My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา 743 การแย่งชิงสมบัติล้ำค่า

Now you are reading My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา Chapter 743 การแย่งชิงสมบัติล้ำค่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  ผู้คนรอบๆจ้องไปที่ฉิงเฟิงด้วยดวงตาลุกวาวเขาไม่เพียงแค่บ่มเพาะทักษะระดับแกรนด์มาสเตอร์ แต่กระบี่ในมือเขาก็ยังเป็นศัตราวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์ด้วยเช่นกัน
  เพียงแค่กระบี่ในมือเขาก็แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับกระบี่จันทร์วารีซึ่งอยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์ได้เช่นกันในตอนนี้ทุกคนเห็นแล้วว่าหลี่ฉิงเฟิงมีสมบัติล้ำค่าอยู่กับตัว ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชากระบี่ ทักษะบ่มเพาะและอาวุธ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสมบัติระดับแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสิ้น เป็นผลให้บางคนเผยเจตนาฆ่าออกมา หมายจะช่วงชิงสมบัติของเขา
  “มิสลั่วสิ่งนี้มอบให้คุณ”
  ฉิงเฟิงยืนอยู่บนสะพานโซ่และโยนกระบี่จันทร์วารีไปให้ลั่วหนี่ชิง
  ลั่วหนี่ชิงกำลังต่อสู้กับเจียงไป่เต๋าแต่ด้วยกระบี่จันทร์วารีที่ฉิงเฟิงมอบให้ ทำให้พลังโจมตีของเธอเพิ่มขึ้นอย่างมากและสามารถบีบบังคับให้เจียงไป่เต๋าต้องถอยรนไปได้ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว
  “วูฟคิงเมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ ” ลั่วหนี่ชิงกุมกระบี่จันทร์วารีในมือด้วยร่องรอยแห่งความสับสนวุ่นวายที่ปรากฏบนใบหน้าที่น่าหลงใหลของเธอ
  “ฉันบอกว่ากระบี่จันทร์วารีเล่มนี้เป็นของคุณแล้วกล่าว” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
  ของชั้น
  ในครั้งนี้ลั่วหนี่ชิงได้ยินอย่างชัดเจนใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจเพราะมันเป็นอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์ !
  แม้แต่คนที่อยู่รอบๆต่างก็ตกใจนับประสาอะไรกับเธอพวกเขาไม่เคยเห็นใครที่ใจกว้างยอมมอบอาวุธชั้นสูงขนาดนี้ให้เป็นของขวัญกัน
  เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าอาวุธประเภทแกรนด์มาสเตอร์มีน้อยมากและโดยทั่วไปแล้วมีเพียงยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์เท่านั้นที่ครอบครองอาวุธเหล่านี้ในตระกูลลั่ว มีเพียงบรรพบุรุษเท่านั้นที่มีมัน เพราะฉะนั้น แม้แต่ลั่วหนี่ชิงที่เป็นคุณหนูตระกูลลั่วก็ยังมีเพียงแค่อาวุธระดับเหนือสวรรค์เท่านั้น
  “มิสลั่วนี่เป็นของแทนคำขอบคุณที่คุณพาฉันเข้ามาในสุสานแกรนด์มาสเตอร์”
  ฉิงเฟิงอธิบายด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
  ในความเป็นจริงเหตุผลที่ฉิงเฟิงมอบกระบี่จันทร์วารีให้แก่ลั่วหนี่ชิงก็เพราะว่าเขาต้องการแสดงความซาบซึ้งต่อเธอสำหรับการพาเขาเข้ามาในสุสาน อีกทั้งยังช่วยเหลือเขารับมือกับเจียงไป่เต๋าอีกด้วย ฉิงเฟิงเป็นคนที่มีน้ำใจต่อมิตรสหายเสมอ นอกจากนี้กระบี่จันทร์วารีเล่มนี้แม้จะทรงอานุภาพ แต่มันไร้ค่าสำหรับเขาเพราะเขาบ่มเพาะวิชาสายไฟ
  “วูฟคิงท่านลำเอียง” ฉินเซียนจื่อตำหนิฉิงเฟิงด้วยแววตาที่งดงาม ลั่วหนี่ชิงได้กระบี่จันทร์วารีเพราะช่วยฉิงเฟิง ในขณะที่เธอก็ช่วยเขาเช่นกันแต่กลับไม่ได้สิ่งใดตอบแทน
  ฉิงเฟิงยิ้มด้วยความรู้สึกผิดและอับอายเพราะเธอก็เป็นคนหนึ่งที่ช่วยเหลือเขาในการรับมือกับเหลิงเสวี่ย
  “คุณหนูฉินฉันจะยกสมบัติชิ้นอื่นให้คุณก็แล้วกันนะ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
  ตูม
  !!!
  จากนั้นก็มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับแม่น้ำลาวาอาจเป็นเพราะการปะทะกันที่รุนแรงของลมปราณทั้งสองสาย ทำให้แม่น้ำลาวาข้างล่างเกิดการปะทุขึ้น
  คลื่นลาวายักษ์พุ่งสูงขึ้นไปในอากาศซึ่งส่วนใหญ่กระทบเข้ากับสะพานโซ่และทำให้มันเริ่มเสียหายหลายจุดพวกมันเริ่มหลอมละลายและดูเหมือนจะพังได้ทุกวินาที  “ไม่ได้การแล้วสะพานโซ่เหล็กกำลังจะพัง !”
  ฉิงเฟิงหน้าซีดด้วยความวิตกกังวลเถาวัลย์อีกาดำที่สามารถนำไปช่วยชีวิตหลินเสวี่ยทางอ้อมได้อยู่ในปราสาทฝั่งตรงข้ามนี้เอง เขาต้องเอามันมาให้ได้
  วูบ
  !
  ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวร่างในทันทีเขาพุ่งดิ่งไปที่ปราสาทฝั่งตรงข้าม ความเร็วของเขารวดเร็วดั่งสายฟ้าและมาถึงปราสาทในพริบตา
  “เลิกสู้กันก่อนรีบไป !” เฮลคิงตะโกนออกมา เขารีบกระโดดลงบนสะพานโซ่ที่ใกล้พังในทันทีและเป็นคนแรกที่วิ่งตามฉิงเฟิงไป
  ต่อมาลั่วหนี่ชิง ฉินเซียนจื่อ เหลิงเสวี่ย เจียงไป่เต๋าและคนอื่นๆก็หยุดการต่อสู้และกระโดดลงบนสะพานโซ่วิ่งตามไป คนเหล่านี้ต่างก็เป็นยอดฝีมือกันแทบทุกคนดังนั้นจึงไม่มีปัญหาต่อสะพานโซ่ที่แกว่งไปแกว่งมา แต่เหล่าบรรดาศิษย์สาวกที่พวกเขานำเขาไม่ได้มีฝีมือถึงขั้นนั้น บางคนพลาดท่าตกลงไปในแม่น้ำลาวาและลงเอยด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนกลายเป็นกองกระดูกในที่สุด
  ก่อนหน้านี้มีหลายคนที่เข้ามาในสุสานแต่ตอนนี้จำนวนคนลดลงไปมากนอกจากกู่เจี้ยนหลงและเตี๋ยชุ่ยหลันที่ตายด้วยน้ำมือฉิงเฟิง ผู้คนจำนวนมากก็ตกตายในแม่น้ำลาวา
  ถึงแม้ว่าบรรดาคุณหนูคุณชายจากเหล่าตระกูลที่ทรงอำนาจจะรู้สึกเศร้าต่อการสูญเสียแต่ทันทีที่ได้เห็นสมบัติในปราสาทราชายาทิพย์ พวกเราก็กลายเป็นตื่นเต้น
  ปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ฝังศพของราชายาทิพย์ตรงกลางปราสาทมีโลงศพขนาดใหญ่ซึ่งมีสองร่างอยู่ในนั้น หนึ่งคือราชายาทิพย์เซียวหยุนและอีกหนึ่งคือภรรยาของเขาสุ่ยเยวี่ยเหลียง
  มีเตาปรุงยาอยู่ทางด้านซ้ายของโลงศพเถาวัลย์อีกาดำและสมุนไพรอื่นๆวางอยู่บนเตาสมุนไพรเหล่านี้ใช้ในการปรุงยาเป็นส่วนใหญ่ มีหลายชนิดได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่สูญพันธุ์ไปแล้วในหัวเซี่ย นอกเหนือไปจากสมุนไพรแล้วยังมีขวดยาอีกหลายสิบขวดซึ่งทั้งหมดเป็นยาขั้นเหนือสวรรค์และหาได้ยากมาก ด้านขวาของโลงศพมีคัมภีร์สองเล่มวางอยู่ เล่มหนึ่งคือเคล็ดวิชากระบี่จันทร์วารีซึ่งเป็นทักษะวิชาระดับแกรนด์มาสเตอร์ ส่วนอีกเล่มคือทักษะเกี่ยวกับกับดักระดับปรมาจารย์
  “นั่นมันยาเหนือสวรรค์ ไปเอามันมาเร็วเข้า !” เมื่อได้เห็นขวดยาเหล่านั้น ทุกคนก็บ้าคลั่งไปด้วยความสุข พวกเขารีบวิ่งไปคว้ายาทันที
  ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและเคลื่อนไหวทันทีเขามุ่งหน้าไปทางซ้ายของโลงศพ แต่เป้าหมายของเขาไม่ใช่ยาขั้นเหนือสวรรค์แต่มันคือเถาวัลย์อีกาดำ แม้ว่ายาเหนือสวรรค์จะเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากแต่ฉิงเฟิงไม่ได้เหลือบมองพวกมันแม้แต่เพียงเสี้ยววินาทีเดียว สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงเถาวัลย์อีกาดำเพื่อไปช่วยรักษาหลินเสวี่ยเท่านั้น
  “
  ไสหัวไป
  !”
  ฉิงเฟิงโกรธมากที่เห็นลั่วเทียนเฮาพยายามจะหยิบฉวยเถาวัลย์อีกาดำในเตาปรุงยา
  เถาวัลย์อีกาดำเป็นของที่ล้ำค่ามากมันไม่ใช่แค่เพียงสมุนไพรสำหรับการปรุงยาเท่านั้น แต่มีการกล่าวกันไว้ว่าหากยอดยุทธ์คนใดกินสิ่งนี้เข้าไปพละกำลังจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นมันเป็นที่หมายปองสำหรับยอดฝีมือผู้ที่ต้องการใช้มันไปปรับแต่งกายา มันมีค่ามากกว่ายาระดับเหนือสวรรค์
  ในฐานะคุณชายแห่งตระกูลลั่วและเป็นลูกพี่ลูกน้องของลั่วหนี่ชิงลั่วเทียนเฮาย่อมรู้ดีถึงคุณค่าของเถาวัลย์อีกาดำ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะคว้ามันเอาไว้
  เปรี้ยง  !!
  ฉิงเฟิงที่ไล่ตามมาทันเหยียดขาถีบลั่วเทียนเฮาจนไถลออกไปหลายเมตรกลิ้งไปบนพื้น
  “หลี่ฉิงเฟิงแก ไอ้บัดซบ ! ตระกูลลั่วอุตสาห์พาแกเข้ามาที่นี่ ทำไมแกถึงทำร้ายฉันวะไอ้ลูกหมา !”
  ลั่วเทียนเฮาก้นด่าสาปแช่งด้วยความโกรธเขารู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่าง
  “ฉันเคยพูดไว้แล้วสมบัติอย่างอื่นฉันไม่สนใจ แต่ใครหน้าไหนก็ตามที่มาแตะต้องเถาวัลย์อีกาดำถือเป็นศัตรูของฉัน” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างดุร้าย คำพูดของเขาไม่เพียงแค่พูดกับลั่วเทียนเฮา แต่ยังเป็นการประกาศให้ทุกคนในที่นี้ได้รับรู้ว่าใครก็ตามที่กล้ามาแย่งเถาวัลย์อีกาดำกับเขา เขาจะไม่มีทางปล่อยไปเด็ดขาด
  การที่ฉิงเฟิงสังหารกู่เจี้ยนหลงไปก็ถือเป็นการแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงพลังของเขาแล้วดังนั้นแม้ว่าเถาวัลย์อีกาดำจะล้ำค่าแต่พวกเขาก็ต้องยอมแพ้และหันไปให้ความสนใจต่อยาเหนือสวรรค์แทนเมื่อเห็นความดุร้ายของฉิงเฟิง
  แรงดึงดูดใจจากเถาวัลย์อีกาดำนั้นมีมากนักแต่มันก็สำหรับผู้ที่ไม่กลัวความตาย ทันทีที่ฉิงเฟิงวางมือลงบนเถาวัลย์อีกาดำ แสงจากกระบี่สายหนึ่งก็พุ่งมาจากด้านหลังทันที
  เป็นเหลิงเสวี่ยนั่นเองเขาชักกระบี่ออกมาและฟาดฟันเข้าใส่ฉิงเฟิง เขาเป็นทั้งผู้ฝึกยุทธ์และผู้บ่มเพาะกายา ดังนั้นเขาจึงต้องการเถาวัลย์อีกาดำที่ล้ำค่านี้

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *