My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 704 ตามหาหลินเสวี่ย

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 704 ตามหาหลินเสวี่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ฉิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาคิงคองเป็นคนแรกแม้ว่ามันจะเป็นเวลาตีหนึ่งแล้วก็ตาม
  “สวัสดีครับท่านปู่หลี่มีเรื่องอะไรหรือครับ ” คิงคองเลิกผ้าห่มออกรับสายฉิงเฟิงทันที เพราะเขารู้ว่าต้องมีเรื่องสำคัญมากฉิงเฟิงถึงโทรหาเขากลางดึก
  “คิงคองหลินเสวี่ยหนีออกจากบ้าน ฉันขอสั่งให้นายออกคำสั่งแก่ทุกคนในสมาพันธ์ฉิงเฟิงให้ตามหาเธอทุกซอกทุกมุมของเมืองตงไห่” ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องในครอบครัวของเขากับคนนอก แต่ชั่วโมงนี้เขาไม่อาจคิดเล็กคิดน้อยได้อีก
  คิงคองเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่านี่เป็นสถานการณ์เร่งด่วนมากเขากล่าวว่า “ท่านปู่หลี่อย่ากังวล ผมจะแจ้งทุกคน ทุกกองกำลัง ทุกพันธมิตรของเราทั่วทั้งเมืองตงไห่ให้ค้นหาพี่สะใภ้เองครับ”   หลังจากพูดจบคิงคองก็ลุกจากเตียงใส่เสื้อขึ้นและเดินออกไป
  ภรรยาของเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเธอลืมตาขึ้นและถามว่า “พี่คอง ดึกแล้วพี่จะไปไหนคะ หิมะตกหนักขนาดนี้ ”
  “ที่รักเธอกลับไปนอนเถอะนะฉันมีธุระสำคัญมากต้องไปทำ”
  “แต่…พี่คองคะ พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ลูกรอไปเที่ยวพร้อมกับพี่”
  “โทษทีนะฉันไม่มีเวลาแล้ว ฉันต้องรีบไปช่วยท่านปู่หลี่ก่อน” คิงคองโบกมือและเดินออกจากห้องนอนไปทันที
  ภรรยาคิงคองรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นสามีของเธอออกไปท่ามกลางหิมะเช่นนี้เขาให้ความสำคัญกับท่านปู่หลี่มากกว่าครอบครัว แม้กระทั่งผิดสัญญากับลูกชาย
  เธอรู้ดีว่าท่านปู่หลี่คนนี้เป็นดั่งพระเจ้าในใจของสามีไม่ต้องพูดถึงให้ช่วยจัดการธุระให้ แม้แต่ความตายสามีเธอก็คงไม่ปริปากบ่น  จากนั้นฉิงเฟิงก็โทรหาซูเมิ่งเหยาทันทีหลังจากวางสายคิงคอง
  โชคดีที่ซูเมิ่งเหยาอยู่เวรกลางคืนที่สถานีตำรวจพอดีดังนั้นเธอจึงรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
  “ว่าไงคิดถึงเหรอถึงโทรมากลางคืนขนาดนี้ ชั้นก็หลงคิดว่าคุณได้แล้วทิ้งซะอีก”
  ซูเมิ่งเหยารู้สึกขมขื่นเล็กน้อยครั้งที่แล้วเธอเป็นฝ่ายขึ้นค่อมเขาให้มีเซ็กส์กับเธอ หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันมากนักเนื่องจากความเคอะเขินและลำบากใจรวมถึงเหตุผลอื่นๆ
  ทันทีที่เห็นฉิงเฟิงโทรมาเธอก็มีความสุขมากแต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขาเธอความรู้สึกเธอก็เปลี่ยนในฉับพลัน
  “เมิ่งเหยาฉันมีเรื่องให้ช่วย หลินเสวี่ยภรรยาของฉันหนีออกจากบ้านไปและฉันคิดว่าเธออาจจะตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นฉันหวังว่าเธอจะช่วยฉันตามหาหลินเสวี่ยหน่อย”   ฉิงเฟิงกล่าว
  เขารู้ว่าซูเมิ่งเหยาเป็นหัวหน้าตำรวจแผนกอาชญากรรมและสามารถช่วยเหลือเขาในการค้นหาหลินเสวี่ยด้วยกองกำลังตำรวจที่เธอมี
  “เข้าใจแล้วชั้นจะส่งคนไปช่วยทันที” ซูเมิ่งเหยารู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องฉุกเฉิน เธอต้องรีบจัดการทันที
  ฉิงเฟิงรู้สึกว่าแค่นี้ยังไม่พอเขาต้องการคนช่วยหามากกว่านี้ เขาจึงโทรหานายกเทศมนตรีของเมืองตงไห่ทันทีหลังจากวางสายซูเมิ่งเหยา
  เขาเคยช่วยชีวิตพ่อของนายกเทศมนตรีไว้ที่โรงพยาบาลดังนั้นนายกฯถือว่าติดหนี้บุญคุณเขา นี่เป็นช่วงเวลาที่ฉิงเฟิงจะให้เขาใช้หนี้บุญคุณ
  ฉิงเฟิงเล่าเรื่องให้นายกฯฟังคร่าวๆและขอให้ช่วยตามหาภรรยาของเขาแม้จะเป็นกลางดึกแต่ถังเจียนกัวก็ตกปากรับคำทันทีโดยไม่ลังเลและเริ่มจัดเตรียมการค้นหา  กองกำลังทั้งบนดินและใต้ดินของทั่วทั้งเมืองตงไห่ต่างก็ระดมกำลังออกตามหาหลินเสวี่ย
  ท้องถนนที่ไร้ผู้คนในฤดูหิมะกลับกลายเป็นแออัดไปด้วยผู้คนในพริบตาเพียงเพราะการโทรศัพท์ไม่กี่ครั้งของฉิงเฟิงไม่ว่าจะเป็นบาร์ โรงแรม ร้านกาแฟและห้างสรรพสินค้าทั้งหมด !
  ทั่วทั้งเมืองตงไห่ต่างก็ตามหาผู้หญิงที่ชื่อว่าหลินเสวี่ย
  อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังไม่พบเธอหลังจากทำการค้นหาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ราวกับว่าหลินเสวี่ยระเหยไปในอากาศ
  ในขณะเดียวกันบ้านของหลินเสวี่ยก็แออัดไปด้วยบุคลสำคัญในช่วงกลางดึกนายกเทศมนตรีของเมืองตงไห่ หัวหน้าตำรวจซูเมิ่งเหยา พ่อตาหลินซื่อและแม่ยายมู่เสี่ยวหยุน
  “ฉิงเฟิงชั้นไม่ได้อยากจะซ้ำเติมเธอหรอกนะ แต่นี่เธอทำอะไรลงไป เธอทำให้เสวี่ยน้อยโมโหจนหนีออกจากบ้านทั้งๆที่ห่างจากวันแต่งงานอีกแค่ครึ่งเดือน ความรับผิดชอบของเธออยู่ไหน !” มู่เสี่ยวหยุนดูโมโหและไม่พอใจอย่างมาก
  มีคนกล่าวว่าลูกสาวเป็นดั่งดวงใจของแม่ความสำคัญของหลินเสวี่ยที่มีแต่มู่เสี่ยวหยุนก็เป็นดั่งที่กล่าว หลินเสวี่ยไม่ได้ชีวิตที่ดีเลยตั้งแต่แต่งงานกับฉิงเฟิงมา อุบัติเหตุจากศัตรูของฉิงเฟิงในงานแต่งงานครั้งก่อนก็เกือบจะทำให้เธอกลายเป็นผัก
  และคราวนี้หลินเสวี่ยก็หายตัวไปอีกหลังจากที่หนีออกจากบ้าน
  ไม่มีใครรู้จักลูกสาวดีไปกว่าคนเป็นแม่มู่เสี่ยวหยุนรู้ว่าหลินเสวี่ยจะไม่มีทางเป็นแบบนี้ถ้าไม่ใช่เธอโกรธหรือเสียใจอย่างสุดซึ้ง
  ฉิงเฟิงหน้าซีดลงและไม่ได้โต้เถียงอะไรออกมา
  เขาจะพูดอะไรได้ ไม่มีอะไรที่เขาสามารถโต้เถียงได้ เขาต้องเงียบและรับฟังเพราะมันเป็นความผิดของเขาทั้งหมด  “ฉิงเฟิงอย่าโทษชั้นที่ด่าเธอ แต่เธอลองมองออกไปข้างนอกสิ ตอนนี้ตีสองกว่าและเป็นช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตก เสวี่ยน้อยอยู่ข้างนอกคนเดียวอย่าว่าแต่เรื่องความปลอดภัยเลย เธออาจจะแข็งตายก็ได้ !
  หลินซื่อเริ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินมู่เสี่ยวหยุนยังคงด่าฉิงเฟิงไม่หยุดเขากล่าวว่า “พอได้แล้ว ! เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขาก็รู้สึกเศร้าเสียใจแค่ไหน !”
  “พอเหรอ เหอะ ! คุณไปมีเมียน้อยตอนเสวี่ยน้อยยังเด็กเพราะอยากได้ลูกชาย ตอนนั้นคุณก็ไล่เธอออกจากบ้านจนเธอเกือบจะแข็งตายวันในที่หิมะตกแบบนี้และ !”
  มู่เสี่ยวหยุนเริ่มพาลไปด่าหลินซื่อเข้าอีกคน
  ความจริงมู่เสี่ยวหยุนมักจะเกรงกลัวหลินซื่อมากและไม่กล้ามีปากมีเสียงกับเธอแต่ตอนนี้เธอด่าเขาต่อหน้าทุกคนเพราะโกรธจนหน้ามืดเรื่องที่ลูกสาวหายตัวไป
  “ที่รักมันเป็นความผิดของฉันเอง ปล่อยให้อดีตเป็นเรื่องอดีตเถอะ สิ่งที่สำคัญกว่าในตอนนี้คือการตามหาตัวเสวี่ยน้อย” ใบหน้าของหลินซื่อกลายเป็นกระอักกระอ่วน แต่ไม่ค่อยพอใจนักที่ถูกเปิดเผยเรื่องในบ้านต่อหน้าทุกคน แต่เขาก็ไม่กล้าเถียงเธอ
  “ชั้นจะหย่ากับคุณและปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวไปเลยถ้าหาตัวเสวี่ยน้อยไม่เจอ!”
  หลินซื่อเปิดปากเหมือนกับว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายเขาก็เงียบ
  คนอื่นๆไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรเมื่อเห็นหลินซื่อกับมู่เสี่ยวหยุนกำลังทะเลาะกันเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา
  เวลาผ่านไปแต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวของหลินเสวี่ยในเมืองตงไห่แม้แต่น้อย
  “ทำไมแค่คนๆเดียวพวกเราถึงหาไม่เจอสักที” มู่เสี่ยวหยุนเริ่มร้องไห้
  “อย่ากังวลนักที่รักเสวี่ยน้อยต้องไม่เป็นอะไร สวรรค์ย่อมคุ้มครองคนดี” หลินซื่อแตะไหล่ของมู่เสี่ยวหยุนเพื่อปลอบใจเธอ  ฉิงเฟิงล้มตัวลงบนโซฟาด้วยใบหน้าที่มืดมนเขาบีบถ้วยชาจนแตกบาดมือเลือดไหลก็ยังไม่รู้สึกตัวหรือเจ็บปวด ความเจ็บปวดในหัวใจของเขาเป็นอะไรที่มากกว่าความเจ็บปวดทางกาย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *