“ฮ่าๆๆๆๆ! เจ้าจะฆ่าข้าด้วยหมัดเดียวงั้นหรือ นี่เป็นเรื่องที่ตลกที่สุดในชีวิตร่วมร้อยปีของข้าเลยทีเดียว” กุ้ยเทียนคงเชิดศีรษะขึ้นพร้อมกับหัวเราะลั่น เขาคิดว่าฉิงเฟิงอับสิ้นหนทางจนโอ้อวด
　　กุ้ยเทียนคงเป็นยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นและทรงพลังมากเพียงหนึ่งกระบวนท่าของเขาก็ทำให้ฉิงเฟิงกระเด็นจนกระอักเลือดมาแล้ว แต่ตอนนี้ฉิงเฟิงกลับพูดออกมาว่าสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยหมัดเดียวเท่านั้น มันทำให้เขารู้สึกอยากจะหัวเราะ
　　ฉิงเฟิงไม่สนใจสีหน้าดูถูกเหยียดหยามของกุ้ยเทียนคงเขาเพียงแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นและเริ่มโคจรพลังแท้ในร่าง เขาจะลงมือสุดกำลังในการล้มกุ้ยเทียนคงเพื่อแก้แค้นให้หลิวหรูหยานและตอบแทนความคาดหวังของจักรพรรดิราตรี
　　“　　เพลงหมัดมังกรเพลิง
　　,
　　มังกรเหินนภา
　　!!
　　“
　　ฉิงเฟิงขบกรามและร่ำร้องออกมาด้วยความช่วยเหลือจากพลังวิญญาณของจักรพรรดิราตรี เขาสามารถใช้เพลงหมัดมังกรเพลิงก่อนเวลาได้อย่างง่ายดาย
　　ฉิงเฟิงเหวี่ยงหมัดขวาออกไปอย่างรุนแรงลูกบอลสีทองส่องแสงสว่างภายในจิตของเขาและฉายลำแสงสีทองอร่ามออกมา มันรวมกันเป็นเงาร่างของมังกรสีทองที่หลอมรวมทั้งพลังแท้และพลังวิญญาณที่ปลดปล่อยอนุภาคพลังงานมหาศาล
　　ในพริบตาทั่วทั้งตำหนักมหึมาใต้ดินก็สั่นสะเทือนจากการปรากฏตัวของมังกรทอง แต่เดิมภายในตำหนักโกสคิงนั้นทั้งอึมครึมและมืดมน แต่ทันทีที่เงามังกรทองเผยขึ้นก็เกิดแสงสว่างปกคลุมไปทั่ว
　　หมัดอันน่าสะพรึงกลัวของฉิงเฟิงทำให้สีหน้าของกุ้ยเทียนคงซีดเผือดและดวงตาเต็มไปด้วยความสยดสยองหมัดนี้บรรจุไปด้วยพลังงานที่บ้าคลั่งและลมหายใจแห่งการทำลายล้าง เขาเริ่มหวาดกลัวมันจากส่วนลึกของวิญญาณ
　　“
　　คะเคล็ดวิชากระบี่ภูตินภา
　　!”
　　กุ้ยเทียนคงตะโกนออกมาเขาพยายามที่จะระงับความกลัวในหัวใจและใช้วิชากระบี่ที่รุนแรงที่สุดของเขากับมังกรทองตัวนี้
　　กระบี่ภูติอสูรตัดผ่านอากาศและทำให้เกิดรอยแยกขนาดใหญ่ในอากาศตามมาด้วยเสียงระเบิดขนาดใหญ่พลังงานมหาศาลนั้นดูเหมือนจะแยกทุกอย่างออกจากกัน
　　ปรากฏร่องรอยความโกรธในสายตาของเงามังกรทองเจ้ามนุษย์ผู้โง่เขลาที่ฝึกวิชานอกรีต ริอาจใช้กระบี่ชั่วร้ายโจมตีข้าเช่นนั้นหรือ หาที่ตาย !
　　เงามังกรทองกลายเป็นกำปั้นขนาดใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันมหาศาลและเต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่มีอุณหภูมิสูงล้ำมันพุ่งเข้าใส่กุ้ยเทียนคงด้วยพลังที่ไร้คู่เปรียบ
　　แกร่ก!
　　อาวุธวิญญาณขั้นสูง,กระบี่ภูตินภาถูกทำลายทันทีหลังจากกระทบถูกเงาของมังกรสีทอง มันแตกเป็นเสี่ยงนับพันๆชิ้นและสูญสลายไป
　　หลังจากทำลายกระบี่ภูตินภาแล้วเงาร่างของมังกรทองก็เข้าปกคลุมร่างกายของกุ้ยเทียนคงด้วยเปลวเพลิงพลังงานอันมหาศาล
　　อ้ากกกกกกกกกกก
　　!
　　……
　　กุ้ยเทียนคงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาก่อนที่มังกรจะเผาร่างเขากลายเป็นขี้เถ้า
　　มันง่ายที่จะมองเห็นมันด้วยตาเปล่าว่านิ้วมือของกุ้ยเทียนคงที่กำลังถูกแผดเผาค่อยๆหายไปจากนั้นก็ลามไปถึงฝ่ามือ, ข้อมือ, แขน
　　ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้ใบหน้าของกุ้ยเทียนคงซีดเผือดเขายังคงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวยไม่หยุดและพยายามใช้พลังแท้ในการดับไฟ แต่เปลวเพลิงนั้นรุนแรงเหลือคณา ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถดับมันได้
　　สิ่งเดียวที่กุ้ยเทียนคงสามารถทำได้ก็คือมองดูเปลวเพลิงของมังกรที่ค่อยๆเผาแขนหน้าอก คอและกะโหลกของเขา
　　กุ้ยเทียนคงถูกไฟคลอกจนตายในระหว่างกระบวนการนี้เขาไม่สามารถหยุดเสียงกรีดร้องได้เลยแม้แต่นิดเดียว สุดท้ายร่างกายของเขาก็กลายเป็นกองขี้เถ้าและสลายไปกับสายลม
　　กุ้ยเทียนคง– ตาย　　ทุกคนรอบๆหน้าเปลี่ยนสีและตกใจกับฉากที่ได้เห็นพวกเขารู้ดีว่ากุ้ยเทียนคงนั้นทรงพลังเพียงใด แต่ไม่มีใครคาดคิดว่ากุ้ยเทียนคงจะถูกเผาจนตาย
　　ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดากระทั่งใบหน้าของฮวาเซียนจือก็เต็มไปด้วยความตกใจ เธอสามารถรู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาลของหมัดมังกรเพลิง แม้แต่เธอเองก็ยอมรับว่าไม่อาจป้องกันได้
　　ฉิงเฟิงฆ่ากุ้ยเทียนคงได้ก็จริงแต่ใบหน้าของเขานั้นซีดขาวและร่างกายสั่นไม่หยุดเขาแทบจะล้มลงได้ทุกเมื่อ พลังวิญญาณของเขาเหือดแห้งจนหมดสิ้นหลังจากที่ได้ใช้เพลงหมัดนี้ออกไป
　　“หลี่ฉิงเฟิงนี่เป็นเม็ดยาแก่นแท้ฟีนิกซ์ รับไปสิ” ชาวเฟิ่งอู่หยิบเม็ดยาสีแดงออกมาบนมือที่เพรียวบางของเธอและส่งไปให้ฉิงเฟิง
　　เม็ดยาแก่นแท้ฟีนิกซ์
　　ฉิงเฟิงรู้สึกตกใจดังที่บันทึกไว้ในศาสตร์แห่งการปรุงยาของราชายาทิพย์ เม็ดยาแก่นแท้ฟีกนิกซ์เป็นเม็ดยาในระดับวิญญาณ มีเพียงผู้ฝึกตนเท่านั้นที่สามารถปรุงมันได้และก็มีเพียงผู้ฝึกตนเท่านั้นที่สามารถครอบครอง
　　ไม่น่าเชื่อเลยว่าชาวเฟิ่งอู่จะมีเม็ดยาระดับนี้เธอต้องมีความสัมพันธ์กับผู้ฝึกตนอย่างแน่นอน
　　ไม่ว่าชาวเฟิ่งอู่จะมีความสัมพันธ์กับผู้ฝึกตนได้อย่างไรมันก็ไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเธอได้มอบเม็ดยาล้ำค่านี้ให้กับฉิงเฟิงต่างหาก นี่เป็นเหตุผลที่ฉิงเฟิงตกตะลึง
　　“อย่ามัวเสียเวลาอีกเลยรีบกินยาและฟื้นฟูพลังแท้ของนายซะ นายต้องช่วยหลิวหรูหยานกับลูกอีก” ชาวเฟิ่งอู่ยิ้มและกล่าว
　　ในฐานะผู้อำนวยการหน่วยความปลอดภัยพิเศษหัวเซี่ยชาวเฟิ่งอู่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉิงเฟิงกับหลิวหรูหยานตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเข้ามาเป็นสมาชิกด้วยซ้ำ
　　“ขอบคุณคุณมากคุณช่วยชีวิตผมไว้” ฉิงเฟิงมองลึกเข้าไปในดวงตาของชาวเฟิ่งอู่และกล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้ง　　เขารู้ดีว่าเม็ดยาแก่นแท้ฟีนิกซ์นั้นมีค่าเพียงใดมันมีค่ามากกว่าร้อยล้านดอลลาร์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ตอนนี้เขาต้องฟื้นฟูพลังโดยเร็วเพื่อช่วยชีวิตหลิวหรูหยานกับลูก
　　เม็ดยาแก่นแท้ฟีนิกซ์เป็นเม็ดยาสีแดงและมีสีที่แตกต่างจากเม็ดยาชนิดอื่นๆอย่างสิ้นเชิงมีขนาดเพียงแค่นิ้วหัวแม่มือและมีแสงสีแดงส่องประกายที่พื้นผิว มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังมหาศาลที่ปล่อยออกมาจากภายในเม็ดยา
　　ฉิงเฟิงอ้าปากโยนเม็ดยาเข้าไปเม็ดยาเปลี่ยนเป็นพลังงานซึ่งเป็นพลังงานที่มีกลิ่นอายพลังแท้ของฟีนิกซ์ มันเติมเต็มพลังวิญญาณและพลังแท้ของฉิงเฟิงในทันที มันสมแล้วที่ถูกจัดว่าเป็นเม็ดยาในระดับวิญญาณ อาการอ่อนล้าของฉิงเฟิงหายเป็นปลิดทิ้งทันทีที่กินมันเข้าไป
　　เมื่อหายดีแล้วฉิงเฟิงก็ไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไปเขารีบวิ่งเข้าไปในห้องที่สามภายในตำหนักโกสคิงที่หลิวหรูหยานกำลังนอนสลบอยู่
　　สีหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเมื่อเขามาถึงในห้องใบหน้าของหลิวหรูหยานนั้นดำสนิท ไม่เพียงแค่ใบหน้าของเธอเท่านั้นแต่ยังรวมถึงทั้งร่างกายของเธอด้วย สีดำนี้เป็นคำสาปของภูติอสูร วิญญาณชั่วร้ายที่เย็นยะเยือกกำลังสะสมอยู่ในท้องของหลิวหรูหยาน
　　“
　　ผู้อาวุโส
　　!
　　ผมจะล้างคำสาปชั่วร้ายนี้ได้อย่างไร
　　!
　　“
　　ฉิงเฟิงรีบส่งกระแสจิตถามจักรพรรดิราตรีในทันที
　　แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากจักรพรรดิราตรีเพราะเขาจำศีลไปแล้ว
　　รออยู่พักหนึ่งฉิงเฟิงก็ยังไม่ได้ยินเสียงใดๆจากเขาจึงนึกขึ้นได้ว่าผู้อาวุโสคนนี้ได้หลับจำศีลไปแล้วตั้งแต่ที่มอบพลังวิญญาณทั้งหมดให้ฉิงเฟิงได้ออกหมัดมังกรเพลิง
　　ฉิงเฟิงรู้สึกหดหู่มากลึกไปในใจเขาพึ่งพาจักรพรรดิราตรีมาโดยตลอด ชายคนนี้รู้ทุกเรื่องราวในยุทธภพและไม่มีอะไรที่เขาไม่รู้หรือแก้ไม่ตก
　　แต่ตอนนี้จักรพรรดิราตรีได้หลับไปแล้วเขาไม่อาจตอบคำถามของฉิงเฟิงได้ ทำให้ฉิงเฟิงรู้สึกเหมือนคนตาบอดที่หาทางออกไม่เจอเพราะเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคำสาปของวิญญาณชั่วร้าย
　　ในเวลานั้นชาวเฟิ่งอู่และฮวาเซียนจือก็เดินเข้ามาใบหน้าของพวกเธอเปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นร่างกายของหลิวหรูหยานที่ดำสนิท