให้ได้ !”
  “เจ้าลูกชายในดินแดนต้องห้ามมีผู้ฝึกตนที่ทรงพลังอย่างสุดขั้ว รับนี่ไว้ มันคือเคล็ดความแห่งดรรชนีผู้พิชิต ฝึกฝนมันให้ดี พ่อรอเจ้ามาช่วยอยู่นะ” ราชันผู้พิชิตกล่าวด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขายื่นม้วนสีเขียวหยกให้แก่ฉิงเฟิง
  ตัวอักษรขนาดใหญ่ที่เขียนคำว่า[ดรรชนีผู้พิชิต] ถูกจารึกไว้บนม้วนสีเขียวหยก มันเป็นเคล็ดวิชาการบ่มเพาะพลังที่ทรงพลังอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับสรรพวิชาที่ฉิงเฟิงมี มันสามารถพัฒนาได้
  หลังจากราชันผู้พิชิตมอบของขวัญให้ฉิงเฟิงเสร็จแล้วร่างอวตารของเขาก็จางลง ในที่สุดก็กลายเป็นแสงสีเขียวและหายไปในอากาศ  “พ่อรอผมก่อนนะ…..” เมื่อเห็นเงาร่างของพ่อเลือนหายไป ดวงตาของฉิงเฟิงก็มีรอยน้ำตา
  พ่อของเขาจากไปอีกครั้งหลังจากได้พบกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำมันทำให้ฉิงเฟิงรู้สึกโศกเศร้ามาก
  “ฉิงเฟิงอย่าเศร้าไปเลย พ่อของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว แต่ตอนนี้พวกเจ้าควรจะรีบออกจากทวีปเสือและกลับหัวเซี่ยโดยเร็วที่สุดก่อนที่พระสันตะปาปาและสมาพันธ์เทพนภาจะล่วงรู้ถึงการสลายไปของร่างอวรตารของพ่อเจ้า เมื่อพวกมันรู้ พวกมันย่อมบุกมาล้างแค้นเจ้าอย่างแน่นอน” เนี่ยอู๋ซวงปลอบใจและกล่าวเตือนสติฉิงเฟิงถึงวิกฤตที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ นี่คือสาเหตุที่เขาต้องการให้ฉิงเฟิงรีบปลีกตัวออกจากมหาวิหารโดยเร็วที่สุด
  ฉิงเฟิงพยักหน้าและเข้าใจทุกคำพูดของเนี่ยอู๋ซวงพวกเขาต้องรีบหนีและโดยเร็วที่สุดอีกด้วย หากปราศจากความคุ้มครองของราชันผู้พิชิต ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่สามารถรับมือกับพลังอันแข็งแกร่งของพระสันตะปาปาได้
  “ท่านลุงเนี่ยท่านจะกลับหัวเซี่ยพร้อมกับพวกเรามั้ยครับ ” ฉิงเฟิงถาม
  เนี่ยอู๋ซวงส่ายหัวและกล่าวว่า“ข้ายังไปกับเจ้าไม่ได้ ถ้ำว่างเปล่าลึกลับนั่นหายไปอีกแล้ว ข้าต้องหามันให้พบและกลับเข้าแดนต้องห้ามเพื่อหาพ่อเจ้าอีกครั้งโดยด่วน จากการที่เขาใช้พลังส่งร่างอวตารออกมานอกข่ายอาคมระดับราชัน เป็นไปได้สูงว่าพ่อของเจ้ากำลังเจ็บปวดจากการโจมตีของข่ายอาคมอยู่ เขาต้องได้รับบาดเจ็บอยู่อย่างแน่นอน”
  ทันทีที่เขาอธิบายเสร็จเนี่ยอู๋ซวงก็ลาจากฉิงเฟิงและออกเดินทางหาถ้ำว่างเปล่าลึกลับนั่นอีกครั้งทันที
  ส่วนฉิงเฟิงและพรรคพวกพวกเขาก็ไม่รีรอเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว เขารีบจองตั๋วเครื่องบินและกลับหัวเซี่ยในเวลาเดียวกัน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *