My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 693 แย่งชิงคัมภีร์เคล็ดวิชาตัวเบา

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 693 แย่งชิงคัมภีร์เคล็ดวิชาตัวเบา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  “วูฟคิงตระกูลลั่วของเราต้องการคนอย่างคุณ คุณสนใจเข้าร่วมกับเราหรือไม่คะ”
  ลั่วหนี่ซางเผยอยิ้มราวกับสุนัขจิ้งจอกร่างกายของเธอปลดปล่อยกลิ่นอายที่มีเสน่ห์ออกมา
  ดวงตาของฉิงเฟิงหดลงหัวใจเต้นรัวขึ้น นอกจากนี้ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นสีแดงเช่นกัน
  เป็นเพราะเขาอยู่ใกล้ชิดกับลั่วหนี่ซางเกินไปจนสามารถมองเห็นวงหน้าของเธอได้อย่างชัดเจนใบหน้าของเธอช่างละเอียดอ่อนราวกับดอกกุหลาบ ผิวของเธอขาวเนียนราวกับหิมะ ริมฝีปากของเธอเข้ารูปเหมือนลูกเชอร์รี่ ความงดงามที่ปรากฏต่อสายตาฉิงเฟิงทำให้เขาแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่จนอยากจะกดเธอในทันที
  ใบหน้าของเธอไม่ใช่สิ่งเดียวที่ดึงดูดฉิงเฟิงแต่เรือนร่างของเธอก็เซ็กซี่มากเช่นกันหน้าอกของเธอใหญ่เข้ารูป รอยแยกตรงร่องอกของเธอก็ทำให้ผู้คนหลงงมงายได้ไม่ยาก มันทำให้ฉิงเฟิงเลือดเดือดพล่าน
  เอวของเธอเพรียวบางสะโพกผึ่งผาย ขาเรียวยาว ร่างกายของเธอสมส่วนอย่างเพอร์เฟ็ค ราวกับถูกแกะสลักมาอย่างประณีตจากเทพธิดา
  “วูฟคิงเข้าร่วมกับตระกูลของเราสิคะ” เมื่อเธอได้เห็นแววตาของฉิงเฟิงที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลงงมงาย ลั่วหนี่ซางก็มีความสุข เธอพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวนและกล่าวชักจูงอีกครั้ง น้ำเสียงของเธอนั้นมีมนต์เสน่ห์ลึกลับแปลกๆ
  เมื่อฉิงเฟิงกำลังจะตกปากรับคำเธอจู่ๆพลังสายเลือดราชันหมาป่าก็ตื่นขึ้นและทำให้สติเขากลับมาแจ่มใสอีกครั้ง
  ดวงตาของฉิงเฟิงกลับมาชัดเจนและมองไปที่ลั่วหนี่ซางด้วยรูปลักษณ์ที่งงงวยเขาไม่คิดว่าเธอจะรู้จักวิชาการยั่วยวนและกำลังยั่วยวนเขา  “
  อย่าบอกนะว่าสายเลือดที่ตื่นขึ้นของเธอคือสายเลือดจิ้งจอก
  “
  ฉิงเฟิงเดาในใจ
  “เรื่องเข้าร่วมกับตระกูลคุณไว้ค่อยคุยกันวันหลัง”เมื่อสติของฉิงเฟิงกลับมา เขาก็ไม่รับเงื่อนไขของเธอง่ายๆแน่นอน
  เกี่ยวกับหญิงสาวที่มีเสน่ห์เช่นลั่วหนี่ซางฉิงเฟิงไม่อยากพูดอะไรมาก ดังนั้นเขาจึงสงวนท่าทีไว้ก่อน ไม่ตกลงและไม่ปฏิเสธ
  ตระกูลลั่วเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเทียนจิงพวกเขามีอิทธิพลมากและไม่ควรยั่วยุพวกเขาโดยไม่มีความจำเป็น
  ปัง
  !
  เมื่อทั้งสองคนกำลังพูดกันอยู่ก็มีเสียงดังขึ้นกลางห้องประมูลมันเป็นเสียงที่เกิดจากการเคาะบนโต๊ะ
  การประมูลเริ่มขึ้นแล้วมีหญิงสาวที่มีรูปร่างงดงามคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นไปกลางเวที ใบหน้าและร่างกายของเธอดูน่าสนใจ เธอสวยไม่น้อยทีเดียว
  “ดิฉันชื่อลั่วชุยชุยแห่งตระกูลลั่วยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลของตระกูลลั่วในวันนี้ค่ะ” ทุกอิริยาบถของลั่วชุยชุยทำให้ผู้ชายหลายคนหน้าแดงก่ำและตื่นเต้นมาก
  “สาวน้อยคนนี้ฉลาดมากเธอรู้วิธีขายของและเพิ่มมูลค่าสินค้า” ความฉลาดของลั่วชุยชุยทำให้ฉิงเฟิงประหลาดใจไม่น้อย
  ฝูงชนเริ่มกังวลเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปได้สักพักแต่ลั่วชุยชุยก็ยังไม่เริ่มการประมูลครั้งแรกเสียที
  “ลั่วชุยชุยเริ่มประกาศประมูลของชิ้นแรกได้แล้ว” ชายที่ถือดาบและสวมชุดกิโมโนกล่าว เขาคือฉีหลาง จิงกัง เป็นอีกหนึ่งราชันดาบแห่งเกาะแปซิฟิก  “ได้คะรายการแรกสำหรับการประมูลในวันนี้ก็คือวิชาตัวเบาขั้นเหนือสวรรค์ [ย่างก้าวผิวน้ำ] เคล็ดวิชานี้สามารถเรียนรู้ได้ง่ายมาก มันสามารถทำให้ท่านเดินบนผิวน้ำได้เช่นเดียวกับเดินบนพื้นหลังจากฝึกสำเร็จ” ลั่วชุยชุยประกาศ
  “หือ วิชาขั้นเหนือสวรรค์ [ย่างก้าวผิวน้ำ] ไอ้โง่คนไหนเอาของล้ำค่าเช่นนี้ออกขายสู่สาธารณะกันละนี่” ฉิงเฟิงร่ำร้องเบาๆ
  ในโลกของผู้ฝึกยุทธ์ในหัวเซี่ยเคล็ดวิชาไม่ควรเผยแพร่ไปสู่บุคคลภายนอก มันเป็นสมบัติของตระกูล มีเพียงสมาชิกของตระกูลเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้วิชาลับพวกนี้ได้
  แต่แน่นอนว่ามีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นำออกมาขายได้ ในบางครั้ง เวลาตระกูลผู้ฝึกยุทธ์ใหญ่ๆถูกโค่นลง วิชาลับต่างๆของพวกเขาก็จะถูกขโมยไป หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือมอบเคล็ดวิชาให้เป็นของขวัญ สถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้ยากมากแต่ก็เป็นไปได้ ตัวอย่างเช่นฉิงเฟิงสามารถฝึกเคล็ดวิชาจักรพรรดิยุทธ์จากการที่ลู่เต๋าซางมอบให้เป็นของขวัญ
  เคล็ดวิชาตัวเบา[ย่างก้าวผิวน้ำ] นี้ดึงดูดความสนใจจากฉิงเฟิงมาก เพราะเขายังไม่มีวิชาตัวเบา
  “ลั่วชุยชุยโปรดเปิดราคาเริ่มเร็วๆเลย” ใบหน้าของโยชิจิโร่แดงก่ำและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
  เขาฝึกวิชาดาบและต้องการวิชาตัวเบาเป็นอย่างมาก
  ลั่วชุยชุยยิ้มและบอกให้ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเธอนำแผ่นเงินแผ่นหนึ่งมาให้มันคลุมผ้าสีแดงไว้
  ลั่วชุยชุยยื่นมือออกไปดึงผ้าออกช้าๆ
  มีคัมภีร์สีดำวางอยู่บนจานอย่างเงียบงัน
  ตัวหนังสือบนหน้าปกเขียนไว้ว่า[ย่างก้าวผิวน้ำ] มันให้ความรู้สึกที่โบราณและลึกลับมาก
  “ราคาเริ่มต้นของเคล็ดวิชาย่างก้าวผิวน้ำอยู่ที่หนึ่งร้อยล้าน”ลั่วชุยชุยกล่าว  ไม่จำเป็นต้องกล่าวเลยราคาค่างวดของวิทยายุทธ์นั้นสูงมาก เพียงแค่วิชาเดียวก็มีราคาเริ่มต้นที่ร้อยล้านเข้าไปแล้ว
  “สองร้อยล้าน!” โยชิจิโร่ยืนขึ้นและเพิ่มราคาทันที
  ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นราชาดาบคนที่7 ของเกาะแปซิฟิกและเป็นส่วนหนึ่งของราชันดาบทั้ง 7 แต่วิชาตัวเบานี้ก็ดึงดูดใจมากจนเขาไม่อาจรักษาความสงบไว้ได้
  “สามร้อยล้าน!” ชายอ้วนคนหนึ่งยืนขึ้นและกล่าว
  โยชิจิโร่จ้องไปที่เขาและพูดด้วยความโกรธ“กัวซื่อเว่ย ! แกเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์อยู่แล้วจะเอาวิชานี้ไปทำไมกัน ”
  กัวซื่อเว่ยจ้องโยชิจิโร่กลับด้วยความชิงชังและกล่าวว่า“แล้วทำไม ก็ข้าชอบ ข้าพอใจจะทำ และข้าก็ไม่อยากให้แกได้มันไปไงเจ้าโง่ ฮ่าๆๆ”
  “พวกเขาทะเลาะกันอีกแล้ว”ฝูงชนเริ่มส่ายหัวพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นพวกเราเริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง
  โยชิจิโร่และกัวซื่อเว่ยมีชื่อเสียงในเมืองเทียนจิงก็เพราะพวกเขามักจะทะเลาะและต่อสู้กันในทุกครั้งที่มีการประมูลและวันนี้ก็เป็นเหมือนเดิม
  “สี่ร้อยล้าน!” ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังทะเลาะกันก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้น
  “ใครกล้ามาเสนอราคาแข่งกับข้าอีก!” โยชิจิโร่หันไปมองและเห็นชายสวมหน้ากากคนหนึ่งบอกราคาแข่ง
  คนๆนั้นก็คือเฮลคิงนั่นเองใบหน้าของเขาภายใต้หน้ากากนั้นเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและเขาไม่สนใจสายตาของโยชิจิโร่แม้แต่น้อย
  เมื่อเห็นว่าเป็นเฮลคิงที่เสนอราคาสีหน้าของโยชิจิโร่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่หลังจากพิจารณาอยู่ไม่นาน เขาก็นั่งลง
  ในแง่ของสถานะโยชิจิโร่ไม่ได้หวั่นเกรงเฮลคิงเพราะเขาเป็นหนึ่งในราชาดาบทั้ง 7 ส่วนเฮลคิงเป็นหนึ่งในคนของตำหนักโกสคิง พวกเขาทั้งคู่ต่างก็อยู่ในกองกำลังที่ทรงอำนาจในเหล่าผู้ฝึกยุทธ์
  แต่ที่นี่คือเมืองเทียนจิงซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของตำหนักโกสคิงมันคือถิ่นของพวกเขา โยชิจิโร่รู้ว่าถ้าหากมีเรื่องกับคนของตำหนักโกสคิง มันจะเป็นเรื่องยุ่งยากเปล่าๆ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *