My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 844 เฮยอาวแห่งนิกายดาบทมิฬ

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 844 เฮยอาวแห่งนิกายดาบทมิฬ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  “คุณหนูฉินอะไรหอบคุณมาที่นี่ ” ฉิงเฟิงเดินไปที่ด้านหน้าของฉินเซียนจื่อและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
  เขามีความประทับใจที่ดีต่อสาวงามคนนี้มาโดยตลอด
  ใบหน้าที่งดงามของฉินเซียนจื่อเต็มไปด้วยความแปลกใจเมื่อเธอเห็นฉิงเฟิงเธอถามขึ้นว่า “วูฟคิง ทำไมท่านถึงมาอยู่บนเรือลำนี้ได้”
  “ทำไมละ ผมขึ้นเรือนี้ไม่ได้หรือไง ?”
  “อ่าไม่ใช่เช่นนั้น ท่านไม่รู้หรอกว่าบนเรือลำนี้เต็มไปด้วยยอดฝีมืองำประกายมากมาย ทุกคนต่างมุ่งหน้าไปยังเกาะทมิฬเพื่อแย่งชิงอุปกรณ์วิญญาณที่ปรากฏขึ้น ข้าเองก็เพิ่งทราบข่าวเมื่อไม่นานมานี้เอง”
  “อืม เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันกำลังวางแผนที่จะมุ่งหน้าไปยังเกาะทมิฬเหมือนกัน พวกเรามีจุดหมายที่เดียวกัน”
  ฉิมเซียนจื่อยิ้มเฉิดฉันเช่นกันและกล่าวว่า“วูฟคิง ข้าขอแนะนำต่อท่าน เหล่าคนที่นั่งโต๊ะแรกเป็นคนของศาลากระบี่ พวกเขาจัดว่าเป็นกองกำลังระดับซุปเปอร์และทรงอำนาจมหาศาล”
  “โต๊ะที่สองคือแกรนด์มาสเตอร์จากนิกายแวมไพร์กองกำลังนอกรีตที่แข็งแกร่ง”
  “ส่วนเด็กสาวที่นั่งโต๊ะที่สามนั้นมาจากตำหนักร้อยบุพผานิกายของพวกนางเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งซึ่งอยู่ก่ำกึ่งระหว่างธรรมะและอธรรม ท่านไม่ควรประมาทพวกนาง”
  ฉินเซียนจื่อไม่ต้องการให้ฉิงเฟิงถูกเอารัดเอาเปรียบเธอจึงบอกทุกอย่างที่เธอทราบให้เขาได้รับรู้
  ศาลากระบี่
  การแสดงออกทางสีหน้าของฉิงเฟิงแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขามองไปที่คนทั้งห้าคนที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่บนโต๊ะแรกทั้งห้าคนนั้นเป็นยอดมือกระบี่ที่เต็มไปด้วยรังสีกระบี่ที่แข็งแกร่ง
  เขาเหลือบมองอย่างไม่เป็นมิตรต่อคนของศาลากระบี่เมื่อรู้สึกได้ถึงการเหลือบมองของฉิงเฟิง ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำก็หันมามองฉิงเฟิงอย่างเย็นชาเช่นกัน
  ฉิงเฟิงเบือนหน้าหนีจากมือกระบี่วัยกลางคนผู้นั้นที่จ้องมองมาภารกิจที่สำคัญที่สุดของเขาตอนนี้ก็คือช่วยเหลือราชาอสูรสิงโตและราชาอสูรมังกรเขียว เขาไม่มีเวลาสั่งสอนบทเรียนให้แก่คนของศาลากระบี่
  จากนั้นฉิงเฟิงก็ตระหนักได้ว่าฉินเซียนจื่อพายอดฝีมือในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์มาด้วยหลายคนซึ่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ของเธอสมแล้วที่เป็นกองกำลังชั้นยอด ฉิงเฟิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวจากผู้อาวุโสคนหนึ่งในชุดคลุมเทา เขาอยู่ในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุดเลยทีเดียว
  ในระหว่างที่ฉินเซียนจื่อแนะนำฉิงเฟิงให้แก่คนของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ได้รู้จักก็มีเพียงไม่กี่คนที่เต็มใจพูดคุยกับเขา ซึ่งทำให้เขาอึดอัดเล็กน้อย
  “คุณหนูฉินขอบคุณมากที่บอกผมเกี่ยวกับเรื่องเกาะทมิฬ ดูเหมือนว่าผมคงต้องขอตัวไปก่อน” ฉิงเฟิงโบกมือลาและกลับไปหาคนของเขา
  ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องรั้งอยู่ร่วมโต๊ะกับคนของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ฉิงเฟิงสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าพวกเขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาสักเท่าไหร่
  ฉิงเฟิงรู้ว่าคนของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้นั้นเย่อหยิ่งจองหองมากยกเว้นฉินเซียนจื่อสหายของเขาเพียงคนเดียว
  “คุณหนูครับด้วยความเคารพ ข้าน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงได้บอกกล่าวเรื่องอุปกรณ์วิญญาณที่เกาะทมิฬแก่ชายหนุ่มผู้นั้น ” ผู้อาวุโสผ้าคลุมเทาขมวดคิ้วและกล่าวด้วยความไม่พอใจ
  เขาคืออาวุโสหนึ่งของตำหนักโห่วเย่อและไม่ใช่ตัวตนสามัญธรรมดาเขาติดตามฉินเซียนจื่อมาที่นี่เพื่อตามหาเบาะแสของอุปกรณ์วิญญาณตามข่าว
  ฉินเซียนจื่อถอนหายใจด้วยใบหน้าเศร้าสลดเธอรู้ดีถึงความเย่อหยิ่งของอาวุโสหนึ่ง เขาไม่เคยให้ความเคารพหรือนับถือผู้ใดนอกจากพ่อของเธอ
  “อาวุโสหนึ่งชายหนุ่มผู้นั้นคือวูฟคิง ชายที่สามารถสังหารหัวหน้าตระกูลกู่ กู่เจิ้นเทียน” ฉินเซียนจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้มและอธิบายออกมา หวังว่าอาวุโสหนึ่งของเธอจะให้ความเคารพแก่ฉิงเฟิงมากกว่านี้
  ผู้อาวุโสผ้าคลุมเทาขมวดคิ้วและกล่าวว่า“คุณหนูครับ พวกเราต้องรักษาระยะห่างจากเขาเพราะเขาสังหารกู่เจิ้นเทียน ท่านย่อมรู้ดีว่ากู่เจิ้นเทียนเป็นหนึ่งในสาวกของศาลากระบี่ และพลังอำนาจของศาลากระบี่ก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ของพวกเราแม้แต่น้อย”
  ฉิงเฟิงนั้นเป็นชายหนุ่มผู้มากด้วยพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้แต่ศาลากระบี่นั้นก็ดำรงอยู่มานานและแข็งแกร่งกว่า ดังนั้นอาวุโสผ้าคลุมเทาจึงไม่เห็นด้วยในความสนิทชิดเชื้อของคุณหนูและฉิงเฟิง
  ฉินเซียนจื่อขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจต่อคำพูดของอาวุโสหนึ่งเพราะเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเขาจนกระทั่งพัฒนาขึ้นเป็นความรู้สึกพิเศษบางอย่างตั้งแต่เหตุการณ์ที่สุสานราชายาทิพย์
  อาวุโสหนึ่งมีเจตนาไม่ดีต่อฉิงเฟิงแต่ไม่ใช่กับฉินเซียนจื่อ
  กลุ่มของฉิงเฟิงมานั่งโต๊ะตัวที่ห้าเพราะสี่โต๊ะแรกถูกจับจองไว้หมดแล้ว
  โต๊ะนั่งเหล่านี้ล้วนงดงามอย่างยิ่งพวกมันทำจากคริสตัลแกะสลักที่ส่องประกายอย่างงดงาม
  ร้านอาหารบนเรือโดยสารลำนี้หรูหรามากจนแม้แต่เหล่ายอดฝีมือในยุทธภพยังต้องเลือกมาใช้บริการที่นี่
  ทันใดนั้นเองกลุ่มชายชุดดำก็ตามเข้ามาแทบจะทันทีหลังจากพวกฉิงเฟิงนั่งลงพวกเขามีกัน 7-8 คน และสามารถพูดได้เลยว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาเมื่อดูจากใบหน้าสีแทนและกลิ่นอายอันทรงพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของพวกเขา
  ผู้นำเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ25 ปี เขาสะพายดาบใหญ่อยู่กลางหลัง เขานับได้ว่าแข็งแกร่งมากในช่วงอายุเท่านี้และดูเหมือนจะหยิ่งยโสมาก
  “พวกแกสะบัดตูดไปที่อื่นซะโต๊ะห้าเป็นของพวกข้า” ชายในชุดดำเดินไปหาฉิงเฟิงและกล่าวอย่างอุกอาจ
  ทุกคนในร้านอาหารแห่งนี้ต่างก็มีสถานะสูงส่งและมีพลังที่แข็งแกร่งดังนั้นชายชุดดำจึงเลือกพวกฉิงเฟิงเป็นเป้าหมายในการข่มเหงเพราะพวกเขาไม่กล้าไปหาเรื่องอีกสี่โต๊ะที่เหลือ
  ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่หยิ่งยโสแต่ก็ไม่ได้โง่จนไปหาเรื่องกับกองกำลังจากสี่โต๊ะแรกเขารู้ดีว่าคนเหล่านั้นแข็งแกร่งและทรงอำนาจเพียงใด แต่เขาไม่รู้จักกลุ่มของฉิงเฟิง มันจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาเลือกรังแกพวกฉิงเฟิง
  “ไอ้ห่า! แล้วแกเป็นใครละวะถึงมีหน้ามาบอกให้พวกข้าไปที่อื่น”
  เจ้าโล้นลุกขึ้นยืนทันทีและคำรามออกมาด้วยความโกรธกริ้ว
  เจ้าโล้นเป็นคนที่อารมณ์ที่สุดในทีมเขี้ยวหมาป่าส่วนใหญ่จะเป็นเขาที่เป็นฝ่ายไล่คนอื่นให้ลุกจากโต๊ะ ดังนั้นจะให้เขายอมเสียเชิงต่อชายชุดดำเหล่านี้ได้อย่างไร
  “เหอะไอ้โล้น ข้าคือนายน้อยของนิกายดาบทมิฬ เฮยอาว อย่าหาว่าข้าไม่เตือนแก ไสหัวไปซะ !” เฮยอาวกล่าวอย่างเย็นชาเย่อหยิ่งโดยไม่ไว้หน้าเจ้าโล้น
  นิกายดาบทมิฬ
  เจ้าโล้นเคยได้ยินเกี่ยวกับนิกายดาบทมิฬมาก่อนเพราะตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธ์โบราณแล้ว
  นิกายดาบทมิฬมีชื่อเสียงและอิทธิพลสูงมากในเหล่าผู้ฝึกยุทธ์
  เฮยอาวไม่เพียงแค่เป็นนายน้อยแห่งนิกายดาบทมิฬเท่านั้นแต่เขายังเป็นถึงแกรนด์มาสเตอร์อันดับที่ 39 ที่แข็งแกร่งมาก เขามีพลังในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นกลางและพาพรรคพวกมาที่นี่หลังจากได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์จิตวิญญาณบนเกาะทมิฬ
  โต๊ะในร้านอาหารแห่งนี้เป็นสิ่งที่แสดงถึงสถานะและมีเพียงผู้มีสถานะสูงเท่านั้นที่จะได้นั่งโต๊ะหน้าๆเฮยอาวต้องการสำแดงศักดาจึงต้องการโต๊ะจากพวกฉิงเฟิง
  “เฮ้ยยืนงงทำบ้าอะไรวะไอ้หัวล้าน ! แกได้ยินคำพูดของข้ารึเปล่า ? ไสหัวไปซะ”
  เฮยอาวเห็นเจ้าโล้นเอาแต่ยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเขาจึงด่าทอออกมาแต่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เจ้าโล้นเกลียดที่สุดก็คือการถูกคนที่ไม่สนิทเรียกว่าหัวล้าน แน่นอน เฮยอาวได้ไปเหยียบระเบิดลูกนี้เข้าแล้ว

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *