ตอนที่ 589 จันทร์แทนใจ

แปล Tarhai

“ขอบคุณทุกคนมากค่ะ วันนี้ฉันจะร้องเพลงที่ชื่อว่า The Moon Represents My Heart

[ดวงจันทร์คือตัวแทนของหัวใจชั้น] ให้กับคนที่ฉันชอบนะคะ” เซียะเฟยเฟยยิ้มบาง ขณะมองไปที่ฉิงเฟิง

“หากถามว่ารักเธอมากเพียงไหน
ความรักลึกซึ้งเท่าไร
รักที่ให้เธอไป
ลึกเกินคำบรรยาย
ให้พระจันทร์แทนใจฉันที

หากถามว่ารักเธอมากเพียงไหน
ความรักลึกซึ้งเท่าไร
รักจริงไม่มีแปร
รักแท้ไม่มีเปลี่ยน
วอนพระจันทร์แทนใจฉันที

ขอเพียงได้จุมพิตเธอ
ใจละเมอเพ้อครวญหวั่นไหว
สัมพันธ์ตราตรึงหัวใจ
ตราบนานไปไม่อาจลบเลือน

หากถามว่ารักเธอมากเพียงไหน
ความรักลึกซึ้งเท่าไร
ถามหัวใจเธอดู
รักชื่นชูหทัย
วอนพระจันทร์แทนใจฉันที”

*เพลง 月亮代表我的心 หรือ The Moon Represents My Heart เป็นเพลงหนึ่งของเติ้งลี่จวิน (Teresa Teng) ที่เป็นขวัญใจมหาชน ไม่ว่าจะเป็นแฟนเพลงของป้าหรือไม่ก็ตาม มีหลายเวอร์ชั่นมาก เวอร์ชั่นเกาหลีก็มี*

ต้นฉบับ

เวอร์ชั่นเกาหลี (เกาหลีเพราะกว่า)

“จันทร์แทนใจ” ที่ขับร้องโดยเซียะเฟยเฟยนั้นฟังแล้วเข้าถึงอารมณ์มาก มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่สูญเสียความรักของเธอภายใต้แสงจันทร์

~ แปะ แปะ แปะ ~

ฝูงชนระเบิดเสียงปรบมือออกมาเพราะพวกเขารู้สึกประทับใจอย่างมากต่อน้ำเสียงที่ไพเราะของเซียะเฟยเฟย

ในวันนี้ เซียะเฟยเฟยดูอ่อนหวานทั้งใบหน้าและน้ำเสียง ใบหน้าของเธอเป็นสีแดงอมชมพูด้วยการแต่งหน้า ในขณะที่ดวงตากลมโตของเธอก็เปล่งประกายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า

เพียงแค่เพลงเดียวย่อมไม่เพียงพอสำหรับการแสดงคอนเสิร์ต เซียะเฟยเฟยร้องเพลงอีกสองเพลงต่อมา และทำให้เหล่าคนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้ฉันจะร้องเพลง [Red Love]” ฉันต้องการสุภาพบุรุษท่านหนึ่งมาเป็นคู่ร่วมร้องเพลงนี้กับฉันค่ะ” เซียะเฟยเฟยยิ้มและพูดกับฝูงชน

ทุกคนต่างก็เลือดสูบฉีดเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่เซียะเฟยเฟยกำลังพูด เธอต้องการร้องเพลงคู่กับคนคนหนึ่ง โดยเฉพาะคนๆนั้นเป็นผู้ชาย ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

“เฟยเฟย, ผมเป็นแฟนคลับที่ซื่อสัตย์กับคุณตลอดไป เลือกผมเถอะ!”

“เฟยเฟย, ผมรักคุณ ให้ผมร้องเพลงกับคุณนะครับ !”

“เฟยเฟย ถึงว่าแม้ว่าฉันจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันยอมกลายเป็นผู้ชายเพื่อร้องเพลงกับคุณ”

ทุกคนต่างตกอยู่ในความคลั่งและพยายามเรียกร้องโอกาสที่จะได้ร้องเพลงกับเซียะเฟยเฟย มันเหมือนกับความฝันที่เป็นจริง ถ้าพวกเขาสามารถได้ร้องเพลงกับไอดอลของพวกเขา

ฉิงเฟิงอึ้งจนพูดไม่ออกและไม่ทราบวิธีการตอบสนองต่อฝูงชนที่บ้าคลั่งเหล่านี้

ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเซียะเฟยเฟยเป็นซุปเปอร์สตาร์ในวงการเพลงของเอเชีย แต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะเป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อฝูงชนมหาศาล ที่สามารถปลุกเร้าให้พวกเขาบ้าคลั่งได้ขนาดนี้

เซียะเฟยเฟยหยุดรอสักพักเพื่อให้ฝูงชนสงบลง จากนั้นเธอจึงกล่าวว่า

“ฉันจะร้องเพลงกับสุภาพบุรุษท่านนี้ค่ะ, หลี่ฉิงเฟิง”

นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ !

ฝูงชนต่างสบถออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเซียะเฟยเฟยกล่าวอะไรออกมา พวกเขาไม่คิดเลยว่าเธอจะเลือกอย่างเจาะจงเช่นนี้

ฉิงเฟิงมองไปที่เซียะเฟยเฟย เขารู้ว่าเธอไม่ได้แกล้งเขา เธอก็แค่พยายามที่จะแสดงความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาออกมา

เอาละ, ฉันรู้ว่าเธอตกหลุมรักฉัน แต่เธอเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่มีเสน่ห์และเป็นเทพธิดาของประเทศ เธอทำแบบนี้ออกสื่อฉันจะโดนคนทั้งประเทศริษยาจนตายแหงๆ…

ฉิงเฟิงบ่นเล็กน้อยในใจของเขา

ฉิงเฟิงลุกขึ้นยืนและเดินช้าๆไปที่กลางเวทีขณะที่รู้สึกได้ถึงความหึงหวง ริษยา ช็อก สับสนและความเกลียดชังที่เกิดขึ้นจากด้านหลังของเขา

“เฟยเฟย, เธอถึงขนาดต้องเรียกชื่อของฉันออกสื่อ เพื่อให้มาร้องเพลงคู่กับเธอเลยหรือ ?” ฉิงเฟิงแทบอยากจะร้องไห้ขณะที่ขมวดคิ้ว

เซียะเฟยเฟยยิ้มอย่างซุกซน และกล่าวว่า “นี่เป็นการลงโทษที่ทำให้ฉันต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีในการตามหาคุณค่ะ !”

ฉิงเฟิงอึ้งจนพูดไม่ออก ในที่สุดเขาก็ถูกยัยลูกเจี๊ยบคนนี้หาจนเจอ ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามซ่อนตัวจากเธอมานานกว่าครึ่งปีแล้วก็ตาม

เซียะเฟยเฟยหยิบไมโครโฟนออกมาและส่งให้ฉิงเฟิง ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มร้องเพลงด้วยกัน

“Red Love” เป็นเพลงยอดนิยมที่ผู้คนมักจะร้องกันอย่างมากในคาราโอเกะ

(ในจีนเรียก KTV) ซึ่งเพลงนี้ต้องใช้ผู้หญิงและผู้ชายร้องคู่กัน

ฉิงเฟิงเริ่มร้อง

“เธอรู้ไหมว่าฉันเคยตกหลุมรักเธอครั้งหนึ่ง และยังคงมีเธออยู่ในใจ”

เซียะเฟยเฟยเริ่มร้องต่อ

“พวกเราได้บอกกันและกันแล้วว่าอย่าร้องไห้ยามพรากจาก แต่ทำไมฉันถึงยังเห็นน้ำตาในดวงตาของคุณ”

“คุณเลิกร้องไห้ให้กับฉัน แล้วตอนนี้คุณยังจำฉันได้หรือไม่”

“ไม่มีอะไรยั่งยืนตลอดกาล ฉันไม่ใช่คนเดียวที่หัวใจสลาย”

…

พวกเขาทั้งสองคู่มีพรสวรรค์กับเสียงที่น่าตื่นตาตื่นใจ เสียงของฉิงเฟิงสามารถเข้าไปประกวด The Voice ได้เลยทีเดียว ความจริงแล้วเขาได้เรียนรู้พวกทักษะพิเศษมากมายในขณะที่เขาอยู่ในโลกใต้ดิน และการร้องเพลงก็เป็นหนึ่งในนั้น ในขณะที่เซียะเฟยเฟยเป็นราชินีเพลงป๊อบ ฉิงเฟิงก็เป็นราชาเพลงป๊อบเช่นกัน พวกเขาทั้งคู่ประสานเสียงกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ทุกคนต่างจมลงกับเพลงที่ฉิงเฟิงและเซียะเฟยเฟยกำลังขับร้อง พวกเขาไม่สามารถตื่นจากภวังค์ได้

สุดท้าย เมื่อฉิงเฟิงและเซียะเฟยเฟยร้องจบ เธอก็มีน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกอินกับเพลงมากและได้แทนตัวเธอเองเข้าไปในบทเพลงนี้

ไม่เพียงแค่เซียะเฟยเฟยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฟนๆอีกหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง พวกเธอรู้สึกอินและร้องไห้

~ แปะ แปะ แปะ แปะ แปะ ~

ทุกคนในงานคอนเสิร์ตต่างก็ลุกขึ้นยืนและไม่อาจหยุดปรบมือให้กับฉิงเฟิงและเซียะเฟยเฟยได้

“พี่ใหญ่หลี่คะ คุณเป็นนักร้องที่ยอดเยี่ยมมากเลย !” เซียะเฟยเฟยกล่าวอย่างตื่นเต้นในขณะที่จับมือของฉิงเฟิงบนเวที
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและตอบกลับว่า “เธอก็เช่นกัน”

ทั้งคู่มองเข้าไปในดวงตาและยิ้มให้กัน พวกเขาเดินไปทางด้านหลังของเวทีหลังจากจบเพลง
…

ขณะเดียวกันในอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับเวที

ฮูซ่งกำลังยืนด้วยความสุภาพเรียบร้อยต่อหน้าชายหนุ่มผู้หนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้ดูเหมือนจะมีอายุประมาณ 20 ปี เขาเป็นคนหน้าตาดีถึงแม้ว่าจะดูซีดเซียวเล็กน้อย

ถ้าฉิงเฟิงอยู่ที่นี่ด้วย เขาจะสามารถบอกได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เขาก็คือเหอจวินนั่นเอง ซึ่งเป็นคนที่ถูกฉิงเฟิงทุบตีที่ร้านอาหาร Moon Bay เมื่อหลายวันก่อน

เขาเพิ่งจะฟื้นตัวหลังจากได้รับการรักษามาแล้วหลายวัน เขาโกรธเกรี้ยวอย่างมากเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเขาถูกทุบตีคาร้านอาหาร ดังนั้นเขาจึงได้นำนักสู้ที่แข็งแกร่งหลายคนติดตามมาด้วยและเตรียมจะแก้แค้นฉิงเฟิง แต่ก่อนหน้านั้น เขาวางแผนจะเล่นสนุกกับเซียะเฟยเฟยซะก่อน

“ฮูซ่ง ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ของคอนเสิร์ตครั้งนี้ใช่มั้ย ?”

เหอจวินยิ้มและถาม

“ใช่แล้วครับ นายน้อยเหอ” ฮูซ่งตอบขณะที่พยักหน้า

ฮูซ่งค่อนข้างคุ้นเคยกับอำนาจที่เหอจวินมี ในฐานะลูกชายของเหอหลางซึ่งเป็นหนึ่งในสามทรราชย์ของจังหวัดหูเจียง พวกเขาถือว่ามีอำนาจอย่างมากในวงการมาเฟีย

ฮูซ่งคงจะไม่กลัวเท่าใดนักถ้าเหอจวินมีแค่อำนาจในจังหวัดหูเจียง แต่ประเด็นก็คือ เขาได้ยินข่าวมาว่าเหอหลางพ่อของเหอจวินได้ติดต่อกับกลุ่มทรงอำนาจพิเศษบางกลุ่มในเมืองเทียนจิง

“ฮูซ่ง ผมมีภารกิจให้คุณ ถ้าคุณสามารถทำมันได้ พ่อของผมจะช่วยให้บริษัทของคุณขยับขยายไปทั่วทั้งจังหวัด” เหอจวินยิ้มขณะพูด

แววตาของฮูซ่งดูสดใสและประหลาดใจในทันที หลังจากได้ยินแผนการของเหอจวิน เขาหันหลังและเดินออกไปทันที เพื่อไปปฏิบัติตามแผนของเหอจวิน ในการ ‘ดูแล’ เซียะเฟยเฟย