My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 1133 พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทะลวงสู่จิตวิญญาณราชันขั้นที่สอง

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 1133 พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทะลวงสู่จิตวิญญาณราชันขั้นที่สอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1133 พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทะลวงสู่จิตวิญญาณราชันขั้นที่สอง
  ฉิงเฟิงปรุงโอสถระดับราชันออกมาสามเม็ดเขามอบให้ปิงหยาเฟยและลูกหมาสีดำคนละเม็ด ยังเหลืออีกหนึ่งเม็ดให้ตนเอง
  เขาโยนโอสถเข้าปากในขณะที่นั่งลงไขว้ขาเมื่อเม็ดยาเข้าสู่ร่างกาย มันกลายเป็นกลุ่มก้อนพลังแท้ของมวลอัคคีที่วิ่งเข้าสู่ตันเถียนของเขา
  พลังแท้รอบๆหน้าท้องของเขายังคงหมุนวนและควบแน่นจนในที่สุดก็สร้างเครื่องหมายสองขีดบนแก่นวิญญาณของเขา
  ด้วยพลังแท้ที่มากขึ้นในตันเถียนคุณสมบัติของพลังงานก็เปลี่ยนไป
  เครื่องหมายสองขีดเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาได้มาถึงขอบเขตจิตราชันขั้นที่สองเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยความช่วยเหลือของโอสถระดับราชัน  เขาลุกขึ้นยืนและร่างกายของเขาก็ส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆมันคือเสียงการเสียดสีระหว่างกล้ามเนื้อและกระดูกของเขา
  “ปิงหยาเฟยเธอมากับฉัน พวกเราจะไปทวีปเสือกันต่อเลย” ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าวกับปิงหยาเฟย
  การเดินทางไปทวีปเสือของฉิงเฟิงนั้นก็เพื่อขโมยวารีแห่งชีวิตและจุดหมายของพวกเขาอยู่ทางทิศเหนือของทวีปเสือซึ่งก็คือสันตะสำนัก,สันตะปาปาแห่งทวีปเสือ อีกทั้งยังมีพระคาร์ดินัลเสื้อคลุมแดงที่ป่านนี้ระดับพลังของพวกมันน่าจะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล
  ฉิงเฟิงต้องการความช่วยเหลือและตอนนี้ปิงหยาเฟยก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
  ปิงหยาเฟยพยักหน้าและเห็นด้วยกับคำขอของฉิงเฟิง
  “เอาล่ะไปกันเถอะ” ฉิงเฟิงนำปิงหยาเฟย, ทีมเขี้ยวหมาป่า, งูกลืนฟ้า, ลูกหมาสีดำและราชาหมาป่าอัคคีออกจากนิกายราชันเหมันต์  อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงทิ้งปิงซีเยว่ไว้ที่นิกายราชันเหมันต์เนื่องจากนิกายต้องมีผู้ปกครอง ซึ่งเธอนับว่าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด
  ฉิงเฟิงเพิ่งออกไปได้ไม่ไกลนักก่อนที่พวกเขาจะถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มมนุษย์หิมะ
  ด้านหลังของมนุษย์หิมะเป็นสาวงามผู้หนึ่งเธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซียนหิมะนั่นเอง
  เธอหลุดจากพันธนาการของมังกรอัคคีได้และรีบรวบรวมกองกำลังเพื่อไล่ล่าเตรียมจะแก้แค้นฉิงเฟิง
  มนุษย์หิมะล้อมรอบทั่วทั้งภูเขาหิมะพวกมันคุ้นเคยกับภูมิศาสตร์แถวนี้ดี ดังนั้นพวกมันจึงได้สืบร่องรอยรู้ว่าพวกฉิงเฟิงมายังสถานที่นี้
  ทันทีที่ฉิงเฟิงและพรรคพวกก้าวออกมาจากนิกายราชันเหมันต์มนุษย์หิมะจึงได้รีบรายงานเรื่องนี้ต่อเซียนหิมะ
  หลังจากเธอทราบข่าวก็รีบนำมนุษย์หิมะทั้งหมดมาปิดล้อมฉิงเฟิง
  “หลี่ฉิงเฟิงวันนี้เจ้าไม่มีทางหนีออกไปจากภูเขาหิมะได้” เซียนหิมะหัวเราะอย่างเย็นชา
  แต่ฉิงเฟิงหัวเราะตอบอย่างบ้าคลั่งเมื่อได้ยินคำพูดของเซียนหิมะ
  หากเป็นก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาในภูเขาหิมะฉิงเฟิงย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ แต่ปัจจุบันเขาบรรลุจิตราชันขั้นที่สองแล้ว เขาไม่หวั่นเกรงเธออีกต่อไป
  “ปิงหยาเฟยเธอไปรับมือ เอาชนะหล่อนให้ได้แล้วพากลับมาหาฉัน” ฉิงเฟิงยิ้มบางและออกคำสั่งต่อปิงหยาเฟยที่อยู่ข้างหลัง
  ปิงหยาเฟยพยักหน้าด้วยความเคารพและเดินไปข้างหน้า
  “จ้าวนิกายราชันเหมันต์…. นี่เจ้าหมายความว่ายังไง ไฉนถึงได้เชื่อฟังชายคนนั้น” ใบหน้าสละสลวยของเซียนหิมะเต็มไปด้วยความสงสัย  ภูเขาหิมะใหญ่มีกองกำลังสำคัญสามกลุ่มก็คือนิกายราชันเหมันต์,นิกายภูเขาหิมะและป่าดึกดำบรรพ์
  เซียนหิมะเป็นหัวหน้าของกลุ่มป่าดึกดำบรรพ์ดังนั้นเธอจึงรู้จักปิงหยาเฟยเป็นอย่างดี พวกเธอทั้งสองครองดินแดนที่ต่างกันจึงไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันมากนัก
  อย่างไรก็ตามเมื่อตอนนี้เธอเห็นว่าปิงหยาเฟยถูกชายคนหนึ่งออกคำสั่งแถมยังกล้าโจมตีเธอ เซียนหิมะย่อมต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน
  “เซียนหิมะตอนนี้ข้าเป็นข้ารับใช้ของหลี่ฉิงเฟิง ดังนั้นแน่นอนว่าข้าต้องทำตามคำสั่งของเขา ข้าจะให้โอกาสเจ้า จะมัดตัวเองหรือให้ข้าทุบตี ”
  ปิงหยาเฟยกล่าวอย่างไม่แยแสในขณะที่กระพริบตา
  ข้ารับใช้
  การแสดงออกของเซียนหิมะเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้ยินคำพูดของปิงหยาเฟยเธอคิดไม่ถึงว่าปิงหยาเฟยจ้าวนิกายราชันเหมันต์ที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจจะกลายเป็นข้ารับใช้ของบุรุษคนหนึ่ง หากไม่ได้เห็นกับตาเธอคงไม่เชื่อ
  หลังจากที่รู้สึกช็อกในตอนแรกกลับกลายเป็นความโกรธเพียงแค่ปิงหยาเฟยกลายเป็นข้ารับใช้ของหลี่ฉิงเฟิงก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้อีกฝ่ายยังต้องการให้เธอมัดตัวเองอีก ช่างไร้สาระ!
  “ปิงหยาเฟยข้ากับเจ้ามีพลังในขอบเขตจิตราชันขั้นสองเท่ากัน ข้าขอชมหน่อยเถอะว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะข้าได้อย่างไร” เซียนหิมะกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชาและแสดงออกอย่างภาคภูมิใจ
  ปิงหยาเฟยไม่สนใจเรื่องเสียงหัวเราะเยือกเย็นของเซียนหิมะเพราะเธอมาถึงจิตราชันขั้นที่สามจากความช่วยเหลือของฉิงเฟิง
  สิ่งที่น่าเศร้าก็คือเซียนหิมะผู้นี้ไม่รู้ว่าเธอบรรลุขั้นที่สามแล้วแถมยังคุกคามเธออีก เธอสมควรโดนทุบตี
  “ท่านเซียนหญิงจงเจริญ! กำหราบปิงหยาเฟยเลยขอรับ”
  “เอาเลยครับท่านเซียนให้นิกายราชันเหมันต์ได้รู้ถึงพลังของชาวป่าดึกดำบรรพ์ของเรา”
  “ท่านเซียนพวกเราทุกคนสนับสนุนท่าน !”
  ผู้คนรอบๆต่างพูดคุยกันอย่างไม่หยุดแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในขณะที่ส่งเสียงเชียร์เซียนหิมะของพวกเขา
  ตูม
  !!
  ปิงหยาเฟยแค่นเสียงเยาะเย้ยต่อหน้าทุกคนในขณะที่พลังอันแข็งแกร่งเริ่มไหลออกจากร่างของเธอพลังขุมนี้ทะลุผ่านก้อนเมฆและสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณจนทำให้หิมะหลุดร่วงจากต้นไม้มากมาย
  “จิตวิญญาณราชันระดับสาม….! นี่เจ้ามาถึงขั้นนี้แล้ว ?”
  เซียนหิมะรู้ว่าปิงหยาเฟยติดคอขวดอยู่ที่จิตราชันขั้นที่สองมานานแล้วเนื่องจากพลังน้ำแข็งที่เป็นพิษในร่างกายของเธอและเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทะลวงผ่านเว้นเสียแต่ว่าจะขจัดพิษน้ำแข็งให้หมดก่อน
  แต่ตอนนี้ปิงหยาเฟยกลับก้าวหน้าไปอีกขั้นมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
  เซียนหิมะรู้สึกสับสนและตกตะลึง
  ปิงหยาเฟยเผยอยิ้มเมื่อเห็นอาการตกใจของเซียนหิมะทั้งหมดนี้เธอต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากฉิงเฟิง
  “
  กระบี่วิญญาณเยือกแข็ง
  !
  “
  ปิงหยาเฟยชักกระบี่ออกมาและพุ่งเข้าหาเซียนหิมะในพริบตา  พลังงานกระบี่ก่อตัวเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่มันใหญ่เป็นสองเท่าของพลังกระบี่ที่เธอใช้ก่อนหน้านี้ มันเจาะผ่านอากาศและพุ่งไปที่เซียนหิมะ
  สีหน้าของเซียนหิมะเปลี่ยนไปเธอปรบมือเข้าหากันทันทีและกลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังแท้อัดแน่นและพุ่งเข้าหาภูเขาน้ำแข็งเพื่อพยายามทุบทำลายมันก่อนจะถึงตัว
  อย่างไรก็ตามเซียนหิมะได้ประเมินพลังของภูเขาน้ำแข็งที่ก่อตัวจากพลังแท้ของปิงหยาเฟยต่ำเกินไป มันทำลายพลังฝ่ามือของเธอโดยตรงและกระแทกใส่ร่างจนบินกระเด็นออกไป เธอถ่มน้ำลายเลือดออกมาเป็นจำนวนมากและได้รับบาดเจ็บสาหัสในกระบวนท่าเดียว
  ปิงหยาเฟยอยู่ในระดับจิตราชันขั้นที่สามการต่อสู้กับใครก็ตามในขั้นที่สองย่อมไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง
  แต่ในความเป็นจริงการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเซียนหิมะคือการโจมตีทางจิตวิญญาณ แต่ทว่าพลังวิญญาณของเธอได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากฝีมือของมังกรอัคคีในร่างฉิงเฟิง ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่สามารถใช้งานมันได้
  เมื่อเหล่ามนุษย์หิมะได้เห็นว่าเซียนหิมะพ่ายแพ้หมดรูปสีหน้าของพวกมันก็เปลี่ยนไป พวกมันไม่อาจทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็นได้
  พวกมันหันหลังเตรียมจะหนีแต่สมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและสยบพวกมันจนพ่ายแพ้หมดสิ้น
  ปิงหยาเฟยเดินมาที่เบื้องหน้าของเซียนหิมะและหยิบเชือกวิญญาณออกมาจากนั้นก็มัดเรือนร่างอันบอบบางของเธอแล้วพาตัวไปมอบให้ฉิงเฟิง
  “นายท่านเราจะทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ดีคะ ” ริมฝีปากสีแดงของปิงหยาเฟยเผยอขึ้นในขณะที่ชี้ไปทางเซียนหิมะบนพื้น
  ฉิงเฟิงมองเธอและพูดว่า“ฉันมีทางเลือกให้เธอสองทาง หนึ่ง ยอมสวามิภักดิ์ต่อฉันสองตายซะตอนนี้เลย”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *