My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1060 มุ่งหน้าช่วยเหลือราชาอสูรฉลามคลั่ง

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1060 มุ่งหน้าช่วยเหลือราชาอสูรฉลามคลั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1060 มุ่งหน้าช่วยเหลือราชาอสูรฉลามคลั่ง
  แก่นอสูรของราชาปลาหมึกยักษ์มีขนาดเท่ากับกำปั้นและมีขนาดใหญ่กว่าแก่นอสูรโดยทั่วไปเล็กน้อย
  ฉิงเฟิงวางแก่นอสูรไว้บนมือและโคจรพลังไปที่มันมันก่อตัวเป็นม่านปราการแสงสีดำรอบตัวเขาและปิดกั้นน้ำทะเลทั้งหมดที่สัมผัสเขา
  ฉิงเฟิงมีความสุขมากที่ได้รับแก่นอสูรก้อนนี้ตอนนี้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในทะเลและจะไม่ถูกขัดขวางด้วยแรงดันน้ำอีกต่อไป
  เขาเก็บแก่นอสูรไว้ในแหวนสีดำที่นิ้วแหวนสีดำนี้เป็นแหวนมิติซึ่งมีพื้นที่จัดเก็บถึงหนึ่งร้อยตารางเมตรที่เขาได้รับมาจากสุสานราชาวิญญาณ
  ฉิงเฟิงโผล่ขึ้นมาจากทะเลและปีนขึ้นไปบนเรือโดยสารหลังจากนั้นไม่นาน  ในขณะนี้ที่กลางเรือเกิดการต่อสู้ขึ้นฮวาเซียนจือและลูกหมาสีดำถูกล้อมไปด้วยนิกายกระบี่วิญญาณ
  จ้าวนิกายกระบี่วิญญาณมองฮวาเซียนจือและกล่าวอย่างเย็นชาว่า“มอบลูกหมาบัดซบตัวนั้นมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า !”
  ฮวาเซียนจือส่ายหัวและปฏิเสธ
  แสงเย็นเปล่งประกายออกมาจากดวงตาของเจียนซันเหอเขาวาดกระบี่อย่างเกรี้ยวกราด ปลดปล่อยพลังงานกระบี่เล็งไปที่ฮวาเซียนจือ
  ฮวาเซียนจือโคจรพลังในร่างกายของเธอและปลุกพลังบงกชดอกแรกในตื่นขึ้นในขณะที่เธอยกมือขวาขึ้นเล็กน้อยเธอก้าวไปข้างหน้าและรวบรวมพลังงานไว้ในฝ่ามือบงกชตบเข้าใส่พลังงานกระบี่ของเจียนซันเหอ
  เปรี้ยง
  !   พลังงานกระบี่และพลังฝ่ามือบงกชของฮวาเซียนจือหายไปในเวลาเดียวกันฮวาเซียนจือถอยหลังไปหนึ่งก้าว
  แม้ว่าฝ่ามือบงกชของฮวาเซียนจือนั้นจะทรงพลังแต่พลังบ่มเพาะของเธอก็อยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นต้นเท่านั้นส่วนอีกฝ่ายหนึ่งมีพลังในระดับจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นสูงสุดซึ่งเหนือล้ำกว่าเธอถึงสามขั้นย่อย การที่เธอไม่ใช่คู่มือเขาก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ
  ถึงแม้ว่าเจียนซันเหอจะสามารถผลักให้ฮวาเซียนจือต้องถอยออกไปได้แต่เขาก็ตกใจอย่างยิ่ง เขารู้ว่าระดับบ่มเพาะของเธอนั้นต่ำกว่าเขามาก ดังนั้นการที่สามารถรับการโจมตีของเขาได้นั้นจึงเป็นที่น่าประหลาดใจ
  เดิมทีเจียนซันเหอคิดว่าเขาจะสามารถฆ่าหรือทำให้ฮวาเซียนจือได้รับบาดเจ็บด้วยกระบวนท่าเดียวแต่มันทำได้เพียงให้เธอถอยไปหนึ่งก้าวเท่านั้น พลังฝีมือนับว่าเป็นที่น่าประทับใจ  ในขณะที่เจียนซันเหอชักกระบี่เตรียมพร้อมที่จะโจมตีอีกครั้งฉิงเฟิงก็มาถึงในเหตุการณ์พอดีและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฉวยโอกาสตอนฉันไม่อยู่ไปโจมตีเพื่อนของฉัน แกมันทำตัวน่าละอายเกินกว่าจะเรียกตัวเองว่าจ้าวนิกาย !”
  ใบหน้าของเจียนซันเหอเปลี่ยนไปทันทีที่เขาได้ยินเสียงของฉิงเฟิงมันนับเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวงสำหรับเขาที่ถูกชายหนุ่มรุ่นเยาว์ดูถูกในที่สาธารณะ
  เปรี้ยง!
  เจียนซันเหอเหวี่ยงกระบี่ของเขาและปลดปล่อยพลังงานกระบี่อันดุร้ายไปยังฉิงเฟิงเขาต้องการสำแดงพลังและสั่งสอนชายหนุ่มผู้นี้
  ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและจ้องมองอย่างเหยียดหยามเขาดึงกระบี่เพลิงคะนองออกมาต้านรับการโจมตีของเจียนซันเหอ แรงปะทะทำให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วเรือ
  กระบี่ทั้งสองเล่มนี้เป็นอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันดังนั้นจึงไม่มีฝ่ายใดทำลายอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
  ในเวลานี้จ้าวนิกายดาบฟ้าก็พูดขึ้นแทรกว่าอาจารย์ “พวกเจ้าทั้งสองคนหยุดมือได้แล้ว พวกเรากำลังจะไปถึงเกาะทองคำ ศัตรูของพวกเราคือสัตว์ร้ายในมหาสมุทร จัดการพวกมันเสียก่อนแล้วพวกเจ้าจะฆ่ากันให้ตายก็ตามสบาย”
  ไม่เพียงแค่เต๋าเจิ้นเทียนจากนิกายดาบฟ้าที่พูดเท่านั้นแม้กระทั่งซื่อหยินหยางจากนิกายศพนภาก็ยังกล่าวเสริมให้ทั้งสองฝ่ายหยุดมือ
  แน่นอนว่าคนเหล่านี้ล้วนกังวลว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์อาจจะทำให้เรือเสียหายได้
  หากเรือได้รับความเสียหายมันจะจมลงและทำให้พวกไม่สามารถมุ่งหน้าไปยังเกาะทองคำที่กลางมหาสมุทรได้
  เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉิงเฟิงและเจียนซันเหอจึงมองหน้ากันอย่างเย็นชา ในที่สุดพวกเขาก็เก็บกระบี่
  แน่นอนว่าพวกเขาทั้งคู่ยังคงมีเจตนาที่จะสังหารซึ่งกันและกันแต่จะต้องเป็นหลังจากพวกเขาไปถึงเกาะทองคำเสียก่อน
  ……………
  เกาะทองคำเป็นเกาะที่โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทรลึกและอยู่ไม่ไกลจากเกาะทมิฬซึ่งอยู่ห่างออกไปยี่สิบไมล์ทะเลที่น่าสนใจคือหินบนเกาะทมิฬนั้นเป็นสีดำทั้งหมดส่วนหินบนเกาะทองคำล้วนเป็นทองคำทั้งสิ้น
  ว่ากันว่าเมื่อยามที่เกาะทองคำปรากฏขึ้นบนมหาสมุทรเมื่อสิบวันก่อนมีบางคนเห็นสมบัติมากมาย สมุนไพรวิญญาณ เคล็ดวิชาบ่มเพาะและอุปกรณ์วิญญาณ
  โลกใบนี้เริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆจากความหายนะที่เกิดขึ้นในอดีตกาลในตอนที่มีผู้ฝึกตนจากมิติอื่นบุกมาปล้นชิงทรัพยากรทั้งหมดไป เริ่มจากการเปิดขึ้นของแดนต้องห้ามในเทือกเขาคุนหลุน สมบัติล้ำค่ามากมายเริ่มปรากฏขึ้นทั้งในทะเลและบนเกาะ  มันเป็นความจริงที่ในสมัยโบราณโลกใบนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมาก มันเป็นหนึ่งในสามพันดาราที่ทรงอำนาจที่สุด ต่อมามันกลายเป็นซากปรักหักพังเนื่องจากการรุมโจมตีจากดาวเคราะห์ดวงอื่น
  แม้ว่าลัทธิเต๋าและนิกายส่วนใหญ่ของโลกจะถูกทำลายสิ้นแต่ยังมีที่สามารถหลบซ่อนและเก็บตัวผ่านช่วงวิกฤตนั้นไปได้
  บรรดานิกายและหมู่เกาะบางแห่งที่หลบซ่อนในส่วนลึกของโลกและมหาสมุทรด้วยพิธีกรรมพิเศษบางอย่างเริ่มปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ
  ……
  ในเวลาอันสั้นเรือโดยสารก็พาทุกคนมาถึงที่เกาะทองคำ ทุกคนบนเรือต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความกระฉับกระเฉงเมื่อได้เห็นภาพเกาะทองคำ
  พวกเขาคาดหวังถึงความตื่นเต้นในการค้นหาขุมทรัพย์มากมายบนเกาะแห่งนี้มันทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นแรง  “พวกเราจะไปที่เกาะทมิฬก่อนหรือว่าเกาะทองคำก่อน” ขนตาเรียวยาวของฮวาเซียนจือกระพริบเล็กน้อยในขณะที่เธอถามความเห็นฉิงเฟิง
  เธอรู้ดีว่าราชาอสูรฉลามคลั่งยังคงถูกกักขังอยู่บนเกาะทมิฬแต่บนเกาะทองคำก็เต็มไปด้วยสมบัติมากมาย หากพวกเขาชักช้าอาจจะถูกนิกายอื่นแย่งชิงไปหมด
  “ไปที่เกาะทมิฬและช่วยฉลามคลั่งกันก่อนเถอะ”ฉิงเฟิงคลี่ยิ้มบางและตอบเธอ
  ถึงแม้ว่าสมบัติบนเกาะทองคำนั้นจะน่าดึงดูดใจมากแต่สำหรับฉิงเฟิงนั้น ราชาอสูรฉลามคลั่งสำคัญกว่า เพราะตอนที่ฉิงเฟิงมาถึงเกาะทมิฬเป็นครั้งแรก เขาคนนั้นก็ได้ช่วยชีวิตฉิงเฟิงเอาไว้
  เขาเคยลั่นวาจาไว้แก่ราชาอสูรฉลามคลั่งว่ายามที่เขาบรรลุขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์เมื่อใดเขาจะกลับมาช่วยอีกฝ่าย
  ฮวาเซียนจือพยักหน้าแววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม เธอรู้สึกว่าฉิงเฟิงเป็นคนดี เขาเต็มไปด้วยความรักและจริงใจต่อมิตรสหาย เขายอมวางมือจากสมบัติบนเกาะทองคำเพื่อช่วยพรรคพวกก่อนเป็นอันดับแรก
  เรือโดยสารจอดเทียบท่าที่เกาะทองคำดังนั้นฉิงเฟิงและพรรคพวกจึงต้องนั่งเรือเล็กต่อไปเองถ้าพวกเขาต้องการไปที่เกาะทมิฬ
  โชคดีที่มีเรือยางเหลืออยู่บนเรือโดยสารลำใหญ่ฉิงเฟิงจึงจ่ายเงินซื้อเรือยางกับกัปตันเรือ
  จากนั้นฉิงเฟิงฮวาเซียนจือ ลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าก็นั่งเรือยางและมุ่งหน้าไปยังเกาะทมิฬอีกครั้ง
  เกาะทมิฬอยู่ห่างจากที่เกาะทองคำเพียงยี่สิบไมล์ทะเลเท่านั้นดังนั้นฉิงเฟิงจึงเป็นคนควบคุมเรือด้วยตนเอง ในอดีตเขาเคยขับเครื่องบินและรถถังมาก่อน การขับเรือยางลำเล็กจึงเป็นเรื่องกล้วยๆสำหรับเขา
  ในเวลานี้มีสัตว์อสูรหลายตัวในมหาสมุทรแม้กระทั่งสัตว์อสูรที่ทรงพลังบางตัวอาจจะโผล่ขึ้นมาจากใต้ท้องมหาสมุทรด้วยซ้ำ
  ฉิงเฟิงรับรู้ได้ทุกสิ่งโลกใบนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงและอาจเป็นโอกาสอันดีโดยบังเอิญหรืออาจเป็นเหตุการณ์อันตรายก็เป็นได้
  หวือ!
  ทันใดนั้นเองสัตว์อสูรทะเลก็กระโจนออกมามันคืองูทะเลขนาดยักษ์ที่อ้าปากกว้างหมายจะกินพวกฉิงเฟิงเข้าไป

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *