My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 608

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 608 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 608 เจ้าโล้นผู้ทรงพลัง !

เจ้าโล้นเปิดใช้งานพลังจากโทเท็มเทวรูปบนหน้าอกของเขา แสงสีทองจากพลังแห่งสายเลือดครอบคลุมรอบตัวเขา

ฮ่าห์ !

เจ้าโล้นตะโกนด้วยเสียงต่ำและเหวี่ยงกําปั้นขวาพร้อมกับแสงสีทอง โดยมุ่งเป้าไปที่ผี 2 อย่างไร้ความปราณี

แกร๊ก !

กําปั้นของผีสองแตกละเอียดจนกระดูกสีขาวภายในนั้นโผล่แล่บออกมา เขาก้าวถอยหลังไม่หยุดและในที่สุดก็ทรงตัวได้หลังจากถอยรูดไปหลายสิบก้าว

เห็นได้ชัดว่าผี 2 ประมาทพลังของเจ้าโล้นมากเกินไป เขาก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าเจ้าโล้นคนนี้จะสามารถมีพลังที่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้ได้หลังจากเปิดใช้งานพลังสายเลือด โชคดีที่ผี 2 ยังนับได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง หากเป็นคนธรรมดาที่โดนหมัดนี้เข้าไปคงต้องตายในทันที

เฮลคิงที่ได้เห็นพลังของเจ้าโล้นก็ตกใจเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเอาแต่จดจ่ออยู่กับการรวบรวมข้อมูลของฉิงเฟิง โดยที่เขาไม่ได้มีข้อมูลใดๆของสมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่ามากนัก

“ผี 2 ใช้ยาตัดแต่งพันธุกรรมซะ !” เฮลคิงตะโกนเตือนผี 2

เมื่อเห็นลูกน้องของเขาเริ่มเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เฮลคิงก็เริ่มเป็นกังวลและอยากจะเข้าไปร่วมสู้ด้วย แต่เขาก็ไม่อาจดึงกริชพรากชีวิตที่ปักคาหน้าอกออกไปได้

บ้าชิบ ! ไอ้กริชเวรนี้ มันเหมือนจะผูกติดกับร่างกายของฉันเลย เอาไม่ออก

เฮลคิงคิดในใจด้วยความโกรธกริ้ว

“ได้ครับนายท่าน !”

ผี 2 ตอบรับเพราะรู้ว่าไม่สามารถเอาชนะเจ้าโล้นได้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ยาพันธุกรรม

ผี 2 รีบหยิบขวดสีแดงออกมาและเปิดฝา พลังงานที่รุนแรงได้แพร่กระจายออกมาจากขวดสีแดง และของเหลวสีแดงที่อยู่ในนั้นก็ดูเหมือนน้ำที่กําลังเดือดปุดๆ

ผี2เงยหน้าขึ้นและรีบเทของเหลวสีแดงในขวดเข้าไปในปากของเขา

มันเริ่มไหลผ่านปาก ลําคอและหลอดอาหาร ยาไหลไปตามร่างกาย, กระแสเลือด, แขนขา และส่วนอื่นๆ

ตูม!

ร่องรอยของพลังงานที่กราดเกรี้ยวเปล่งออกมาจากร่างกายของผี 2 พละกําลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ดวงตา, ใบหน้าและตลอดทั้งร่างของเขากลายเป็นสีแดงเลือด ดูราวกับมนุษย์เลือดกลายพันธุ์ที่น่าหวาดกลัว

“ไปลงนรกซะ !” ผี2ตะโกนออกมาด้วยด้วยความโกรธ เขายกกําปั้นที่แหลกละเอียดข้างนั้นขึ้นและโจมตีเข้าใส่เจ้าโล้นอย่างบ้าคลั่ง หลังจากกินยานี้เข้าไป เขาก็ไร้ซึ่งความเจ็บปวด

เจ้าโล้นรู้สึกได้ถึงพลังที่บ้าคลั่งจากผี 2 เขาจึงต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เขาเหวี่ยงหมัดออกไปอีกครั้งเข้าปะทะกับหมัดของผี 2 หมัดชนหมัดทําให้เกิดแรงปะทะที่รุนแรง

เปรี้ยง !

พลังที่รุนแรงแผ่ออกมาทั่วทั้งบริเวณที่พวกเขาปะทะกัน พื้นดินเต็มไปด้วยรอยร้าวและพื้นหินอ่อนที่เคยเรียบเนียนกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ

ครืด ครืด ครืด…………..

ทั้งเจ้าโล้นและผี2ต่างก็ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ต้องพูดว่าผี2กลายเป็นแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากหลังจากที่ได้รับพลังจากยาพันธุกรรม เขาต่อกรกับเจ้าโล้นได้อย่างสูสีทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเพิ่งจะได้รับบาดเจ็บจากหมัดเดียวของเจ้าโล้น

เฮลิคิงรู้สึกพึงพอใจมากที่เห็นผี2แข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่ได้กินยาพันธุกรรมเข้าไป ตราบเท่าที่ผี 2 ล้มเจ้าโล้นและฆ่าอลิซได้ หลี่ฉิงเฟิงก็เหมือนหมูในอวย

อ๊อก!

หลังจากถูกผี 3 โจมตี อลิซกระอักเลือดออกมาอีกครั้งและล้มลงกับพื้น เสื้อผ้าของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

ถึงแม้ว่าอลิซจะอ่อนแอกว่าผี 3 แต่ความจริงเธอก็สามารถหนีได้ถ้าเธอคิดจะทํา แต่เพื่อปกป้องฉิงเฟิงที่อยู่ข้างหลังเธอ เธอจึงต้องปักหลักสู้อย่างเดียว

เมื่อเห็นอลิซได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ฉิงเฟิงก็ตะโกนออกมาด้วยความกระวนกระวายใจว่า “เจ้าโล้น ! ฉันให้เวลาแกหนึ่งนาที ล้มผี 2 ให้ได้ !”

ความจริงฉิงเฟิงก็ไม่ได้ต้องการจะกดดันเจ้าโล้น แต่อลิซตกอยู่ในอันตรายและตอนนี้เจ้าโล้นเป็นเพียงคนเดียวที่จะช่วยเธอได้

“เอางั้นก็ได้ครับบอส ดูเหมือนว่าผมคงต้องฝ่าฝืนคําสั่งอาจารย์และใช้วิชาสุดยอดของวัดเส้าหลินละงั้น”

การแสดงออกทางสีหน้าของเจ้าโล้นเปลี่ยนไปด้วยร่องรอยของความหนักใจในดวงตาของเขา

เมื่อตอนที่เขายังเด็ก พ่อแม่ของเจ้าโล้นถูกคนชั่วฆ่าตาย เขาหนีรอดมาได้และไปอาศัยอยู่ที่วัดเส้าหลินและได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากเจ้าอาวาส หลังจากฝึกวิชาสําเร็จเจ้าโล้นก็ออกจากวัดไปล้างสังหารคนชั่วทุกคนที่มีส่วนในการฆ่าพ่อแม่ของเขา

เนื่องจากเหตุการณ์นั้นที่เขาได้ฆ่าคนเป็นจํานวนมากและฝ่าฝืนกฏ เจ้าโล้นจึงถูกขับออกจากวัดเส้าหลิน

ตามกฏแล้วเมื่อออกจากวัด เจ้าโล้นจะต้องถูกริบคืนวิชาที่ฝึกฝนไป แต่เจ้าอาวาสโปรดปรานเจ้าโล้นและปล่อยเรื่องนี้ไป

เจ้าอาวาสขอให้เจ้าโล้นสัญญาว่าจะไม่ใช้วิชาของวัดเส้าหลินและไม่ทําให้ชื่อเสียงของวัดต้องมัวหมอง เป็นผลให้เจ้าโล้นใช้แต่พละกําลังของตัวเองในการต่อสู้

แต่ครั้งนี้เจ้าโล้นจะต้องผิดสัญญาและใช้วิชาของวัดเพื่อจบการต่อสู้และไปช่วยอลิซให้เร็วที่สุด

ในแง่ของความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว เขาเทียบเท่ากับผี2 ซึ่งหมายความว่าทั้งคู่ไม่มีใครเอาชนะกันได้

“หมัดอรหันต์ !”

หมัดอรหันต์เป็นวิชาที่โด่งดังของวัดเส้าหลินซึ่งทรงพลังอย่างสุดขั้ว เพียงหมัดเดียวก็สามารถทําให้อากาศโดยรอบฉีกขาดได้ เพราะฉะนั้นผี 2จึงต้องเหวี่ยงหมัดออกมาเช่นกัน ใช้พลังทั้งหมดป้องกันหมัดอรหันต์ของเจ้าโล้น

แกร๊ก แกร๊ก !

แขนทั้งสองข้างของผี 2 หักสะบั้นทันทีหลังจากปะทะกับหมัดอรหันต์ เห็นได้ชัดว่าผี 2 ประเมินพลังของหมัดนี้ต่ำไป

หมัดอรหันต์เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวิชาสุดยอดของวัดเส้าหลิน แม้แต่ฉิงเฟิงเองก็ตามถ้าไม่ได้เปิดใช้งานพลังสายเลือด เขาเองก็ยังไม่กล้าปะทะตรงๆกับหมัดนี้ อย่าว่าแต่ผี 2 เลย

หลังจากอัดผี 2กระเด็นไปด้วยหมัดอรหันต์แล้ว เจ้าโล้นก็ไม่ได้ไล่ตามต่อ แต่เขาวิ่งไปหาอลิซเพราะเขาเห็นว่าหมัดของผี 3 กําลังจะกระแทกใส่อลิซ

“ผี 3 แกหาที่ตายแล้ว !” เจ้าโล้นคํารามลั่นและเร่งความเร็วขึ้นเหมือนระเบิด เขายืนอยู่ข้างหน้าอลิซและเหวี่ยงหมัดเข้าหาผี 3 อย่างหนักหน่วง

พรวด !

หมัดอรหันต์ของเจ้าโล้นเปล่งแสงสีทองด้วยพลังที่ไร้คู่เปรียบ พุ่งเข้าสู่หน้าอกของผี 3 และกระแทกเขาจนลอยเคว้งไปในอากาศ ผี 3 ชนเข้ากับกําแพงและคอพับกระอักเลือดหมดสติไปทันที

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าโล้นพร้อมกับวิชาหมัดอรหันต์นั้นไร้เทียมทานอย่างแท้จริง เขาแข็งแกร่งมากจนซัดผี 3 กระเด็นด้วยหมัดเดียว

“พี่โล้น ขอบคุณนะ” อลิซพูดกับเจ้าโล้นพร้อมด้วยเลือดที่ริมฝีปากของเธอ เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าเจ้าโล้นทรงพลัง แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้

“บอสครับ คุณเป็นไงมั่ง ? ให้ผมดึงกระบี่ยาวนี่ออกดีไหมครับ ?” เมื่อมองไปที่กระบี่ที่เสียบคาหน้าอกของฉิงเฟิง เจ้าโล้นก็ถามด้วยความกังวล

ฉิงเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า “กระบี่นี้หลอมด้วยหินจากอุกกาบาตนอกโลก มันแฝงไปด้วยพลังงานมืดที่แปลกประหลาดและไม่สามารถดึงออกมาได้”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *